ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เปิดใจ ‘นิโรธ เจริญประกอบ’กุนซือ ‘นีโอ ไลฟ์-Neolife’เดินหน้าร่วมอุดมการณ์รับใช้สังคม


“นิโรธ เจริญประกอบ” เลขาธิการสคบ.นั่งแท่นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บริษัท “นีโอ ไลฟ์” ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้ พร้อมควบตำแหน่งกรรมการ “มูลนิธิเยาวชนผู้ยากไร้ ในถิ่นทุรกันดาร” ประกาศร่วมอุดมการณ์ สานฝันให้ พี่น้องชาวไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ยันพร้อมรับใช้สังคม และเดินหน้าพัฒนาวงการธุรกิจขายตรง 

ภายหลังจากกระแสข่าวการลาออกของ “นิโรธ เจริญประกอบ” เลขาธิการ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ ด้วยประสบการณ์จากหน้าที่การงานที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคมากว่า 30 ปี จึงรู้ถึง ข้อกฎหมายและแนวทางการทำธุรกิจที่ถูกต้อง ทำให้หลายภาคธุรกิจต่างต้องการตัวมา เป็นที่ปรึกษาบริษัท

ล่าสุด “นิโรธ เจริญประกอบ” ได้เปิดตัวกับหนังสือพิมพ์ “สยามธุรกิจ” ประกาศรับเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของบริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตามคำเชื้อเชิญของ ดร.นพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการบริหาร นีโอ ไลฟ์ฯ หลังจากได้ยื่นใบลาออกในวันที่ 30 มิถุนายน 2555 และพร้อมจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม 2555 นี้ 

> เหตุที่ต้องลาออกก่อนเกษียณ

“ด้วยการเป็นราชการอยู่ถึง 38 ปี ซึ่ง 8 ปีแรกผมทำงานอยู่กับกระทรวงมหาดไทย ต่อมาในปี 2525 ได้ย้ายเข้ามาทำงานอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ด้วยเหตุที่ต้องการความท้าทายใหม่ๆ ในการทำงาน จึงได้ทำเรื่องย้ายสังกัดในการทำงาน และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ต้องการความท้าทายใหม่ๆ ในการทำงาน” “นิโรธ เจริญประกอบ” ให้สัมภาษณ์ทีมงาน “สยามธุรกิจ” 

โดยงานของสคบ. เป็นงานที่ต้องช่วยเหลือประชาชนผู้บริโภค ซึ่งจะมีการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องของความไม่เป็นธรรมที่ได้รับ ซึ่งสคบ.ก็จะมีหน้าที่ในการกำกับดูแลบรรดา ผู้ประกอบการไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งในการทำงานยอมรับว่ามีเรื่องต่างๆ เข้ามากดดัน มากมาย ทั้งจากประชาชนผู้บริโภคเองก็ดี รวมทั้งผู้ประกอบการเองก็ดี

เนื่องจากการที่จะตัดสินว่าใครผิดใครถูกเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย หากสคบ.เข้าข้างประชาชน ผู้บริโภคมากจนเกินไป ก็จะมีฝ่ายผู้ประกอบการที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งอาจเกิดเรื่องความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ และในทางกลับกัน หากประชาชนผู้บริโภคไม่ได้รับการตัดสินอย่างที่ เขาต้องการ ก็จะกลายเป็นว่าสคบ.ไม่ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้บริโภคอีก ซึ่งในส่วนนี้เป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งสคบ. ก็ต้องพยายามที่จะไกล่เกลี่ยเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งต้องเข้าใจ ว่าสคบ.เป็นหน่วยงานที่ประชาชนผู้บริโภคตั้งความหวังไว้ค่อนข้างมาก แรงกดดันจึงมีมากตามมา

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ความกดดันจากความคาดหวังของประชาชนจะมีมาก ทำให้การทำงานยากขึ้นตาม ก็เป็นเรื่องที่มีความยินดี เนื่องจากสคบ.นับเป็นหนึ่งหน่วยงานที่เน้นเรื่อง การช่วยเหลือผู้บริโภคเป็นสำคัญ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจส่วนตัว

