ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เอวอน ฉลอง 125 ปี เปิดตัว การค้นพบเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ในการต่อต้านริ้วรอย



Activinol Technology ลดเลือนริ้วรอยด้วย "เอนิว รีเวอร์สเซิลลิสท์ (ANEW Reversalist)"เอวอน คอสเมติคส์ ฉลองครบรอบ 125 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการแนะนำ ANEW Reversalist ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ล่าสุดครั้งแรกของโลกเพื่อสมานริ้วรอยบนใบหน้า ด้วย Activinol Technology เทคโนโลยีสมานริ้วรอยเอกสิทธิ์เฉพาะของเอวอน ที่ช่วยเพิ่มการผลิตแอคทิวินเพื่อกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมและสมานผิว รวมทั้งช่วยให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้ดูสดชื่นมีชีวิตชีวา พร้อมคืนความกระชับและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างน่าทึ่ง ร่วมสัมผัสเทคโนโลยีความงามเพื่อสร้างผิวที่ดูอ่อนเยาว์อีกครั้งได้แล้ววันนี้ด้วย ANEW Reversalist Renewal Day Cream เป็นครั้งแรกของการรวมเอาแอคทิวินอล เทคโนโลยี และ SPF 25 UVA/UVB เข้าด้วยกัน จำหน่ายในราคา 900 บาท และ ANEW Reversalist Night Renewal Cream เนื้อครีมนุ่ม เบา ละเอียดดุจกำมะหยี่ ให้สัมผัสเรียบเนียน ไม่เหนียวเหนอะหนะ จำหน่ายในราคา 900 บาท
ผู้สนใจผลิตภัณฑ์หรือสมัครเป็นผู้จำหน่ายอิสระเอวอนติดต่อ

ผู้จำหน่ายอิสระเอวอนทั่วประเทศ || www.avon.co.th || เอวอน คอลเซ็นเตอร์ 0-2729-9700

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: http://www.newswit.com

 

 

วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อัลติคอร์ เผย ยอดขายแอมเวย์ ทั่วโลกกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้าน แอมเวย์ประเทศไทย จัดเอ็กซ์โป ระดับชาติ ย้ำจุดยืน แชมป์ขายตรงสมศักดิ์ศรี



อัลติคอร์ อิงค์ บริษัทแม่แอมเวย์ แถลงความสำเร็จทั่วโลกปี 2553 ด้วยยอดธุรกิจกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้านแอมเวย์ประเทศไทยยังคงครองแชมป์ขายตรงไทยด้วยยอดขาย 14,370 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนปี 2554 มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจแอมเวย์ให้เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เน้นสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพของนักธุรกิจแอมเวย์โดยจัดกิจกรรมให้ตรงความต้องการของแต่ละกลุ่ม (Segmentation) ประเดิมด้วยการจัดประชุมและแอมเวย์เอ็กซ์โประดับชาติปีที่ 23 ภายใต้แนวคิด “แอมเวย์...หุ้นส่วนอันดับหนึ่งของคุณ” ให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ด้วยงบกว่า 60 ล้านบาท จัดงาน 2 วันคือ 19-20 กุมภาพันธ์นี้ ขยายพื้นที่ใช้อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ครอบคลุมทั้ง 3 ฮอลล์ คาดมีผู้สนใจเข้าชมงานร่วม 100,000 คน

มร.จิม เพย์น รองประธานบริหาร แอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น และอดีตกรรมการผู้จัดการคนแรกของบริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อัลติคอร์ อิงค์ บริษัทแม่ของแอมเวย์ประสบความสำเร็จในปี 2553 ด้วยยอดธุรกิจกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ย้ำความเป็นแชมป์ในธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้นของโลก ซึ่งความสำเร็จนี้มาจากความทุ่มเทของนักธุรกิจแอมเวย์กว่า 3 ล้านคน และความเป็นธุรกิจขายตรงขนานแท้ที่มีประวัติยาวนานกว่า 50 ปี พร้อมทีมพนักงานมากกว่า 13,000 คนที่สนับสนุนองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์ในกว่า 80 ประเทศและดินแดนต่างๆทั่วโลก เพื่อให้โอกาสผู้คนได้ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ สำหรับแอมเวย์ประเทศไทยนับเป็นสาขาที่ประสบความสำเร็จประเทศหนึ่ง และเป็นความภูมิใจของอัลติคอร์ โดยมียอดธุรกิจติดอันดับ 1 ใน 10 ของแอมเวย์ทั่วโลก”

“สำหรับกลยุทธ์ปี 2554 อัลติคอร์ อิงค์ เน้นการเติบโตโดยนำนวัตกรรมในทุกๆ ด้านมาใช้ ได้แก่ ด้านประสบการณ์สำหรับนักธุรกิจแอมเวย์และลูกค้า ด้านการบริหารผลิตภัณฑ์และแบรนด์ และด้านความเป็นเลิศทางธุรกิจ เพื่อย้ำความเป็นผู้นำในเรื่องของโอกาสทางธุรกิจขายตรง สนับสนุนการเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง ขณะเดียวกันลูกค้ายังได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและคุณภาพสูงเพื่อสะท้อนความเป็นแบรนด์ของแอมเวย์ ภายใต้การบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ” มร.จิม กล่าวในที่สุด

นายปรีชา ประกอบกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอมเวย์ ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง สามารถสร้างสถิติยอดขายใหม่ๆ ในวงการขายตรงไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปิดยอดขายที่ 14,370 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักมาจากความทุ่มเทและความแข็งแกร่งของนักธุรกิจแอมเวย์ทั่วประเทศ ดังนั้น เพื่อสร้างแบรนด์ “โอกาสทางธุรกิจแอมเวย์” ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ปีนี้บริษัทนำกลยุทธ์มุ่งไปที่ความต้องการของลูกค้า (Consumer Focus) มาใช้ในการสร้างอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ให้มีศักยภาพในทุกๆ ด้าน โดยการจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการทำงานให้ตรงตามความต้องการของแต่ละกลุ่มมากขึ้น (Segmentation) พร้อมเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน”

“ปีที่ผ่านมา บริษัทมีนักธุรกิจแอมเวย์ที่ดำรงคุณสมบัติสูงขึ้นจากปี 2552 เป็นสัดส่วนที่น่าพอใจ โดยมีนักธุรกิจแอมเวย์ระดับผู้นำองค์กรเพิ่มมากขึ้น 15% สามารถสร้างให้อาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงได้รวดเร็วขึ้น สำหรับปีนี้ บริษัทมุ่งเน้นการสนับสนุนองค์กรนักธุรกิจแอมเวย์โดยจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละกลุ่ม อาทิ การจัดประชุมโอกาสทางธุรกิจรูปแบบใหม่สำหรับกลุ่ม เจเนอเรชั่นต่างๆ การให้ข้อมูลความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเพื่อให้บริหารธุรกิจอย่างมืออาชีพ ได้แก่ ข้อมูลยอดธุรกิจ อัตราการสปอนเซอร์นักธุรกิจแอมเวย์รายใหม่ เป็นต้น รวมทั้งการทำโปรแกรมการคำนวณยอดธุรกิจ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักธุรกิจแอมเวย์รายใหม่ๆ สามารถตั้งเป้าหมายธุรกิจได้อย่างง่ายดายและชัดเจนขึ้น”

“บริษัทประเดิมกิจกรรมแรกของปีนี้ ด้วยการทุ่มงบกว่า 60 ล้านบาท จัดงานแสดงสินค้าต้นแบบในธุรกิจขายตรง “การประชุมและแอมเวย์เอ็กซ์โประดับชาติ 2554” โดยขยายพื้นที่การจัดงานในอาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ครอบคลุมทั้ง 3 ฮอลล์ และจัดขึ้นเพียง 2 วันคือ วันที่ 19-20 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่าจะมีเครือข่ายนักธุรกิจแอมเวย์และผู้สนใจจากทั่วประเทศเข้าชมงานร่วม 100,000 คน สำหรับปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 23 ภายใต้แนวคิด “แอมเวย์...หุ้นส่วนอันดับหนึ่งของคุณ” เพื่อเน้นการสนับสนุนอาชีพนักธุรกิจแอมเวย์ในฐานะเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจคนสำคัญของบริษัท พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกในแผนธุรกิจแอมเวย์และเทคนิคความสำเร็จ ข้อมูลสินค้าและการสาธิตคุณภาพของสินค้าทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการปราศรัยรับเชิญโดย มร.คาโอรุ นากาจิมา นักธุรกิจแอมเวย์ระดับมงกุฎทูต 40 สายงานจากแอมเวย์ญี่ปุ่น ผู้มียอดธุรกิจในองค์กรประมาณ 40% ของยอดขายแอมเวย์ญี่ปุ่นหรือ 12% ของยอดขายแอมเวย์ทั่วโลก เพื่อมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักธุรกิจแอมเวย์ประเทศไทย” นายปรีชา กล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: http://www.newswit.com

 

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554



สุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ ภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดตัว “อาวียองซ์ คอนเซนเทรต แอนตี้-เซลลูไลท์ ครีม” (aviance Concentrated Anti-Cellulite Cream) ผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อการดูแลเรือนร่าง ลดปัญหาผิวเปลือกส้มและช่วยกระชับผิว พร้อมคืนความเรียบเนียน สำหรับผู้มีปัญหาเซลลูไลท์ ในงาน “ยู – ซัคเซส เดย์” (U-Success Day) ณ หอประชุมมหิศร อาคารไทยพาณิชย์ปาร์ค พลาซ่า
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300, 0-2434-8547

คุณสุจินดา, คุณแสงนภา และคุณปิติยา

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: http://www.newswit.com

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554



แค่ออกสตาร์ทต้นปีไม่ทันไร “อาวียองซ์” (Aviance) แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยม นำโดย สุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ ภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ก็ฉลองวันแห่งความสำเร็จให้กับผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์บนเวที “ยู – ซัคเซส เดย์” (U Success Day) รวมกว่า 200 รหัส ด้วยพิธีมอบประกาศนียบัตรพร้อมประดับเข็มเกียรติยศผู้ร่วมธุรกิจ อาวียองซ์ ตั้งแต่ระดับ Senior Business Associate จนถึงระดับ Area Executive Business Associate ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความ ชื่นมื่นในเดือนแห่งความรัก โดยรหัสสูงสุดบนเวที ได้แก่ คู่รักฝันใหญ่ เอกชัย หัวใจเพชร – ทัศนีย์ ศรีอินทร์สุทธ์ ที่มาเปิดเผยความสำเร็จที่พลิกความต่างและตอบโจทย์ความต้องการในชีวิต พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเนรมิตให้เซลลูไลท์ต้นเหตุแห่งความกังวลใจหายไป กับ “อาวียองซ์ คอนเซนเทรต แอนตี้-เซลลูไลท์ ครีม” (aviance Concentrated Anti-Cellulite Cream) ณ หอประชุมมหิศร อาคารไทยพาณิชย์ปาร์ค พลาซ่า

