ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

‘กิฟฟารีน ชาแนล-Giffarine Channel’ เปิดเกมตีชิ่งคู่แข่ง หนีพลังเครือข่ายดูด - ขอถอนทุนคืน ย้ำ! สิ้นปีไต่เป้า 6,000 ล้าน.


“กิฟฟารีน” เดินเกมยุทธศาสตร์ตามต้านยุทธศาสตร์นำหลังโดนคู่แข่งรุ่นน้องก็อปปี้กลยุทธ์กระจุย...จับตาหลังเปิดเกมตามอนาคต “กิฟฟารีน” จะเป็นเช่นไร..? หลังอัดงบเพิ่ม 50 ล้าน. ผุดทีวีดาวเทียมผนวกงบโฆษณา 200 ล้าน.ถือเป็นการยึดตลาดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอีกครั้งหลังหันรีหันขวางเจอพลังดูดจากคู่แข่งตั้งลำใหม่ด้วย “กิฟฟารีนแชนแนล” ช่องทางสร้างแบรนด์แสวงนักธุรกิจใหม่ประเดิมเฟสแรกนำร่อง 9 รายการเอาใจสมาชิกพร้อมยิงสัญญาณครอบคลุมอาเซียนลั่นพัฒนาครบ 3 เฟสสิ้นปีช่องนี้ต้องผงาด!! คาดสิ้นปีรายได้โต 10-12% จากรายได้กว่า 5,488 ล้านบาทขยายนักธุรกิจใหม่จากทีวี 10-20%


ดูเหมือนการวนไปเวียนมากับยุทธศาสตร์เดิมๆ อาทิ การจัดประกวดชิงรางวัล Contest  การทุ่มงบไม่อั้นผ่านโฆษณาทีวี - หนังสือพิมพ์ - นิตยสาร การเปิดตัวสินค้าใหม่จนพัฒนากลายเป็นคลังผลิตภัณฑ์ที่มีสินค้ามากมายนานาชนิด เพื่อตอกย้ำการเข้าชิงตลาดแมส การทุ่มงบโปรโมทโรงงานผลิตที่ผ่านมาตรฐานสากล และยุทธศาสตร์น้อย - ใหญ่ ฯลฯ อีกหลาย ๆ ยุทธศาสตร์ที่ “กิฟฟารีน” ได้สรรค์สร้างและบุกเบิกเป็นต้นฉบับให้ศิษย์น้องวงการขายตรงเดินตาม มีมากมายจนนับไม่ถ้วน 
และสามารถปีนป่ายยอดขายขึ้นแท่นเบอร์ 2 ในวงการขายตรง...ได้อย่างเหนียวแน่นและถาวร 
แต่ในธรรมชาติธุรกิจ ย่อมหลีกหนีการแข่งขันไม่พ้น เมื่อบริษัทน้ำใหม่รุ่นน้อง เริ่มชักแถวก็อปปี้ยุทธศาสตร์ “กิฟฟารีน” อย่างหนัก และทำอย่างต่อเนื่องค่ายแล้วค่ายเล่า เรียกว่า “ก็อปปี้” จน “กิฟฟารีน” เอง ปรับตัวแทบไม่ทัน 
เมื่อยุทธศาสตร์ที่เคยนำหน้าและชูธงชัยมาตลอด...กลับถูกรุ่นน้องเบียดเสียด แถมบางค่ายนำยุทธศาสตร์ “กิฟฟารีน” มาปรับและอะเด็ปท์ยุทธศาสตร์ได้ดีกว่า...ด้วยการใช้งบที่น้อยกว่า เปิดช่องทีวี ดาวเทียม เสียบรายการสาระมากกว่าสู่ช่องฟรีทีวี ที่ได้ทั้งแบรนด์ ได้ทั้งภาพลักษณ์ ภายใต้งบอันน้อยนิดแล้ว ชื่อเสียงและยอดที่ได้รับกลับมาคุ้มค่าเกินคำบรรยาย 
