ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555

‘ขึ้นค่าแรง’ ไร้ผล ผู้ค้าลอยหน้ามั่นใจ ขายตรงยังแรง!



เนื่องจากที่ทราบกันดีว่า ธุรกิจขายตรงจัดเป็นทั้ง ธุรกิจรายได้หลัก และรายได้เสริมของประชาชนไทย นโยบายการขึ้นค่าแรงดังที่กล่าวมาในข้างต้น อาจส่งผล ให้ผู้คนมีความสุขกับรายได้หลักที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ ความนิยมในส่วนของขายตรงลดลง แต่ในมุมกลับของเหล่าผู้ค้ามองว่า นโยบายดังกล่าว ยิ่งส่งผลให้ประชาชน มีกำลังซื้อเพิ่ม วงการเครือข่ายย่อมได้รับผลดีมากกว่าผลเสีย

>> TNI มั่นใจกำลังซื้อเพิ่ม

นางวิภารัตน์ รัตนพรหมมา ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ตาฮิเตียน โนนิ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด แสดงความคิดเห็นกับ “สยามธุรกิจ” เกี่ยวกับเรื่องการขึ้นค่าแรงของทางรัฐบาลที่อาจส่งผลกับธุรกิจขายตรงว่า ด้วยความที่ธุรกิจ MLM เป็น เสมือนการสร้างรายได้เสริม ตนจึงมองว่าการขึ้นค่าแรง น่าจะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นค่าใช้จ่าย ในชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป คือหากพิจารณาดูแล้วน่าจะเป็นผลได้มากกว่าผลเสีย เนื่องจากหากมีรายได้ มากขึ้น การจับจ่ายใช้สอย หรือการบริโภคของคนก็จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะในธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจอิสระที่สามารถทำให้เขาเข้าร่วมได้ง่าย ตรงนี้ตนมองว่า น่าจะช่วยกระตุ้นให้เขาอยากมีรายได้เพิ่ม ขึ้นมากกว่า

“สาเหตุที่คนทำ MLM เพราะว่าหลายคน มีใจรัก หลายคนมีค่าใช้จ่ายสูงแล้วมีรายได้ไม่พอ แต่เมื่อพวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้ พวกเขามีกำลังใจที่จะทำงาน นอกจากนี้ในการทำธุรกิจขายตรง ก็ต้องมีการซื้อผลิตภัณฑ์ ซื้อสินค้าไปใช้ ดังนั้นถ้าบางคน มีรายได้ไม่พอที่จะซื้อสินค้า ก็อาจเป็นเหตุให้พวกเขาไม่มีศักยภาพซื้อตามจำนวนเริ่มต้นของการทำธุรกิจ ดังนั้นตนจึงมองว่าประเด็นการขึ้นค่าแรงจึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีมากกว่า” นางวิภารัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ดี นางวิภารัตน์ ให้ความเห็นว่า “ปีนี้ธุรกิจขายตรงน่าจะมีการเติบโตมากขึ้น เพราะธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ใช้การลงทุนน้อยกว่าทุกอย่าง แต่รายได้จากการทำงานจะสูงกว่า ดังนั้นแนวโน้มปี 55 นี้ น่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน และยิ่งภาวะน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมาทำให้แรงงาน หลายคนถูกเลิกจ้างงาน จนเกิดการว่างงาน ตนมองว่ากลุ่มคนเหล่านี้น่าจะเดินเข้ามาสู่ธุรกิจเครือข่ายอย่างแน่นอน”

>> “เนเจอร์โนวา” เชื่อเสน่ห์ MLM ยังเย้ายวน

ด้านนายกฤษณ์ เหลืองอร่าม กรรมการบริหาร และผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนเจอร์โนวา จำกัด กล่าวในประเด็นเดียวกันว่า ประเด็นการขึ้นค่าแรง ดังกล่าวนั้น ตนคิดว่า ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อธุรกิจ MLM อย่างแน่นอน คือ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มบุคคลที่เข้ามาสู่ธุรกิจเครือข่ายแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม หลักๆ คือ กลุ่มนักศึกษาที่เพิ่งจบใหม่ และกลุ่ม วัยทำงานกับผู้สูงอายุ ซึ่งในกลุ่มแรกนั้นหากเป็นการปรับขึ้นเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำเป็น 15,000 บาทตามที่รัฐบาลออก นโยบาย จากฐานเดิมประมาณ 10,000 บาทนั้น ตนมองว่าเงินที่เพิ่มขึ้นประมาณ 4-5 พันบาทเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นมากมาย เงินจำนวนดังกล่าว เมื่อนำไปซื้อเสื้อผ้า หรือสินค้าตามแฟชั่นก็หมดไปแล้ว ส่วนกลุ่มวัยทำงานและผู้สูง อายุก็เช่นเดียวกัน การปรับขึ้นเงินเดือนหรือค่าแรง ซึ่งมีฐานเพดานที่แน่นอนในแต่ละเดือน โดยเฉพาะจำนวนที่ไม่มากมาย ก็ไม่สามารถทำให้ชีวิตพวกเขาเปลี่ยนแปลง ไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นตนจึงมั่นใจว่า ผลกระทบด้านลบกรณีการขึ้นค่าแรงนี้ไม่ส่งผลใดๆ ต่อธุรกิจเครือข่ายอย่างแน่นอน

