วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข่าวไทยเฮลท์ ปั้นแบรนด์ผ่านวิทยุโฆษณา 1 พันช่อง แลกรายรับ 500 ล.


ไทยเฮลท์ ตั้งตัวเป็นแบรนด์ขายตรงผสมสื่อ วางงบ 30 ล้านบาท เน้น ทำตลาดผ่านวิทยุ ตั้งเป้าภายในปีนี้ ประชาสัมพันธ์ 1 พันช่องรายการวิทยุ เตรียมเดินหน้าหาความร่วมมือจับบริษัท ญี่ปุ่น-ไต้หวัน ตั้งโรงงานที่ชลบุรี ตั้งงบ 100 ล้านบาท คาดอีก 3 ปีเพิ่มสินค้าเข้า ตลาด 10 รายการ ส่วนยอดขายขอไม่เกิน ปีหน้ารายรับแตะ 500 ล้านบาท

นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเฮลท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทไทยเฮลท์ จัดตั้งขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิต จัดจำหน่าย และนำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ ไทยเฮลท์ โดยมีสินค้าเรือธงตัวแรกอย่าง เครื่องดื่มน้ำเห็ดเพื่อสุขภาพ Mushroom Drink น้ำเห็ดสมุนไพรจีน-ญี่ปุ่น ที่รวมเห็ด 6 สายพันธุ์ มาอยู่ในสูตรเดียวกัน ซึ่งในช่วง ที่ผ่านมาปรากฏว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับ การตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี หลายคนเริ่มที่จะให้ความสนใจและรู้จักบริษัทในฐานะเจ้าตลาดน้ำเห็ดสกัด

ส่วนแผนการตลาด บริษัทไทยเฮลท์ดำเนินการตลาดในรูปแบบที่เรียกว่า ระบบ ขายตรงลูกผสมสื่อ คือนำแนวคิดของแผนสแตร์สเต็ปในระบบขายตรง มาผสมผสานกับการใช้ช่องทางการสื่อสารผ่านสื่อวิทยุ โดยเฉพาะคลื่นวิทยุเรดิโอ โอเค ซึ่งเป็นบริษัท แม่ของไทยเฮลท์ ที่มีมากกว่า 90 สถานี นอกจากนั้นบริษัทยังได้ขยายเครือข่ายการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ไปยังวิทยุชุมชน กว่า 200 สถานี ทั่วประเทศ ส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัทมีฐานสถานีวิทยุกว่า 300 สถานีทั่วประเทศ และมีฐานผู้ฟังไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน

ธุรกิจเครือข่าย ไทยเฮลท์ มีรูปแบบ การดำเนินงานคล้ายกับบริษัทขายตรงอื่นๆ ทั่วไป แต่เริ่มต้นบริษัทจะใช้จุดแข็งด้าน ช่องทางการสื่อสารผ่านสื่อวิทยุ ซึ่งเป็นอาวุธ สำคัญที่เรามี เพื่อดำเนินการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าในเครือของบริษัทไทยเฮลท์ ตลอด 24 ชั่วโมง เสมือนกับสถานีวิทยุ 1 สถานี คือ 1 สาขาของบริษัท จุดนี้เชื่อว่าจะทำให้แฟนรายการวิทยุจำนวนมาก ให้ความสนใจเกี่ยวกับสินค้าต่างๆ ของเรา และกลายเป็นฐานผู้บริโภคที่สำคัญต่อไป

นายพันธ์ยศ เปิดเผยต่อว่า ปลายปีนี้บริษัทจะขยายฐานสถานีวิทยุให้ครบ 1,000 สถานี ซึ่งเชื่อว่าเป้าหมายดังกล่าวไม่ยากเกินไป เพราะปัจจุบันจากข้อมูล การจดทะเบียนสถานีวิทยุ พบว่ามีสถานีที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกว่า 7 พันสถานี นอกจากนั้นบริษัทจะมีการใช้ช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านสื่อทีวีดาวเทียม ทางช่อง รายการ สวัสดี ทีวี ภายใต้การดูแลของบริษัท ไทยพลัส มีเดีย จำกัด บริษัทในเครือ ของไทยเฮลท์โดยจะมีการเผยแพร่ภาพผ่านระบบ C-BAND ช่อง 69 และระบบ KU-BAND ช่อง 22 ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้ชมรายการทั้งหมดกว่า 6 แสนคน

ปีนี้บริษัทได้วางงบไว้สำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้สินค้าของบริษัทไทยเฮลท์ ไว้ประมาณ 30 ล้านบาท ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีสินค้าคุณภาพในกลุ่มเสริมอาหารทั้งหมด 4 รายการด้วยกัน ได้แก่ 1.น้ำเห็ดสกัดสูตรดั้งเดิม 2.น้ำเห็ดสกัดผสมน้ำผึ้ง 3.ผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารสำหรับผู้ชายวีเอ็มพลัส และ 4.สำหรับผู้หญิงยูเลดี้ และวางแผนระยะ สั้น 3 ปี จะมีผลิตภัณฑ์ด้านดูแลสุขภาพมากกว่า 10 รายการ โดยปีนี้บริษัทไทยเฮลท์ ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาท หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมายอดขายลดลง 50% เนื่องจาก ในช่วงปลายปีประสบภัยน้ำท่วมทำให้ไม่สามารถกระจายสินค้า และคาดว่าปีหน้ายอดขายจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด อาจปิด ได้กว่า 500 ล้านบาท

นายพันธ์ยศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น และไต้หวันอีกครั้ง เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำเห็ดสกัด หลังจากโครงการดังกล่าวถูกระงับ การลงทุน เนื่องจากพื้นที่เตรียมจัดตั้งบริเวณ นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.อยุธยา ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี ที่ผ่านมา

คาดว่าโรงงานดังกล่าวอาจใช้งบลงทุนถึง 100 ล้านบาท ทั้งนี้แผนการสร้าง โรงงานกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องสถานที่ เนื่องจากนิคมอุตฯ โรจนะ มีความเสี่ยงเรื่องน้ำท่วม ดังนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง เบื้องต้นอาจจะเปลี่ยนเป็นภาคตะวันออก ที่จังหวัดชลบุรี อย่างไรก็ตาม การร่วมทุนในครั้งนี้ยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ทั้งจากญี่ปุ่น และไต้หวัน โดยจะสรุปความชัดเจนได้อีกครั้งในช่วงปลายปีนี้

สำหรับแนวโน้มการเติบโตของตลาด ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในปีนี้ พันธ์ยศก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า ปัจจุบันตลาดผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารมีมูลค่า 30,000-50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนตลาดน้ำเห็ดเฉลี่ย 10% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาทและคาดว่า ตลาดน้ำเห็ดจะมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 10% ทุกปี เพราะจะเห็นได้จากผู้ค้ารายใหญ่อย่าง แบรนด์ ได้วิจัยตลาดเกี่ยวกับการนำเห็ดมาผสมกับซุปไก่สกัด เป็นต้น


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1322 ประจำวันที่ 1-8-2012 ถึง3-8-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น