ขณะที่ “กิฟฟารีน” ใช้งบโฆษณาผ่านสื่อ และช่องฟรีทีวีมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท/ปี แต่ยอดขยับเพียงแค่ 10% ก็ถือว่าสุดหรู...เมื่อเทียบกับทีวี ดาวเทียม ใช้งบต่อเดือนไม่เกิน 20 ล้าน.บวกช่องฟรีทีวี ไม่เกิน 100 ล้าน.แต่ยอดขายกลับโตเกิน 100% ต่อปี 
นี่คือ ดัชนีชี้วัดความสำเร็จที่รู้จักใช้สื่อ ฉลาดใช้งบอย่างถูกวิธีและถูกทาง 
นั่นก็หมายความว่า ฐานตลาด “กิฟฟารีน” ที่ว่า “เจ๋ง” และมีขุนพลภายใต้สังกัดอีก 6.2 ล้านคน หาก “กิฟฟารีน” ไม่ขยับและไม่ทำอะไรเลย ในช่วงที่ยุทธศาสตร์ที่กำลัง “ตีบตัน” จนกลายเป็น “น้ำเต็มแก้ว” หากขยับกลัวน้ำหก ย่อมเป็นการส่งสัญญาณเป็นอย่างดีว่า 
สมาชิก...6.2 ล้านคน คือโจทย์สำคัญทำอย่างไร..? ให้หลุดออกจากมือน้อยที่สุด 
จากผู้นำขบวนทัพที่อยู่ด่านหน้า “กิฟฟารีน” ก็ต้องปรับเกมหันมาเหลียวหลัง เพื่อต้อนขุนพล 6.2 ล้านคนที่ตามมาให้ก้าวเดินไปถึงฝั่งพร้อมกันให้ได้...ฉะนั้น ในช่วงระหว่างทางเดิน “กิฟฟารีน” ก็จำเป็นต้องอาวุธเสริม เพื่อไม่ให้ขุนพลที่อยู่แถวหลังล้มหายตายจากไปทีละคน ทีละคน 
ยุทธศาสตร์ใหม่ที่ทรงพลัง และ ทรงอานุภาพที่ดีที่สุด นั่นคือ การเปิดสู่อาณาจักร ทีวี ดาวเทียม ผนึกฟรี ทีวี ที่ “กิฟฟารีน” มีความเชี่ยวชาญและชำนาญศึก คือทางออก...
และเป็นทางที่ “กิฟฟารีน” ร่ำรวยที่สุดในอนาคตกาล 
เพราะ “ฟรีทีวี” ในรูปแบบ “สปอนเซอร์ - สปอตโฆษณา” ทำได้แค่การโฆษณา สร้างภาพ สร้างแบรนด์ และขายสินค้า เพื่อรวบตลาดแมสให้เข้ามาเป็นฐานผู้บริโภค 
ก่อนจะขยับสู่ฐานสมาชิก แต่ยุทธศาสตร์นี้ยังมีจุดบอดตรงที่ ใช้งบ “เปลือง” เป็นที่สุด...
นี่คือวิธีที่ “กิฟฟารีน” จะรักษา “ขุนพล” ที่เป็น “คลื่นมหาชน” กองทัพใหญ่ ที่หล่อเลี้ยงไว้เป็นเสบียงและเติมยอดให้บริษัท...ไม่ให้ถูก “ตัดแข้งตัดขา” และถูกคู่แข่งคอย “ตีกินและจิกตอด” ได้อีกต่อไป แถมยังยิงสัญญาณไกลครอบอาเซียน น่านน้ำที่เริ่มสร้างยอดให้กับ “กิฟฟารีน” ได้อีกต่างหาก 
เมื่อ “กิฟฟารีน” เริ่มเปิดสู่โลกกว้าง ก้าวสู่เวทีมหาชนเต็มรูปแบบ “คลื่น” ที่คอยรบกวนสัญญาณการเติบโตอยู่ตลอดเวลา ก็จะหดหายตามไปด้วย...และก็จะมี “ความยิ่งใหญ่” เข้ามาแทนที่ 
เกมนี้ “กิฟฟารีน” จึงพลิกแต้มกลายเป็น “ผู้ตามยุทธศาสตร์” หลังจากที่ใช้แต้ม “เดินนำยุทธศาสตร์” มานาน...ถึงแม้จะช้าไปหลายก้าว แต่ก็ยังดีกว่า “ไม่รู้จักปรับตัว” ยอม “เสียหน้าเสียราคา” แต่ “ตีกิน” กำไรเพิ่มกลับมาได้ ก็ถือว่า คุ้มสุดคุ้ม..!!