อย่างไรก็ตาม ในปี 2545 ทางสคบ.ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในเรื่อง ของการดูแลในส่วนของธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ซึ่งสิ่งนี้ยิ่งทำให้หน่วยงานมีความท้าทายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากภาพขายตรงในอดีตค่อนข้างติดลบเป็นอย่างมากในสายตาผู้บริโภค ทำให้สคบ.ต้องทำความเข้าใจในรายละเอียดของธุรกิจ และทำให้การทำงานในการกำกับดูแลธุรกิจนี้ ให้เกิดความเป็นธรรมที่สุด

ในปี 2551 “นิโรธ” ได้รับการพิจารณาให้นั่งเป็นเลขาธิการของสคบ. ซึ่งเรื่องท้าทายสิ่งแรกที่เข้ามาทำ ก็คือ การออกใบอนุญาตให้กับบรรดาบริษัทขายตรงต้องรวดเร็ว และชัดเจนที่สุด ซึ่งจากเดิมที่ผู้ประกอบการต้องใช้เวลานานในการขออนุญาตเปิดบริษัท จนเกิดเสียงว่ากล่าวจากผู้ประกอบการว่า หน่วยงานรัฐทำงานช้าจนนำมาซึ่งความคิดที่ว่า สคบ.ต้องการอะไรหรือเปล่าจึงดึงเวลา ซึ่งส่วนนี้ตนเข้าใจผู้บริโภค และปรับรูปแบบการทำงาน จนการจดทะเบียนเปิดบริษัทขายตรงสามารถเสร็จสิ้นหลังจากยื่นหลักฐานขอเปิดอย่างครบถ้วน ด้วยระยะเวลา เพียง 3 วัน เป็นการปิดข้อครหาของบรรดาบริษัทขายตรงที่มีต่อหน่วยงานรัฐได้เป็นอย่างดี

> อะไรคือสิ่งที่ทำให้เลือก “นีโอ ไลฟ์”

ในช่วงที่ผ่านมา ทาง “ดร.นพรุจ เวชกุล” ประธานกรรมการ บริษัท นีโอ ไลฟ์ฯ ได้เข้ามาทาบทาม เพื่อให้เข้ามาร่วมทำงาน ซึ่งในตอนนั้นทาง “ดร.นพรุจ” ต้องการให้เข้ามาช่วยงาน “มูลนิธิเยาวชนผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร” ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่ดี เนื่องจากโดยส่วนตัวเป็นคนที่ต้องการทำงานเพื่อสังคมอยู่แล้ว และการที่ประธานของบริษัทขายตรงอย่าง “นีโอ ไลฟ์” เข้ามาอีก ก็ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีที่จะมีส่วนร่วมในจุดนี้ และได้รับปากที่จะเข้ามาช่วยเหลือ

โดยก่อนที่จะรับปากในการเข้ามานั่งในตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของ “นีโอ ไลฟ์” ก็ได้ทำการศึกษาบริษัท นีโอ ไลฟ์ฯ มาก่อน ซึ่งด้วยการที่ทำงานอยู่ในสคบ. ก็ย่อม รู้ว่าบริษัทขายตรงแบรนด์ใด ค่ายไหนมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างไร ซึ่ง “นีโอ ไลฟ์” นับเป็นบริษัทขายตรงของไทย ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ระบบ “ไบนารี่” ที่มีความเป็นธรรม และไม่มีเรื่องเสื่อมเสียเกิดขึ้นมาก่อน 

