ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554

นักธุรกิจเอเชียนไลฟ์ มีเฮ!ปลายปี ประกาศเตรียมขายหุ้น สร้างตึก 10แห่ง



เอเชียนไลฟ์ส่งสัญญาณธุรกิจแรงครึ่งปีหลังเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์พร้อมประกาศขายหุ้นโรงงานเดือน..นี้เฉพาะสมาชิกเอเชียนไลฟ์ก่อนใครพ่วงท้ายด้วยการจดสิทธิบัตรมังคุดสูตรมะเร็งและมังคุดสูตรช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาในเรื่องของภูมิคุ้มกันบกพร่องปลายปีมั่นใจแผนงานดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งการจุดกระแสของเอเชียนไลฟ์แน่ย้ำ!ยุทธศาสตร์ปีนี้ยังคงเดินหน้าสร้างแบรนด์สินค้าต่อเนื่องพร้อมเตรียมผุดตึกเอเชียนไลฟ์ 10 แห่งก่อนปลายปีเชื่อสิ้นปีเป้าหมายยอดขาย 500 ล้านไม่ไกลเกินเอื้อม
นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จของธุรกิจเครือข่ายที่ชื่อ “เอเชียนไลฟ์” ที่ในปีนี้เตรียมที่จะสร้างความฮือฮาให้กับวงการขายตรงอีกครั้ง ด้วยการออกมาประกาศถึงความพร้อมและศักภาพครั้งสำคัญนั่นคือ การเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์พร้อมกับการขายหุ้นโรงงานให้กับสมาชิกของเอเชียนไลฟ์ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่สำคัญยังทุ่มงบประมาณอีกกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างตึกเป็นของบริษัทอีก 10 แห่งครอบคลุมทั่วภูมิภาคภายในปีนี้อีกด้วย
ซึ่งรายละเอียดของการเข็นธุรกิจเอเชียนไลฟ์ฯ สู่ตลาดหลักทรัพย์ในปลายปีนี้นั้น “ตลาดวิเคราะห์” ได้รับการเปิดเผยจาก นายกัมปนาท บุญราศรี ที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร บริษัท เอเชียนไลฟ์ จำกัด ว่า สำหรับความพิเศษที่เรียกว่าจะสร้างกระแสของธุรกิจเอเชียนไลฟ์ในปีนี้ นั่นคือ การนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งขณะนี้ได้รับการพิจารณาจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) แล้ว โดยคาดว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทางบริษัทฯ ได้เตรียมที่จะมีการขายหุ้นให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทรวมถึงสมาชิกของเอเชียนไลฟ์ก่อนด้วย
...“วันนี้เอเชียนไลฟ์ อาจเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจขายตรงแห่งเดียว ที่สมาชิกสามารถมีสิทธิซื้อหุ้นโรงงานได้ ที่สำคัญยังเป็นโอกาสเดียวที่นักธุรกิจเอเชียนไลฟ์จะเป็นเจ้าของหุ้นโรงงานอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าหลังจากที่บริษัทฯ ประกาศที่จะขายหุ้นดังกล่าวในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ น่าที่จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากสมาชิกได้ไม่น้อยเช่นกัน ที่สำคัญ ทาง ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ยังเตรียมที่จะปันผลให้กับสมาชิกในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าอีกด้วย”...เรียกได้ว่า การนำหุ้นเพื่อขายให้กับนักธุรกิจเอเชียนไลฟ์ในครั้งนี้นั้น ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจได้ไม่น้อยทีเดียว
โดยการสร้างความเชื่อมั่นของธุรกิจ “เอเชียนไลฟ์” ไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ แต่ค่ายนี้ยังมีกลยุทธ์หลักๆ ที่สำคัญ เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่สู่เป้าหมายยอดขายสิ้นปีนี้ 500 ล้านบาทอีกด้วย โดยกลยุทธ์การยึดครองตลาดของ
“เอเชียนไลฟ์” นั้น เรียกได้ว่า “จี๊ด จ๊าด เผ็ด ร้อน” อย่างมาก ซึ่งกว่าที่จะบ่มเพาะกลยุทธ์เด็ดออกมาแต่ละตัวได้ ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายๆ อย่างเข้ามาผนวกผูกปมเข้ารวมกันนั่นเอง