ถามว่า เหตุผลสำคัญที่ “กิฟฟารีน” ขยับ นอกเหนือจากการรักษาฐานสมาชิกแล้ว สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง...ต้องยอมรับว่า ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมานี้ “ทีวี ดาวเทียม” เริ่มกลายเป็นตัวแทน กลายเป็นสื่อช่องทางใหม่ที่ทรงอิทธิพลในตลาดแมส เพราะมีคำพูดติดปากในตลาดแมส ว่า ถ้าหน้าตาช่องแบบนี้ ต้องเป็นช่องธุรกิจขายตรงชัวร์...ซึ่งถ้าชอบ ก็เลือกดู เลือกเฟ้นหาค่ายที่ชอบผ่านหน้าจอ โดยไม่ต้องไปฟังเสียง “จ้อ” จากแม่ทีมให้เสียเวลา 
เรียกว่า ชอบก็โทร. ไม่ชอบก็ไม่โทร.จิกๆๆ ให้เสียเวลา 
และที่สำคัญเจ้าของธุรกิจขายตรง กลายเป็นเจ้าของทีวี ดาวเทียม...เปิดกันเดือนเว้นเดือน เป็นว่าเล่น...ยิ่งถ้าหากค่ายใดเพิกเฉย และยังเชื่อในระบบเก่าๆ สุดท้ายวิธีการแบบเก่า ก็จะถูก “สื่อทีวี ดาวเทียม” เป็นผู้กำหนดชะตากรรมวงการขายตรงในที่สุด...!!
เมื่อยักษ์เริ่มลงสังเวียน ก็ต้องกล้าฟันธงกันแบบหมดหน้าตัก...เพราะถ้าจะลองเหลียวค่ายไหนที่ใช้สื่อทีวีดาวเทียมเป็นหัวหอกในยุคนี้ จากบริษัทขายตรงค่ายเล็ก เผลอแป๊บเดียว ยอดไต่สู่องค์กรระดับกลางทันที ส่วนบริษัทขนาดกลาง ยอดขายก็วิ่งไปชนยักษ์ใหญ่ เพราะวิธีการใช้หนังสือพิมพ์ประทับตรา ตามด้วยสื่อทีวีผ่านจอภาพ แค่นี้ก็จบเกมตีกินยอด 
ฉะนั้น ช่วงที่เว้นวรรค 2 - 3 ปีมานี้ ขายตรงที่โตไม่เงียบจากสื่อ “ทีวี ดาวเทียม” คือขุมพลังสำคัญที่ดันยอดขายรวมของธุรกิจขายตรงตัวเลขวิ่งเฉียดแสนล้าน.ทันที...ถ้าไม่เชื่อต้องติดตามช็อต “กิฟฟารีน” หลังติดปีก “ทีวี ดาวเทียม” ครอบอาเซียน “กิฟฟารีน” จะตีปีกบินเร็วขนาดไหน..? ยอดในไทยจะขยับเพียงใด อาเซียนขยับปีกบินตามหรือไม่ คงต้องติดตามช็อตต่อไป


ย้อนรอย 16 ปี “กิฟฟารีน
ก่อนไต่สู่ทีวีดาวเทียม 
ตลอดระยะเวลา 16 ปี “กิฟฟารีน” มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีที่ผ่านมาปิดตัวเลขที่ 5,488 ล้านบาท ต้องยอมรับ “กิฟฟารีน” มีจุดแข็งอยู่ที่การใช้ช่องทางสื่อสารต่าง ๆ ให้คนทั่วไปรู้จักกับสินค้าคุณภาพของไทย มากกว่าการเป็นธุรกิจขายตรง “กิฟฟารีน” จึงเป็นธุรกิจขายตรงที่มีความใกล้เคียงกับค้าปลีกมากที่สุด เพราะเน้นการสร้างแบรนด์ และการซื้อสินค้าใช้ ไม่ได้เรียกว่า สร้างภาพ หรือหมกเม็ดธุรกิจ แต่วาง “กลยุทธ์ถูกจริต” คนไทยมากกว่า 
การคาบเกี่ยวระหว่าง “ขายตรง” กับ “ค้าปลีก” ของ “กิฟฟารีน” จากตัวเลขสมาชิกที่มีกว่า 6.2 แสนคน นับเฉพาะหัวที่เป็นนักธุรกิจมี 5 แสนราย หาก “กิฟฟารีน” จะเน้นสร้างการรับรู้สินค้า โดยหวังเพียง “ศักยภาพของปากคน” คงต้องฝันค้างกับยอดขาย 6 พันล้าน. เพราะทุกวันนี้บริษัทค้าปลีกต่าง ๆ มีความเชี่ยวชาญในสื่อการโฆษณาสูง จึงอาจเป็นโอกาสในการช่วงชิงลูกค้าได้มากกว่า 