นอกจากการศึกษาในเรื่องของแผน และข้อร้องเรียนแล้ว ยังได้รับทราบข่าวสาร ของ “นีโอ ไลฟ์” ผ่านหน้าจอทีวี ในช่องดาวเทียม “นีโอ ทีวี สยามธุรกิจ” ซึ่งเป็นช่องทีวีของบริษัท ซึ่งก็เห็นว่า “นีโอ ไลฟ์” เป็นบริษัทขายตรงของคนรากหญ้า และคนไทยอย่างแท้จริง เพราะจากรายการที่บริษัทนำนักขายในตำแหน่งต่างๆ มาพูดคุย จึงเกิดความรู้สึกว่า บริษัทขายตรงแบรนด์นี้ เป็นบริษัทช่วยคนอย่างแท้จริง อีกทั้งยังตอบ โจทย์ความสำเร็จให้กับผู้คนทุกระดับได้อย่าง เป็นรูปธรรมไม่เพียงเท่านี้ ยังประทับใจการทำงาน ของประธานบริษัทอย่าง “ดร.นพรุจ เวชกุล” ที่ทำงานในการให้ความรู้นักขายด้วยตนเอง โดยตลอด ทำให้นักขายเกิดความเข้าใจ และ มีแรงกระตุ้นในการทำงาน “เหตุผลที่กล่าวมา จึงทำให้ผมรับปาก ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท นีโอ ไลฟ์ฯ ในการผลักดันบริษัท เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้า อย่างมั่นคงต่อไป” นิโรธกล่าว 

> สิ่งที่จะผลักดันหลังการเข้ารับตำแหน่ง

จากประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายมาตลอดระยะเวลาที่ทำงานอยู่กับสคบ. ก็มีความต้องการที่จะใช้ ความรู้ประสบการณ์ในส่วนนี้ ผลักดัน “นีโอ ไลฟ์” และธุรกิจขายตรงให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง อีกทั้งยังต้องการที่จะผลักดันภาพลักษณ์ของขายตรงให้กลายเป็นธุรกิจสีขาวอย่างภาคภูมิในอนาคตต่อไป

ส่วนในเรื่องของการทำงานใน “นีโอ ไลฟ์” คงต้องใช้เวลาในการศึกษาอีกระยะหนึ่ง เพื่อจะได้มีความรู้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งจะ ได้ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแนวทางของ “ดร.นพรุจ เวชกุล” ประธานบริษัท ซึ่งถือว่า เป็นสุดยอดผู้นำวงการธุรกิจขายตรงก็ว่าได้ 

> วิวัฒนาการธุรกิจขายตรงดีขึ้นมากน้อยเพียงใด 

ในอดีตธุรกิจขายตรงถูกมองว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เนื่องจากข่าวสารยังมีไม่เท่า ปัจจุบัน ผู้ประกอบการทำงานอย่างฉาบฉวย มีความโลภ ทำให้เกิดภาพที่ไม่ดีขึ้นในธุรกิจ ทำให้ธุรกิจขายตรงเกิดภาพลักษณ์ที่เป็นลบติดตาผู้บริโภคเรื่อยมามาถึงปัจจุบัน เมื่อหลายสิ่งหลายอย่าง พัฒนาตามความรู้ของผู้บริโภคมีมากขึ้น จากการรับข่าวสารในช่องทางต่างๆ บวกกับ ภาครัฐเข้ามากำกับดูแลธุรกิจมากขึ้น ส่วนนี้ทำให้ขายตรงมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้บริโภค อีกทั้งในปัจจุบัน เรื่องการร้องเรียน ของผู้บริโภคก็ไม่ค่อยมีมากเหมือนเมื่อ ก่อน ทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจก็ดีขึ้นตามลำดับ 

อย่างไรก็ดี หากให้เปรียบระหว่างขายตรงของไทยกับต่างชาติ ก็มองว่า บริษัทขายตรงคนไทยมีการพัฒนาไปมาก และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้น หลายบริษัทประสบความสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะ นีโอ ไลฟ์ ทำให้ นักลงทุนต่างชาติรายใหม่ๆ ไม่มั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนเจาะตลาดในเมืองไทยเหมือนยุคก่อนๆ

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ  ฉบับที่ 1312 ประจำวันที่ 27-6-2012  ถึง 29-6-2012 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น