ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ข่าว โมนาวี (Monavie) : โมนาวี ยันไม่ถอนหุ้นหนีไทยปูทางขึ้นแถวหน้าเอเชีย







phil_welch_sm_0 (Mobile)


โมนาวี รื้อผังโครงสร้างบริหารใหม่ ตั้ง Mauricio Bellora นั่งควบ 2 ตำแหน่ง ประธานกรรมการ-CEO คุมทั่วโลก หวังก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทขายตรงระดับแถวหน้า ของโลก ด้าน ฟิล เวลช์ ลั่น! อีก 3-5 ปี ปั้นตลาด เอเชียมียอดขาย 40-50% ติดอันดับต้นของโลก การันตีบริษัทแม่หนุนไทย 100% กลบกระแส ข่าวลบถอนหุ้นหนี โปรยยาหอมไทยเป็นตลาด ที่มีศักยภาพ เตรียมดันให้ก้าวขึ้นมาติดแถวหน้า ของเอเชีย

ฟิล เวลช์ ประธานกรรมการประจำ ภูมิภาคเอเชียเหนือ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โมนาวี สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โมนาวีได้ทำการปรับโครงสร้างการบริหารงานภายใน ใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทได้ แต่งตั้ง Mauricio Bellora เข้ามานั่งในตำแหน่ง ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร (CEO) และ Walter Noot ประธานบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการ(COO) โดยทั้ง 2 ท่าน จะเข้ามาดูแลในการ ทำตลาดของโมนาวีทั่วโลก พร้อมทั้งได้แต่งตั้งประธาน กรรมการประจำภูมิภาคอีก 10 คน เพื่อให้เข้ามาดูแลตลาด ตามภูมิภาคต่างๆ ของโมนาวี โดยตน (ฟิล เวลช์) ที่จะเข้ามา ดูแลตลาดโมนาวีประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นจีน, ไต้หวัน และฮ่องกง ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างการบริหารงาน ภายในในครั้งนี้ จะทำให้โมนาวีมีอัตราการเติบโตแบบมั่นคง และยั่งยืน โดยเฉพาะการได้ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ใน ธุรกิจขายตรงอย่าง Mauri Cio Bellora เข้ามาดูแลตลาด ทั้งหมด เชื่อว่าจะทำให้โมนาวีเติบโตบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ การก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทขายตรงระดับโลกได้

โมนาวีเมื่อ 3 ปีก่อน กับปีนี้ไม่เหมือนกัน เพราะจาก การได้เรียนรู้ความผิดพลาดในการทำตลาดช่วงที่ผ่านมา ทำให้เราได้เรียนรู้ และปรับรูปแบบการทำงานให้สอดคล้อง กับตลาดแต่ละพื้นที่ ซึ่งจุดแข็งของเรา คือ การมีผลิตภัณฑ์ ที่ดีมีคุณภาพ และส่งต่อไปให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก แต่เรา ไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ต้องอาศัยนักธุรกิจเข้ามาช่วย ในการขยายตลาดออกไป และต้องทำงานกันเป็นทีม ดังนั้น ภาพจากนี้ไปจึงทำให้โมนาวีไม่เหมือน และต่างจากบริษัท อื่นๆ ทั่วไป อย่างไรก็ตาม แม้เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เราจะมีการ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่วัตถุประสงค์ของเราไม่เคยเปลี่ยน นั่นคือ การทำให้ผู้คนมีความสุข และมีสุขภาพที่ดี