การเกิดช่องทีวีดาวเทียม “กิฟฟารีน ชาแนล” จึงไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์วงการ หนำซ้ำยังออกตัวช้ากว่า “ขายตรง” ย่านความถี่เดียวกัน “กิฟฟารีน ชาแนล” จะเป็นปืนใหญ่ที่ “กิฟฟารีน” ใช้ยิงสัญญาณรบราคร่ายอดขาย ตีกันสมาชิก แย่งพื้นที่หน้าจอยุคดิจิตอล ทั้งขายตรงและค้าปลีก ได้จะทรงอานุภาพแค่ไหน ต้องไปถอดรหัสผังรายการและการวางแผนงานตลาดของช่องนี้กันต่อ


ทุ่มงบ 50 ล้านต่อปี
ดันแบรนด์ใกล้ชิด10.ครัวเรือน 
พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า กิฟฟารีนเตรียมส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดสากล และผู้ชมทั่วประเทศกว่า 10 ล้านครัวเรือน กิฟฟารีน ชาแนล ใช้เงินลงทุนสร้าง 50 ล้านบาท ยิงสัญญาณผ่านดาวเทียม 2 ดวงคือ ไทยคม 5 ที่ย่านความถี่ C-Band ส่งสัญญาณครอบคลุมใน 4 ทวีป ได้แก่ เอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกา และดาวเทียม NSS-6 ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ย่านความถี่ Ku-Band ส่งสัญญาณครอบคลุมพม่า ไทย กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ บางส่วนของจีนตอนใต้ อินโดนีเซีย และบรูไน 
พญ.นลินี ระบุว่า ที่ผ่านมาทำการสื่อสารกับสมาชิกมาหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการอบรม เว็บไซต์ แต่ข้อมูล
ที่ใหม่ ๆ มีมากขึ้นทุกวัน ทีวีดาวเทียมจะเป็นอีกช่องทางสื่อสารที่ไปได้กว้างไกลมากขึ้น โดยจะอัดฉีดงบพัฒนาช่อง 50 ล้านบาทต่อปี นอกจากสื่อเคเบิ้ลแล้ว ยังมีทีวีออนไลน์แบบเรียลไทม์ และช่องทางของโซเชี่ยล เน็ทเวิร์ค ซึ่งกำลังขายตามมา 
“กิฟฟารีนเติบโต 10% ทุกปี ปกติเราจะวางงบสื่อสารการตลาดไว้ที่ 200 ล้านบาท แบ่งเป็น การเทรนนิ่ง โฆษณา แมกกาซีน โฆษณาทีวี เรานำกำไรบางส่วนมาลงเป็นเคเบิ้ลทีวี คอนโทรลให้ไม่เกิน 5% ของกำไร ส่วนเรื่องของการเทรนนิ่งก็คงยังทำอยู่ ไม่ลดลงอย่างแน่นอน เพราะพลังทีมยังคงต้องมีอยู่ คิดว่าในเฟสแรกทีวีจะทำให้สมาชิกคึกคักขึ้น อาจจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นมา 10-20%”
ทั้งนี้ พญ.นลินี ย้ำชัดว่า กิฟฟารีน ชาแนล จะไม่พัฒนาทีวีไปในทิศทางของการขายปลีกผ่านทีวี เหมือนกับทีวี
ไดเร็กท์ ด้วยความเป็นองค์กรธุรกิจเครือข่าย ช่องทีวีมีไว้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนักธุรกิจ ถ้าผู้ชมสนใจอยากซื้อสินค้า ก็ต้องซื้อสินค้าผ่านนักธุรกิจ หรือศูนย์จำหน่ายที่ใกล้บ้านเท่านั้น ดังนั้น การพัฒนาอาจจะเป็นในรูปแบบของการโทรศัพท์เข้ามาคุยสด ๆ ในรายการ โทรเข้ามาร่วมเล่นกิจกรรม แต่จะไม่สามารถซื้อขายผ่านทีวีได้ 
ด้านการเปิดตลาด AEC หรือ อาเซียน พญ.นลินี เปิดเผยว่า “ขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการเปิดตลาดในประเทศพม่า กัมพูชา และ มาเลเซีย แผนต่อไป คือการเปิดตลาดในประเทศลาว และอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้การเตรียมความพร้อมสำหรับตลาดประเทศลาวอยู่ในขั้นตอนที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วนอินโดนีเซียเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างการวางแผน โดยรูปแบบการเปิดตลาดในมาเลเซีย พม่า กัมพูชา จะเปิดออกมาในรูปแบบสาขา โดยมีผู้ร่วมลงทุน แต่ประเทศลาวบริษัทได้เข้าไปลงทุนเองทั้งหมด”


