นักธุรกิจส่งออกเครื่องหนังรายใหญ่! ทุ่มร่วม 50 ล้านบาท ส่ง “มิลค์กี้เวย์” ลงสนามขายตรง เตรียมรุกหัวเมืองใหญ่ทั่วไทย ชูผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามนำทัพภายใต้แผนการตลาดแบบผสมผสาน คาดสิ้นปี 2555 โกลยอด 100 ล้านบาท
นาย สุมิตร วชโรดมทรัพย์ ประธานกรรมการยริหาร พร้อมด้วยนางฐิติพร วชโรดมทรัพย์ ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท มิลค์กี้เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด เปิดเผยถึงการตัดสินใจรุกเข้าสู่ธุรกิจขายตรงว่า เดิมทีธุรกิจของครอบครัวคือธุรกิจส่งออกสินค้าประเภทสิ่งทอและเครื่องหนังทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป และ ตะวันออกกลาง กระทั่งช่วงปลายปีที่ผ่านมาเริ่มเข้ามาศึกษาธุรกิจขายตรง เนื่องจากเทรนด์ธุรกิจวันนี้ 1 ใน 6 ของธุรกิจที่น่าจับตามองคือ MLM เพราะเป็นธุรกิจที่มีความท้าทาย และสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว สร้งโอกาสได้อย่างทั่วถึง
สำหรับชื่อของบริษัท มิลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด หมายความว่า “ทางช้างเผือก” ใช้แผนการตลาดแบบผสมผสาน ได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2554 หลังจากที่ได้เตรียมการมามากกว่า 6 เดือน
นายสุมิตรกล่าวว่า “บริษัทได้ ลงทุนล่วงหน้าไปแล้วกว่า 25 ล้านบาททั้งสำนักงาน สินค้าและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ โดยปัจจุบันเรามีสำนักงานอยุ่ที่ พระราม 2 และจะเปิดเพิ่มอีกเพื่อสนองความต้องการของสมาชิกที่ย่านรัชดา – พระราม 9 ภายในเดือนเมษายนนี้ และคาดว่าจะตกแต่งแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนพฤษภาคม”
นอกจากนี้บริษัทยังได้ไปขยายสาขาที่บริษัทลงทุนเองไว้ก่อนหน้าแล้วที่จังหวัดพิษณุโลกและกำลังมองการเปิดสาขาเพิ่มอีกในหัวเมืองหลักๆ ของแต่ละภูมิภาค คาดว่าไม่เกินปีหน้าจะสามารถเปิดได้ครบตามเป้าหมาย
“หลายคนสงสัยว่าทำไมบริษัท ถึงกล้าลงทุนไปก่อน ทั้งๆที่ยังไม่ได้เปิดดำเนินธุรกิจอย่างเป้นทางการ ยังไม่รู้ถึงผลตคอบรับที่จะเกิดขึ้น จุดนี้เนื่องจากเราไม่อยากเป็นเหมือนธุรกิจขายตรงทั่วไปที่ก่อนเปิดตัว แม่ทีมต้องพร้อมก่อน หรือจะเปิดสาขาจะต้องรอแม่ทีมหรือสมาชิกให้ชัดเจนก่อน ในขณะที่โครงสร้างต่างๆ ยังไม่พร้อมแสดงว่าเจ้าของธุรกิจนั้นไม่มั่นใจในการทำธุรกิจ ซึ่งมิลค์กี้เวย์ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน” นายสุมิตรกล่าว
ในส่วนของผลิตภัณฑ์นั้นบริษัทมีการลงทุนไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท มีการนำสินค้าเข้ามาจัดจำหน่ายประมาณ 10 รายการ ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ความสวยความงามเป็นหลัก ภายใต้ราคาที่เหมาะสมไม่แพงจนเกินไป
ทั้งนี้นอกจากบริษัทจะมีแนวนโยบายเปิดสาขาของบริษัทรองรับการให้บริการแล้ว บริษัทยังมีเครือข่าย เซ็นเตอร์ และโมบาย ที่สมาชิกเป็นผู้ลงทุนเอง คอยให้บริการสมาชิกและผู้บริโภคอีกด้วย โดยโมบายนั้นลงทุนเข้าร่วมธุรกิจเริ่มต้น 50,000 บาท เซ็นเตอร์ 300,000 บาท โดยคาดว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถขยายเซ็นเตอร์ได้ไม่ต่ำกว่า 50 เซ็นเตอร์ ขณะที่โมบายตั้งเป้าการขายไว้ที่ 100-150 โมบาย
สำหรับระบบสนับสนุนนักธุรกิจนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญกับระบบการให้บริการที่ดี และระบบเทรนนิ่งที่มีมาตรฐาน ทางบริษัทจะนำวิทยากรมืออาชีพที่เขี่ยวชาฐเฉพาะทางเข้ามาให้ความรู้ตามระบบที่บริษัทได้วางไว้
“ในส่วนของระบบไอที ยังคงเป็นอีกเรื่องที่บริษัทให้ความสำคัญ ต้องมีระบบที่แม่นยำตรงเวลา มีขีดความสามารถได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่ว่าไทยหรือต่างประเทศ โดยเฉพาะการสมัครออนไลน์ ที่มีลักษณะแบบ One Code One World หรือ 1 รหัสใช้ได้ ทั่วดลก เนื่องจากในอนาคตเราจะบุกตลาดต่างประเทศแน่นอน โดยเริ่มจากฐานลูกค้าเก่าของธุรกิจเดิมที่เรามีอยู่” นายสุมิตรกล่าว
ปัจจุบัน มิลค์กี้เวย์ เปิดดำเนินการแบบเงียบๆ มาประมาณ 4-5 เดือน สร้างฐานสมาชิกได้มากกว่า 1,000 รหัส คาดว่าหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในครั้งนี้จะทำให้มีสมาชิกใหม่เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2,000 รหัส สร้างยอดขายได้ 80-100 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2555 นี้
อ้างอิง : นสพ.ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง ฉบับที่ 226 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-30 มีนาคม 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น