
“แซนสยาม” ทุ่มงบ 10 ล้านบาท ตั้งออฟฟิศหลังใหม่ตามแผนงานเจาะตลาดคนกรุงเทพฯ พร้อมส่งสินค้าใหม่ตัวที่ 4 ของบริษัท “เพาเวอร์-แซน” หมายมั่นทำเงินกับคนหนุ่มสาว เรียกเรตติ้งหวังสมาชิกใหม่ตบเท้าร่วมงาน ชี้ไม่เพียงแต่กทม.เท่านั้น แต่ยังเล็งเปิดสาขาภาคใต้รับกระแส ยุคทองขายตรงแดนสะตอ ฝันยอดขาย 700 ล้านบาทสิ้นปี!
นายสมชาย อินทิราวรนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท แซนสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานแห่งใหม่ของบริษัทได้ตกแต่งเสร็จพร้อมให้บริการแก่สมาชิกแล้ว ซึ่งสำนักงานแห่งนี้มีห้องประชุมซึ่งสมาชิกสามารถใช้ห้องดังกล่าวในการจัดประชุมได้ ซึ่งบริษัทพร้อมที่จะสนับสนุนให้สมาชิกได้เข้ามาใช้พื้นที่ อีกทั้งสถานที่ตั้งของสำนักงานแห่งใหม่นี้ สะดวกในการเดินทางของ สมาชิก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดเดิมของออฟฟิศ เก่าของบริษัท
โดยการเปิดออฟฟิศใหม่นี้ บริษัทได้ ใช้เงินทุนไปกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นค่าตกแต่งและปรับปรุงในส่วนของออฟฟิศ ด้านพื้นที่ตั้งของออฟฟิศใหม่นี้จะอยู่ไม่ไกล จากออฟฟิศเดิมของบริษัท ซึ่งบริษัทต้องการที่จะทำให้สาขาของออฟฟิศใหญ่ในกรุงเทพฯ มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อ เป็นการสอดรับกับเรื่องของแผนงาน ซึ่งบริษัทต้องการที่จะรุกเข้าสู่ตัวเมืองกรุงเทพฯ มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการเปิดตัวออฟฟิศใหม่ในครั้งนี้ ยังเป็นเพียงการเปิดตัวเพื่อให้สื่อมวลชนได้มีโอกาสเข้ามา เห็นรูปลักษณ์ของสำนักงานใหญ่ใหม่ก่อน ส่วนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้น บริษัทได้ตั้งไว้ว่าวันที่ 22 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ เป็น ฤกษ์ดี ในการเปิดตัวต่อสมาชิกของบริษัท ต่อไป
“การเปิดสำนักงานแห่งใหม่ทางบริษัท แซนสยามฯ ยังได้ถือโอกาส เปิดตัว สินค้าใหม่ของบริษัทชื่อ “เพาเวอร์แซน” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มเสริมสุขภาพคล้ายเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง มีส่วนผสมที่สำคัญคือ “อาซาอิเบอร์รี่” จากประเทศบราซิล ทั้งยังมี “ดกจิ เบอร์รี่” และ “มะขามป้อม” ซึ่งมีรสชาติดีชวนดื่ม ทำให้มีความสดชื่นมีกำลัง อีกทั้งยังมีในเรื่องของการช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้อวัยวะข้างในของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ” สมชาย กล่าวถึงสินค้าใหม่ของบริษัท
เพาเวอร์แซน ถือเป็นสินค้าสำหรับคนหนุ่มคนสาว ซึ่งบริษัทต้องการใช้สินค้า ตัวนี้ เป็นสินค้าที่เจาะตลาดกลุ่มคนหนุ่มสาว ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีส่วนผสมของ สมุนไพรกว่า 20 ชนิด ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของบริษัท โดยขนาดบรรจุจะอยู่ที่ 100 มล.ต่อขวด ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1 กล่องมี 16 ขวด ราคาสมาชิกอยู่ที่ 990 บาท ราคา ขายปลีกอยู่ที่ 1.3 พันบาท
การเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัทในครั้งนี้ บริษัทได้มีการทดลองการทำตลาด ไปในช่วงก่อนหน้า ซึ่งผลตอบรับที่ได้ก็ดีเป็นอย่างมาก ซึ่งจากเดิม “เพาเวอร์แซน” ไม่ได้ชื่อนี้ตั้งแต่ต้น แต่บริษัทได้ใช้ชื่อ “เพาเวอร์ เอ็กซ์” ซึ่งทำให้ทางหน่วยงานรัฐอย่าง อย. ต้องการให้เปลี่ยนชื่อ เนื่อง จากความที่ชื่อที่ลงท้ายด้วยคำว่า “เอ็กซ์” ดูจะไม่เหมาะสม ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเกิด ความเข้าใจผิด ทางบริษัทจึงต้องเปลี่ยนชื่อ ทำให้สินค้าตัวนี้ล่าช้ากว่าเดิม จากที่คาดจะทำการเปิดตัวในช่วงก่อนหน้า