เริ่มอุ่นเครื่องหน้างาน ในบรรยากาศที่อบอุ่นแต่คึกคักของเหล่าผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์ ที่มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่งกับผู้ปรับขึ้นตำแหน่งใหม่ พร้อมถ่ายภาพที่ระลึกกับแกลลอรี่ผู้ประสพความสำเร็จ ซุ้มทริป ท่องเที่ยวเกาหลี เป้าหมายของรางวัลทริปสัมมนาท่องเที่ยวใหม่ พร้อมแนะนำและทดลองสัมผัสผลิตภัณฑ์ใหม่กับ “อาวียองซ์ คอนเซนเทรต แอนตี้-เซลลูไลท์ ครีม” ก่อนเข้าสู่พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจากแม่ทัพใหญ่อาวียองซ์ สุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ มากล่าวแนวคิด และแสดงความยินดีว่า “เป็นเรื่องน่ายินดีที่จะต้องแบ่งปันกัน ในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและคณะนักธุรกิจชั้นนำของไทยได้เข้าร่วมสัมมนาในการประชุมเวทีเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ที่สวิตเซอร์แลนด์ ในรายการฯ ได้มีการกล่าวยกตัวอย่างและชื่นชมวิสัยทัศน์ของ CEO ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยูนิลีเวอร์ ว่าเป็นตัวอย่างธุรกิจที่ลด

มลภาวะและช่วยประหยัดพลังงานโลก เพราะใน 1 วันกลุ่มของบริษัทยูนิลีเวอร์จำหน่ายสินค้าให้กับคนกว่า 200 ล้านชิ้นทั่วโลก โดยยูนิลีเวอร์ได้มีการใส่ใจลดในเรื่องของวัสดุสิ่งพิมพ์ต่างๆ ซึ่งสิ่งเล็กๆ นี้สามารถช่วยลดการก่อมลภาวะต่อโลกใบนี้ได้มาก และข่าวดีของยูนิลีเวอร์ชาวไทย คือ ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะมีสำนักงานใหญ่ในรูปแบบอาคารประหยัดพลังงานสมบูรณ์แบบครบวงจรแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้น ขอให้เราดำเนินธุรกิจประสานงานภายใน ห่วงโลก ห่วงใยกัน รักษาจรรยาบรรณ ดูแลภาพลักษณ์ ให้เราโตด้วยกัน โตทั่วโลกค่ะ”

ต่อจากนั้น พาผู้ร่วมงานชมภาพประทับใจจากทริปท่องเที่ยวมหานครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ผ่านมา ชมความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชมประวัติศาสตร์แห่งราชวงศ์จีน แหล่งช็อปปิ้งถูกเงิน ถูกใจ พร้อมประทับใจกับเซอร์ไพร์สที่เรียกรอยยิ้มตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ ยังเผยความน่าสนใจของทริปท่องเที่ยวใหม่กับประเทศเกาหลีใต้ สำหรับผู้ที่สามารถทำถึงเป้าภายใน 6 เดือน ระหว่างมกราคม – มิถุนายน 2554 ก่อนเข้าสู่ช่วงการมอบประกาศนียบัตรและประดับเข็มเกียรติยศ ตั้งแต่ระดับ Senior Business Associate จนถึงระดับ Area Executive Business Associate ทั้งสิ้นกว่า 200 รหัส

คู่รักฝันใหญ่อย่าง เอกชัย หัวใจเพชร – ทัศนีย์ ศรีอินทร์สุทธ์ เจ้าของตำแหน่ง Area Executive Business Associate รหัสล่าสุด ได้เล่าถึงความสำเร็จที่มาจากความล้มเหลวว่า “ผมกับภรรยาเราเริ่มต้นจากต้นทุนชีวิตที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ผมเป็นลูกชาวนา แต่ภรรยาเป็นทายาทเศรษฐีเจ้าของโรงสีพันล้าน แต่ผมก็มานะส่งเสียตัวเองทำงานทุกอย่างแม้ขับรถตุ๊กๆ จนเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ จากนั้น เข้าสูระบบพนักงานประจำ ขณะที่ภรรยาตอนนั้นเธอชอบค้าขาย แม้จะเรียนจบเป็นถึงมหาบัณฑิต แต่ก็มาขายของกิ๊ฟท์ช้อบ ขายผลไม้ ขายตุ๊กตารับปริญญา เพราะอยากสร้างฝันคู่ไปกับสามีที่ปรารถนาอยากมีรายได้ 7 หลักต่อเดือน จนกระทั่งเราได้มาพบอาวียองซ์ ธุรกิจแห่งอนาคตที่พลิกชีวิตสู่อีกด้านกับการเจอคำตอบของการลงทุนที่จ่ายแค่หลักร้อยแต่ให้ผลตอบแทนสูงถึงหลักล้านในเวลาต่อมา แม้จะออกสตาร์ทอย่างเต็มกำลังแต่ผิดทางถึง 3 ปี จนเงินเก็บไม่มีเหลือ เงินต่อเดือนไม่มีใช้ แต่ไม่ย่อท้อกับความฝัน เพราะความเชื่อว่าจะต้องสำเร็จ ประกอบกับพบโค้ชที่ชี้แนะเส้นชัยทางธุรกิจให้ จนวันนี้เราเปิดอาวียองซ์ ช็อป สาขาเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ เราได้แต่งงานกัน มีบ้าน มีรถของตัวเอง และยังส่งต่อโอกาสทางธุรกิจให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดก็มาจาก อาวียองซ์ทั้งสิ้น”

ก่อนลาจากกัน ชาวอาวียองซ์ผู้ประสบความสำเร็จ ก็ยังได้ร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก ปิดท้ายงานด้วยรอยยิ้ม ความประทับใจไม่รู้ลืม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300, 0-2434-8547

คุณสุจินดา, คุณแสงนภา และคุณปิติยา

[gallery link="file"]

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: http://www.newswit.com

กิฟฟารีน/นู สกิน มุ่งจับโซเชียลริสต้า



กิฟฟารีน/นู สกิน มุ่งจับโซเชียลริสต้า

ค่ายขายตรงระดับบิ๊ก แห่ลุยขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ หวังเจาะนักธุรกิจรุ่นใหม่และกลุ่มคลั่งโซเชียล มีเดีย หรือ Socialista “กิฟฟารีน” ลั่นระบบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ดีเดย์เปิดกลางเดือนกุมภาพันธ์ มั่นใจช่องทางออนไลน์บูมเพิ่มสัดส่วน 20% ของตลาดรวม ด้าน “นู สกิน” ชูไอที โซลูชั่น 360 องศา ขยายนักธุรกิจภูธร ชี้ข้อดีรองรับภัยธรรมชาติพิษการเมือง หวัง 3 ปีนักธุรกิจออนไลน์ไทยเพิ่ม 50% เทียบชั้นสากล

พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ค่ายธุรกิจขายตรงหลายชั้นระดับท็อปไฟว์ เริ่มหันมาให้ความ สำคัญการขยายช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพราะเป็นช่องทางที่มีศักยภาพและนับว่า เป็นเซ็กเมนต์ใหม่ที่จะช่วยให้ธุรกิจขายตรงสามารถขยายนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ที่เป็นคนเมืองเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังสามารถเข้า ถึงผู้บริโภคทั่วไปได้ง่ายขึ้น ตลอดจนการรับ รู้ถึงข้อมูล และยังมีความสะดวก รวดเร็ว

ทั้งนี้ การปรับตัวแทบจะทุกค่ายของ ธุรกิจขายตรง เพื่อรองรับยุคดิจิตอลที่มาแรง ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนทำให้เข้าถึงตัวบุคคลได้ง่ายมากขึ้น และทำให้คนเข้าถึงข้อมูลสินค้าและผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น กระแสการใช้สมาร์ทโฟน อาทิ ไอโฟน แบล็กเบอร์รี่ หรือกระทั่งโซเชียล มีเดีย อย่าง เฟซบุ๊กที่มาแรงอย่างมากสำหรับคนไทย อย่างไรก็ตาม ประมาณการว่าปีนี้สัดส่วนของนักธุรกิจขายตรงจากทางช่องทางออนไลน์ 20% ของตลาดรวม ส่วนอีก 80% เป็นนักธุรกิจในรูปแบบออฟไลน์

“แนวโน้มจากนี้ไปทุกกลุ่มธุรกิจจะปรับตัว และหันมาให้ความสำคัญการดำเนิน ธุรกิจช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งพบว่า ทั้งจากวงการค้าปลีก กลุ่มเซ็นทรัล, เดอะ มอลล์ เปิดเว็บไซต์จำหน่ายสินค้า ขณะที่ยักษ์ใหญ่ยูนิลีเวอร์ ก็ประกาศให้เพิ่มงบประมาณเพื่อรับกับยุคดิจิตอลมากขึ้น”

สำหรับแผนขยายธุรกิจทางออนไลน์ของกิฟฟารีน ในปีนี้บริษัทจะทำการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์บน www. giffarine.co.th ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบอยู่ ล่าสุดบริษัทได้ทำการสำรวจกลุ่มนักธุรกิจ ที่พร้อม ใช้ระบบการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์มีจำนวน 1 หมื่นราย หรือเป็นผู้ที่มีความพร้อมการทำธุรกรรมการเงินทางอีแบงกิ้ง ขณะเดียวกันบริษัทก็มีจัดอบรมให้กับนักธุรกิจทั้งการสั่งซื้อสินค้าทางระบบออนไลน์และการชำระเงิน ฯลฯ

“ข้อจำกัดทางการดำเนินธุรกิจออนไลน์ในขณะนี้ คือ คนไทยไม่นิยมทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอีแบงกิ้ง และระบบการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ มีค่าใช้จ่ายสูง ส่วนความเชื่อมั่นของผู้สั่งซื้อสินค้า หากเป็นสินค้าที่มีแบรนด์น่าเชื่อถือได้ก็ไม่มีปัญหา เพราะผู้ซื้อจะมั่นใจว่าได้รับสินค้าแน่นอน”

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าการเปิดดำเนินธุรกิจทางช่องทางออนไลน์ของกิฟฟารีน ปีแรกจะมีกลุ่มนักธุรกิจทางช่องทางออนไลน์สัดส่วนมากกว่า 10% แน่นอน ส่วนเรื่องผลประกอบการปีนี้บริษัททำได้ 4,912 ล้านบาท ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้ามากนัก เนื่อง จากได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายทาง การเมือง และอุทกภัยที่เกิดขึ้น ส่วนในปีนี้ บริษัทได้วางเป้าไว้ที่ 5.5 พันล้านบาท ซึ่งหากไม่มีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรงจนส่งผลกระทบ เป้าหมายนี้ก็จะเป็นจริงในสิ้นปี

“นู สกิน” ชูไอที โซลูชั่นกวาดพื้นที่ภูธร ภคพรรณ ลีวุฒินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปีนี้ภาพรวมธุรกิจขายตรงเติบโต 10% จากมูลค่าธุรกิจขาย 5 หมื่นล้านบาท เนื่อง จากสภาพการเมืองภายในประเทศเริ่มนิ่ง หลังจากปีที่ผ่านมาผลจากความไม่สงบทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้ตลาด โต 7% เท่านั้น อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจขาย ตรงออนไลน์ในเชิงรุก ด้วยการพัฒนาระบบไอที โซลูชั่น 360 องศา เพื่อขยายลูกค้าต่างจังหวัดในทุกๆ ด้าน

