ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

‘ดี ไลฟ์ - Deelife’ จับสินค้าเก่ามาปรุงใหม่ขึ้นราคาตั้งเป็นเรือธงแชร์ยอดขายบริษัท 35%


“ดี ไลฟ์ - Deelife” จัดการปรุงสินค้า เดิม ตกแต่งเพิ่มราคาทำเป็น ของใหม่ ใช้ชื่อ “เลอ ลูคอง เพิร์ล ซีเคร็ต” วางตลาดแชร์ส่วนแบ่งยอดขาย 35% ปั้นเป็นเรือธงกลุ่มความงาม พร้อมผุดเว็บไซต์ รีครูตคนติดอาวุธนักขายเพิ่ม ส่วนยอดขายกว่า 5 เดือนผ่านยังปิดปาก บอกแค่สิ้นปีหวังโต 100% เป้า 300 ล้านบาท หวังปี 55 เป็นช่วงเตรียมความพร้อม ปี 56 เอาจริงรับมือการค้าเสรีอาเซียน

นายเทวัญ ดีใจงาม ประธานกรรมการ บริษัท ดี ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า การจัดงาน Deelife The Road to Success ครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมหลักที่บริษัทจัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งกิจกรรมที่บริษัทได้จัดขึ้นนี้ เป็นการจัด เพื่อพัฒนาบุคลากร แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมเชิญวิทยากรภายนอกเข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ และครั้งนี้ก็ได้มีการเชิญ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดประสบการณ์สู่ความสำเร็จท่ามกลางสมาชิกดี ไลฟ์ที่เดินทางมาร่วมงานหลายร้อยคน

อย่างไรก็ดี ภายในงานบริษัทยังได้มีไฮไลต์สำคัญคือ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทขึ้น ภายใต้ชื่อ “เดอ ลูคอง เพิร์ล ซีเคร็ต” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มความงามของบริษัท ซึ่งเป็นสินค้าบำรุงผิวหน้า เพื่อความกระจ่างใสของผิวหน้า ลดความหมองคล้ำ และสร้างความชุ่มชื่น

“เลอ ลูคอง เพิร์ล ซีเคร็ต” ที่เปิดตัวขึ้นมาใหม่มานี้ ความจริงแล้วเป็นครีมไข่มุกเดิม ซึ่งเป็นสินค้าขายดีของบริษัท แต่ดี ไลฟ์ได้นำมาพัฒนาปรับสูตรใหม่ เพื่อ เป็นการอัพเกรดสินค้าให้ขึ้นสู่ระดับพรีเมี่ยม แบรนด์ ซึ่งเดิมผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนี้ ก่อนที่ยังไม่มีการปรับสูตร ก็สามารถทำยอดขายให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี โดยสามารถแชร์ยอดขายรวมของบริษัทไดถึง 25% โดยหลังจากที่มีการปรับสูตรในครั้งนี้ บริษัทเชื่อว่า สินค้ารายการนี้ จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 35% ของยอดขายรวมของบริษัท

สำหรับปริมาณของผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ บริษัทยังได้มีการเพิ่มในส่วนของปริมาณที่บรรจุในกระปุกของสินค้าจาก 5 กรัม เป็น 8 กรัม และยังได้เพิ่มสารสกัดต่างๆ ลงไป เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพที่ดีขึ้น และอัพเกรดในส่วนของสินค้าให้อยู่ในระดับสูง แต่ราคาบริษัทก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก โดยจากเดิมที่ 320 บาท เป็น 490 บาท

“การพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ บริษัทได้โรงงานผลิตที่ดีที่มีชื่อเสียง ซึ่งน่าเชื่อถือได้ด้วยรางวัล และมาตรฐานใบรับรองต่างๆ ที่โรงงานได้รับ ซึ่ง ถือว่าโรงงานนี้มีมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งดี ไลฟ์เล็งเห็นว่า เป็นเรื่องดีเพราะบริษัท ก็จะมีผลิตภัณฑ์อีกหลายรายการของบริษัท ที่ต้องการปรับสูตรใหม่ เพื่อเป็นการยกระดับ สินค้าของบริษัทขึ้นมาอีก เพื่อเป็นการรองรับ การแข่งขันในระดับอาเซียนที่ใกล้จะมีขึ้น” เทวัญ เผย

จากที่กล่าวมาในส่วนของสินค้ารายการใหม่นี้ ที่บริษัทได้นำออกมาวางตลาด บริษัทต้องการที่จะยกให้เป็นสินค้าเรือธงของบริษัท ซึ่งในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า บริษัทก็ยังจะออกสินค้าใหม่ในกลุ่ม เสริมอาหารขึ้นมาอีก โดยปัจจุบัน ดี ไลฟ์ มีสินค้าอยู่ในระบบ แล้วประมาณ 3 กลุ่มหลัก แบ่งเป็นสินค้ากลุ่มสุขภาพ, ความงาม และสินค้าอุปโภคใน ครัวเรือน โดยใน 2 กลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มสินค้าหลักที่ครองส่วนแบ่งยอดขายของบริษัทไว้ที่ประมาณ 70% ส่วนอีก 30% เป็น กลุ่มสินค้าในครัวเรือน ที่บริษัทใช้เป็นสินค้า กลุ่มรักษายอดของสมาชิก และเพื่อไม่ให้สมาชิกไปซื้อของแบรนด์อื่นๆ อีกทั้งหากนับรวม 3 กลุ่ม บริษัทจะมีสินค้าทั้งหมดประมาณ 60 กว่ารายการ ซึ่งต่อไป ดี ไลฟ์ ยังได้มองในเรื่องของสินค้าการเกษตรไว้อีกด้วย เพื่อเป็นการรองรับกลุ่มลูกค้าเกษตรกร ซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศ

