ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ข่าวพระรามเก้า เน็ตเวิร์ค (Praram 9 Network) : Xclusive interview เสริมวิทย์ สิริพูนกิติกุล ที่ปรึกษาประธานกรรมการ บริษัท พระรามเก้าเน็ตเวิร์ค จำกัด







1044516_699127660112908_303389297_n (Mobile)


ที่พระรามเก้า เรื่องความมั่นคง ความตั้งใจ เจตนาในการเปิดบริษัทขายตรงถือว่าชัดเจน มาก ดังนั้น สมาชิกที่กำลังมองหาบริษัท ขายตรงทำเป็นที่สุดท้าย ที่สำคัญคือทำเสร็จ แล้ว รหัสของเราไม่ไปไหน สามารถมี รายได้ที่เกษียณได้จริง และยังส่งต่อให้กับ ลูกหลานรับรายได้แทนได้ ดังนั้น จึงอยาก เชิญชวนให้ทุกท่านเข้ามาร่วมกันสร้างธุรกิจ กันเป็นที่สุดท้าย เพราะสำเร็จครั้งนี้แล้ว จะสำเร็จตลอดไป


ตลอดระยะเวลา 1 ปี กับอีก 7 เดือน ที่บริษัท พระรามเก้าเน็ตเวิร์ค จำกัดขายตรงพันธุ์ไทยแท้ ใช้เป็น บททดสอบในการก้าวขึ้นมายืนหยัดอย่างแข็งแกร่งในวงการ ขายตรงเมืองไทย ไม่เพียงเท่านั้นค่ายขายตรงแห่งนี้ยังพร้อม ที่จะก้าวขึ้นมาอยู่บนแถวหน้าของธุรกิจขายตรงด้วยนโยบาย การบริหารงานที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวภายใต้สโลแกนก้าว...ไปข้างหน้า ก้าว...หาความสำเร็จ ก้าว...ไปกับเรา พระรามเก้าเน็ตเวิร์คบุคคลที่มีส่วนร่วมในการนำพานาวา ลำนี้ฝ่ากระแสลมเกลียวคลื่นที่ถาโถมซัดเข้ามาได้ จนก้าวขึ้นมา ยืนตระหง่านในเวลานี้ต้องยกให้ เสริมวิทย์ สิริพูนกิติกุล ที่ปรึกษาประธานกรรมการ บริษัท พระรามเก้าเน็ตเวิร์ค จำกัด ซึ่งวันนี้ได้ให้เกียรติมาเล่าถึง ถึงทิศทาง และการเติบโตของ พระรามเก้าเน็ตเวิร์ค


ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันภาพรวมของบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง


ตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมาถือว่าบริษัทมีอัตราการเติบโต ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุมาจาก การที่เราได้สมาชิกที่เป็นนักธุรกิจมืออาชีพ และมีคุณภาพเข้ามา ร่วมงานด้วย ส่งผลให้ยอดจำนวนสมาชิกกระโดดจากแค่พันกว่า รหัส เพิ่มมาเป็น 4,000-5,000 รหัส ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน ซึ่งการที่เรามีสมาชิกที่เป็นนักธุรกิจมืออาชีพเข้ามา ทำให้การขยายตลาดไปเร็วกว่านักธุรกิจที่เป็นผู้บริโภคที่ไม่เคยทำธุรกิจ มาก่อน อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยอดการเติบโตพุ่งแบบก้าวกระโดด มาจากตัวผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรจีน ที่พิสูจน์แล้วว่าใช้แล้วเห็น ผลดี จนเกิดการบอกต่อ ทำให้มียอดสั่งซื้อซ้ำกลับเข้ามา


ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่เท่าไร


ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 100 ล้านบาท โดยในช่วง ปีแรกเป็นช่วงของการปูฐานตลาดผู้บริโภค ซึ่งนโยบายของ พระรามเก้าต้องการอยากจะอยู่ในธุรกิจนี้แบบระยะยาว ด้วย แนวคิดของท่านประธานผู้ก่อตั้ง (เสกสรรข์ ธีระวาณิชย์) ต้องการอยากจะให้กระจายสินค้าที่ดีมีคุณภาพออกไปสู่ทุกครัวเรือน ดัง นั้น จะเห็นได้ว่าเราไม่เน้นการสร้างยอด หรือสร้างกระแส เหมือนกับหลายๆ บริษัท อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ จำนวนสมาชิกในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมา อยู่ที่ประมาณหลัก 10,000-20,000 รหัส เนื่องจากขณะนี้ยอดสมาชิกใหม่ที่สมัคร เข้ามาถือว่าเร็วมาก เฉลี่ยเดือนละ เกือบ 1,000 รหัส เพราะบริษัทได้ เปิดให้สามารถคีย์ใบสมัครแบบ ออนไลน์ได้