สำหรับไอที โซลูชั่น เป็นระบบการจัดซื้อสินค้าออนไลน์ หรือเรียกว่าเว็บอีดีซี ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก และผู้แทนจำหน่ายสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเดินทางเข้ามาภายในศูนย์บริการ และสามารถเรียกเก็บเงินจากลูกค้าโดยตรงเสมือนเป็นตัวแทนของบริษัท ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้เว็บอีดีซี เมื่อปี 2553 พบว่า ยอดการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์เติบโตขึ้น 200%

ขณะเดียวกันบริษัทยังพัฒนาระบบ การจัดอบรม สัมมนา และประชุมทางไกล เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้แทน จำหน่ายในต่างจังหวัด ซึ่งมีฐานลูกค้า สัดส่วน 40% และกรุงเทพฯ 60% อย่างไรก็ตาม ข้อดีการจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ ส่วนหนึ่งรองรับกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นและการเมืองที่ไม่สงบ และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุกปีนี้ ตั้งเป้านักธุรกิจทางออนไลน์เพิ่มจาก 10% เป็น 20% จากในปี 2552 มีนักธุรกิจเพียง 2% เท่านั้น ที่เหลือ 98% เป็นออฟไลน์

ภคพรรณ กล่าวว่า ในตลาดต่าง ประเทศ มีกลุ่มนักธุรกิจขายตรงทางออนไลน์ สัดส่วนถึง 50% และออฟไลน์ 50% สำหรับประเทศไทย เชื่อว่า ใช้เวลาประมาณ 3 ปี นักธุรกิจออน ไลน์จะเพิ่มสัดส่วน 50% และออฟ ไลน์ 50% โดยกลุ่มสินค้าที่นักธุรกิจสั่งซื้อจากออนไลน์ก็มีความหลาก หลาย อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการ ปีนี้บริษัทตั้งเป้าโต 30% หรือมีรายได้ 2.6 พันล้านบาท จากปีที่ผ่านมาโต 40% หรือมีรายได้ 2 พันล้านบาท

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ [ ฉบับที่ 1177 ประจำวันที่ 16-2-2011 ถึง 18-2-2011 ]

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

จอยแอนด์คอยน์ ย้อนรอยความสำเร็จ 3 เศรษฐีเงินล้าน

ย้อนรอยความสำเร็จ3เศรษฐีเงินล้าน
‘ณัฎฐ์ชุดา-อนันตโชติ-นิรชา’
ผู้นำหัวใจแกร่งแห่ง’จอย แอนด์ คอยน์’


ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป”…เป็นคำกล่าวที่ยังคงความคลาสสิกในทุกยุคสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน ที่ต่างต้องดิ้นรนเอาตัวรอด ทำทุกวิถีทางให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี บางคนเลือกเดินเข้าสู่ถนนขายตรง ด้วยความหวังอยากมีรายได้ที่มากขึ้น แต่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้เสียเมื่อไหร่ มีไม่น้อยที่ล้มแล้วไม่ลุก แต่คงไม่ใช่ “ณัฎฐ์ชุดา สิริชววัฒน์” และ “อนันตโชติ – นิรชา ชัยปรีชา” นักสู้และนักขายมืออาชีพจากค่าย “จอย แอนด์ คอยน์” เป็นแน่!

เพราะเขาเหล่านี้ต่างก็ต้องต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคนานัปการ กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นสมาชิกคลับเงินล้านชั้นแนวหน้าในวันนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่ต้องเอาชนะความท้อแท้ สิ้นหวัง แล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลัง
เพื่อลุกขึ้นเดินต่อ ทว่าวันนี้พวกเขาทำสำเร็จ มีทุกสิ่งอย่างที่ใจปรารถนา ซึ่งต้องบอกว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยยากอย่างแสนสาหัส หากไม่เคยล้มก็คงไม่รู้วิธีลุกขึ้นสู้ใหม่ นี่คือแนวคิดที่ใช้ปลุกปลอบใจตัวเองในยามเหนื่อยล้า และเป็นที่มาของเรื่องราว “คลับเงินล้าน” ในปักษ์นี้

เริ่มต้นกันที่ “ณัฎฐ์ชุดา สิริชววัฒน์” อดีตแม่พิมพ์ของชาติ ที่เข้าสู่วงการเครือข่ายเนื่องจากต้องการหารายได้เสริม เพราะลำพังเงินเดือนครูบวกกับเงินเดือนสามีที่รับราชการทหาร ไม่สามารถตอบสนองค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้เต็มที่ ลูกๆ ทั้งสองคนก็อยู่ในวัยกำลังเรียน ดังนั้น สองสามีภรรยาจึงดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว เริ่มจากการทำเครือข่ายกับค่ายยักษ์ใหญ่ แต่ด้วยความคิดไกลฝันไกล จึงได้กู้หนี้ยืมสินมาทำธุรกิจอย่างอื่นเพิ่มเติม

แต่แล้วความฝันว่าจะรวยก็ต้องพังทลายลงไปต่อหน้า เมื่อวันหนึ่งสามีเดินมาบอกว่าธุรกิจที่ทำล้มเหลว ทุกอย่างที่ลงทุนไปมีค่าเท่ากับศูนย์ เหลือเพียงหนี้ก้อนโตไว้ให้ดูต่างหน้า “ณัฎฐ์ชุดา” จึงต้องยอมละทิ้งความฝันในวัยเยาว์ด้วยการลาออกจากอาชีพครู ด้วยหวังจะหางานอย่างอื่นทำเพื่อปลดหนี้ 3 ล้านบาท แต่เหตุการณ์ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คาด เพราะเธอลาออกมาโดยที่ยังไม่รู้จะทำอะไร เงินลงทุนก็ไม่มีสักบาท จึงต้องไปทำงานรับจ้างล้างถ้วยกาแฟ และทอดปาท่องโก๋ข้างๆ โรงเรียนที่เคยสอน ที่เจ็บปวดที่สุดคือ ต้องทนเห็นสายตาดูถูกจากเพื่อนครูและคนรอบข้าง

น่าอัศจรรย์ใจที่เธอสามารถอดทนเพื่อเงินวันละ 150 บาท ให้ลูกๆ ได้มีค่าขนมไปโรงเรียน จนในที่สุดเธอรวบรวมเงินทุนได้ก้อนหนึ่ง เพื่อขายส้มตำ ไก่ย่าง แต่ชีวิตก็ยังคงอยู่ในมุมมืด เมื่อต้องหลบๆ ซ่อนๆ เจ้าหนี้ที่คอยมาทวงเงิน

เคราะห์ซ้ำกระหน่ำซัดอีกครั้ง!…เมื่อ “ณัฎฐ์ชุดา” ล้มป่วยเป็นกระดูกทับเส้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก เธอนอนอยู่โรงพยาบาลเพื่อทำกายภาพอยู่เป็นเดือนๆ เนื่องจากไม่สามารถเดินได้ ชีวิตที่ถูกเส้นบางๆ ขีดคั่นไว้ระหว่างความเป็นกับความตาย ทำให้หนี้ 3 ล้านบาทกลายเป็นเรื่องเล็ก เธอจึงตั้งจิตอธิษฐานขอให้หายจากการเจ็บป่วย และจากนี้เธอจะสู้ สู้กับอุปสรรคทุกอย่างไม่มีถอย ต้องปลดหนี้และมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ให้ได้

ดูเหมือนเทวดาจะได้ยินคำอธิษฐาน เมื่อเธอหายป่วยและกลับมาเดินได้อีกครั้ง สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือต้อง “รวย” ด้วยการทำเครือข่าย เพราะเธอเคยสัมผัสธุรกิจนี้มาก่อนและประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ความสวยงามของเครือข่ายยังอยู่ในใจเสมอ เพียงแต่เธอยังไม่รู้ว่าจะเดินเข้าไปหาค่ายใด บ้านหลังไหนที่จะเติมเต็มความปรารถนาให้เป็นจริง

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นกับชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อเพื่อนเก่าได้ชักชวนให้เธอและสามีรู้จัก “เจริญโอสถ” หรือ “จอย แอนด์ คอยน์” ในปัจจุบัน สองสามีภรรยาไปนั่งฟังแผนการตลาดด้วยหัวใจที่พองโต มองเห็นแสงสว่างรำไรอยู่เบื้องหน้า ด้วยหวังจะฝากชีวิตไว้กับที่นี่

4 ปีแรกกับ “จอย แอนด์ คอยน์” นั่น “ณัฎฐ์ชุดา” ยอมรับว่ายังห่างไกลกับคำว่า “สำเร็จ” เพราะทำงานแบบสะเปะสะปะ ไม่มีข้อมูล ไม่มีที่ปรึกษา แม้จะไม่เป็นหนี้เพิ่ม แต่ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด เธอจึงกลับลำตั้งตัวใหม่ด้วยการเดินเข้าไปหา ประธานบริษัท “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ขอคำปรึกษาการทำธุรกิจเครือข่าย แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่อได้แนวคิดทฤษฎีกลยุทธ์มากมายมาปรับใช้ในการทำงาน กลายเป็นที่มาของการพัฒนาคนเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ

“ณัฎฐ์ชุดา” สร้างผู้นำขึ้นมาคนแล้วคนเล่า ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้นำภายใต้องค์กรช่วยเหลือตัวเองได้ รู้ลึกรู้จริงเรื่องเครือข่าย จัดตั้งระบบการทำงานเข้ามารองรับ จากอดีตที่ใช้ยุทธวิธีรุก ทำทุกอย่างให้สินค้าถึงลูกค้า แต่มาวันนี้เธอตั้งรับ ให้ลูกค้ามีช่องทางเข้ามาติดต่ออย่างสะดวกสบาย จนพัฒนามาเป็นการสร้างวิธีดึงผู้คนเข้ามาสู่ธุรกิจได้ง่ายที่สุด

เธอวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในช่วงแรกไว้อย่างน่าสนใจว่า ผิดพลาดที่ไปชักชวนคนที่เขาไม่มีแรงจูงใจที่จะรวย เพราะชีวิตของพวกเขาสุขสบายอยู่แล้ว ทำให้เสียงตอบรับที่ต้องการร่วมธุรกิจมีน้อย การขยายเครือข่ายจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ทันทีที่เธอเปลี่ยนวิธีคิด โดยการหันไปชักชวนคนที่มีหนี้สินและอยากรวยเหมือนกับเธอ กลายเป็นว่าไม่มีใครปฏิเสธที่จะร่วมธุรกิจ เพราะมันเป็นความหวังเดียวที่จะพลิกชีวิตได้

กลยุทธ์ต่อมาของ “ณัฎฐ์ชุดา” คือ การเดินสายโมติเวท และไปพบปะผู้นำทุกจังหวัด เมื่อเดินมาบนหนทางที่ถูกต้อง ในที่สุดรายได้ก็ตามมาโดยอัตโนมัติ ไม่มากไม่น้อยแค่เดือนละ “ล้านเศษๆ” เท่านั้นเอง

ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง เมื่อเธอและสามีสามารถปลดหนี้ได้ ภารกิจต่อไป คือ สร้างทรัพย์สินไว้ให้ลูกด้วยการซื้อบ้าน 4 หลัง คอนโดที่หาดป่าตองอีก 2 ยูนิต รถยนต์อีก 3 คัน ต่อด้วยโปรเจ็กต์ถอยเบนซ์ป้ายแดง พ่วงด้วยรางวัลชีวิตที่ได้ไปท่องเที่ยวต่างประเทศมาแล้วกว่า 30 ประเทศ