นอกจากในเรื่องของสินค้าที่บริษัทได้กล่าวมานี้ ในเรื่องของแผนการตลาดในส่วน อื่น บริษัทยังได้มีการเปิดคอร์สฝึกอบรมให้กับนักขายอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้มีการเปิดเว็บไซต์ใหม่ขึ้น โดยเนื้อหาในเว็บไซต์ จะ เป็นในเรื่องของการรีครูตคนเข้ามาเป็นสมาชิก โดยจะให้สมาชิกได้เข้ามาใช้เว็บไซต์นี้ เพื่อเป็นอาวุธในการทำงาน โดยใช้ชื่อ เว็บ www.dsystem755.com 

“การเปิดเว็บไซต์ดังกล่าว บริษัทต้องการใช้เป็นอาวุธสำหรับนักขาย โดยหลักในเว็บไซต์จะเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของการชักชวนคนเข้ามา ซึ่งในอนาคตบริษัทยังต้องการเพิ่มในเรื่องของภาษาให้เกิดความครอบคลุม เพื่อรองรับการเปิดประตูอาเซียน ซึ่งปัจจุบันยังมีเพียงภาษาไทยซึ่งถือเป็นการเริ่มต้น” นายใหญ่ ดี ไลฟ์ กล่าว

สำหรับสาขาใหม่ของบริษัทที่เปิดไปเมื่อประมาณเดือนเศษใน จ.ขอนแก่น ถือว่า ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เพราะจากระยะ เวลาที่เปิดถึงปัจจุบัน บริษัทสามารถทำยอด ขายได้แล้วเกือบ 1 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องยอมรับว่าการแข่งขันของธุรกิจขายตรงในขอนแก่น ค่อนข้างมีความรุนแรง เนื่องจากเป็นจังหวัดใหญ่ บริษัทขายตรงเข้าไปเปิดมีมาก ทำให้การแข่งขันเป็นไปด้วยความยากลำบาก

อย่างไรก็ดี ในส่วนของภาพรวมของธุรกิจในช่วงเกือบครึ่งปีที่ผ่านมา บริษัทยังถือว่าเป็นช่วงเตรียมตัวของบริษัท ถึงแม้บริษัทจะเปิดมาแล้วประมาณ 7 ปี ก็ตาม ซึ่งบริษัทต้องการที่จะใช้ช่วงเวลาในปีนี้ เตรียมตัวเรื่องของการลุยตลาดในปีหน้าเป็นสำคัญ เพราะในปี 55 นี้ บริษัทเพิ่งได้เริ่มลุยตลาดอย่างเต็มรูปแบบหลังทุ่มทุนลงสื่อเพิ่มมากขึ้น

“โดยในส่วนของ 6 เดือนหลัง บริษัท ต้องการที่จะทำให้บริษัทมียอดขายขยายตัวเพิ่มอีก 100% คิดเป็นยอดขายสิ้นปี 300 ล้านบาท แต่กระนั้น บริษัทก็ยังต้องการมอง ปี 55 เป็นปีแห่งการเตรียมความพร้อมมาก กว่าเป็นปีแห่งการคาดหวัง เพราะบริษัทมีความมั่นใจเสียเหลือเกินว่า หากทุกอย่างเป็น ไปตามแผนที่บริษัทได้วางไว้ในปีนี้ ในปีหน้า ดี ไลฟ์ จะทำยอดขายและบริษัทให้เกิดการ เติบโตอย่างพุ่งทะยานเลยทีเดียว” หัวเรือบริษัท กล่าวด้วยความมั่นใจ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นปีที่ 7 ที่บริษัทได้เริ่มทำธุรกิจขายตรง แต่ในปีนี้ บริษัทก็ยังต้องการที่จะเข้มในเรื่องของกลยุทธ์การสร้างคน สร้างทีมงานความสำเร็จเพื่อเป็นการวางรากฐานเพื่อการเจริญ เติบโตในระยะยาว โดยบริษัทไม่ต้องการที่ จะให้เกิดการซื้อตัวของนักขาย ซึ่งสิ่งนั้นจะตามมาด้วยข้อแลกเปลี่ยน ซึ่งอยากจะเห็นการเติบโต แต่ก็ไม่ใช่ระยะยาว

ปัจจุบัน ดี ไลฟ์ มีสมาชิกอยู่ที่ประมาณ 2.5 แสนรหัส เป็นสมาชิกที่แอ็กทีฟอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นคน โดยมีสมาชิกเข้าใหม่ในแต่ละเดือนอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 คน ซึ่งบริษัทภูมิใจที่ว่า สมาชิกที่เดินเข้ามา ไม่ต้องการย้ายค่ายหรือออกไปทำที่อื่น ซึ่งสิ่งนี้เป็นผลดีกับบริษัทขายตรง

ทั้งนี้ “เทวัญ” ยังกล่าวในตอนท้ายว่า “บริษัทมองไปที่อนาคต ต้องการมีการเติบโตในระยะยาว ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมองไปที่เรื่องของการเปิดประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนเป็นสำคัญ ซึ่งแผนงานของ บริษัทก็เพื่อการทำตลาดในอนาคต”

  ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1308 ประจำวันที่ 13-6-2012  ถึง 15-6-2012    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น