ซึ่งทีเด็ดความพิเศษกลยุทธ์เข็นความสำเร็จของ “เอเชียนไลฟ์” นั้น “กัมปนาท” ได้เผยผ่าน “ตลาดวิเคราะห์” ว่า กลยุทธ์ที่สำคัญในปีนี้ของเอเชียนไลฟ์คือ การสร้างแบรนด์และทำให้คนรู้จักโปรดักส์ของบริษัทฯ มากขึ้น พร้อมกันนี้ ในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป บริษัทฯ จะหันมาลงโฆษณาผ่านทางเคเบิ้ลทีวีมากขึ้น เพื่อช่วยส่งเสริมให้นักธุรกิจเอเชียนไลฟ์ได้ทำงานง่ายขึ้น รวมถึงการยื่นเรื่องขออนุญาตจากทาง สคบ. ในการที่จะมีโบนัสพิเศษให้กับสมาชิกด้วย
“โบนัสพิเศษตรงนี้ ถือเป็นรางวัลให้กับนักขายที่สามารถทำคุณวุฒิตามเงื่อนไขที่ทางบริษัทฯ กำหนด โดยใครที่ทำได้ก็จะได้รับเงินโบนัสพิเศษนั่นไปทันที ตั้งแต่เช็คโบนัสเงินสดใบละ 1 ล้านบาทจนถึง 5 ล้านบาท ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวนี้ จะเป็นอีกหนึ่งแรงช่วยให้สมาชิกเกิดความฮึกเหิมในการทำงาน และสร้างความแข็งแกร่งในการทำงานสำหรับสมาชิกนั่นเอง”
“กัมปนาท” กล่าวต่ออีกว่า อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ ของเอเชียนไลฟ์ คือ เรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันมีนักขายแข่งขันกันทำคุณวุฒิ เพื่อต้องการไปท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะทีเดียว โดยในเดือนสิงหาคมนี้ ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะไปท่องเที่ยวที่เซินเจิ้น จูไห่ ที่มาเก๊า และอีกประมาณ 6 เดือนข้างหน้าช่วงต้นปี 2555 ทางบริษัทฯ จะนำนักขายที่ทำ คุณวุฒิได้ไปท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในลำดับต่อไป
อีกหนึ่งหัวใจหลักที่สำคัญของการทำธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จนั่นคือ “การเทรนนิ่ง” โดยที่เอเชียนไลฟ์ ก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเสมอมา เรียกได้ว่าเข้มข้นอย่างมากทีเดียว เห็นได้จากวันนี้เอเชียนไลฟ์มีวิทยากรในการเทรนนิ่งมากขึ้น และทำอย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบที่เรียกว่า “URTMS” ที่ทางบริษัทฯ ได้ทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 แล้ว และก็สัมฤทธิผลเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการจัดอีเว้นท์เพื่อพิสูจน์ถึงสินค้าที่ยอดเยี่ยมของเอเชียนไลฟ์นั่นคือกิจกรรม “ครีมมิ่งแฟนตาเซียร์” โดยการจัดแข่งขันนวดโชว์ทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์มากขึ้นด้วยการเห็นด้วยตา ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะทำให้นักธุรกิจทำตลาดในส่วนของผลิตภัณฑ์สลิมมิ่งง่ายขึ้น
อีกทั้งยังมีกิจกรรมการจัดอีเว้นท์ย่อยๆ ที่นักธุรกิจเอเชียนไลฟ์ทุกคนจะต้องทำ คือ การทำเฮ้าส์มีทติ้ง รวมถึงการออกไปพบ ปะกับผู้บริโภคตามบ้านให้มากขึ้น ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวใช้ชื่อว่า “ครีมแอทโฮม” ที่นักธุรกิจเอเชียนไลฟ์จะไปสลายไขมันผู้บริโภคถึงที่บ้าน ซึ่งจากการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับสินค้ากระชับสัดส่วนนี่เอง น่าที่จะส่งผลทำให้บริษัทฯ จะมีกลุ่มที่เป็นผู้หญิงเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
...เรียกได้ว่า จากกลยุทธ์ที่กล่าวมานี้คืออีกหนึ่ง “หัวหอก” ที่สำคัญอย่างมากในการผลักดันธุรกิจเอเชียนไลฟ์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งจากความเข้มข้นของการทำงานที่ “รุก-รบ-เร็ว” บวกกับ “กึ๋น” ของ “ทีมผู้บริหาร” ที่เต็มเปี่ยมนี่เอง ส่งผลให้ในภาพรวมธุรกิจของเอเชียนไลฟ์ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา เรียกว่าเติบโตเกินความคาดหมายทีเดียว
