ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สคบ. ปูพรมแก้ ก.ม. ขายตรงไทย ผุดรหัส GS1 หวังจัดระเบียบสินค้า







934667_544129798971786_1677995795_n (Mobile)


สมาคม TDNA ฟิตจัด ตบเท้าพบเลขา สคบ. ยื่นหนังสือเพื่อแก้ไขกฎหมายขายตรง ไทย ที่ยืดเยื้อมานาน เลขา สคบ. รับเห็นด้วย กับการเสนอแยกหน่วยงานขายตรงเป็น เอกเทศ พร้อมเดินหน้าจัดระเบียบขายตรง ไทยอย่างเป็นระบบ เล็งเชิญ 4 สมาคม ขายตรงไทยหาทางออกร่วมกัน ระบุ วาระ สำคัญของการพบ เพื่อถามสารทุกข์ แนวทาง การรับมือตลาดอาเซียน และการจัดตั้งรหัส สินค้า GS1 ที่ปัจจุบันมีการใช้กันทั่วโลก ส่วนการแก้ไขกฎหมายเตรียมเดินสาย เพื่อถกปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวงกว้าง


ภายหลังการจัดตั้งสมาคมธุรกิจ เครือข่ายขายตรงไทย หรือ TDNA ที่ นำโดย นิโรธ เจริญประกอบ ซึ่งเป็น นายกสมาคมฯ ไปเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา สมาคมดังกล่าวก็ได้ ผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายขายตรง ปี 2545 ที่ใช้กันมานานกว่า 10 ปี ซึ่ง ความคืบหน้าล่าสุด นายกสมาคม TDNA ได้เข้าพบ จิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ สคบ. เพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการ เดินหน้าเพื่อแก้ไขกฎหมายขายตรงไทยร่วมกัน


สำหรับประเด็นหลักที่สมาคม TDNA เสนอให้มีการ แก้ไขกฎหมาย คือ 1.การเสนอให้จัดตั้งหน่วยงานโดยมีฐานะ เทียบเท่ากรม มีลักษณะคล้ายกับสำนักงานคณะกรรมการ กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. 2.เสนอให้เพิ่มนิยามคำว่าขายตรงให้ครอบคลุมธุรกิจ เครือข่าย 3.การเสนอให้จัดตั้งกองทุนขายตรง โดยมี คณะกรรมการบริหารกองทุน หากเกิดปัญหากับผู้บริโภค จะได้นำเงินดังกล่าวมาเยียวยาความเสียหายได้ รวมถึง ประเด็นการขึ้นทะเบียนผู้จำหน่ายอิสระ เป็นต้น


ล่าสุด จิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. กล่าวในที่ประชุม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เกี่ยวกับประเด็น การแก้ไขกฎหมายขายตรงไทยว่า สคบ. จะมีการพบปะ พูดคุยกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาชน เพื่อหาทางออกสำหรับ การแก้ไขกฎหมายขายตรงไทยร่วมกัน


สิ่งที่ สคบ. ต้องทำคือ การตรวจสอบอีกครั้งว่า กฎหมายขายตรงไทย ที่จะแก้ไขอย่างเร่งด่วนมีข้อใดบ้าง หลังจากนั้นจะมีต้องพิจารณาอีกว่าการแก้ไขกฎหมายนั้น ควรจะใช้ระยะเวลานานเท่าใด เพราะการแก้ไขกฎหมายนั้น ต้องใช้เวลาหลายปี อีกทั้งยังต้องทำประชาพิจารณ์ไปยัง วงกว้างกับประเด็นการจัดตั้งหน่วยงานขายตรงให้เป็น เหมือนหน่วยงาน คปภ. นั้น จะสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ สคบ. จะเข้าพบอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอีกด้วย เพื่อเป็นการรับฟังความ ความคิดเห็นจากทุกๆ ฝ่ายในวงกว้าง


