วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าว "โมนาวี-Monavie" ตั้งตัวเป็นแกนอาเซียน บริษัทแม่ทุ่มทุนดันไทยแซงสาขามาเลย์


บอสใหญ่ โมนาวี ไฟเขียว ทุ่มทุนสร้างสาขาไทย ตั้งเป็นศูนย์กลางอาเซียน ทั้งยังหวังดันให้ก้าวเป็นผู้นำอันดับ 2 ของสาขาโมนาวีทั่วโลก มองข้ามสาขามาเลเซียที่ปัจจุบันยอดขายสูงกว่า ล่าสุด อิมพอร์ตสินค้า กลุ่มสกินแคร์ เปิดตัวที่ไทยเป็นที่แรกหวังเกาะกระแสความอยากสวยโกยเงิน เผยขณะนี้พันธมิตรหน้าเก่าเริ่มหวนกลับมาสนใจ

มร.เดวิด เอ็น เฟลปส์ ประธานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บริษัท โมนาวี โฮลดิ้งส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า หลังจากบริษัทโมนาวีประเทศไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว อัตราการเติบโตของบริษัทเป็น ไปในทิศทางที่ดี แม้ดูเหมือนจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่ปัจจุบันโมนาวีสาขาไทย มีจำนวนสมาชิกประมาณ 3 หมื่นรหัส จาก ระยะเวลาการรีครูตคนเพียงไม่ถึงปี และใน ปีนี้บริษัทจึงมีแผนรุกตลาดเครือข่ายอย่าง เต็มที่ โดยล่าสุดได้ทุ่มงบหลายล้านบาทจัดงาน แถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ของ บริษัท คือ ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ 5 รายการหลัก

มร.เดวิด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อประเด็น ดังกล่าวว่า ผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่นี้บริษัทได้จัดงานเปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่แรก จาก โมนาวีทั่วโลก เนื่องจากประธานผู้ก่อตั้งทั้ง 3 ท่าน ได้มองเห็นถึงศักยภาพของตลาดขายตรงในประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์ของบริษัทมีจุดเด่นพิเศษ คือ คัดสรรวัตถุดิบธรรมชาติจากป่าอเมซอน ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มนี้ได้รับอนุญาตจากทาง อย.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนผลิตภัณฑ์เสริม อาหารน้ำผลไม้โมนาวีสินค้าเรือธงที่ยื่นเรื่อง ขออนุญาตกับอย.ไปนานแล้วนั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมร.เดวิด ก็มองในแง่ ที่ดีว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีกระบวนการตรวจ สอบที่ค่อนข้างยุ่งยากกว่าสินค้าในกลุ่มสกินแคร์ และบริษัทโมนาวีก็จะไม่มีวันทำผิด ศีลธรรม อย่างเช่น ยื่นใต้โต๊ะอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี หลังจากที่บริษัทเปิดตัวสินค้าใหม่ และเตรียมแผนรุกตลาดเครือข่าย อย่างเต็มกำลังในปีนี้ ทำให้ขณะนี้มีผู้ให้ความ สนใจความเคลื่อนไหวของธุรกิจโมนาวีเยอะมาก โดยเฉพาะคู่แข่งทางการค้าที่เคย เป็นพันธมิตรเก่า ซึ่งมร.เดวิด กล่าวทีเล่นทีจริงว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ คู่แข่งทางการค้าที่เคยเป็นพันธมิตรเก่า ก็อาจหวนกลับมาเป็นพันธมิตรใหม่ได้อีกครั้ง แต่ทั้งนี้ ตนก็ยังเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพและ ความสามารถของผู้บริหารทุกท่าน จะสามารถ สร้างผู้นำหน้าใหม่ที่เก่งกาจไม่แพ้พันธมิตรเก่าเหล่านั้นได้แน่นอน

ส่วนแผนการรุกตลาดต่างประเทศ ประธานใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตลาดขายตรงโมนาวีในมาเลเซีย และสิงคโปร์ไปแล้ว และประเทศไทยเป็นประเทศ ที่ 3 ในแถบอาเซียน ขณะนี้บริษัทเตรียมแผน จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยาย ตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, กัมพูชา และลาว เนื่องจากผู้บริหารทุกท่าน มองว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพค่อนข้าง สูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในแถบนี้

แม้ขณะนี้ ยอดขายของโมนาวี ประเทศไทยจะเทียบไม่ได้กับประเทศมาเลเซีย ที่ปัจจุบันสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 200 ล้านบาทต่อเดือน แต่ตนมั่นใจว่าด้วยความพร้อม และศักยภาพต่างๆ จะทำให้ยอดขายสาขาไทยเติบโตแซงหน้าประเทศมาเลเซียได้อย่างแน่นอนภายในสิ้นปีนี้ และเชื่อมั่นว่าอีกประมาณ 2 ปีจาก นี้ไปยอดขายโมนาวีไทยจะขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโมนาวีทั่วโลก จากปัจจุบันที่มีจำนวน ทั้งสิ้น 19 ประเทศ โดยประเทศที่มียอดขาย สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อเมริกา ญี่ปุ่น และมาเลเซีย

นับจากนี้ไปบริษัทจะเร่งรุกตลาดเครือข่ายโมนาวีอย่างเต็มกำลัง โดยบริษัทพร้อมจะทุ่มงบลงทุนในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพราะโมนาวีมีเป้าหมายหลัก คือ สร้างความหลากหลายในด้านสินค้า เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังพร้อม ทุ่มงบจัดกิจกรรมเทรนนิ่ง จัดงานแถลงข่าวความคืบหน้าต่างๆ ของบริษัทเพื่อก้าวเป็นผู้นำตลาดเครือข่าย และตั้งเป้าภายใน 10 ปี โมนาวีทั่วโลกจะต้องมียอดขาย 2 หมื่น ล้านเหรียญสหรัฐ จากปัจจุบันที่มีรายได้อยู่ที่ 750 ล้านเหรียญสหรัฐ มร.เดวิด กล่าวทิ้งท้าย


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจฉบับที่ 1314 ประจำวันที่ 4-7-2012 ถึง6-7-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น