ปัจจุบันสินค้าขายตรง ได้กลายเป็นสินค้าขายดีไปแล้วในยุคที่ผู้บริโภค มีความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
จากสิ่งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของกลุ่มบริษัทขายตรง นับว่าเป็นกลุ่มธุรกิจ ที่มีสินค้าชนิดนี้มากที่สุด ไม่ว่าบริษัทใด จะเปิดเก่า หรือเปิดใหม่ เสริมอาหารก็จะเป็นตัวเลือกของนายทุนในการใช้เป็นสินค้าในการวางตลาด
และยิ่งปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เกี่ยวกับเรื่องของความสวยความ งามเป็นที่ฮอตฮิตเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดของบริษัทใดก็ถูก ขึ้นป้ายเป็นสินค้าขายดี
ซึ่งหากจะเรียกสินค้ากลุ่มนี้ ตามภาษาชาวบ้านที่ผู้เขียนได้ยินบ่อย ก็คือ เสริม อาหารประเภท “นมชมพู รูฟิต” ส่วนผลที่ได้รับจะเป็นอย่างคำโอ้อวดหรือไม่ ก็ไม่ทราบ
แต่ด้วยความที่สินค้าเสริมอาหารกลุ่มดังกล่าว ถูกจับให้เป็นสินค้าขายดี ซึ่งจาก ประสบการณ์ของผู้เขียนโดยตรง ยังเคยมีผู้สอบถามเกี่ยวกับสินค้าเหล่านี้โดยตลอด ทำให้อดนึกไม่ได้ว่า สินค้ากลุ่มนี้ดีจริงหรือ แต่ถ้าไม่ดีจริง แล้วไยผู้คนจึงต้องถามหา
ทุกวันนี้ สินค้ากลุ่มนี้เกิดขึ้นมามากมายหลากหลายยี่ห้อของหลายบริษัท ซึ่ง ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นกลุ่มบริษัทขายตรงทั้งนั้น
แต่เรื่องที่มาที่ไป หรือจะเป็นเรื่องของสรรพคุณ เชื่อว่า แค่กล่าวผ่านตัวอักษร คงไม่เกิดประโยชน์ก็สุดแล้วแต่ละท่าน ซึ่งผู้บริโภคจะทดลองทดสอบก็แล้วกัน
โดยสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนต้องลุกขึ้นมานั่งเขียนด้วยความนึกสงสัย คือ เรื่องของ วิธีการจำหน่าย
สินค้าที่กล่าวมานี้ เป็นกลุ่มสินค้าที่มาจากบริษัทขายตรง แน่นอนว่า รูปแบบ การจำหน่ายต้องอยู่ภายใต้งานขายตรง โดยผู้บริโภคจะต้องเป็นสมาชิกของบริษัทนั้นๆ ในแบบสมาชิกผู้บริโภค
แต่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เขียนเห็นอย่างหนาตา เวลาที่ได้มีโอกาสไปเดินตามห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาร์เก็ตน้อยใหญ่ สิ่งหนึ่งที่เห็นก็คือ กลุ่มสินค้าเหล่านี้ ซึ่งเป็นของบริษัทขายตรงถูกตั้งเป็นร้านจำหน่ายอย่างโจ๋งครึ่ม
เมื่อมองเข้าไปในร้าน กวาดสายตาไปตามตู้โชว์ แทบตกตะลึง เนื่องจากสินค้า ที่วางมีแทบทุกยี่ห้อที่กำลังขายดีอยู่ในช่วงนี้ ที่สำคัญราคาถูกกว่าการซื้อในฐานะสมาชิกเสียอีก
ทำให้เกิดการคิดย้อนไปว่า แล้วสินค้าขายตรง สามารถนำมาวางจำหน่ายอย่างนี้ ได้ด้วยหรือ
แล้วถ้าหากสามารถซื้อสินค้า หรือจำหน่ายแบบนี้ได้ แล้วทำไมต้องไปเสียเงิน เป็นสมาชิก เพราะรูปแบบการจำหน่ายเช่นนี้สะดวกกว่าเป็นไหนๆ อีกทั้งราคายังถูก กว่าในชนิดเกือบครึ่ง
ซึ่งสิ่งนี้ รัฐและผู้ประกอบการต้องหามาตรการ เพราะเมื่อสินค้าของธุรกิจขาย ตรงถูกจำหน่ายในรูปแบบนี้ต่อไป ใครจะมาซื้อสินค้าผ่านรูปแบบขายตรง
จากการสอบถามผู้ขายในระบบแผงลอยเล่าให้ฟังว่า เคยมีบริษัทเจ้าของสินค้า ในรูปแบบขายตรง ซึ่งเป็นผู้ได้สิทธิ์ในการนำสินค้ามาขายในระบบฟ้องร้อง กล่าวหา ว่า สิ่งที่ตนทำผิด และเอาของปลอมมาขาย สุดท้ายเจ้าของบริษัทนั้นโดนฟ้องกลับ หน้าหงาย
เพราะจากที่ดูข้อกฎหมาย และการสอบถามจากผู้รู้ สิ่งนี้ไม่สามารถเอาผิดบรรดาผู้ตั้งแผงลอยได้
ทำให้เกิดคำถาม แล้วจะทำอย่างไร จะปล่อยให้แผงลอยขายตรง ขยับร้านค้า ขยายตัวตามความเจริญของธุรกิจเลยหรือ ซึ่งหลายฝ่ายคงต้องถกหาข้อยุติ ไม่เช่นนั้น ปัญหาใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต
ธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ารวมของตลาดอยู่เกือบแสนล้านบาท แต่ช่องโหว่ให้ผู้คนใช้เป็นทางลัดมีมากเสียเหลือเกิน แล้วอย่างนี้ เมื่อไหร่ขายตรงจะเป็นธุรกิจสีขาวอย่างที่ควรจะเป็น
หรือที่สุด มีสิ่งใดที่เหนือกว่าจนไม่สามารถควบคุมกันได้ อย่างนี้ก็อยู่กันไม่ได้หนักใจในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่ง...
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1307 ประจำวันที่ 9-6-2012 ถึง 12-6-2012
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย
วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555
แผงลอยขายตรง (MLM)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น