ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เอมสตาร์ เล่นของใหญ่ ปักธงสหรัฐ ดีดตัวติด ท็อปสากล



“เอม สตาร์” เดินหน้าไต่บันไดฝัน ข้ามทวีปจัดการปักธงขยายสาขาเข้าเมืองลุงแซม ใช้แคลิฟอร์เนียเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ ส่วนอินเดียยังต้องรอพิกัดตั้งสาขา ด้านโรงงาน ไทยยังมีปัญหาขีดเส้นต้องเสร็จทันปลายปี เป้าหมายยอดขาย ยังเสียงแข็ง ปีนี้ต้อง 1.5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
ท.ญ.ลพา วัชรศรีโรจน์ ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท เอมสตาร์ เน็ทเวิร์ค จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้เอมสตาร์ได้ทำการเปิดสาขาในประเทศสหรัฐอเมริกาที่รัฐแคลิฟอร์เนียโดยมีการเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งสมาชิกสามารถสั่งซื้อสินค้า หรือสมัครสมาชิกได้ จากสาขานี้ได้เลย และกระแสการตอบรับ ถือว่าดีมาก เพราะเมื่อเปิดทำการวันแรกสินค้าของเอมสตาร์ขายหมดเกลี้ยง
สำหรับทุนการจดทะเบียนบริษัทที่อเมริกาอยู่ที่ 5 แสนเหรียญ โดยสินค้าที่ไปวางจำหน่ายตัวแรกคือ น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว สินค้าตัวต่อไปที่จะนำเข้ามา คือ สินค้ากลุ่ม แอสนี่ สกินแคร์ และกลุ่ม เพอร์ซันนอลแคร์ โดยสมาชิกสามารถโทร. สั่งซื้อสินค้า หรือสั่งทางระบบออนไลน์ได้ เพราะมีการเชื่อมโยงระบบและสามารถจัดส่งได้ทั่วอเมริกา แต่ต้องขึ้นอยู่กับระเบียบ การจัดส่งของแต่ละรัฐ
“ในส่วนของเรื่องแม่ทีม บริษัทยังให้ ความสำคัญกับผู้ที่เป็นคนไทย โดยอัพไลน์ ต้องเป็นคนไทยเท่านั้น เพราะเอมสตาร์มองว่าแม้ตลาดจะใหญ่แค่ไหน แต่ต้องมีต้นไม้หลักแค่ต้นเดียว อีกทั้งยังมองว่าตลาดที่อเมริกาถือว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุด ในการทำธุรกิจเครือข่าย เพราะว่าโครงสร้าง สามารถรองรับได้ทั่วโลก และประชาชนส่วนใหญ่ค่อนข้างเชื่อมั่นในตัวเองว่าเขาทำได้ ซึ่งตรงกับคอนเซปต์ของเรา คือ คุณ ลิขิตชีวิตคุณเอง โดยประชาชนที่อเมริกาตั้งเป้าหมายว่าเขาต้องอยู่ในระดับไดมอนด์ สตาร์เท่านั้น หรือต้องมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 3 แสนบาทต่อเดือน” หมอลพา กล่าว
ขณะเดียวกัน เอมสตาร์มองเป้าหมาย ในการเปิดสาขาที่อเมริกาว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่จะขับเคลื่อนให้ธุรกิจเอมสตาร์ก้าวเข้า สู่ท็อปเทนของตลาดโลก ซึ่งจากการสำรวจ พบว่าประชาชนที่นั่นมีอยู่สองกลุ่มคือ กลุ่ม ที่เกลียดธุรกิจเครือข่าย กับกลุ่มที่เคยทำธุรกิจเครือข่ายแล้วไม่ประสบความสำเร็จ โดยเอมสตาร์ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเมื่อเข้ามาทำธุรกิจนี้แล้วสามารถประสบความสำเร็จได้ไม่ยากอย่างที่คิด
“อย่างไรก็ดี การขยายสาขาในต่าง ประเทศย่อมมีความยากง่ายไม่เหมือนกัน อย่างเราเข้าไปเปิดสาขาที่ญี่ปุ่นกับอเมริกา ก็มีความแตกต่างกัน เพราะฐานประชาชน คนไทยที่อเมริกามีจำนวนมากกว่าที่ญี่ปุ่น อีกทั้งภาษาในการสื่อสารที่ญี่ปุ่นถือเป็นอุปสรรคในการเข้าไปขยายกลุ่มลูกค้า และ อัตราการเติบโตที่อเมริกาค่อนข้างโตได้ง่ายกว่าที่ญี่ปุ่น”
