ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

‘แคทส์ฯ’ กางตำรารุกหนัก ลุยปั้นแบรนด์ มะโฮ สอยยอดพันล้าน



แคทส์ดอทคอมแรงทะลุมิติ...4 เดือนแรกยอดขายทะลุเป้าปี’53 เตรียมแผนปรับเป้าใหม่ทะยานขึ้นสู่หลัก 1,000 ล้านสร้างเศรษฐีใหม่ประดับวงการขายตรงอีก
เป็นโขยง...แย้มแผนกางตำรารุกหนักครึ่งปีหลังหว่านงบประมาณสร้างแบรนด์สินค้ามะโฮไม่อั้นหวังจุดกระแสติดลมบนก่อนนำสินค้าตัวใหม่เสริมทัพลุยออกขายเอาใจสมาชิกครึ่งปีหลัง...ประกาศลั่น! อย่างมั่นใจนำพาสมาชิกที่เข้าร่วมธุรกิจก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จหลังบริษัทมีรากฐานและแผนการตลาดที่แข็งแกร่งพร้อมที่จะยืนหยัดอยู่บนสมรภูมิรบแห่งนี้อย่างมั่นคง...!!!
นายเอกวัฒน์ วงษ์ชูแก้ว รองประธานบริหาร บริษัท แคทส์ ดอท คอม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย “ตลาดวิเคราะห์”ว่า ในปีนี้ ถือเป็นปีแห่งการก้าวกระโดดของบริษัท เพราะนับตั้งแต่เริ่มต้นปีที่ผ่านมา ใช้ระยะเวลาเพียง 4 เดือน บริษัทฯ มียอดขายเกือบ 200 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นยอดขายที่ทำไว้ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาของปี 2553
ซึ่งการเติบโตที่รวดเร็ว และก้าวกระโดดในครั้งนี้ เป็นผลการที่บริษัทฯ ได้มีการเรียนรู้และพัฒนาปรับปรุง ทางด้านแผนงานต่างๆ เพื่อสอดรับกับความต้องการของสมาชิก และลูกค้ามากยิ่งขึ้น และแผนโปรโมชั่น แผนการจ่ายผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่สมาชิก ทำให้ปัจจุบันมีผู้นำและสมาชิกทั้งรายใหม่ และรายเก่า หันมาให้ความสนใจร่วมทำธุรกิจกับบริษัทเพิ่มมากขึ้น เพราะมองเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
“ตอนนี้ผู้นำและสมาชิกหลายคนยอมรับว่า เราเป็นของจริง เพราะ 2 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า เรามีการลองผิด-ลองถูก อยู่พอสมควร แต่ด้วยเจตนา รมณ์ที่ชัดเจนของบริษัทที่ต้องการทำธุรกิจ ด้วยการใช้สินค้าเป็นตัวนำ และใช้รูปแบบการบริหารจัดการที่เป็นอินเตอร์จริงๆ เข้ามาบริหารแบบโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของระบบไอที ระบบแบ็คออฟฟิศ ฯลฯ จึงทำให้บริษัทฯ พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน”
นายเอกวัฒน์ เปิดเผยต่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯ วางแผนงานที่จะรุกตลาดมากยิ่งขึ้น หลังจากจับทิศทางของธุรกิจถูก ซึ่งนับจากนี้จะมีการเน้นเรื่องของระบบ การเทรนนิ่ง ทั้งพนักงาน สมาชิก ที่สำคัญจะเน้นหนักในเรื่องของสื่อ เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้าให้รู้จักสินค้ามะโฮมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ ยังมีการวางเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนว่า ระยะสั้น กลาง ยาว จะก้าวต่อไปอย่างไร ซึ่งเป้าหมายที่เด่นชัดที่สุดในระยะยาวคือ ต้องการเป็นบริษัทเครือข่ายขายตรงที่ผู้นำ และสมาชิก รวมไปถึงพนักงานเอง ต้องการเข้ามาร่วมงานมากที่สุด โดยมีสินค้าที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และแผนการตลาดที่ทำแล้วมีรายได้อย่างแท้จริง
“เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราถือว่า เงียบเกี่ยวกับเรื่องของสินค้า แต่ปีนี้เราพยายามที่จะให้คนรู้จักสินค้ามะโฮมากขึ้น จากการสร้างแบรนด์ ที่จะทำให้เกิดขึ้นนับจากนี้ไป รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จะสร้างให้สินค้ามะโฮเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แม้ปัจจุบันสินค้าของเราคนจะเริ่มรู้จักแล้ว แต่เราอยากให้ผู้บริโภครู้จักมากขึ้น เพราะเราต้องการที่จะให้สินค้าของเราอยู่คู่ธุรกิจเครือข่ายและผู้บริโภคตลอดไป ซึ่งในระยะเริ่มต้นเราจะสร้างแบรนด์สินค้ามะโฮ ให้เป็นที่รู้จักก่อน หลังจากนั้น จะแบรนด์ของแคทส์ ดอท คอม ตามมาที่หลัง เพราะมั่นใจว่า สินค้าของเรา สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าและสมาชิกได้เป็นอย่างดี”