วันนี้ “ณัฎฐ์ชุดา” ได้แต่ขอบคุณธุรกิจขายตรง “จอย แอนด์ คอยน์” และ ท่านประธาน “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ที่มองการณ์ไกลและวางโครงสร้างทุกอย่างเอาไว้อย่างดี หากเธอไม่ได้รับโอกาสคงไม่สามารถจะก้าวมาสู่ ณ จุดนี้ได้ อาชีพเครือข่ายช่างมีเกียรติ ศักดิ์ศรี ไม่แพ้อาชีพสุจริตอื่นใดในโลกนี้เลย

งานต่อไปของ “ณัฎฐ์ชุดา” คือ ทำอย่างไรให้คนภายใต้องค์กร หรือคนที่คาดหวังกับที่นี่ประสบความ
สำเร็จ แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายและอาจจะมีปัญหาอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่รอคอยอยู่เบื้องหน้า แต่เธอสัญญา
ว่าต้องดำเนินภารกิจนี้ให้ลุล่วงแน่นอน พร้อมกับเสนอทางเลือกให้กับคนที่มีปัญหาเรื่องหนี้สิน และต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิต นั่นคือ การเดินเข้ามาบนถนนสายเครือข่าย เพราะเธอมีวันนี้ได้ก็เพราะยอมรับโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ “จอย แอนด์ คอยน์” แห่งนี้ ได้สร้างปาฏิหารย์และเปลี่ยนชีวิตชนิดเหนือความคาดหมายมาแล้ว

…ผ่านไปแล้วกับมนุษย์เงินล้านท่านแรก มาต่อกันที่อีกหนึ่งคู่ คือ “อนันตโชติ–นิรชา ชัยปรีชา” ที่ผ่านอุปสรรคขวากหนามมาอย่างโชกโชนเช่นกัน กว่าที่จะประสบความสำเร็จกับธุรกิจเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “อนันตโชติ” แม้จบการศึกษาเพียงชั้นประถมปีที่ 6 แต่ในโรงเรียนขายตรงนั้น เขาจบชั้นปริญญาเอก เป็นดุษฎีบัณฑิตเลยก็ว่าได้

หนุ่มพิจิตรคนนี้ผ่านงานรับจ้างมาสารพัด ทั้งเป็น คนรับใช้ เด็กท้ายรถสิบล้อ ช่างเจียระไนพลอยก็เป็นมาแล้ว แม้รายได้จะไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่มีงาน ไม่มีเงิน นี่คือ การรู้จักไขว่คว้าหาโอกาส

“อนันตโชติ” วิ่งเข้าหาโอกาสอีกครั้งกับอาชีพเครือข่าย เพราะรู้ตัวดีว่าข้อจำกัดเรื่องคุณวุฒิการศึกษา ทำให้เขาเสียเปรียบกว่าคนอื่นๆ แม้ประสบการณ์การทำงานจะมีมาก แต่เมื่ออยู่ในสังคมที่ยังตัดสินกันที่ประกาศนียบัตร เขาจึงต้องดิ้นรนทำทุกวิถีทางเพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเองทัดเทียมกับผู้อื่น

เมื่อเป็นเช่นนี้ “อนันตโชติ” จึงพยายามศึกษาหาความรู้กับสิ่งที่สนใจทำอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาชีพเครือข่าย เพราะมันคือ ความหวังและความฝันของชายผู้มีการศึกษาเพียงชั้นประถม 6 คนนี้ เขาเข้าไปคลุกคลีกับงานขายตรงตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 มีทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จบ้าง เขาจึงเข้าๆ ออกๆ วงการเครือข่ายอยู่หลายต่อหลายครั้ง บางช่วงก็เข้าไปทำงานในสายประกัน แต่ที่แน่ๆ คือ มีหนี้สินติดตัวอยู่ 6 แสนกว่าบาทก่อนที่จะมาเจอ “จอย แอนด์ คอยน์”

กลางปี พ.ศ.2545 “อนันตโชติ” ตัดสินใจก้าวเข้ามาทำธุรกิจเครือข่ายอีกครั้ง โดยเลือกร่วมงานกับ “จอย แอนด์ คอยน์” จากนั้นเขาได้กู้เงินมา 2 หมื่น เพื่อเริ่มธุรกิจครั้งใหม่ และตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องปลดหนี้ทั้งหมดให้ได้ภายใน 3 ปี มีบ้านซักหลัง รถมือสอง 1 คัน แต่ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเขาไปชักชวนคนรอบข้างแต่กลับถูกปฏิเสธและอวยพรให้เขาเอาตัวเองให้รวยก่อน ถ้ารวยแล้วค่อยมาชวนใหม่

จากประสบการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ “อนันตโชติ” รู้ว่าคนใกล้ตัวจะไม่ชอบฟังสิ่งที่เขานำไปเสนอ หากแต่พวกเขาจะคอยดูว่าธุรกิจขายตรงมันทำแล้วประสบความเร็จจริงหรือไม่ ตรงกันข้ามถ้าเขาเอาไปบอกต่อให้คนที่ไม่รู้จักฟัง ก็จะพบว่าคนกลุ่มนี้จะฟังและวิเคราะห์ว่า มีประโยชน์กับเขาอย่างไร เมื่อบรรลุความจริง ณ จุดนี้ เขาจึงเดินหน้าล่าเครือข่ายตามยุทธศาสตร์ที่วางแผนไว้อย่างดี

เพียงแค่ปีเดียวก็สามารถปลดหนี้ได้ 7 แสนบาท แถมปลูกบ้านราคาหลายล้านอีก 1 หลัง และซื้อรถป้ายแดงมา 1 คัน แต่เขาก็ไม่หยุดความสำเร็จไว้เพียงเท่านั้น หากแต่ยังมุ่งเดินหน้าสร้างเครือข่ายต่อไปเรื่อยๆ กระทั่งได้มาเจอ “นิรชา ชัยปรีชา” ซึ่งเข้ามาทำธุรกิจที่ “จอย แอนด์ คอยน์” เช่นกัน “นิรชา” เล่าว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีความฝัน แต่เดี๋ยวนี้มีความฝันที่รอคอย “อนันตโชติ” เนรมิตให้กลายเป็นความจริง ซึ่งเธอก็ได้ในทุกสิ่งที่ต้องการ รวมถึงบ้านหลังใหม่ราคากว่า 30 ล้าน ที่ “อนันตโชติ” มอบให้เป็นของขวัญ พร้อมรถเบนซ์ป้ายแดงรุ่นใหม่ล่าสุด

เคล็ดลับความสำเร็จตลอด 9 ปีที่ผ่านมานี้ เป็นเพราะทุ่มเทให้กับงานโดยไม่สนใจปัญหา เพราะหากนึกถึงแต่เป็นปัญหาจะทำให้มองไม่เห็นเป้าหมาย และที่สำคัญคือ ต้องรู้จริง เข้าใจจริง ตัดสินใจทำให้เป็นจริง หากคิดว่า นี่คือโอกาสของเรา “อนันตโชติ” กล่าว

เพื่อให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบ “อนันตโชติ” ยังคงมุมานะกับธุรกิจเครือข่ายต่อไป แล้วธุรกิจขายตรงทุกวันนี้ง่ายกว่าสมัยบุกเบิกมาก เพราะมีเครื่องมีอคอยสนับสนุน เช่น สื่อวิทยุ ทีวีดาวเทียม เพียงแต่ต้องใช้ให้เป็น เมื่อมีสื่อแล้วก็ต้องทำงานต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ทำตัวเป็นน้ำที่ไม่เคยเต็มแก้ว เพื่อพร้อมที่จะรับความรู้ใหม่ๆ เข้ามา สำคัญที่สุดต้องมีระบบรองรับคนที่หลั่งไหลเข้าสู่องค์กร การเดินตามคนสำเร็จ หรือที่เรียกว่าก็อปปี้ก็ทำให้รวยได้ เมื่อประสบความสำเร็จแล้วก็อย่าลืมตัว หากทำได้ตามนี้ ไม่ว่าเป็นใครก็จะสามารถยืนหยัดอยู่ในธุรกิจขายตรงไปได้อีกนาน

จากปีแรกที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 7 ล้าน ปีต่อๆ มา รายได้ก็ค่อยขยับขึ้นไปจนปีหนึ่งๆ รับเงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน ทรัพย์สินต่างๆ งอกเงยขึ้นมาเป็นลำดับ “อนันตโชติ” บอกว่างานเครือข่ายสามารถตอบสนองได้ในทุกสิ่งที่ต้องการ เพราะนี่คือ อาชีพอีกอาชีพหนึ่งที่ทำง่าย รายได้มั่นคง หากรู้จักทำ

คนเราเมื่อขาดและเสาะแสวงหาโอกาส อยากให้ลองมองมาที่อาชีพเครือข่าย เปิดใจศึกษาดูให้ดี คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าเป็นงานที่ไม่มีหลัก ใครทำก็ดูเหมือนคนนั้นจะเป็นคนว่างงานหรือไม่มีความรู้ อีกทั้งรายได้ก็ไม่แน่นอน…แต่ “อนันตโชติ” มองในมุมที่แตกต่าง โดยบอกว่า “ไม่มีอาชีพใดที่จะทำให้คนที่แย่ที่สุด กลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนอาชีพขายตรง” ตัวเขาเองก็เช่นกัน แม้ความรู้จะน้อยนิด แต่เมื่อรู้จักหยิบฉวยโอกาสดีๆ ที่อยู่ตรงหน้า ก็ทำให้ชีวิตเปลี่ยนผันไปในทางที่ดีขึ้นเป็นร้อยเป็นพันเท่าเลยทีเดียว

และนี่ก็คือ เรื่องราวความสำเร็จของมนุษย์เงินล้านแห่ง “จอย แอนด์ คอยน์” จะเห็นว่าแต่ละคนล้วนเคยผ่านบทเรียนที่เจ็บปวดจากความจนมาแล้วด้วยกันทั้งสิ้น แต่การไขว่คว้าหาโอกาสและใช้มันให้เป็น ก็ทำให้พวกเขากลับมามีที่ยืนได้อย่างสง่าผ่าเผยอีกครั้ง และบทเรียนความล้มเหลวอันเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ น่าจะเป็นกำลังใจให้หลายๆ คนที่กำลังท้อแท้ได้เป็นอย่างดี….

ที่มา : หนังสือพิมพ์ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 291 ประจำวันที่ 16 – 28 กุมภาพันธ์ 2554

อาวียองซ์ จัดงาน U-Success Day มอบความสำเร็จครั้งใหม่ อย่างยิ่งใหญ่



สุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ ภาคธุรกิจผลิตภัณฑ์ชั้นสูง บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด จัดงาน “ยู – ซัคเซส เดย์” (U-Success Day) ฉลองความสำเร็จให้กับผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์ ตั้งแต่รหัส Senior Business Associate ขึ้นไป กว่า 200 รหัส ณ หอประชุมมหิศร อาคารไทยพาณิชย์ปาร์ค พลาซ่า
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.            0-2434-8300      ,             0-2434-8547

คุณสุจินดา, คุณแสงนภา และคุณปิติยา

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: http://www.newswit.com

อาวียองซ์ แนะ วิธีจัดการ ปัญหาเซลลูไลท์



ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงเราร้อยทั้งร้อยมักกังวลกับเรื่องน้ำหนักตัว แต่จะทำอย่างไรเมื่อรูปร่างที่ดี ไม่ได้มาพร้อมกับผิวพรรณที่ต้องการเสมอไป ภายใต้ผิวที่เราเฝ้าทะนุถนอมนั้น มากกว่า 85% ของผู้หญิงวัยทำงาน ที่ประสบปัญหา ”เซลลูไลท์” ไขมันร้ายที่ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายหรือคนอ้วนคนผอมก็มีโอกาสเป็นได้เท่ากัน วันนี้ อาวียองซ์ โดย ภญ.สุภาภรณ์ ฤกษ์พูลสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์อาวียองซ์ แนะวิธีปราบเซลลูไลท์ พร้อมให้ความรู้เรื่องเซลลูไลท์ที่ผู้หญิงไทยหลายคนอาจยังไม่รู้...