“เพาเวอร์แซน มีขนาดขวดที่เล็กสามารถพกพาได้สะดวก ซึ่งมีความเหมาะสม กับคนหนุ่มสาวที่ต้องการความสดชื่นหลังการดื่ม โดยในช่วงที่ทำการทดลองตลาด บริษัทได้ใช้กลยุทธ์การทำตลาดแบบ ปากต่อปาก อีกทั้งบริษัทยังได้คิดหาช่องทางทำตลาดในอีกหลายช่องทาง เพื่อ เป็นการสร้างความหลากหลายในการรับรู้ ต่อไป” สมชาย เผย
สินค้าใหม่ที่บริษัทได้ออกมาใหม่นี้ ถือเป็นสินค้าตัวที่ 4 ของแซนสยาม ซึ่ง “สมชาย” ได้กล่าวว่า “บริษัทมีความเชื่อมั่นในสินค้าของบริษัททุกตัว เพราะจาก ที่ทราบถึงแม้บริษัทจะมีสินค้าเพียง 3 รายการในช่วงก่อนหน้า จนมาถึงตัวที่ 4 นี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้บริษัทมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจรูปแบบขายตรง โดยสิ่งที่เกิด ถือเป็นการตอบข้อสงสัยในเรื่องของคุณภาพสินค้าได้เป็นอย่างดี”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการลุยตลาดต่อไปในอนาคต บริษัทต้องการที่จะเจาะกลุ่มคนกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทได้เน้นไปที่การทำตลาดใน ส่วนของต่างจังหวัดเป็นสำคัญ ใช้กลยุทธ์ ป่าล้อมเมือง ซึ่งก็ได้ผลดี ทำให้ทีมผู้บริหาร ลงความเห็นที่จะมุ่งทำการตลาดในกรุงเทพฯ ต่อไป โดยใช้การเปิดออฟฟิศใหม่ บนถนนรัชดาเป็นตัวสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้คนในกรุงเทพฯ ได้เห็นแบรนด์ในใจกลางแหล่งเศรษฐกิจ ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะได้ผล
“การเปิดออฟฟิศใหม่ ถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์ในการเจาะตลาดคนเมืองของบริษัท ที่สำคัญ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า ต่อไปจะมีผู้เดิน เข้ามาร่วมธุรกิจกับบริษัทเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันยอดสมาชิกของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นรหัสทั่วประเทศ โดยในจำนวนนี้เป็นกลุ่มผู้บริโภคสินค้ามากกว่า กลุ่มที่ทำธุรกิจ” ผู้บริหารแซนสยาม กล่าว
โดยนอกจากในเรื่องของการเปิดออฟฟิศใหม่นี้ บริษัทยังได้กล่าวถึงเรื่องโมบายสาขาของบริษัท ซึ่งปัจจุบันมีอยู่แล้ว ประมาณ 200 โมบายทั่วประเทศ ซึ่งบริษัท ยังต้องการขยายเพิ่มต่อไป ซึ่งบริษัทได้วางพื้นที่ในภาคใต้ในการเปิดสาขาเพิ่มของ บริษัท ตามความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจของภาค ซึ่งขายตรงนับเป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมในภูมิภาคนี้เป็นอย่างดี
นอกจากการตลาดในประเทศแล้ว บริษัทยังมีในเรื่องของการขยายสู่ต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งมีประเทศลาวที่บริษัทได้ขยายออกไปในช่วงก่อนหน้า ซึ่งปัจจุบัน มีศูนย์โมบายสาขาในลาวแล้วถึง 50 จุด ซึ่งถือเป็นยอดขายที่ดีในการเสริมเข้ามาในประเทศในส่วนของยอดขาย บริษัทได้ตั้งเป้า ที่จะทำยอดขายในปีนี้ให้ถึง 700 ล้านบาท จากเดิมปี 54 บริษัทปิดยอดขายไว้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งจากกลยุทธ์การรุกเข้าสู่เมืองบริษัทมีความมั่นใจในเป้า ของตัวเลขที่กล่าวมาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ แซนสยาม เปิดดำเนินธุรกิจ มาแล้วร่วม 7 ปี ในการอยู่ในวงการธุรกิจขายตรง ซึ่งจากเดิมใช้ชื่อ บริษัท โอท็อป เน็ทเวิร์คฯ ในช่วง 2 ปีแรก ก่อน ที่จะเปลี่ยนมาเป็น แซนสยาม ตามชื่อสินค้าตัวเอกของบริษัท โดยมีผู้บริหารหลัก 4 คน ได้แก่ มร.แฟรงค์ กัวรา และมร.แอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ ซึ่งเป็น 2 ผู้บริหารชาวต่างชาติ อีกทั้งมีผู้บริหาร ของไทยอีก 2 อย่าง สมชาย อินทิราวรนนท์ และปธิกร โยทองยศ
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1309 ประจำวันที่ 16-6-2012 ถึง 19-6-2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น