ปัจจุบันฐานตลาดอยู่ในภาคไหน เป็นหลัก


ฐานตลาดของพระรามเก้า อยู่ในภาคใต้เป็นหลัก คิดเป็น สัดส่วนประมาณ 50-60% โดย บริษัทมีแผนที่จะเปิดศูนย์เซ็นเตอร์ ภูมิภาคแห่งแรกที่จังหวัดนครศรีธรรม- ราช เนื่องจากมีฐานลูกค้า สมาชิก นักธุรกิจ อยู่ที่นี่ค่อนข้างเยอะ จากนั้นจะ ขยายไปที่กระบี่, สุราษฎร์ธานี, สตูล และตรัง ตามลำดับ นอกจากนั้นบริษัทยังมีระบบการสั่งซื้อ สินค้าแบบสต๊อกคิสต์ ทำให้สมาชิกสามารถแจงยอดสั่งซื้อ ให้ทีมงานได้สะดวกมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดก็สามารถทำงาน และตรวจสอบสายงานได้อย่างถูกต้อง การลงทุนของศูนย์เซ็นเตอร์บริษัทอยู่ในช่วงของการ ประเมินค่าใช้จ่าย โดยเงินลงทุนทั้งหมดบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการ เองทั้งหมด เพื่อให้สามารถควบคุมมาตรฐาน และภาพลักษณ์ของ บริษัท ส่วนรูปแบบของศูนย์เราต้องการทำให้เป็นรูปแบบเดียวกัน ทั้งหมด โดยจะมีห้องประชุม เพื่อให้สมาชิกใช้ทำธุรกิจได้ ซึ่งจะมี เจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยเป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตาม การที่เรามี เซ็นเตอร์ในภาคใต้เชื่อว่าจะทำให้ทำงานง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ กระจายสินค้าสะดวกขึ้น และเร็วขึ้น


กลยุทธ์กระตุ้นยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังมีอะไรบ้าง


ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะเน้นการจัดประชุมสัญจร เพิ่มมากขึ้น เพราะหัวใจของธุรกิจขายตรง หากมีการจัดประชุม หรือมีกิจกรรม (อีเว้นต์) มากเท่าใด ก็จะทำ ให้เกิดวอลลุ่ม ยอดขาย เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งตอนนี้บริษัทมีการจัดประชุม เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจแบบเต็มรูปแบบในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตามต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้แต่ละพื้นที่ต่างๆ ก็เริ่มเติบโตเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยใน แต่ละแห่งที่บริษัทไปจัดประชุมจะมียอดขายเฉลี่ยประมาณ 3-4 แสนบาท นอกจากนั้นบริษัทยังมีแผนจะนำไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ เข้ามาเพิ่มในตลาดมากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 20 รายการ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์กลุ่มภายในหมวด ของยาจีน 2.ผลิตภัณฑ์กลุ่มภายนอก เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควบคุมน้ำหนัก ดูแลผม ผิว เล็บ ชะลอเซลล์ ต้านอนุมูลอิสระ ทานแล้วผิวขาว กาแฟเพื่อสุขภาพ กาแฟสุภาพบุรุษ ที่จะมา เร็วๆ นี้ เป็นเครื่องดื่มชง ดีท็อกซ์ เป็นไฟเบอร์ผักผลไม้ ช่วยขจัด สิ่งที่ตกค้างอยู่ในระบบลำไส้ และ 3.ผิวพรรณดี เป็นกลุ่มฟิวแลนด์ ได้ลิขสิทธิ์มาจาก เกาหลี โดยล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มที่ 4 เป็น ผลิตภัณฑ์กลุ่มเสริมอาหารสัตว์ ได้แก่ เสริมอาหารสำหรับสุนัข ภายใต้ชื่อบ็อบบี้โปรซึ่งในอนาคตอาจจะมีผลิตภัณฑ์ที่ เกี่ยวกับเสริมอาหารสัตว์ออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากบริษัท มีโรงงานผลิตของตัวเอง โดยได้ทำการวิจัยกับสำนักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทำการวิจัย โครงการพัฒนาจุลินทรีย์ในเชิงอุตสาหกรรม


อยากให้ฝากอะไรทิ้งท้ายเกี่ยวกับธุรกิจพระรามเก้า


พระรามเก้า เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นมา เพื่อที่จะอยู่ในธุรกิจ ต่อไปในระยะยาว ท่านประธานผู้ก่อตั้งไม่ได้เปิดขึ้นมาเล่นๆ เปิด แล้วต้องเติบโตอยู่ไปตลอด ดังนั้น อยากให้สมาชิกมั่นใจว่า พระรามเก้า ไม่ได้มีใครเชียร์ให้เปิด แต่ท่านประธานอยากจะทำ ธุรกิจขายตรงตั้งนานแล้ว จะเห็นว่าเราจดทะเบียนกับสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ตั้งแต่ปี 2544 แต่เพิ่งมา เปิดเป็นบริษัทขายตรงอย่างเป็นทางการในปี 2555 เพราะ ช่วงจังหวะเวลายังไม่พร้อม ซึ่งในระหว่างนั้นท่านประธานก็ได้ ศึกษาธุรกิจนี้อย่างจริงจัง จนมาเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการ ในปีดังกล่าว


ที่พระรามเก้าเรื่องความมั่นคง ความตั้งใจ เจตนาในการ เปิดบริษัทขายตรงถือว่าชัดเจนมาก ดังนั้น สมาชิกที่กำลัง มองหาบริษัทขายตรงทำเป็นที่สุดท้าย ที่สำคัญคือทำเสร็จแล้ว รหัสของเราไม่ไปไหน สามารถมีรายได้ที่เกษียณได้จริง และยัง ส่งต่อให้กับลูกหลานรับรายได้แทนได้ ดังนั้น จึงอยากเชิญชวน ให้ทุกท่านเข้ามาร่วมกันสร้างธุรกิจกันเป็นที่สุดท้าย เพราะสำเร็จ ครั้งนี้แล้วจะสำเร็จตลอดไป





ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 228 ประจำวันที่ 1-15 สิงหาคม 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น