ภญ.สุภาภรณ์ ฤกษ์พูลสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์อาวียองซ์ เผยว่า “เซลลูไลท์ใครๆ ก็เป็นได้ เพราะไขมันกับเซลลูไลท์มีความแตกต่างกัน ไขมันทั่วไปอยู่ในชั้นที่ติดกับกล้ามเนื้อลงไป จะมีมากขึ้นเมื่อน้ำหนักเพิ่ม โดยไขมันสามารถเผาผลาญเป็นพลังงานได้เมื่อออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ หากแต่เซลลูไลท์จะอยู่ในชั้นผิวหนังแท้และแทรกขึ้นในผิวด้านบน จับเป็นก้อน ไม่เรียบเนียน หรือที่เราเรียกว่า “ผิวเปลือกส้ม” ที่สำคัญคือ ไม่สามารถเผาผลาญเป็นพลังงานได้ ไม่ว่าอ้วนหรือผอมก็มีสิทธิ์ที่เซลลูไลท์จะมาเยือนได้ โดยจะเกิดขึ้นบ่อยตรงสะโพก ก้น ต้นขา หน้าท้อง ต้นแขน ไปจนกระทั่งที่หัวเข่า”

ส่วนสาเหตุที่ก่อให้เกิดเซลลูไลท์ ภญ.สุภาภรณ์ เล่าว่า “หลักๆ เกิดจากฮอร์โมนเพศหญิงและพันธุกรรมเป็นสำคัญ โดยยังมีความเกี่ยวพันกับการที่ผิวชั้นหนังแท้เสียสภาพสูญเสียน้ำ ทำให้เซลล์ไขมันชั้นนี้ถูกดันออกมาเรียงตัวไม่สม่ำเสมอ ยิ่งถ้าผิวชั้นหนังกำพร้าแห้งหรือบางจะยิ่งทำให้เห็นเซลลูไลท์ได้ชัดขึ้น โดยพบมากถึง 85% ในสาววัยทำงาน นอกจากนี้ เซลลูไลท์ยังเกิดขึ้นได้จากเส้นเลือดฝอยภายใต้ผิวไม่แข็งแรง ส่งผลต่อการนำส่งสารอาหาร และระบบการกำจัดของเสียไม่ดีพอ, เซลล์ผิวไม่แข็งแรง มีลักษณะจับแข็ง ขาดความยืดหยุ่น เพราะเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินน้อยลงหรือเสื่อมสภาพ และเกิดการสะสมหรือการคั่งของของเหลวที่เป็นของเสียระหว่างเซลล์ ซึ่งปัญหาการสะสมชั้นไขมันใต้ชั้นผิวหนังแท้ลักษณะนี้จะไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับการใช้พลังงานในร่างกาย ดังนั้น แม้คุณพยายามลดน้ำหนักเพื่อลดปริมาณไขมันบริเวณชั้นกล้ามเนื้อแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยลด

การสะสมของไขมันใต้ชั้นผิวหนังแท้หรือเซลลูไลท์ไปด้วย ผู้หญิงเราจึงไม่ควรละเลยการดูแลผิวพรรณไม่ว่ารูปร่างนั้นจะเป็นเช่นไร”

ฟังอย่างนี้สาวๆ คงอยากจะรู้แล้วว่าตนเองมีเซลลูไลท์มากน้อยแค่ไหน วิธีง่ายๆ ในการเช็คระดับเซลลูไลท์ คือ การดูด้วยสายตาและการบีบผิว ให้สังเกตลักษณะผิวที่ปรากฏว่าเข้าข่ายเป็นผิวเปลือกส้มหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กับ “อาวียองซ์ เซลลูไลท์ มิเตอร์” ที่ให้ความสะดวก แม่นยำ เที่ยงตรง โดยเซลลูไลท์มี 2 ประเภท คือแบบนุ่ม และแบบแข็ง โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ ระดับ 0 “ผิวสมบูรณ์แบบ” โครงสร้างผิวสมบูรณ์ การไหลเวียนเลือดและการเรียงตัวของไขมันในชั้นผิวปกติ อุณหภูมิที่ผิวสม่ำเสมอ ควรดูแลและปกป้องผิวและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเซลลูไลท์ ระดับ 1 “เซลลูไลท์ระยะเริ่มต้น” จะเกิดขึ้นภายในชั้นหนังแท้ และหลอดเลือดฝอยที่ค่อยๆ ถูกทำลาย ผิวจึงขาดสารอาหารหล่อเลี้ยง แต่บริเวณผิวหนังกำพร้าและผิวหนังแท้ยังแข็งแรงอยู่ จึงมองเห็นเซลลูไลท์ไม่ชัดมาก ควรรีบดูแลผิวอย่างถูกวิธี ระดับ 2 “เซลลูไลท์ระยะก่อตัว” ผิวหนังแท้เริ่มเสียสภาพมากขึ้น ทำให้การไหลเวียนของเลือดลดลงแต่ของเหลวคั่งมากขึ้น เมื่อลองบีบผิวจะเริ่มมองเห็นความไม่เรียบเนียนของผิวส้ม ควรรีบดูแลเพื่อไม่ให้รุนแรงขึ้น ระดับ 3 “เซลลูไลท์ระยะผิวเปลือกส้มขรุขระ” หลอดเลือดฝอยในผิวถูกทำลาย จะเริ่มส่งผลต่อระบบการเผาผลาญของเซลล์ผิว ทำให้สูญเสียสารอาหารในการซ่อมแซม ผิวชั้นหนังแท้จึงบางลงและเกิดพังผืดล้อมรอบเซลล์ไขมัน ระยะนี้ผิวส้มจะเห็นได้ชัดและสัมผัสได้ถึงผิวที่ขรุขระ ถ้ารุนแรงอาจเป็นก้อนแข็งและเจ็บปวด ควรรีบดูแลรักษาโดยด่วน

“จะเห็นได้ว่าปัญหาเซลลูไลท์จะยิ่งแย่ลงหากไม่ดูแลตั้งแต่แรกเริ่ม เซลลูไลท์จะพัฒนาไปสู่ระดับรุนแรง จนที่สุดผิวจะเสียสภาพและรักษายากมากขึ้น เคล็ดลับดีๆ ที่จะแนะนำก็คือ ผู้หญิงต้องหมั่นใส่ใจเช็คระดับเซลลูไลท์แต่เนิ่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมาก ควบคู่กับการดูแลป้องกันเซลลูไลท์ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี ที่สำคัญคือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการเกิดเซลลูไลท์และเพิ่มความกระชับของผิว ซึ่งปัจจุบันนี้นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลเรือนร่าง สามารถลดปัญหาผิวเปลือกส้มและช่วยกระชับผิว ด้วยสูตรเฉพาะที่ทำงานผสานกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพิ่มความรู้สึกกระชับตึงของผิว พร้อมคืนความเรียบเนียนให้กับผิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเผาผลาญพลังงานและสร้างมวลกล้ามเนื้อ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกทอด แป้ง และน้ำตาล ตลอดจนกาแฟ สุรา เป็นต้น” ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์อาวียองซ์ กล่าวทิ้งท้าย

เพียงดูแลผิวอย่างถูกต้อง สาวๆ ก็จะได้เผยผิวสวยในทุกชุดได้อย่างมั่นใจแบบไม่มีเงื่อนไข!!
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

บริษัทแม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300

คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: http://www.newswit.com

 

 

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อาวียองซ์ คอนเซนเทรต แอนตี้-เซลลูไลท์ ครีม 3 ประสิทธิภาพใน 1 เดียว ลด กระชับ เรียบเนียน สำหรับผู้ที่มีปัญหาเซลลูไลท์



อาวียองซ์ (Aviance) แบรนด์ความงามระดับพรีเมี่ยม ภายใต้การบริหารงานโดยยูนิลีเวอร์ แนะนำ อาวียองซ์ คอนเซนเทรต แอนตี้-เซลลูไลท์ ครีม (aviance Concentrated Anti-Cellulite Cream) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลเรือนร่าง ลดปัญหาผิวเปลือกส้มและช่วยกระชับผิว ด้วยสูตรเฉพาะที่ทำงานผสานกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพิ่มความรู้สึกกระชับตึงของผิว พร้อมคืนความเรียบเนียนให้กับผิว เนื้อครีมบางเบาให้ความชุ่มชื่น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมปรนนิบัติผิวด้วยสัมผัสที่ให้ความผ่อนคลายสดชื่น

ด้วยนวัตกรรมเปี่ยมประสิทธิภาพ 3 อิน 1 ที่เข้าใจความต้องการของผู้หญิง ได้แก่ ลด (Reduce) ไลโป รีดักชั่น คอมเพล็กซ์ สารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาลใต้ทะเลลึก Laminaria Digitata และดอกบัว Nelumbo Nucifera มีประสิทธิภาพลดการสะสมของไขมัน ช่วยเร่งการสลายไขมัน พร้อมลดการเกิดเซลล์ไขมันใหม่, กระชับ (Firm) ด้วยคุณสมบัติของอีลาสโตรเฟิร์มมิ่ง บูสเตอร์ เอเจ้นท์ ช่วยเพิ่มอีสาลตินเป็ปไทด์ ซึ่งเปรียบเหมือนชั้นสปริง ช่วยคืนความกระชับแน่นตึงสู่ผิว และ เรียบเนียน (Smoothen) สมูทแอนด์มอยส์ เท็กเจอร์ ปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื่น เรียบเนียนลื่น เผยผิวแบบดูมีสุขภาพดี

สนใจหาซื้อได้ที่ อาวียองซ์ช็อปทุกสาขา หรือผู้ร่วมธุรกิจอาวียองซ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0-2554-2655

 

 

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สะดวกซื้อ J&C จัมพ์อัพสู่เป้า 2พันล้าน



J&C หรือ จอยแอนด์คอยน์ เริ่มเดินหน้าออกตัวคว้ากำไร จัดงาน ปลุกใจสมาชิกเปิดหัว ชูจอยมาร์ทยังเป็นสุดยอดขีปนาวุธ วางกลยุทธ์งาน 4 เฟสกระตุ้นผลิตภัณฑ์ มั่นใจสมาชิกของบริษัทโตอย่าง ยั่งยืน เชื่อเป้าปลายปี 2 พันล้านไม่ขาด เพราะมีตัวหนุนเพียบ

