ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จบไม่ลง!แนวคิด4สมาคมขายตรง จิรชัยขอเป็นกาวใจเชื่อมต่อสายสัมพันธ์







943251_556722501045849_2088255802_n (Mobile)

 


เปิดศึกทางความคิด 4 สมาคมขายตรงไทย...ล่าสุด สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย หรือ (TDNA) เดินหน้าเข้าพบ เลขาธิการฯ สคบ. จิรชัย มูลทองโร่ย ปรึกษาหารือเรื่องการจัดเตรียมร่างกฎหมายขายตรง...พร้อมสวนกลับ สมาคมการขายตรงไทย ทันควัน การก่อตั้ง สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน ไม่ใช่สมาคมเดียวที่ทำได้ ขอให้เข้าใจใหม่...ส่วน ดร.สมชาย นายกสมาคมพัฒนาการขายตรงไทย ย้ำจุดยืนขอส่งเสริมธุรกิจของคนไทย...ด้าน จิรชัย ระบุพร้อมเชื่อมสัมพันธ์ 4 สมาคมให้รวมเป็นหนึ่ง แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้ระยะเวลา


...เปิดศึกเกมทางความคิดกันแบบจ้าละหวั่น สำหรับ 4 สมาคมขายตรงที่ประกอบด้วย 1. สมาคมการขายตรงไทย (TDSA) 2. สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) 3. สมาคมพัฒนาการขายตรงไทย (TSDA) และ 4. สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย (TDNA) ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานั้น ต้องยอมรับว่า การเกิดขึ้นของสมาคมขายตรงทั้ง 4 สมาคมนั้น เมื่อมองดูแล้ว คงต้องบอกว่าเป็นการตกผลึกโครงสร้างทางความคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้


นโยบายของทั้ง 4 สมาคมจะมีนโยบายที่คล้ายกันก็คือ การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขายตรงไทยให้เติบโตสู่


สากลนั่นเอง!!


ประเด็นสมาพันธ์ขายตรงอาเซียน


บ่มจุดแตกหักรอยร้าวที่ควรแก้ไข


...หากใครที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ 4 สมาคมขายตรงแบบชนิดติดขอบสนามแล้วล่ะก็ จะพบว่า ในช่วงที่ผ่านมา การปล่อย ขีปนาวุธทางความคิด ของแต่ละสมาคมนั้น ในเชิงของการโชว์ศักยภาพความพร้อมในหลาย ๆ เรื่องถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้แต่ละสมาคมต่างเกิดความไม่พออกพอใจกันเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้จาก การเริ่มปะทุแนวทางความคิดในเรื่องของการก่อตั้ง สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน นั้น ที่ทาง สมาคมการขายตรงไทย ได้ออกมาประกาศโชว์ออฟขอเป็นแนวหน้าในการก่อตั้ง สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน พร้อมกับระบุว่า สมาคมการขายตรงไทย หรือ (TDSA) นั้น คือ สมาคมเดียวที่มีศักยภาพมากพอในการก่อตั้งสมาพันธ์ดังกล่าวได้


และด้วยประเด็นคำว่า สมาคมการขายตรงไทย นั้น ถือเป็นสมาคมเดียวของไทยที่มีศักยภาพมากพอในการที่จะก่อตั้ง สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน นี่เอง ที่ทำให้เริ่มมีความเคลื่อนของเหล่าสมาคมต่าง ๆ ออกมาให้เห็นกันแบบ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน กันเลยทีเดียว


...อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ทาง สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย หรือ (TDNA) ที่มี นิโรธ เจริญประกอบ เป็นนายกสมาคมฯ ก็ได้เดินทางพร้อมสมาชิกในสมาคมเข้าพบกับ จิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ในการปรึกษาหารือในเรื่องของการจัดเตรียมร่างกฎหมายขายตรง ซึ่งถือเป็นอีกนโยบายหลักของทางสมาคมนี้นั่นเอง


โดยเนื้อหาสาระของการหารือในครั้งนั้น ทาง นิโรธ เจริญประกอบ นายกสมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย หรือ (TDNA) ก็ได้มีการชี้แจ้งให้กับทางเลขาฯ สคบ. พร้อมกับสื่อมวลชนที่ได้เข้าร่วมประชุมหารือในครั้งนี้ด้วยว่า วันนี้ทางสมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทยต้องการที่จะยกระดับธุรกิจขายตรงให้ทุกภาคส่วนมีการยอมรับในหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งการก่อตั้งสมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย ทางสมาคมฯ มีนโยบายที่จะรณรงค์ให้มีการแก้กฎหมายหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสนอให้มีการจัดตั้งสำนักงานกำกับกิจการขายตรง โดยให้แยกธุรกิจตลาดแบบตรงออกไปเป็นกฎหมายอีกฉบับ รวมถึงการแก้ไขกฎหมายขายตรงในหลาย ๆ เรื่องที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ให้เสร็จ เป็นต้น พร้อมกับ อยากเห็นธุรกิจขายตรงมีหน่วยงานที่ดูแลธุรกิจนี้โดยเฉพาะคล้าย ๆ กับธุรกิจประกันที่มี สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือคปภ. ที่ดูแลธุรกิจประกันทั้งหมด