แผนปรับผัง 3 เฟส
หวังยึดหน้าจอคนดู 
กิฟฟารีน ชาแนล วางผังไว้ 9 รายการ ประกอบด้วย 
1. CEO Talk คุยกับ CEO (ทุกเรื่องตั้งแต่ธุรกิจจนตีสนิทกันไปถึงก้นครัว) 
2. GIFT INSPIRE ทอล์คโชว์ แนวคิดสร้างธุรกิจและแรงบันดาลใจ 
3. GIFT WINNER รายการกระตุ้นยอดสินค้า Straight Talk Program 
4. GIFT ME FIVE รายการให้ความรู้ด้านสุขภาพและความงาม สู่การสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 
5. GIFT ON TOUR สารคดีท่องเที่ยว ตามรอยนักธุรกิจกิฟฟารีน 
6. Key to Success ให้ความรู้ และกระตุ้นยอดสินค้า 
7. GIFT Story แนวคิดและความสำเร็จกับนักขายกิฟฟารีน 
8. GIFT News ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมความเคลื่อนไหวของบริษัท และคนในเครือข่าย 
9. GIFT SHOW นำเสนออีเว้นท์โชว์ของบริษัทที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุน ยอดขาย 
นายพงษ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสายการตลาด กิฟฟารีน กล่าวถึงการวางผังสถานี ว่า เราจะวางแผนการปรับผังไว้ 3 ช่วง คือ ช่วงแรก เป็นการสร้างแฟนคลับ ซึ่งแฟนคลับของเราก็เกิดจากนักธุรกิจที่ชื่นชอบในตัวสินค้า ผู้บริโภคที่สนใจสินค้าแต่ยังไม่ต้องการที่จะทำธุรกิจ วิธีการการสร้างแฟนคลับก็คือ การสร้างเรื่องใกล้ ๆ ตัวให้เข้าใจง่าย พูดง่าย ๆ ก็คือ ดูแล้วอิ่มในสิ่งที่เราทำ
และช่วงที่สอง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ การให้ผู้บริโภคได้ดู content ที่ สนุกสนานเกี่ยวกับความบันเทิง คือพูดง่าย ๆ ดูช่องของเราแล้วมีความสุข ครบทุกรสชาติ ช่วงที่สาม คือเรามองว่า เราทำด้วยใจ ไม่ได้ต้องการที่จะเอากำไร เพราะสิ่งสำคัญคือ เราต้องการสร้างแบรนด์ให้แข็งแรง ให้ผู้ชมได้จดจำในแบรนด์ กิฟฟารีน ได้เป็นอย่างดี 
พญ.นลินี กล่าวเสริมว่า “บางทีอาจจะคิดว่าการที่มีช่องทีวี ต้องการขายสินค้าอย่างเดียวรึเปล่า ซึ่งจริง ๆ ความในใจที่อยากจะบอก ก็คือ อาจเป็นเพราะเราเป็นหมอด้วย เป็นนักธุรกิจด้วย เราอยากให้คนดูมีความรอบรู้ในส่วนสินค้าของ กิฟฟารีน ส่วนหนึ่ง รวมถึงข้อมูลในแง่ของสุขภาพและความงาม ข้อเท็จในด้านวิชาการ ซึ่งตอนนี้เราก็ได้ทาบทามแพทย์ หรือคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ อาทิ การเลี้ยงดูลูก ผู้หญิงวัยทองเป็นอย่างไร ฯลฯ เราก็ไปชวนหมอที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านสูตินารีแพทย์มา เป็นต้น ซึ่งเราไม่ได้ชวนมาขายของ แต่ชวนมาให้ความรู้ในสิ่งที่ถูกต้องกับผู้ชม สิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่ กิฟฟารีน ทำมาจากใจ ต้องไม่เป็นสิ่งที่น่าเบื่อและสนุกสนานด้วย”