ดร.สมชาย หัชลีฬหา เปิดเผยว่า การกำหนดยุทธศาสตร์ทางการตลาดแนว ใหม่ของ “จอยแอนด์คอยน์” เมื่อหลายปีก่อน บัดนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า บริษัทได้ก้าวเดินมาสู่ทิศทางที่ถูกต้อง ภายใต้การดำเนินงานในธีม “ขายตรงสะดวกซื้อ” ที่ประชาชนเริ่มรู้จักกันมากยิ่งขึ้น

“บริษัทค้นพบว่าสินค้าอุปโภค-บริโภค หรือสินค้าประเภทจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำพาให้บริษัทเครือข่ายหรือขายตรงนั้นๆ เติบโตแบบยั่งยืน เพราะถ้าเราไปชูสินค้าตัวใดตัวหนึ่งเป็นเมนหลัก ย่อมอยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงมาก เนื่องจากยุคนี้การแข่งขันมีสูงมาก ใครผลิตสินค้าขึ้นมาแล้ว ได้รับความนิยม ก็จะมีคนอื่นผลิตขึ้นมาแข่งขัน ตัดราคา ทำลายกลไกการตลาดโดยไม่รู้ตัว ถ้าเราปรับตัวไม่ทันก็จะส่งผลกระทบต่อยอดขายอย่างมาก” แม่ทัพใหญ่ กล่าว

จากประสบการณ์ดังกล่าวทำให้มอง เห็นว่า การจะสร้างพลังเครือข่ายการบริโภคแบบยั่งยืน บริษัทจะต้องมีปริมาณ สินค้าที่หลากหลาย และสินค้านั้นๆ มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของผู้คนใน สังคมด้วย ตรงนี้ต่างหากที่จะทำให้บริษัทนั้นๆ ก้าวไปสู่ความมั่นคงของธุรกิจ

จอยแอนด์คอยน์ได้นำสินค้าที่หลากหลาย และเป็นที่ต้องการของประชาชนเข้าสู่ระบบขายตรง ที่สมบูรณ์แบบที่สุด แทนที่ผู้บริโภคจะไปซื้อสินค้าจากร้านค้าทั่วไป แต่ไม่ได้ผลกำไรตอบแทนกลับมาเลย แต่ถ้ามาซื้อกับบริษัทเรา สินค้าก็ได้ รายได้ก็มี แถมยัง เป็นการสร้างฐานอาชีพให้กับประชาชน ได้มีโอกาสสร้างรายได้จากการขยายเครือข่ายหรือขยายกลุ่มผู้บริโภคได้เป็น อย่างดี

“จะเห็นว่า เวลานี้กลุ่มผู้นำของ บริษัท มีพลังแข็งแกร่งมาก จะเห็นได้จากการจัดสัมมนาแต่ละครั้ง จะมีระดับผู้นำจำนวนมากเข้าร่วมครั้งละไม่ต่ำกว่า 400-500 คนเลยทีเดียว จนมีคนกล่าวขาน ว่า ผู้นำของจอยแอนด์คอยน์ มีความเป็น ปึกแผ่นมาก”

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัท ได้ทุ่มงบโฆษณาทางสื่อหนังสือพิมพ์ขายตรงอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแบรนด์ สร้าง ชื่อเสียงให้กับบริษัทจนเป็นที่ยอมรับ ของประชาชนเป็นอย่างมาก จากความสำเร็จดังกล่าว บริษัทจึงได้ต่อยอดไปยังสื่อทีวีทางเลือก นั่นก็คือ ทีวีดาวเทียม

“ปัจจุบันต้องยอมรับว่า สื่อทีวีดาวเทียมมีบทบาทและอิทธิพลต่อการขยายเครือข่ายให้กับสมาชิกเป็น อย่างมาก และในปี 2553 ที่ผ่านมา ขนาดเกิดวิกฤติรอบทิศทาง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง บริษัทยังสามารถทำยอด ขายได้ถึง 1.5 พันล้านบาท ฉะนั้น บริษัท จึงได้เพิ่มงบทางด้านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง อะไรที่ส่งเสริมให้สมาชิกทำงานง่ายขึ้นผมทำหมด โดยส่วนตัวแล้วผมมีความมั่นคงอยู่แล้ว แต่ด้วยความรักในอาชีพเครือข่ายหรือขายตรง จึงอยากส่งเสริมให้คนไทยเข้ามาทำอาชีพนี้มาก เพราะเป็นอาชีพเดียวที่เหมาะสำหรับคนทุกระดับชั้น ลงทุนต่ำ อัตราเสี่ยงแทบไม่มี ขอให้เข้าไปร่วมงานกับบริษัทที่มีความพร้อม และมีอาวุธที่ทันสมัยให้เราทำงานง่ายขึ้น”

ที่ผ่านมา บริษัท จอยแอนด์คอยน์ฯ ได้วางกลยุทธ์ไว้ 4 เฟสด้วยกัน คือ 1. เราทำ R&D 2. เมื่อเข้าตลาดแล้วจะทำอย่างไรให้ตลาดรู้จักเรา ก็เหมือนเราลอนช์ สินค้าหรือทำให้ลูกค้าพึงพอใจแล้วเกิดการยอมรับ และเข้ามาสู่การเป็นลูกค้าแล้ว เกิดความภักดีกับตัวโปรดักต์ และตัวบริษัทมากขึ้น 3. จะทำอย่างไรให้สิ่งที่เราได้ลอนช์ไปได้เติบโต และขยายตัวให้สามารถมีฐานลูกค้าที่มากขึ้น และ 4. ช่วง ที่เติบโตเต็มที่ เราจะมีอะไรออกมาเล่นอีก

อีกทั้งบริษัทยังมีซอฟต์แวร์เข้ามาสู่ระบบ ซึ่งปัจจุบันเปิดสาขาจอยมาร์ทไปแล้วเกือบ 40 แห่ง มีสินค้าเป็นหมื่นๆ รายการ พอเราออกแบบโครงสร้างเสร็จ มีสินค้าครบวงจร พูดได้ว่ามากที่สุดในวงการขายตรงระดับโลกเลยทีเดียว ด้านเทคโนโลยีของเราก็ไม่เป็นสองรองใคร นอกจากนี้ยังมีระบบของการฝึกอบรม ระบบที่จะทำให้การจัดจำหน่ายสินค้าสะดวกสบายสามารถมีสินค้าเพียงพอ และตรงต่อความต้องการ และทันต่อลูกค้า จะต้องทำการวิจัยไปด้วย ทำไปด้วยแล้วก็มีระบบรองรับในการฝึกอบรมด้วย

โดยในปี 54 นี้ บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 20-25% หรือ 2 พันล้านบาท ซึ่งสิ่งที่ทำให้เชื่อว่าบริษัทจะสามารถโตได้อย่างที่กล่าว ก็เป็นในเรื่องของช่องทาง การจำหน่ายในร้านขายตรงสะดวกซื้อของบริษัท “จอยมาร์ท” อีกทั้งยังมีในเรื่องของงานวิจัยผลิตภัณฑ์ และการเป็นที่ยอม รับของธุรกิจมากขึ้น

“ที่สำคัญบริษัทได้ให้ความสำคัญ กับการจัดทำหลักสูตร เพื่อฝึกอบรม สร้าง ความรู้ความสำเร็จให้สมาชิกในระยะเวลาอันสั้น ด้วยกลไกการตลาด และการ บริหารแนวใหม่ เราได้นำเทคนิคการสร้าง ความสำเร็จฉบับย่อมาใช้ในองค์กร ส่งผลให้สมาชิกที่ตั้งใจทำงานอย่างจริงจังประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยแผน การจ่ายผลตอบแทนที่ทำง่ายไม่สลับซับซ้อนแต่อย่างใด ใครๆ ก็ทำได้”

ทั้งนี้ จอยแอนด์คอยน์ ยังได้มีการจัดงานวันเกียรติยศขึ้น เพื่อเป็นการมอบรางวัล และยกย่องเชิดชูนักขายในระดับ MDP โดยงานดังกล่าวมีสมาชิกเก่าใหม่ในระดับต่างๆเข้าร่วมงาน ไม่น้อยกว่า 1.5 หมื่นคน ซึ่งในครั้งนี้จัดเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของบริษัท

ที่มา : ฉบับที่ 1176 ประจำวันที่ 12-2-2011 ถึง 15-2-2011

 

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

จอยแอนด์คอยน์ จุดชนวนเดือด! ขายตรงปี54



ผ่าเกมรุกค่าย “จอยแอนด์คอยน์” ขายตรงสะดวกซื้อหนึ่งเดียวของเมืองไทย ยอดขายทะลุเป้า…จับตา ปี 2554 พร้อมระเบิดความแรงเต็มรูปแบบ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ประกาศศักดา ท้าพิสูจน์ความแข็งแกร่งกับการก้าวสู่ปีที่ 10 ด้วยการสร้างนวัตกรรมการตลาดแนวใหม่ให้สมาชิกทำงานง่ายขึ้น ยอมรับ “สื่อทีวีดาวเทียม” มีบทบาทต่อการขยายเครือข่ายอย่างเห็นได้ชัด กระชับพื้นที่ด้วยหลักสูตรการอบรมผู้นำฉบับย่อ

มุ่งหวังสร้างความสำเร็จให้คนไทยมีอนาคตที่ก้าวไกลและยั่งยืน

เผลอแปล๊บเดียว บริษัท จอยแอนด์คอยน์ฯ (เจริญโอสถฯเดิม) ก็ก้าวสู่ปีที่ 10 ด้วยการนำทัพของ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” โดยมีผู้นำระดับหัวแถวไม่ต่ำกว่า 400 คน เป็นขุนศึกคู่บัลลังก์ กลุ่มคนเหล่านี้มีรายได้ระดับ 2-3 แสน ไปจนถึงกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน

นี่ยังไม่นับรวมผู้นำ ระดับรองๆ ลงไปอีกกว่า 2,000 คน ที่มีรายได้หลัก5-7 หมื่นบาทไปจนถึงหลักแสนต้นๆ ต่อเดือน

จากความแข็งแกร่ง และประสบความสำเร็จแบบยั่งยืนของเหล่าผู้นำ ทำให้ “บริษัท จอยแอนด์คอยน์ฯ” ขึ้นชาร์ทในอันดับต้นๆ ที่ถูกยกระดับให้เป็นบริษัทขายตรงที่มีความมั่นคง อีกบริษัทหนึ่งของเมืองไทย

บริษัท จอยแอนด์ คอยน์ฯ ไม่ได้เติบโตแบบฟรุ๊คๆ หรือบุญหล่นทับ แต่เป็นการเติบโตด้วยฝีมือการบริหารอันชาญฉลาด และมองการณ์ไกลของ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ล้วนๆ

ดังจะเห็นได้จาก การสร้างกลไกการตลาดแนวใหม่ในระบบขายตรงไทย ภายใต้รหัส “ขายตรงสะดวกซื้อรายแรกของเมืองไทย” นี่คือ วิสัยทัศน์ของ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” เมื่อ 3-4 ปีก่อน โดยเปิด “จอยมาร์ท” ขึ้นมา เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: http://www.joinfreeway.com/

 

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เอวอน ชวนสาวไทยร่วมโชว์พลังเสียงโค้งสุดท้ายในการประกวด “เอวอน วอยซ์” ทาบครูเป็ด มนต์ชีพ เปิดคอร์สติวเข้ม หากเข้ารอบชิง