นิโรธชี้ถอยคำแถลงTDSA


ระบุ!ไม่ใช่สมาคมเดียวที่ดีพอ


ซึ่งนอกเหนือจากในเรื่องของการปรึกษาหารือเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายขายตรงแล้วนั้น อีกหนึ่งเรื่องที่ทางด้านนายกสมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย ได้มีการยกขึ้นมาพูดในที่ประชุมครั้งนี้นั่นก็คือ การที่ทางสมาคมการขายตรงไทย หรือ (TDSA) ที่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่ว่า ขอทิ้งน้ำหนักในเรื่องของการรวบรวมสมาคมต่าง ๆ ให้เกิดเป็น สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน นั้น ถือเป็นเรื่องที่เร่งด่วนกว่า การแก้ไขกฎหมายขายตรง


เรียกว่า การที่ทาง สมาคมการขายตรงไทย ออกมาพูดเช่นนี้ ทำให้ฝั่งทาง นายกสมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย อย่าง นิโรธ เจริญประกอบ ถึงกับเลือดขึ้นหูกันเลยทีเดียว พร้อมกับออกมาโต้กลับทันควันด้วยว่า


... วันนี้ทางสมาคมการขายตรงไทยอาจจะมองว่า สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทยต้องการที่จะโชว์ออฟในเรื่องของการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งทางสมาคมฯ ขอเรียนว่าเราเองไม่เคยพูดว่าสมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย จะเป็นผู้ที่เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายขายตรง โดยลำพังแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ใช่หน้าที่ของเรา โดยสมาคมอื่น ๆ สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งหากสมาคมไหนมีความคิดที่ดี และทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน ก็จะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อ สคบ.ภายหลังต่อไป เนื่องจากมีทาง สคบ. หน่วยงานเดียวเท่านั้นที่จะมีอำนาจในการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวกับรัฐบาล และขอบอกว่า จะไม่มีสมาคมไหนที่มีอำนาจตรงนี้แต่อย่างใด...


นายกสมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทยกล่าวเสริมอีกว่า การที่สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทยได้เข้าพบกับทางเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.ในครั้งนี้ เพื่อต้องการมาชี้แจ้งทำความเข้าใจว่า ทางสมาคมฯ มีเจตนารมณ์อย่างไร ที่จะเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายขายตรง และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ซึ่งในการดำเนินเรื่องดังกล่าวนั้น ก็สุดแต่ทาง สคบ. จะดำเนินการต่อไปในภายหลังต่อไป



จิรชัยพร้อมเชื่อมสัมพันธ์ 4สมาคม


ชี้!เรื่องดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลา


...จากประเด็นในหลาย ๆ เรื่องที่ทาง สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย ได้เข้าพบกับทาง จิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ในครั้งนั้น พบว่า ทางเลขาธิการสคบ. เอง ต่างเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมกับยังได้ขอเป็นกาวใจเชื่อมสายสัมพันธ์ทั้ง 4 สมาคมให้หันหน้าร่วมพูดคุยกันอีกด้วย


สิ่งที่จะทำให้อุตสาห กรรมขายตรงไทยมีความเข้มแข็งนั่นก็คือ การร่วมมือกันในหลาย ๆ ฝ่าย ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ซึ่งวันนี้หากหลาย ๆ ฝ่ายยังมีแนวคิดที่ไม่ตรงกัน หรือหากมีสมาคมเกิดขึ้นมาใหม่อีก แล้วเราทุกคนจะตอบสังคมได้อย่างไร ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากแนวคิดของแต่ละสมาคมค่อนข้างแตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ตนเองมองว่าทุกอย่างก็ต้องใช้ระยะเวลาเช่นกัน นายจิรชัย กล่าวและว่า พร้อมกันนี้ ทางด้าน จิรชัย ยังได้เผยอีกว่า วันนี้แนวทางการทำงานของสำนัก งานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้มีการแบ่งบัญชีการทำงานไว้ 2 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่ 1 คือ บัญชีของผู้ที่ทำธุรกิจอยู่จริงในปัจจุบันที่มีอยู่ 353 บริษัท ซึ่งขณะนี้ก็เริ่มมีเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่มาก ส่วนที่ 2 คือ บัญชีผู้ที่เข้ามาจดทะเบียน แต่ยังไม่มีการรายงานว่า ทำธุรกิจอยู่