สำหรับสาขาที่ญี่ปุ่น ซึ่งก่อนหน้าที่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขณะนี้สถานการณ์ ที่ญี่ปุ่นอยู่ในสถานการณ์ปกติ โดยขณะนี้เอมสตาร์ได้ทำการขยายสำนักงานไปยัง ชิบูย่า แม้ประชาชนที่ญี่ปุ่นยังมีความเครียด และความกังวลกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวสึนามิที่ผ่านมา
ส่วนการขยายสาขาที่อินเดียยังอยู่ในขั้นตอนการจัดหาสถานที่ เพื่อจัดทำเป็น สำนักงาน โดยใช้เงินการลงทุนจดทะเบียน ประมาณ 40 ล้านรูปีหรือ 30 ล้านบาท
อีกทั้งยังมีในส่วนของสาขาพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจาก ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และขณะนี้กำลังหาสถานที่เพื่อขยายสำนักงานใหม่ที่สามารถรองรับสมาชิกที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเอมสตาร์ยังต้องการขยายสาขาเข้าไปยังจีน ซึ่งเราต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพราะธุรกิจขายตรงของคนไทย ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในจีน
ดังนั้น จึงต้องเอาภาพความสำเร็จจากอเมริกา และญี่ปุ่นไปเป็นภาพประกอบ แม้การสั่งซื้อสินค้าในต่างประเทศจะเป็น การสั่งออนไลน์ หรือการโทร.สั่งสินค้าเป็น ส่วนใหญ่ แต่ก็ยังต้องมีการอบรมสมาชิกเช่นเดียวกับสมาชิกในไทย
ด้านผลประกอบการในไทยยังเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยขณะนี้มีสมาชิกระดับ ไดมอนด์ สตาร์ อยู่ประมาณเกือบ 100 รหัส ซึ่งจากการเติบโตดังกล่าว จะเป็นการตอกย้ำ ถึงจุดยืนว่าบริษัทจะต้องสามารถทำเป้าหมายได้ถึง 1.5 หมื่นล้านบาท โดยมีเป้าหมายใหญ่ของเอมสตาร์ คือ ในปี 2558 เอมสตาร์จะขึ้นเป็นท็อปเทนของโลก ซึ่งตอนนี้เอมสตาร์อยู่อันดับที่ 60 กว่าของตลาดสากล ซึ่งถ้าต้องการขึ้นเป็นท็อปเทน อย่างน้อยต้องมีรายได้ประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ดี เอมสตาร์ได้มีโครงการขยายโรงงานให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม เพื่อรองรับกลุ่มสินค้าที่กำลังจะเพิ่มเข้ามาใหม่ รองรับเครื่องจักรที่นำเข้ามาเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต และพัฒนาสินค้า ซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลังคาอีก นิดหน่อย โดยคาดว่าปลายปีนี้น่าจะเสร็จสมบูรณ์
สำหรับผลกระทบที่จะมีการเปิดตลาดการค้าเสรี หรือ AEC ที่จะเข้ามาใน ปี 2558 เรามองว่าไม่มีผลกระทบต่อเอมสตาร์ และเห็นว่าเป็นผลดีกับเรามากกว่า เพราะทำให้มีการส่งออกที่ง่ายขึ้น และสะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นทำให้ ตลาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากมีความอิสระในการ ลงทุน โดยลดต้นทุนในส่วนของภาษี
อนึ่ง เอมสตาร์นับเป็นบริษัทของคนไทยที่สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทาง ท.ญ.ลพา มักกล่าวถึงตัวเลขหมื่นล้านเสมอ ซึ่งถึงแม้ปัจจุบันจะยังไม่สามารถ ทำได้ตามที่กล่าวก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่าตัวเลขการเติบโตที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีนั้น ก็สร้างความวิตกให้คู่แข่งได้ โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาที่มีข่าวลือว่าบริษัทสามารถเดินไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น