เอวอน ร่วมฉลอง 125 ปี อย่างยิ่งใหญ่ ชวนผู้หญิงทั่วโลกร่วมประกวดร้องเพลงผ่านระบบออนไลน์ เฟ้นหาผู้ชนะปูทางร่วมออกอัลบั้มกับศิลปินระดับแนวหน้าของโลก ง่ายๆ เพียงเลือกบทเพลง และอัพโหลดวิดีโอการร้องเพลงของท่านและส่งมาที่ www.avonvoices.com ภายใน 13 กุมภาพันธ์ ศกนี้

ล่าสุดเอวอนได้ร่วมกับ “ครูเป็ด” มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร แห่ง “มนต์ชีพ สตูดิโอ” สร้างสรรค์คอร์สพิเศษ เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ผ่านการคัดเลือกในโครงการ เอวอน วอยซ์ เพื่อเสริมความเชื่อมั่นและทักษะเพื่อก้าวสู่การประกวดในระดับโลก โดย “ครูเป็ด” มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร แห่ง “มนต์ชีพ สตูดิโอ” กล่าวสนับสนุนการจัดโครงการ เอวอน วอยซ์ ในครั้งนี้ว่า โครงการนี้ถือเป็นรูปแบบการประกวดร้องเพลงรูปแบบใหม่ ที่เปิดกว้างให้กับผู้หญิงไทยทุกชนชั้น ได้ร่วมแสดงพลังเสียงและความสามารถสู่สาธารณชน ยิ่งไปกว่านั้น ยังสานฝันการก้าวสู่การเป็นนักร้องมืออาชีพและอาจจะได้ออกอัลบั้มพิเศษร่วมกับศิลปินชื่อดังระดับโลกหากชนะการประกวด ซึ่งจุดนี้ถือเป็น “ทอล์ค” ของวงการเพลงทั่วโลกก็ว่าได้ และเพื่อเป็นการสนับสนุนโครงการดีๆ เช่นนี้ “มนต์ชีพ สตูดิโอ” จึงต้องการเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันฝันดังกล่าวให้เป็นจริง โดยได้สร้างสรรค์หลักสูตรพิเศษเพื่อพัฒนาพลังเสียงแบบรอบด้านและทักษะการร้องแบบมืออาชีพแก่สาวไทยทุกท่านที่ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การประกวดในระดับสากลต่อไป และขอเป็นอีกหนึ่งเสียงที่เชิญชวนผู้หญิงไทยเข้าร่วมการประกวดโครงการ เอวอน วอยซ์ ในครั้งนี้”

และหนึ่งในผู้เข้าประกวดโครงการ เอวอน วอยซ์ “เพิร์ล” รพีพร ประทุมอานนท์ จากเด็กหญิงกำพร้าที่ใช้เวลากว่า 10 ปี เพื่อไล่ตามฝันสู่การเป็นนักร้องมืออาชีพ จนล่าสุด สามารถคว้ารางวัลในฐานะตัวแทนของประเทศไทย จากการประกวด Most Promising Female Singer จากเวที Asia New Singer; Penang Shanghai World Star Quest April เปิดเผยถึงความรู้สึกต่อการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ว่า “เวที เอวอน วอยซ์ เปิดโอกาสให้ผู้หญิงทุกคน ได้มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ในการร่วมโชว์พลังเสียงของตัวเอง และที่สำคัญคือการมอบโอกาสในการออกอัลบั้มร่วมกับศิลปินระดับโลก ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วหากชนะอยากจะออกอัลบั้มร่วมกับซูเปอร์สตาร์วงการละครเวทีบรอดเวย์ที่โด่งดังและชื่อเสียงเลื่องลือนาม “ลีอา ซาลองกา” นักร้องชาวฟิลิปปินส์เจ้าของโทนี อะวอร์ดส์ จาก Miss Saigon และเสียงร้องในเพลงประกอบ Aladdin “A Whole New World” และมู่หลาน ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่แค่ตนที่มีฝันเช่นนี้ จึงอยากเชิญชวนผู้หญิงไทยที่มีพรสววรค์ด้านการร้องเพลง มาร่วมมอบโอกาสแก่ตนเองผ่านการประกวดในโครงการ เอวอน วอยซ์ ที่เรียกได้ว่ามีแค่หัวใจที่แข็งแกร่ง เลือกร้องเพลงที่ตัวเองสามารถทำได้ดี และส่งคลิปวิดีโอการร้องเพลงเพียง 30 วินาทีมาที่ www.avonvoices.com ก็อาจจะทำให้ฝันของการเป็นนักร้องระดับโลกเป็นจริงได้”

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.avonvoices.com หรือติดตามเราได้บน Facebook www.facebook.com/avonvoices และ Twitter www.twitter.com/avonvoices
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

โทร.02-9519119

แฟกซ์ 02-9519431

[gallery link="file"]
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: http://www.newswit.com

วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เพราะผิวชุ่มชื้น คือกุญแจสำคัญสู่ความอ่อนเยาว์ตลอดกาล ออริเฟลม แนะนำไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “อควา-ริธึ่ม (Aqua Rhythm)” ให้คุณได้สัมผัสกับผิวสวยดุจวัยสาวที่ชวนหลงใหล

ออริเฟลม (Oriflame) เครื่องสำอางคุณภาพจากประเทศสวีเดน นำความลับที่ผู้หญิงทุกคน อยากรู้ส่งตรงจากยุโรปให้สาวไทยได้รู้ถึงวิธีรักษาผิวหน้าให้คงความอ่อนเยาว์ไว้ได้ตลอดกาลในรูปแบบของกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด “อควา-ริธึ่ม (Aqua Rhythm)” ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทมอยเจอร์ไรซ์เซอร์ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความอ่อนเยาว์ของพื้นผิวด้วยคุณสมบัติในการเก็บกักความชุ่มชื้นชองผิวและคงความงามตามธรรมชาติไว้ โดยจุดเด่นของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ที่สารประกอบลักษณะพิเศษที่ชื่อว่า “ไฮโดรโปรเท็ก คอมเพล็กซ์ (Hydro-Protect Complex)” ซึ่งเกิดจากการผสมของสารสกัดที่ดีที่สุดจากธรรมชาติสองชนิด อันได้แก่ เฟอเซลลาเรีย ลัมบิคาลิส (Furcellaria Lumbricalis) และเทรฮาโลส (Trehalos)
ในบรรดาสาหร่ายทะเลที่อยู่หลายพันธุ์หลายพันธุ์หมื่นชนิด สาหร่ายแดงถือเป็นหนึ่งในสาหร่ายที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมเนื่องจากคุณสมบัติที่เปี่ยมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งส่งผลโดยตรงในการสร้างภูมิคุ้นกันสำหรับร่างกาย แต่สำหรับในด้านวงการความงาม สาหร่ายแดงสวีเดน หรือในชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “เฟอเซลลาเรีย ลัมบิคาลิส (Furcellaria Lumbricalis)” ที่พบได้ในน่านน้ำประเทศสวีเดน ถือเป็นหนึ่งในพันธุ์พืชมหัศจรรย์ เพราะเปี่ยมไปด้วยส่วนผสมของแร่ธาตุต้านอนุมูลอิสระ จึงมีคุณสมบัติทำให้ผิวหน้านุ่มขึ้น ทั้งยังฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งกร้านให้ดูเปล่งปลั่งและมีน้ำมีนวล ด้วยการกักเก็บความชื้น และซ่อมแซมผนังเซลล์ที่เสื่อมสภาพให้กลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง
สำหรับ “เทรฮาโลส (Trehalos) “ เป็นสารสกัดจากกุหลาบทะเลทราย (Rose of Jericho) ซึ่งเมื่อซึมเข้าสู่ผิว จะตรงเข้าไปจับคู่กับโมเลกุลน้ำในผิวช่วยรักษาระดับคอลลาเจนของผิวให้คงอยู่ เนื่องมาจากคุณสมบัติในการปกป้องไฟ โบรบลาสต์ (fibroblasts) ซึ่งมีหน้าที่ในการสร้างคอลลาเจน จากการทำลาย DNA ภายในเซลล์ อันเกิดจากภาวะผิวหนังขาดน้ำ เช่นเดียวกับดอกกุหลาบทะเลทราย ซึ่งมีคุณลักษณะเฉพาะภายในลำต้นที่สามารถรักษาระดับความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี จึงทำให้มันสามารถเติบโต และอยู่รอดท่ามกลางสภาพอากาศแห้งแล้งได้ ทั้งยังมีเกราะในช่วยป้องกันการระเหยของน้ำหล่อเลี้ยงและภัยรุกรานจากสภาพแวดล้อมภายนอก นอกจากนี้ สารสกัดดังกล่าวยังส่งเสริมประสิทธิภาพการผลิตสารยืดหยุ่นอีลาสตินของผิวให้ดียิ่งขึ้น
ด้วยส่วนผสม “ไฮโดรโปรเท็ก คอมเพล็กซ์ (Hydro-Protect Complex)” อันเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพนี้เอง ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ “อควา-ริธึ่ม (Aqua Rhythm)” ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในรูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ที่นอกจากจะคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดริ้วรอย และช่วยรักษาให้ผิวดูสดชื่นและอ่อนเยาว์เสมอ เพราะนักวิทยาศาสตร์ของเราได้ค้นพบแล้วว่าผิวชุ่มชื้นคือกุญแจสำคัญสู่ความอ่อนเยาว์ตลอดกาล โดยจากการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในกลุ่มลูกค้า ผู้หญิงจำนวน 8 จากทั้งหมด 10 คนรับประกันว่ารู้สึกได้ถึงผิวหน้าที่เรียบเนียนและมีความชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ “อควา-ริธึ่ม (Aqua Rhythm)” ประกอบขึ้นด้วย

อควา-ริธึ่ม อินเท็นซ์ ไฮเดรชั่น ยูธ พรีเซิฟ เดย์ ครีม
(Aqua-Rhythm Intense Hydration Youth Preserve Day Cream)
เพราะผิวมีโอกาสสูญเสียความชุ่มชื้นเนื่องจากปัจจัยภายนอกมากมายและจากกิจกรรมต่างๆระหว่างวัน ไม่ว่าจะเกิดจากแสงแดด หรือความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ครีมบำรุงผิวหน้า อควา-ริธึ่ม อินเท็นซ์ ไฮเดรชั่น ยูธ พรีเซิฟ เดย์ ครีม ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อมอบความชุ่มชื้นเข้มข้นสู่ผิว พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพกลไกการสร้างน้ำตามธรรมชาติของผิว เสมือนการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าตลอดวัน พร้อมทำหน้าปกป้องการทำงานของเซลล์ผิวธรรมชาติให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน ทั้งยังปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระด้วยส่วนผสมของสารสกัดลิงกอนเบอรี่ (lingonberry) ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระภายในผิวได้เป็นอย่างดี (ราคา 790 บาท)
(หมายเหตุ: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ให้ผิวชุมชื้น อ่อนเยาว์ และเนียนนุ่ม ควรใช้ควบคู่กับ อควา-ริธึ่ม ไนท์ ครีม ในการบำรุงลึกล้ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน)