ซึ่งภาพรวมธุรกิจเอเชียน ไลฟ์ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมานั้น “กัมปนาท” ได้เปิดเผยว่า หากเทียบตัวเลขอัตราการเติบโตในช่วงเดือนเดียวกันกับปีที่แล้ว พบว่า บริษัทฯ มียอดขายเพิ่มขึ้น 10-15% ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งเป้าหมายของบริษัทฯ สิ้นปีนี้นั้น อยากที่จะสร้างยอดขายอยู่ที่ 500 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามียอดขายอยู่ที่ 200 ล้านบาท
“จากเป้าหมายดังกล่าว จำเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทฯ จะต้องสปีดตัวเองให้เร็วยิ่งขึ้นกว่านี้ ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ มากมาย ทั้ง ลด แลก แจก แถม พร้อมกับรุกการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน เอเชียนไลฟ์ ได้วางการประชาสัมพันธ์ธุรกิจไว้ 3 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่ 1. การประชาสัมพันธ์ผ่านนิตยสาร พวกชีวจิต คู่สร้างคู่สม นิตยสารสุขภาพ HealthToday เป็นต้น ส่วนที่ 2 ผ่านทางเคเบิ้ลทีวี ช่องทรูวิชั่น 8 ช่อง TNN 2 รายการ BIM 100 ส่วนที่  3. ผ่านเว็บไซต์ ที่ทางบริษัทฯ ได้ส่งเสริมให้สมาชิกได้มีเว็บเป็นของตัวเอง โดยทำเหมือนหน้าร้าน ที่สามารถช้อปปิ้งซื้อของได้ ชำระเงินได้เหมือนตระกร้าสินค้า ปัจจุบันมีสมาชิกที่เปิดเว็บไซต์ในลักษณะดังกล่าวอยู่ที่ 50 เว็บไซต์แล้ว และยังสามารถสร้างยอดขายได้หลายล้านบาททีเดียว”
“กัมปนาท” กล่าวเสริมต่อว่า ปัจจุบันเอเชียนไลฟ์มีศูนย์ที่แอคทีฟอยู่จำนวน 100 ศูนย์ จากทั้งสิ้น 500 ศูนย์ ซึ่งที่เหลืออีก 400 ศูนย์ยังไม่แอคทีฟ โดยในจำนวนศูนย์ที่แอคทีฟ 100 ศูนย์นั้น ทางบริษัทฯ ยังได้มีการส่งเสริมยกระดับศูนย์เหล่านี้ให้มีมาตรฐานมากขึ้น ด้วยโครงการที่ชื่อว่า BIM EXPERT (บิมเอ๊กซ์เปิร์ท) ที่จะเป็นศูนย์ที่เน้นเกี่ยวกับสุขภาพ โดยกำหนดให้มี 1 อำเภอ 1 ศูนย์ จำหน่ายเท่านั้น
“ในปีนี้บริษัทฯ ได้เตรียมที่จะเสริมความแกร่งของธุรกิจเอเชียนไลฟ์ ด้วยการวางงบลงทุนไว้ที่ 100 ล้านบาท ในการที่จะเพิ่มสาขาอีก 10 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ทุกจุดทั่วประเทศ โดยในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น จะยึดพื้นที่ 4 มุมเมือง ซึ่งเชื่อว่าหลังจากที่สาขาทั้ง 10 แห่งพร้อม จะสามารถช่วยเอื้อประโยชน์ในการทำงานให้กับนักธุรกิจเอเชียนไลฟ์ได้อย่างมากทีเดียว”
นอกจากนี้ “กัมปนาท” ยังได้กล่าวทิ้งท้ายต่ออีกว่า สิ่งที่จะมาสร้างกระแสในช่วงปลายปี นอกเหนือจากการขายหุ้นให้กับนักธุรกิจเอเชียนไลฟ์แล้ว ทางบริษัทฯ ยังได้เตรียมที่จะจดสิทธิบัตรมังคุดสูตรมะเร็งและมังคุดสูตรช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาในเรื่องของภูมิคุ้มกันบกพร่อง คือ โรคเอดส์ โดยผลิตภัณฑ์ 2 สูตรนี้จะถูกจดสิทธิบัตรขึ้นในช่วงปลายปี และจะมีการประโคมข่าวตามช่องฟรีทีวีทุกช่อง เพื่อต้องการสื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่า บริษัท
เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด มหาชน มีศักยภาพที่มากพอในการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศและมีผลวิจัยที่ได้มาตรฐาน ซึ่งคาดว่าประมาณเดือนตุลาคมนี้ ทางบริษัทฯ จะเริ่มมีการปล่อยกระแสตรงนี้ออกไป ก่อนที่จะมีการขายหุ้นโรงงานให้กับสมาชิกในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ ตลาดวิเคราะห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น