นอกจากนี้ เลขาฯ สคบ. ยังกล่าวยอมรับด้วยว่า สิ่งที่หน่วยราชการถูกจำกัดจากทางภาครัฐมีอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน คือ เรื่องแรกกำลังคนที่ถูกจำกัด เรื่องที่สองงบประมาณที่ถูกจำกัด รวมถึงการถูกจำกัดในเรื่องของการจัดตั้งกรมด้วย โดยทางด้าน สคบ. เอง ก็อยากที่จะเห็นการจัดตั้งกรมในลักษณะดังกล่าวที่คล้าย ๆ กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือคปภ. ที่ดูแลธุรกิจประกันทั้งหมดเช่นกัน


วันนี้สิ่งที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาในธุรกิจขายตรงนั่นก็คือ การโฆษณาโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผู้บริโภค ซึ่งทาง สคบ.เอง ก็อยากที่จะให้มีการจัดระเบียบในเรื่องของการโฆษณาด้วยเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ธุรกิจขายตรงค่อนข้างที่จะมีโฆษณาที่ไม่ค่อยเหมาะสม นอกจากนี้ ในส่วนของตราสัญญาลักษณ์นั้น ทางสคบ. ยังจะมีการทำต่ออย่างแน่นอน รวมถึงในเรื่องของการแก้ไขกฎหมาย และคณะกรรมการขายตรงให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย


เปิดใจนายกส.พัฒนาการขายตรงไทย


ย้ำจุดยืน!ขอส่งเสริมธุรกิจของคนไทย


...เช่นเดียวกับทางด้าน สมาคมพัฒนาการขายตรงไทย หรือ (TSDA) ที่มี ดร.สมชาย หัชลีฬหา เป็นนายกสมาคมฯ อยู่ขณะนี้นั้น ก็ได้ออกมาเผยผ่านสื่อในกรณีของการตั้ง สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน ว่า ขณะนี้ตนเองมองว่า การจับมือกับทางสมาคมในเมืองไทยที่มีอยู่เยอะแยะมากมายนั้น น่าที่จะเห็นผลมากกว่าการตั้งสมาพันธ์เสียอีก ที่สำคัญ ยังถือได้ว่าน่าที่จะมีอำนาจในการต่อรองมากขึ้นด้วย แต่ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ เอง ก็พร้อมที่จะส่งเสริมธุรกิจขายตรงให้เติบโต พร้อมกับต้องการเป็นมิตรกับทุกที่และวันนี้ทางสมาคมฯ เอง ก็ขอที่จะไม่เกี่ยวข้องกับใคร และพร้อมที่จะทำตลาดในไทยรวมถึงส่งเสริมคนไทยด้วย


ดร.สมชาย เผยต่ออีกว่า ในขณะเดียว ภารกิจหลักของ สมาคมพัฒนาการขายตรงไทย นั้น ยังต้องการที่จะพัฒนาองค์กรขายตรงไทยสู่ความเป็นเลิศ พร้อมกับการช่วยเหลือและสนับสนุนธุรกิจขายตรงไทยให้เป็นที่ยอมรับในสากลอีกด้วย รวมถึงทางสมาคมฯ เอง ยังจะมีการทำวิจัยเพื่อศึกษาการทำธุรกิจขายตรง เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคและตอบสนองความพึงพอใจของผู้ประกอบการให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับภูมิภาคด้วย และรับมือกับการแข่งขันในตลาดเออีซีที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าหลังจากที่มีการเปิดเสรีทางการค้าเกิดขึ้น เรื่องของกฎหมายก็น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของความเป็นอินเตอร์มากขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นรูปแบบการพัฒนาต้องให้ทันกับสังคมโลกด้วย


นอกจากนี้ อีกหนึ่งยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ของสมาคมฯ ก็คือ การเป็นตัวแทนรับหน้าที่ในการไกล่เกลี่ยปัญหาต่าง ๆ รวมถึงการสนับสนุนการให้ความรู้แก่สมาชิกในสมาคม เช่น การจัดสัมมนาในเรื่องของหลักสูตรมาตรฐานวิชาชีพการจัดสัมมนากับทางหน่วยงานรัฐบาล เช่น สคบ. บก.ปคบ หรือทาง อย. เป็นต้น พร้อมกับการบูรณาการธุรกิจร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการ ผู้จำหน่าย และผู้บริโภค


นับได้ว่า การเปิดเกมทางความคิดของทั้ง 4 สมาคมในธุรกิจขายตรงนั้น อาจจะเรียกได้ว่าแต่ละสมาคมต่างออกมาโชว์ออฟสร้างศักยภาพของตัวเองชนิดที่ว่า ไม่มีใคร ยอมใคร กันเลยทีเดียว...ซึ่งก็ต้องมาติดตามกันดูว่า กับทางเส้นขนานที่มองว่าอาจจะมาบรรจบยากนั้น จะสามารถเดินทางมาพบกันได้หรือไม่ ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่มีใครคาดเดาได้ แต่หากทั้ง 4 สมาคมสามารถรวมตัวไปในทิศทางเดียวกันได้เมื่อไหร่ เชื่อว่าอุตสาหกรรมขายตรงไทยก็หย่อมเติบโตอย่างรวดเร็วแน่นอน!!


 


 


 


Credit By :http://www.taladvikrao.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น