“มิลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค” ขายตรงน้องใหม่ ในกำมือ “ตระกูลดัง” ที่เชี่ยวชาญเรื่องส่งออก พร้อมรบ! ประกาศตัวเข้าร่วมศึกขายตรงที่กำลังคุกรุ่นอย่างเป็นทางการ...หลังซุ่มจับสัญญาณ เรียนรู้ธุรกิจมานาน ก่อนกระโดดเข้าร่วมสร้างธุรกิจในครั้งนี้...กางคัมภีร์ยุทธ์สุดระห่ำ! ทุ่มงบนำร่องวางโครงสร้างระบบบริษัทกว่า 50 ล้านบาท หวังสร้างธุรกิจเครือข่ายที่มั่งคง และยั่งยืนอยู่คู่คนขายตรง...ชงแผนเด็ดระยะยาว รุกตลาดต่างประเทศ นำร่อง อินเดียและจีน มั่นใจขยายธุรกิจไม่ยาก เหตุ! เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการค้าในต่างประเทศ...ชี้! เปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี’58 เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทเต็มๆ เพราะสามารถสยายปีกธุรกิจได้ง่ายขึ้น
...ดูเหมือนการแข่งขันในธุรกิจเครือข่ายขายตรง จะดุเดือดเข้มข้นขึ้นทุกขณะ หลังจากธุรกิจมีอัตราการเติบโตที่พุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายค่ายต้องงัดยุทธวิธีออกมาไล่ล่ายอดขายกันอย่างดุ เด็ด เผ็ด ร้อน เพื่อชิงพื้นที่ในสมรภูมิแห่งนี้
ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาสนามประลองแห่งนี้ มีขายตรงหน้าใหม่จำนวนไม่น้อย ที่หวังเข้ามาแจ้งเกิดในธุรกิจนี้ ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จ และล้มเหลวคละเคล้ากันไป ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ประกอบการ ที่จะสามารถนำพาองค์กร ก้าวไปถึงจุดไหน?
...“บริษัท มิลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด” ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทน้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และประกาศลั่นที่จะก้าวเข้ามาปักหลักอย่างมั่นคงยืนอยู่คู่ธุรกิจขายตรงแห่งนี้ โดยไม่คิดที่จะหนีไปไหน?...อะไรที่ทำให้ ผู้ประกอบการของบริษัทน้องใหม่รายนี้ มั่นอกมั่นใจถึงขนาดนั้น คำตอบทั้งหมดล้วนอยู่ในทุ่งกระดาษพื้นนี้...!!!
“สุมิตร วชโรดมทัรพย์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะหันมาสู่ธุรกิจขายตรงอย่างเต็มรูปแบบ ส่วนตัวได้ทำธุรกิจส่งออกเป็นหลัก ซึ่งถือเป็นธุรกิจของตระกูล ไล่ตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ซึ่งก่อนหน้าได้มีการส่งออกผ้าไหมไทย และได้ขยายตลาดเครื่องหนัง
แต่ด้วยความเป็นคนที่รักสุขภาพ และชื่นชอบอาหารเสริมเป็นพิเศษ พร้อมทั้งได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายขายตรงจากผู้คนรอบข้างทุกวัน ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหน มีแต่คนจับกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ทำให้เกิดความคิดริเริ่ม ที่จะเข้ามาเรียนรู้ธุรกิจนี้
“ช่วงแรกเข้าไปค้นหาความจริง เกี่ยวกับธุรกิจนี้มาหลายแห่ง และมีการสอบถามถึงความสำเร็จว่า สมาชิกที่เข้าร่วมงานมีรายได้จริงหรือไม่ ซึ่งบางคนก็บอกว่า จริง บางคนก็บอกว่า ไม่จริง ทำให้สับสน จึงต้องศึกษา หาคำตอบเอง และพบว่า เมื่อลงลึกถึงแก่นแท้ของธุรกิจนี้อย่างจริงจัง ธุรกิจนี้น่าสนใจ เพราะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ได้จริง หากสามารถสร้างโครงสร้างได้ถูกต้อง มีแผนการตลาดสินค้าที่ถูกต้อง”
สุมิตร เปิดเผยต่อว่า เมื่อล่วงรู้ถึงโอกาสที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ จึงต้องการที่จะพลิกมิติใหม่ สร้างคนไทยให้รวย ด้วยเครือข่าย และตัดสินใจกระโดดลงลุยธุรกิจอย่างจริงจัง เริ่มต้นด้วยการเอาทุนที่มีอยู่ลงสินค้า และวางโครงสร้างระบบบริษัทต่างๆ ประมาณ 50 ล้านบาท และได้มีการเริ่มพัฒนาแบบแผนการตลาดต่างๆ พร้อมสรรหาทีมที่ปรึกษา ไม่ว่าจะเป็น การทำสื่อในส่วนของแผนการตลาด เป็นต้น
“ปัจจุบันเรามีผู้มีประสบ การณ์ต่างๆ มาเป็นที่ปรึกษาหลายทีม และมีแม่ทีมต่างๆ ให้ความสนใจ ด้านสินค้าเราได้มีการคัดสรรสินค้าคุณภาพมาให้ลูกค้าและผู้บริโภคอย่างมากมาย ส่วนแผนการตลาด ได้มีการเจียรนัยอย่างรอบคอบ และมองว่าน่าจะทำได้จริงถึงแม้จะไม่ดีที่สุดก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติทำได้จริงและประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน”
