ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

"สุพรีเดอร์ม-Suprederm" ปลุกกระแสน้ำสมุนไพรเข็น "ปัญจะ ภูตะ" สินค้าใหม่ดึงยอด หลังติดหล่ม "นูทริเดอร์ม-Nutriderm"


“สุพรีเดอร์ม-Suprederm” หันหางเสือ กลับ หลังปีที่ผ่านมาให้น้ำหนักบริษัท ลูก “นูทริเดอร์ม” ทำยอดขายร่วง เข็นสินค้าเสริมอาหารสมุนไพร “ปัญจะ ภูตะ” ลงสนาม เอาใจคนรักสุขภาพ พร้อมเปิดผังจัดอบรม ถี่ยิบ ปลุกพลังเครือข่ายกระทุ้งยอด ตามเป้า


นายธรรมนูญ สมบูรณ์สิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สุพรีเดอร์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผย “สยามธุรกิจ” ว่า ผลประกอบการโดยรวมในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่หากจะไปเทียบกับสัดส่วนยอดขายของบริษัทในช่วงปีก่อนคงไม่ได้ เนื่องจากในปี 2554 บริษัท สุพรีเดอร์ม ได้เปิดบริษัทลูกขึ้น ในนาม “นูทริเดอร์ม” โดยเปลี่ยนมาใช้แผนการตลาดแบบไบนารี่ จากเดิมที่ใช้แผนแบบสแตร์สเต็ปมาโดยตลอด ซึ่งปรากฏว่า การปรับแผนการ ตลาดในครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ สมาชิกโดยส่วนใหญ่ปรับตัวไม่ได้กับแผนแบบไบนารี่ ดังนั้นในปี 2555 นี้ บริษัทจึงหันกลับมาใช้แผนธุรกิจในรูปแบบเดิม และกลับมาเน้นที่ บริษัท สุพรีเดอร์มฯ อีกครั้ง


ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดในช่วงไตรมาสที่ 3 นายธรรมนูญ กล่าวว่า บริษัท เตรียมเพิ่มสินค้าใหม่เข้ามาสนับสนุนการทำงานของสมาชิก โดยจะเป็นสินค้าจำพวก Mass Product (การผลิตสินค้าโดยใช้เครื่องจักรที่ได้มาตรฐานเดียวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อคุณภาพและต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง) ซึ่งจะทำให้สมาชิกสามารถ นำไปเสนอผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น โดยล่าสุด ได้เปิดตัวและเริ่มจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ 3 รายการ เพื่อเข้ามาเจาะเทรนด์ตลาดคนรักสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มสมุนไพร ปัญจะ ภูตะ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรถึง 39 ชนิด ช่วยปรับสมดุลของธาตุทั้ง 5 และสร้างภูมิ-คุ้มกันที่ดีให้กับร่างกาย โดยหลังจากบริษัท ทำการทดลองตลาดภายในช่วงเดือนที่ผ่านมา สมาชิกและผู้บริโภคให้การตอบรับ เป็นอย่างดี


“ปัจจุบันสินค้าของบริษัทมีประมาณ 300 รายการ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสัดส่วนยอดขาย ประมาณ 45% กลุ่มผลิตภัณฑ์คอสเมติก ประมาณ 30% กลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร ใน สัดส่วนเท่าๆ กัน โดยตนคาดว่าในปีนี้จะมี แผนงานเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์สินค้า ของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกด้วย”


นอกจากนั้น บริษัทยังมีกลยุทธ์เพิ่มการฝึกอบรมให้แก่สมาชิก เนื่องจากมองว่า การอบรมถือเป็นหัวใจสำคัญของ ธุรกิจเครือข่าย บริษัทพยายามจัดการฝึกอบรมในคอร์สต่างๆ เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของ สมาชิก และพนักงาน เพื่อให้พวกเขามีความรู้ที่จะสามารถบริการหรือตอบสนอง ความต้องการต่างๆ ของผู้บริโภคได้ ให้สามารถออกไปนำเสนอผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทจะมีระบบการจัด ฝึกอบรมในทุกๆ วันพุธ ส่วนศูนย์สาขาต่างๆ ก็จะมีการจัดประชุม ในทุกๆ เสาร์-อาทิตย์ นอกจากนี้ยังมีการจัดอบรมพิเศษในเรื่องของสินค้า และกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย


“เหนืออื่นใดการจัดฝึกอบรมแต่ละครั้งนอกจากบริษัทจะเน้นพัฒนาความรู้ด้านการบริหารงาน ความเชี่ยวชาญในการขยายเครือข่ายโดยเฉพาะความรู้ด้าน ข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทแล้ว ตนยังเน้นย้ำเสมอถึงหลักของคุณธรรม จริยธรรมของผู้นำเครือข่าย ให้พวกเขานำเสนอข้อมูลตามความเป็นจริง ไม่โอ้อวด หลอกลวง แนะนำด้วยความจริงใจ แล้วทุกคนก็จะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง”


ส่วนในด้านศูนย์อบรมหรือสาขาของ บริษัทนั้น ปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 96 สาขากระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดย สัดส่วนยอดขายส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งในปีนี้หากทุกอย่างดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ ตนก็อยากที่จะเปิดสาขาให้ครบ 100 สาขา และ ในด้านการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อสร้างแรงกระตุ้นการทำงาน โดยเฉพาะโปรโมชั่นท่องเที่ยว บริษัทจะเปลี่ยนกฎเกณฑ์ ในรูปแบบใหม่ คือ จากเดิมที่บริษัทใช้ระบบอิงกลุ่ม เปลี่ยนมาใช้ระบบอิงเกณฑ์ หากใครผ่านเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดก็สามารถไปท่องเที่ยวได้เลย และหากใครเก่งทำเป้าได้สูง ก็อาจจะไปท่องเที่ยวได้มากกว่า 2 ที่นั่ง


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ  ฉบับที่ 1310 ประจำวันที่ 20-6-2012  ถึง 22-6-2012 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น