ฟิล เวลช์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการตัดรหัส สมาชิกระดับสูงในยุโรป และญี่ปุ่น ว่าสาเหตุของการตัดรหัส สมาชิกของผู้นำระดับสูง มาจากผู้นำเหล่านี้ได้นำสินค้าจาก การปิดตำแหน่งไปขายตัดราคา ซึ่งบริษัทได้มีการสืบทราบว่า ผิดจริง ประกอบกับนโยบายของบริษัทระบุชัดเจนว่า หากมี สมาชิกนำสินค้าไปขายตัดราคา บริษัทจำเป็นที่จะต้องตัด รหัสสมาชิก โดยในกรณีที่ประเทศโปแลนด์มีผู้นำระดับรอยัล แบล็กไดมอนด์ ได้นำสินค้าไปขายตัดราคาที่ประเทศรัสเซีย ส่วนที่ญี่ปุ่นเป็นผู้นำระดับบลู ไดมอนด์ ได้นำสินค้าไปขายตัด ราคา ซึ่งทางบริษัทก็ได้ทำการตัดรหัสสมาชิกเป็นที่เรียบร้อย แล้ว

สำหรับภาพรวมของโมนาวีในตลาดเอเชียแปซิฟิกนั้น ถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก โดยมีอัตราการเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง ซึ่งประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด ได้แก่ เกาหลีใต้ รองลงมาคือ ญี่ปุ่น ขณะที่ประเทศที่มียอดขายสูงสุดเป็น อันดับ 1-5 ได้แก่ ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้ และไทย ตามลำดับ โดยในส่วนของออสเตรเลียกับเกาหลีใต้ จะสลับกันขึ้นเป็นอันดับ 3 และ 4 อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า ภายในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ตลาดเอเชียจะมียอดขายเติบโต เป็นอันดับ 1 ของโมนาวี โดยคิดเป็นสัดส่วน 40-50% ของ ยอดขายรวมทั่วโลก

ส่วนนโยบายในการรุกตลาดในประเทศไทยนั้น ฟิล เวลช์ กล่าวยืนยันว่า บริษัทแม่ยังคงให้การสนับสนุนที่จะทำ ธุรกิจในไทยเต็ม 100% และไม่มีแผนที่จะปิดบริษัทในไทย อย่างแน่นอน แม้ที่ผ่านมาจะมีกระแสข่าวลบๆ ออกมาอย่าง ต่อเนื่องก็ตาม ซึ่งการที่ตนได้เข้ามาดูแลตลาดในไทยถือว่า เป็นความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากเป้าหมายของบริษัทแม่ คือ ต้องการให้ไทยเป็นตลาดที่เติบโตต่อไปในระยะยาว โดย นโยบายของบริษัทจะสร้างฐานผู้บริโภคเน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ อย่างยั่งยืน ในอนาคตบริษัทเตรียมจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเพียง 6 รายการเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อต้องการสร้างฐานตลาดผู้บริโภค อย่างแท้จริง เพราะในช่วงที่ผ่านมาการทำตลาดในไทย นักธุรกิจส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องการขยายธุรกิจเป็นหลัก

ในช่วงที่ผ่านมาแม้ผมจะไม่ได้เข้ามาดูแลตลาดใน ไทยตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น แต่ก็พอทราบว่ามีความผิดพลาด อะไรอยู่บ้าง เช่น การยื่นขอเลขที่ อย. ที่ใช้เวลานานเกิน ไป และเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่จากนี้ไปเชื่อว่าจะเริ่ม ดีขึ้น เพราะเราจะนำบทเรียนต่างๆ เหล่านั้นมาปรับใช้ โดยผมเริ่มเข้ามาดูตลาดในไทยตั้งแต่เดือนเมษายน 2556 ที่ผ่านมา และได้เห็นการเติบโตในไทย ซึ่งส่วนตัวมองว่า ไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพมาก โดยปัจจุบันมีสัดส่วน ยอดขายคิดเป็นอันดับ 5 ของเอเชีย ทั้งที่เป็นประเทศ ที่โมนาวีเข้ามาเปิดตลาดใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งผม เชื่อว่าตลาดในไทยไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้อย่างแน่นอน แต่ จะต้องเติบโตต่อไปอาจจะก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของ เอเชียในอนาคตอันใกล้นี้






ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 228 ประจำวันที่ 1-15 สิงหาคม 2556



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น