ส่วนในเรื่องของนโยบายที่ถูกกำหนดเอาไว้ ถือเป็นการวางแผนงานอย่างรัดกุมทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยแผนระยะสั้นในปีแรกที่เริ่มทำตลาดได้มีการวางเป้าหมายของยอดขายไว้ที่ตัวเลข 10 หลัก ส่วนแผนระยะยาวจะสร้างสมาชิกให้ได้คอมมิชชั่น ผลตอบแทนให้ได้มากกว่าหลักล้านให้ได้ปีละ 100 รหัส เป็นอย่างน้อย
“หลังวิเคราะห์จากหลักการตลาด และสินค้ามีการใช้ได้จริงและซื้อซ้ำ เพราะว่าเห็นประโยชน์ของสินค้า ซึ่งตัวเลขน่าจะขยับได้และระยะยาวยอดขายอยากให้โตขึ้น 11 หลัก ซึ่งบวกกับแผนการตลาดที่เราจะส่งออกต่างประเทศ เนื่องจากเรามีความสามารถในเรื่องของการส่งออกเป็นทุน เพราะการส่งออกเป็นธุรกิจที่ไม่ยากสำหรับเรา คาดว่า 2-3 ปี เราจะมีตลาดในต่างประเทศหลายแห่ง โดยเฉพาะในโซนตะวันออกเฉียงใต้ และเพื่อนบ้าน ส่วนปีที่ 2 เราจะบุกตลาดยุโรปและอเมริกา ตามลำดับ”
สำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เพราะมีธุรกิจส่งออกของตระกูลเป็นตัวนำร่อง หากทำตามระบบแบบแผน จะสามารถบุกตลาดต่างประเทศได้ไม่ยากอย่างแน่นอน ซึ่งการลุยตลาดต่างประเทศ จะไม่ได้ทำแล้วให้ต่างประเทศเป็นเจ้าของ เพราะนโยบายของบริษัทฯ ต้องการสร้างคนไทยให้เป็นเจ้าของธุรกิจ โดยดึงแม่ทีมที่สนใจเข้ามาร่วมธุรกิจกับบริษัท โดยเปิดโอกาสให้นักธุรกิจคนไทย ไต่เต้าขึ้นไปเป็นเจ้าของสาขาที่ต่างประเทศ
“แผนระยะยาวเราวางไว้ให้คนไทยสามารถคว้ารายได้ในต่างประเทศ พร้อมต้องการที่จะสร้างแบรนด์ของเราเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืน ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจแบบครอบครัว โดยไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์อย่างฉาบฉวย โตไม่กี่ปีก็วูบหาย พร้อมยังมีการวางแผนการรีแบรนด์ระยะยาวประมาณ 15 ปี ซึ่งเป็นวงจรธุรกิจของสินค้าที่ต้องทำ ด้านเรื่องของสินค้า เราพยายามเสาะแสวงหานวัตกรรมที่ดีที่สุดเข้ามาเพื่อให้เกิดกระแสที่ดี และเกิดการตอบรับของสังคมไทยให้มากที่สุด ที่สำคัญสินค้าต้องดีจริงๆ ที่จะถูกนำมาให้เพื่อสมาชิก”
ส่วนด้านผลิตภัณฑ์จะแบ่งออกเป็น 4 หมวดใหญ่คือ 1. หมวดของดูแลสุขภาพ 2. การใช้ภายนอก 3. สินค้าที่ใช้ในครัวเรือน และ 4. สินค้าที่เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้มีทีมงานต่างๆ ได้ให้ความสนใจเข้ามาศึกษาแผนการตลาดและนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพต่างๆ ค่อนข้างมาก และบริษัทพยายามที่จะคัดสรรมาให้ผู้บริโภคได้ใช้
ส่วนสินค้าที่จะนำมาเป็นพระเอกได้เลือกสินค้าในหมวดสุขภาพเข้ามาทำตลาด เป็นอันดับแรกคือ “เครื่องดื่มโสมสกัด” ซึ่งรสชาตินี้ผ่านผู้เชี่ยวชาญทำการวิจัยและพัฒนาสินค้าให้กับบริษัท พร้อมการันตีว่า เป็นโสมที่ดื่มง่าย รสชาติอร่อย และประสิทธิภาพสูง ใช้แล้วเห็นผลภายใน 24 ชม.
อีกตัวที่จะเข้ามาเสริมคือ สินค้าที่เป็นประเภทเครื่องสำอาง เป็นไฟโตรสเต็มเซล ซึ่งเป็นสเต็มเซลที่นวัตกรรมใหม่ที่ได้ทำลิขสิทธิ์กับผู้ผลิต โดยคาดการณ์ว่า สินค้าตัวนี้จะได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสินค้าได้รับการทดลองในตลาด และมีการตอบรับที่ได้รับคำชมเป็นอย่างมาก เพราะสินค้าตัวนี้ทำให้ผิวกลับมาให้การฟื้นฟูอย่างเร็ว เข้าไปสร้างคลอลาเจนให้ผิวได้ไม่ต่ำกว่า 80% ซึ่งสินค้าดังกล่าวสามารถต่อสู้กับสินค้าแบรนด์เนมต่างประเทศได้ไม่ยาก
“เราพร้อมที่จะรุกตลาดอย่างเต็มที่ และทำเพื่อสมาชิกอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของการจ่ายผลตอบแทนที่ตรง การส่งเสริมสินค้า แผนการตลาดที่ถูกต้องแบ็คออฟฟิศที่ดี ตอบสนองให้สมาชิกทั้งหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ถือเป็นหัวใจหลัก และความซื่อสัตย์ระยะยาว ขนาดเดียวกันสินค้าจะต้องซื่อสัตย์กับผู้บริโภคด้วยเช่นกัน เพราะในธุรกิจนี้ สินค้าจะเป็นตัวตอบโจทย์ทุกอย่าง นี่คือ หัวใจหลักทั้งหมดของบริษัท”
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 318 ประจำวันที่ 16 - 30 เมษายน 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น