
“ไทยประกันชีวิต” ระส่ำ! “ตัวแทน” สายลูกศิษย์ ลูกหากว่าพันชีวิตตบเท้าซบ “ประทีป แตงทอง” เกจิอาจารย์ต้นตำรับสถาบันฝึกอบรม “แคชสคูล”
หลังหวนคืนวงการ เปิดตัวตั้งบริษัททำตลาดเครือข่ายให้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพยักษ์ใหญ่อเมริกา เจ้าตัวยันไม่ใช่เรื่องแปลก! เผย “นักขายประกันชีวิต” หลายบริษัทส่วนใหญ่กระจัดกระจายเข้ามาทำธุรกิจขายตรงเป็นอาชีพที่สองอยู่แล้ว ยันบังเอิญชื่อเสียงตัวเองโดดเด่นหลายคนเลยเบนเข็มมารวมศูนย์ทำงานร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก
นายประทีป แตงทอง เจ้าของบริษัท The Magic Eagle จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจเครือข่ายภายใต้บริษัท bHIP Global ซึ่งเป็นธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ที่มาเปิดโครงการที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 22 เปิดเผยว่า ภายหลังบริษัทบีฮิปเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมไบเทคปรากฎว่า ได้รับการตอบรับอย่างดีมีผู้สมัครเข้ามาเป็นสายงานตนจำนวนมาก
โดยบริษัท The Magic Eagle ตั้งมาทำตลาดให้กับ bHIP โดยตรง และได้ประกาศนโยบายที่จะสร้างลูกศิษย์จากธุรกิจวงการประกันชีวิต โดยกำหนดยุทธศาสตร์สร้าง 8 ผู้นำประจำจังหวัดๆ ละ 8 คน และสร้างองค์กรรองรับรายได้ตัวเลข 7 หลักภายใน 3 เดือน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการคัดเลือกผู้นำในแต่ละจังหวัดไปบ้างแล้ว ซึ่งแค่เดือนแรกของการเปิดตัวมีคนมาสมัครร่วมงานแล้วประมาณกว่าพันคน ส่วนใหญ่มาจากลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ในวงการประกันและเคยร่วมงานกันมา
นายประทีปกล่าวถึงการตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 6 เดือน จะมีคนมาร่วมงานมากกว่า 6 หมื่นคน หลังจากนั้นจะนำผู้นำประจำจังหวัดละ 8 คนไปขยายงานใน 5 ประเทศใหญ่ อาทิเช่น เวียดนาม อินโดนิเซีย อินเดีย ฮ่องกง และจีน เพื่อนำมูลค่าตลาดที่ได้จากธุรกิจเครือข่ายประมาณ 35% ของราคาสินค้า กลับมาแก้ปัญหาความยากจนให้แก่ประชาชนคนไทย โดยทางยักษ์ใหญ่เจ้าของผลิตภัณฑ์สหรัฐอเมริการายนี้มีแผนจะไปเปิดตลาดที่เวียดนาม อินโดนิเซีย อินเดีย และจีนถัดไปจากประเทศไทยในเดือนหน้านี้
“ผมมองว่า ประเทศไทยเราไม่สามารถหลุดพ้นจากความยากจนด้วยสินค้าเกษตรอีกต่อไป เพราะเราต้องเจอปัญหาน้ำท่วมหรืออุทกภัยอยู่ตลอดเวลา ในความเห็นของทีมบริหารของ The Magic Eagle เห็นว่า ทางเดียวที่คนไทยจะหลุดพ้นความยากจน จะต้องเป็นบุคคลในธุรกิจเครือข่ายที่ผ่านการฝึกทักษะการทำงานอย่างถูกวิธี เพื่อไปทำตลาดใน 5 ประเทศใหญ่ ซึ่งมีประชากรมากกว่า 3 พันล้านคน และนำค่าการตลาดที่ได้จากประเทศเหล่านั้นมาแก้ปัญหาความยากจนให้กับคนไทย ซึ่งประเมินว่า ถ้าเรามีนักเครือข่ายจากประเทศไทยไปเปิดตลาดดังกล่าวจะมีรายได้เข้าประเทศปีละ 1.2 ล้านล้านบาท เท่ากับงบประมาณของชาติในแต่ละปี” นายประทีป กล่าว
ด้านแหล่งข่าวจากผู้ร่วมงานกับบริษัท The Magic Eagle รายหนึ่ง กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ผู้ร่วมงานชุดแรกมีประมาณ 1,000 กว่าคน ส่วนใหญ่มาจากไทยประกันชีวิต และขณะทราบมาว่าทางผู้บริหารบริษัทไทยประกันชีวิตได้เรียกประชุมตัวแทนระดับสูง ให้เตรียมการป้องกัน เพื่อไม่ให้คนออกมาร่วมงานกับธุรกิจเครือข่ายประยุกต์ของนายประทีป
แหล่งข่ายคนเดิมกล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่า รูปแบบการจัดสร้างองค์กรของบริษัทของนายประทีปนี้จะเป็นรูปแบบเหมือนกับบริษัทประกันชีวิตเลย โดยมีนายประทีปเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ และมีรองประธานฯ ดูแลพื้นที่ 4 ภาค แบ่งประเทศไทยออกเป็น 8 โซน มีผู้อำนวยการดูแล 8 คน ซึ่ง 1 คนจะดูแล 9 จังหวัด และแต่ละจังหวัดจะมีผู้จัดการประจำจังหวัดๆละ 8 คนดูแลพื้นที่ โดยนายประทีปได้คาดการณ์เป้าหมายในอนาคตอันใกล้จะระดมสร้างทีมงานภายใน 6 เดือนในหนึ่งจังหวัดจะต้องมีสมาชิกที่ร่วมงานจังหวัดละ 1,800 คน
พร้อมกันนี้จะมีการจัดกิจกรรมสร้างคนสร้างงานเหมือนกับธุรกิจประกันชีวิตเช่นกัน ซึ่งหลักสูตรนี้นายประทีปจะใช้หลักสูตรเดียวกับที่เคยเปิดสอนในสถาบันแคชสคูลที่เปิดอบรมให้กับคนในวงการมากว่า 20 ปี เพียงแต่เปลี่ยนตัวสินค้าโดยเปลี่ยนจากกรมธรรม์ประกันชีวิตมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพเท่านั้นเอง
“จริงๆ แล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะคนที่เป็นตัวแทนขายประกันชีวิตส่วนใหญ่แล้ว นอกจากขายประกันชีวิตเป็นงานหลักแล้ว ก็จะทำธุรกิจเครือข่ายเป็นอาชีพรอง หรืออาชีพที่สองอยู่แล้ว แต่ทีนี้พอนายประทีปมาเปิดทำตลาดจุดนี้ ในหลายๆบริษัทเขาก็กลัว เพราะนายประทีปมีชื่อเสียงและเติบโตมาจากวงการประกันชีวิต ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่ ทำไมพอนายประทีปมาเปิดปั๊บ หลายคนที่เดิมทำกันกระจัดกระจายในธุรกิจขายตรงอยู่แล้ว ก็เบนเข็มหันมาให้ความสนใจ และพุ่งเป้ามารวมศูนย์ทำงานกับนายประทีป และทำให้หลายบริษัทประกันชีวิตเขาต่างพากันกลัวว่า จะดูดคนของบริษัทประกันชีวิตของเขาเข้ามา” แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวในที่สุด
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ เส้นทางนักขาย ปีที่ 8 ฉบับที่ 202 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16- 30 เมษายน 2554
ธุรกิจขายตรง
ตอบลบ