นายพงษ์พสุ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมคิดว่า ทั้ง 9 รายการเด่น ๆ ในเบื้องต้น ก็จะเด่นไปด้านวิชาการ น่าจะประมาณ 30-40% ที่เหลือก็จะเป็น ความเคลื่อนไหวการสื่อสารของคนที่เข้ามาทำธุรกิจ และนอกจากนั้นจะเป็นสาระ บันเทิง เรามองว่าต้องมีสิ่งหลาย ๆ อย่างที่ผู้ชมต้องการจะรู้ ซึ่งทางสถานีก็มีเวลาเยอะที่จะต้องพัฒนากันต่อไป” 
นายการุณณ์ ชางประยูร ผู้อำนวยการสถานีกิฟฟารีนชาแนล พูดถึงการวางเนื้อหาและการลงทุนว่า  “เนื้อหารายการ 70% คือกลุ่มสมาชิกกิฟฟารีนซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก อีก 30% สำหรับประชาชนทั่วไปที่เปิดมาดูเรา ทั้งหมด 9 รายการ ไม่ได้นำเสนอสินค้าแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะเน้นไปที่การสร้างแรงบันดาลใจ จุดประกายความคิดให้ผู้ชม ในรูปแบบของทอล์คโชว์คุณภาพ” 
การวางแผนการตลาดช่อง กิฟฟารีน ชาแนล จะแบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรกซึ่งเปิดตัวออกมาแล้วกับ 9 รายการ จะอาศัยฐานสมาชิกเป็นแรงหนุนกระชากเรตติ้งให้กับช่องก่อน ฉะนั้นคอนเทนท์ในช่วงแรกนี้ จะการทำเรื่องใกล้ตัว เข้าใจง่าย และเป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตประจำวันของสมาชิก ส่วนเฟส 2 ซึ่งเป็นช่วงต่อจากนี้ไป วางแผนที่จะเปลี่ยนผู้รับชมทีวีผ่านทางช่องต่าง ๆ ที่ไม่ได้มีความภักดีต่อช่องใดเป็นพิเศษ ให้หันมาดูช่อง กิฟฟารีน ชาแนล 
พัฒนาการในเฟส 2 จะมีคอนเทนท์ที่สนุกสนาน เพื่อให้ผู้ชมที่แม้ไม่ได้เป็นนักธุรกิจ ดูรายการจากช่องแล้วมีความสนุกสนาน ครบทุกรสชาติ คงต้องจับตาให้ดีเฟสนี้อาจจะเห็นรายการเกมโชว์ ชิงโชคลุ้นทัวร์ ประกวดลูกทุ่งคอนเทสต์ ก็เป็นได้ ส่วนเฟส 3 ต้องการให้สถานี “สร้างแบรนด์” อยากให้คนทั้งประเทศพูดถึงช่อง กิฟฟารีน ชาแนล ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จของช่อง 
ผอ.สถานี กล่าวต่อว่า “เราเพิ่งสตาร์ทอย่างเป็นทางการและเพิ่งทดลองออกอากาศ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.55 ที่ผ่านมา สมาชิกให้การตอบรับดีมาก คิดว่าภายในสิ้นปีนี้หวังจะให้ช่องของเราถูกพูดถึงมากขึ้น จากวิธีการทำงานที่เข้มข้น สาระรายการที่น่าสนใจ ทุกเรื่องราวที่นำมาออกอากาศ จะต้องเป็นประโยชน์กับผู้ชมและประเทศชาติ ไม่สร้างความแตกแยกในสังคม สิ่งที่น่าสนใจคือ นักธุรกิจที่อยู่ต่างจังหวัดมีจานดาวเทียมและสามารถรับชมได้ก่อน นักธุรกิจในเขตกรุงเทพฯ อีก” 
พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับสมาชิกที่ยังไม่มีจานดาวเทียม บริษัทฯ ไม่ได้เปิดตัวเองเป็นดีลเลอร์ แต่จะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิก ซึ่งตัดยอดมาจำนวนหนึ่งเพื่อมาทำโปรโมชั่นให้นักธุรกิจได้เข้าถึงในราคาพิเศษ ถ้าเข้ามาร่วมกิจกรรมอบรมกับ กิฟฟารีน แต่ถ้าสมาชิกอยู่รอบนอกส่วนใหญ่จะเลือกทีมติดตั้งที่ใกล้บ้าน ด้วยเรื่องของบริการหลังการขายที่สะดวกกว่ามาซื้อกับบริษัท


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 323 ประจำวันที่ 1 - 15 กรกฏาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น