การมีรายได้ประจำที่เพิ่มสูงขึ้น อาจ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากมีเงินลงทุน หรือต่อยอดในการทำธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ MLM สามารถทำให้สมาชิกทั่วไปทำงานได้สะดวกขึ้น คล่องขึ้น มีเงินในการ จับจ่ายใช้สอยเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ตนพบ ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนเข้ามาสู่ธุรกิจเครือข่ายนั้น จริงๆ แล้วสิ่งสำคัญเกิดขึ้นจากความประทับใจและความต้องการของ ตัวพวกเขาเองมากกว่า เช่น ประทับใจใน สินค้า ที่ใช้แล้วช่วยรักษาสุขภาพ ช่วยรักษาจุดบกพร่องของตนเองได้ หรือธุรกิจ เครือข่ายสามารถตอบโจทย์ความต้องการ ในชีวิต อย่างความต้องการชีวิตที่อิสระ หรือการมีรายได้ที่ไม่จำกัด เป็นต้น ฉะนั้น ตนจึงคิดว่าภาพรวมการปรับขึ้นค่าแรงที่สูงขึ้นในปัจจุบันไม่ใช่ปัจจัยสำคัญต่อการทำธุรกิจนี้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ นายกฤษณ์ยังแสดงความคิดเห็นถึงทิศทางของธุรกิจเครือข่ายต่อไปว่า ทิศทางของธุรกิจนี้จะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าภาครัฐบาลให้ความใส่ใจ กล่าวคือ ตนมองว่าในปัจจุบันการทำงานของภาครัฐเกี่ยวกับการตั้งกฎกติกา ในการเริ่มเปิดธุรกิจขายตรง การติดตามตรวจสอบผลยังหละหลวมอยู่มาก ดังจะเห็นได้จาก การที่ปัจจุบันยังมีธุรกิจขายตรง ในลักษณะมันนี่เกมอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจุดนี้อาจจะ ส่งผลกระทบทางลบต่อธุรกิจเครือข่ายโดยภาพรวมได้

>> “ยูนิไลฟ์” มั่นใจขายตรงแรงต่อเนื่อง

ในส่วนของนางปราณี พุทธิพิพัฒน์ขจร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูนิไลฟ์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิด เผยว่า “ตนคิดว่าประเด็นการขึ้นค่าแรงไม่ น่าจะมีผลเสียต่อธุรกิจเครือข่าย เพราะถึงแม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่คนจำนวนมาก ก็ยังคงต้องการรายได้เพิ่มอยู่ดี ดังนั้นคงไม่เกี่ยวว่าเมื่อมีรายได้ในค่าแรงเพิ่มขึ้น เราก็จะไม่ทำอาชีพเสริมอื่นๆ เลย ตนมอง ว่าธุรกิจเครือข่ายก็ยังคงมาแรงมากในยุค ปัจจุบัน เพราะมันสามารถเข้าสู่ธุรกิจได้ง่าย เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ให้รายได้อย่างคุ้มค่า ถ้าเราตั้งใจจริง”

นอกจากนี้ นางปราณี ก็ได้แสดงความ คิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจเครือข่ายโดยภาพรวมต่อไปว่า ทิศทางของธุรกิจขายตรงต้อง เติบโตต่อไปอย่างแน่นอน คือ ตนมีความคิดอย่างหนึ่งว่า ผลกระทบต่างๆ ก็ย่อมมี ในธุรกิจเครือข่ายและธุรกิจอื่น แต่ธุรกิจนี้ มีข้อดี คือ มีการทำงานในลักษณะกระจาย เช่น แม้พื้นที่น้ำท่วมอาจจะได้รับผลกระทบ แต่พื้นที่อื่นๆ สมาชิกก็ยังคงทำงานกันได้อยู่ โดยจากตัวเลขการสำรวจของสมาคม เท่าที่ตนทราบ ก็มีการเติบโตขึ้นทุกปี คือเฉลี่ยปีละประมาณ 10% ดังนั้นแม้จะโดน ผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมบ้างในช่วงปีนี้ แต่ตนมองว่าธุรกิจเครือข่ายโดยรวมก็ยังคงเติบโตอยู่

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ. สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1267 ประจำวันที่ 18-1-2012 ถึง 20-1-2012

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น