อควา-ริธึ่ม อินเท็นซ์ ไฮเดรชั่น ยูธ พรีเซิฟ ไนท์ ครีม
(Aqua-Rhythm Intense Hydration Youth Preserve Night Cream)
ในช่วงเวลากลางคืนประสิทธิภาพการเก็บกักความชุ่มชื้นของชั้นเซลล์ผิวอ่อนแอลง รวมทั้งการปกป้องผิวตามธรรมชาติก็ลดลงไปด้วย นวัตกรรมใหม่จากออริเฟลม ผลิตภัณฑ์ อควา-ริธึ่ม ไนท์ครีมจึงได้รับการออกแบบให้ช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นผิวในยามกลางคืนพร้อมคุณสมบัติมอบความ ชุ่มชื้นเข้มข้นเข้าสู่ผิวในระหว่างที่คุณหลับ ส่งผลให้ผิวคุณตื่นมาตอนเช้าด้วยความสดใสและยืดหยุ่นจากการบำรุงที่ลึกล้ำในช่วงเวลาค่ำคืน (ราคา 890 บาท)
(หมายเหตุ: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ให้ผิวชุมชื้น อ่อนเยาว์ และเนียนนุ่ม ควรใช้ควบคู่กับ อควา-ริธึ่ม เดย์ ครีม ในการบำรุงลึกล้ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน)

อควา-ริธึ่ม อินเท็นซ์ ไฮเดรชั่น ยูธ พรีเซิฟ อาย คอนทัวร์ บาล์ม
(Aqua-Rhythm Intense Hydration Youth Preserve Eye Contour Balm)
เพราะผิวบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางมากที่สุด ทั้งยังสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยได้เร็วและมากกว่าบริเวณอื่นๆของผิวหน้า อควา-ริธึ่ม อาย คอนทัวร์ บาล์ม จึงได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษในการบำรุงผิวอย่างลึกล้ำบริเวณรอบดวงตาซึ่งถือเป็นจุดที่หญิงสาวทุกคนให้ความกังวล โดยนอกจากจะมอบความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้นแล้ว ยังช่วยเสริมกลไกการสร้างน้ำตามธรรมชาติของผิว เพื่อปกป้องการเกิดริ้วรอย รวมถึงรอยดำคล้ำและอาการบวมรอบดวงตา เนื่องมาจากส่วนผสมพิเศษคือสารสกัดจากยีสต์ (yeast extract) ที่แม้จะอ่อนโยนต่อผิวอัน บอบบาง แต่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในการเสริมระบบการทำงานของเส้นเลือดฝอยรอบดวงตา (ราคา 590 บาท)

เชิญสัมผัสประสบการณ์แห่งผิวอ่อนเยาว์ด้วยนวัตกรรมใหม่จากออริเฟลม ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ “อควา-ริธึ่ม (Aqua Rhythm)” ที่ถูกคิดค้นพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณของออริเฟลม เครื่องสำอางคุณภาพจากประเทศสวีเดน เพื่อมอบความชุ่มชื้นเข้มข้นสู่ผิวพร้อมคุณสมบัติการปกป้องผิวจากภาวะขาดน้ำ สีผิวจึงดูเรียบเนียนทั่วใบหน้าและรู้สึกสบายผิวได้นานตลอดวัน พร้อมยังรักษาความอ่อนเยาว์และปกป้องการเกิดริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ

หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ออริเฟลม สามารถคลิกไปที่ www.oriflame.co.th หรือ www.facebook.com/Oriflameth หรือโทร 02-715-1111

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 public hit

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ไทยพีอาร์ ดอทเน็ต
เทศกาลแสนหวานสำหรับคนที่มีความรักใกล้จะเวียนมาอีกครั้งแล้ว วาเลนไทน์ ปีนี้สาวๆ ทั้งหลายไม่ว่าจะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ อย่ามัวตื่นเต้นกับการลุ้นของขวัญแสนประทับใจจากคนรัก จนลืมแต่งแต้มตนเองให้มีความสวยงามเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรียวปากงาม เพื่อให้ดูมีเสน่ห์เย้ายวน เนียนนุ่มชุ่มชื่นตลอดเวลา สามารถสะกดสายตาหนุ่มๆ ให้หลงใหลดั่งต้องมนต์จนอยากจะ Kiss แทนคำบอกรักกันเลยทีเดียว
ออริเฟลม (Oriflame) บริษัทเครื่องสำอางคุณภาพจากประเทศสวีเดน ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ด้านความงามจากธรรมชาติคุณภาพสูง ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ออริเฟลม คอสเมติกส์ ประเทศไทย จำกัด เอาใจชาวบิวตี้ เลิฟเวอร์ ด้วยการยกทัพ ลิปกลอส หลากแบบ มาสร้างสีสันความงามให้กับริมฝีปาก และคงความโดดเด่นได้ยาวนานตลอดในโอกาสสุดโรแมนติคเช่นนี้
เพราะผู้หญิงแต่ละคนมีสไตล์และความชอบที่แตกต่างกัน ลิปกลอสที่เคลือบเป็นประกายแวววาวอยู่บนริมฝีปาก จึงต้องมีแบบต่างๆ ให้เลือกสวยได้หลายแนว หรือหากหนุ่มๆ คนใดอยากซื้อของขวัญเซอร์ไพร์สสาว ลองเลือก ลิปกลอส สีสวยโดนใจมอบให้ ไม่แน่ว่าคะแนนความรักอาจขึ้นพุ่งพรวดก็ได้ เรื่องง่ายๆ อย่างนี้ ออริเฟลม จัดให้อย่างจุใจ มาดูกันว่าลิปกลอมรุ่นไหนที่จะแต่งแต้มให้ปากของสาวๆ ทั้งหลายดูอวบอิ่มน่ารักน่า kiss กันบ้าง


- อัลทิเมท กลอส (Ultimate Gloss) ริมฝีปากโดดเด่นด้วยสีสันที่เป็นประกายแวววาวสดใสแลดูเอิบอิ่ม เนื้อลิปเนียนนุ่มช่วยให้ทาได้เรียบเนียนเพียงทาแค่ครั้งเดียว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เปล่งประกายสดใสดูเย้ายวนสีสันแวววาว ประกายสดใสแววาวอยู่นานถึง3 ชั่วโมง มีเอสพีเอฟ 4 เฉดสี คือ โทนชมพูแดงอย่าง เมล่อน เชอร์เบท, เรด อีลิเชอร์, ไวนิล พิ้งค์, ราสเบอรี่ คอลิส, ฮอท พิ้งค์ และ สีโกลเด้น โกลว์, ริช นูดย์, เพาท์, (ราคา 279 บาท) 


- แม๊กซี่ ลิปกลอส (Maxi Lipgloss) ลิปกลอสที่ช่วยเพิ่มความเอิบอิ่มแก่เรียวปากด้วยสูตรล้ำสมัยทางเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติในการมอบความชุ่มชื้น และเพิ่มความโดดเด่นของสีริมฝีปากตามธรรมชาติในพริบตามีให้เลือก 2 เฉดสี ได้แก่ เนเชอร์ และ พิงค์ (ราคา 279 บาท)


- คลิกอิท ลิปส์ (Clickit Lips) แต่งหน้าสวยได้ 2 แบบใน 1 เดียวด้วยคลิกอิท คอนเนคเตอร์ สามารถทำให้ บิวตี้ เลิฟเวอร์สลับเปลี่ยน จับคู่ผสมลิปสเตน 2 เฉดสี กลอส 5 เฉดสี แค่คลิกก็สนุกแล้ว 

- เวรี่ มี คลิกอิท ลิปส์ สเตน (Very me cliclkit lips stain) แต่งเติมเรียวปากให้ชุ่มฉ่ำสี ผสมกับลิปกลอสคลิกอิทเพื่อความเป็นประกาย (ราคา 149 บาท)

- เวรี่ มี คลิกอิท ลิปกลอส (Very me cliclkit lipgloss) แต่งเติมเรียวปากให้น่าสัมผัสด้วยลิปกลอส เนื้อประกายผสมกับลิปสเตน เพื่อสีสันที่เข้มข้นยิ่งขึ้น มีเฉดสี Baby Pink, Cherry Brown ( ราคา 149 บาท)



- กลอส บูสเตอร์ (Gloss Booster) ลิปกลอส 5 เฉดสีหวานฉ่ำของผลไม้ ที่มีความมันวาวเป็นพิเศษ สีสันสดใส ผสมผสานรสชาติอันหอมหวาน ที่จะให้ประสบการณ์ใหม่แก่การทาลิป ที่แสนง่าย มีขนาดเล็กพกพาสะดวก หลากหลายเฉดสี ได้แก่ เรด เคอร์แรนท์, พีช เมลบา, แบล็ค เคอร์แรนท์, ซูการ์ เกลส, ท็อฟฟี่ (ราคา198 บาท)


- คัลเลอร์ฟูล ลิปสติก (Colourfull Lipstick) ลิปสติกที่อุดมไปด้วย ทรี-ดี พลัมพิงค์ คอมเพล็กซ์ นวัตกรรมที่ผ่านการจดลิขสิทธิ์เป็นของออริเฟลมเท่านั้น ช่วยเติมความเอิบอิ่มและสีสันอันเข้มข้นให้ริมฝีปาก เนียนนุ่มด้วยเนื้อลิปสติกแบบครีม ทำให้ปากสวยเรียบเนียน มีให้เลือก 10 เฉดสี ชาร์มมิ่ง เบอร์รี่, โกลด์ ฟิวชั่น, บราวน์ ดีไลท์, โคลเวอร์ แฮซ, ไวแบรนท์ โรส, ซีดัคทีฟ นูดย์, สวีท พิ้งค์, พิ้งค์ แพชชั่น, เบอร์รี่ คิส, เฟบูลัส เรด (ราคา 298 บาท) 

รู้จักกับลิปกลอสสารพัดแบบกันไปแล้ว ถูกใจแบบใดสีใดอย่ารอช้ารีบจับจองเป็นเจ้าของกันด่วน แล้วเตรียมตัวเป็นสาวสวย สาวหวาน สาวมั่น หรือสาวเจ้าเสน่ห์ ที่มีเรียวปากสวยงามเอิบอิ่ม นุ่มเนียนน่าสัมผัส พร้อมที่จะมอบ kiss อันแสนประทับใจสำหรับคนที่คุณรักหรือคนพิเศษ เป็นของขวัญในวันแห่งความรักปีนี้

หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ออริเฟลม สามารถคลิกไปที่ www.oriflame.co.th หรือ www.facebook.com/Oriflameth หรือโทร 02-715-1111

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 public hit


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: ไทยพีอาร์ ดอทเน็ต

 

 

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

“Synergy” จัดสัมมนาแนะ ธุรกิจเวิลด์ไวด์



นายศุภพงศ์ จันทรวีระกุล (กลาง)ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซินเนอร์จี้ เวิลด์ไวด์ มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นประธานในการจัดงานสัมมนา “One Life At A Time” โดยได้รับเกียรติจาก มร.มาร์ค โคเมอร์ (Mr.Mark Comer)นักธุรกิจซินเนอร์จี้ ระดับดับเบิ้ล เพลสซิเดนท์เชี่ยล เอ็กเซ็กคลูทีฟ(Double Presidential Executive) จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นวิทยากรมาร่วมบรรยายให้คำแนะนำการทำธุรกิจแบบเวิลด์ไวด์ ณ โรงแรม เวสทิน กรุงเทพ เมื่อเร็วๆ นี้
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์

โทร. 0-2952 1560

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: http://www.newswit.com