จิรชัย กล่าวต่อว่า เร็วๆ นี้ สคบ. จะเป็นเจ้าภาพ ในการเชิญ 4 สมาคมขายตรงไทยเข้าพบปะพูดคุยเพื่อสร้าง ความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ โดยสาระสำคัญของการพบปะ จะเป็นการซักถามปัญหา หรือข้อเสนอแนะในการทำธุรกิจ รวมถึงการขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการในการเตรียม แผนรับมือกับการเปิดตลาดอาเซียนในปี 2558 และการ พูดคุยกับผู้ประกอบการเรื่องการทำรหัสสินค้า GS1 ซึ่งเป็น รหัสสากล ที่มีการใช้กันทั่วโลกในปัจจุบัน


นอกจากประเด็นการแก้ไขกฎหมายขายตรงไทยแล้ว สคบ. ยังเดินหน้าผลักดันการจัดระเบียบธุรกิจขายตรงไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย หลังเข้ารับตำแหน่งเลขา สคบ. เมื่อ ปีที่ผ่านมา ที่ต้องการจัดระเบียบข้อมูลสินค้า หรือที่เรียกว่า มาตรฐานรหัสสากล GS1 ซึ่งเป็นรหัสสินค้าสากล 13 หลัก และการจัดระเบียบผู้ประกอบการ ที่ก่อนหน้านี้ สคบ. ได้มี การแยกประเภทบัญชีของผู้ประกอบการขายตรงจำนวน 353 บริษัท ให้เป็นบัญชี ก. ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ยังดำเนิน ธุรกิจอยู่ในปัจจุบัน และบัญชี ข. คือ ผู้ประกอบการที่ จดทะเบียนกับ สคบ. แต่ไม่มีการรายงายความเคลื่อนไหวใน การทำธุรกิจให้ สคบ. รับทราบแต่อย่างใด รวมถึงการจัด ระเบียบด้านการโฆษณาสินค้า หากเกิดความเสียหายจาก การโฆษณา จากนี้ไป ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน


เดิม สคบ. ตั้งเป้าจะจัดทำฐานข้อมูลสินค้าของ แต่ละบริษัท ต่อมาได้มีการประชุมที่บาหลี ประเทศอินโด- นีเซีย เกี่ยวกับการเปิดตลาดอาเซียน และจากการประชุม ร่วมกัน ผู้นำบาหลีได้จุดประกายเรื่องการจัดทำรหัสสากล เพราะตอนนี้ทั่วโลกก็ใช้กันอยู่แล้ว และจากนี้ไปก็มีจะมีการ ซักซ้อมความเข้าใจกับบริษัททั้งหมด ส่วนโลโก้ สคบ. ที่จะ มอบให้ผู้ประกอบการ ก็จะมีการทำต่อไปเพื่อรองรับการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 อันนี้ก็เพื่อเป็นการสร้าง ความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เบื้องต้นการจัดทำรหัสสากล GS1 จะเป็นความสมัครใจของผู้ประกอบการ โดย สคบ. จะไม่บังคับ แต่จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว อีกครั้ง และต่อจากนี้ไป สคบ. ก็จะมีการเตรียมแผนการจัด ทำฐานข้อมูลการจ่ายผลตอบแทนต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การพบปะพูดคุยระหว่าง สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย กับ สคบ. เป็นไปด้วยดี ซึ่งการร่างเพื่อแก้กฎหมายขายตรงไทยฉบับปี 2545 นั้น จะมีความชัดเจนอีกครั้งประมาณปลายปี 2556 เนื่องจาก สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทยต้องรอผลงานวิจัยภาพ รวมอุตสาหกรรมขายตรงไทย จาก อ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เพื่อนำ มาประกอบเป็นข้อมูลในวงกว้างเกี่ยวกับธุรกิจขายตรง ไทย ก่อนที่จะมีการพูดคุยและเสนอให้รัฐมนตรีประจำ สำนักนายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป





ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 228 ประจำวันที่ 1-15 สิงหาคม 2556


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น