นายเอกวัฒน์ เปิดเผยต่อว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทฯ มียอดขายเติบโตในช่วงที่ผ่านมา คือในเรื่องของโปรโมชั่น ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น และบริษัทฯ เองก็มีโปรโมชั่นต่างๆ อย่างมากมายมาให้กับสมาชิก และผู้นำให้มีความกระตือรือร้นที่จะแข่งขัน เพื่อทำยอดกัน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด น่าจะ เป็นในเรื่องของสินค้าที่ทำให้บริษัทฯ ประสบความสำเร็จ เห็นได้จากในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี แทบจะทุกบริษัทจะมียอดขายที่ลดลง เพราะเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของวันหยุดในช่วงสงกรานต์ที่มีติดต่อกันหลายวัน ทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของนักธุรกิจ แต่ในทางกลับกันยอดขายของบริษัทฯ กลับไม่ลดลง มิหนำซ้ำ ยังมียอดขายมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ และเดือนมีนาคมด้วยซ้ำ
ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นผลพวงมาจากคนให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น และสินค้าของบริษัทฯ สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ แม้จะมีด้านลบจากการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่น แต่สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกลับไม่มีผลกระทบต่อบริษัทฯ
“หลังมีเกิดเหตุการณ์ขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น เราก็ได้สร้างความมั่นใจ ด้วยการเชิญท่านประธานใหญ่มาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้สร้างความมั่นใจต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมทั้งประกาศที่จะลงทุนในประเทศไทยอย่างเต็มที่ ทำให้ผู้บริหารที่อยู่ในประเทศไทยยิ่งเกิดความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และสมาชิก ผู้นำ ก็สร้างความมั่นใจให้กับทีมงานใหม่ได้ด้วย ทำให้ยอดขายในช่วงที่ผ่านมากระโดดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นเรื่องที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ทุกคนมั่นใจในตัวบริษัท และพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน”
ปัจจุบันฐานลูกค้าของบริษัทฯ มีอยู่ประมาณ 40,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก โดยมีสาขาอยู่ 3 แห่งด้วยกันคือ นครราชสีมา, ขอนแก่น และบุรีรัมย์ ซึ่งอีกไม่นานบริษัทฯ มีแผนงานที่จะเปิดสาขาใหม่ที่ อุบลราชธานี ด้านคลังสมาชิก ตอนนี้บริษัทฯ มีคลังสมาชิกอยู่ 70-80 คลัง โดยปัจจุบันมีสมาชิกแห่เข้ามาร่วมทำธุรกิจกับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นทั้งแบบผสม มีทั้งน้ำเก่า และน้ำใหม่ รวมไปถึงคนที่เป็นผู้บริโภค ที่ชื่นชอบในสินค้าและเข้ามาร่วมทำธุรกิจ
“ปัจจุบัน เรากำลังเดินไปถูกทาง ทั้งรากฐานของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง และการเข้าถึงความต้องการของสมาชิกและผู้นำมากยิ่งขึ้น ระบบแผนการจ่ายผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่นักธุรกิจ ที่สำคัญสินค้าที่มีคุณภาพ และเป็นที่ต้องการต่อผู้บริโภค ทำให้เชื่อมั่นว่า สิ้นปีนี้ บริษัทฯ น่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และจะมีคลังสมาชิกถึง 1,000 คลัง พร้อมกับรหัสสมาชิก 100,000 รหัส อย่างแน่นอน”

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ ตลาดวิเคราะห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น