ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

ดี เด่น ดัง! MLM ปีกระต่าย



ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาของข่าวคราวความเคลื่อนไหวในวงการขายตรง สร้างจุดเดือดในการแข่งขันชิงเค้กในทุกไตรมาสของปีในช่วงปีที่ผ่านมา แวดวงธุรกิจขายตรงนับเป็นหนึ่งในหลายแขนงธุรกิจที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงบรรดาประชาชนผู้บริโภค ซึ่งดูแล้วว่าในปีกระต่ายจะเป็นปีทองของวงการ MLM เมืองไทยเลยก็ว่าได้

เฉกเช่นทุกปีที่ผ่านมา ทีมข่าว “สยาม ธุรกิจ” ในช่วงฉบับท้ายปีเช่นนี้ ก็จะฉายให้เห็นถึงความเป็นไปของวงการเครือข่ายตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งเราได้รวบรวมข่าวสารที่เป็นกระแสของธุรกิจในปีนี้ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนผู้อ่าน อีกทั้งบาง ท่านอาจลืม บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง ที่ผ่านมา

>> เปิดหัวปี ผู้ค้าเปิดรายรับโชว์รวย

เริ่มต้นกันที่ช่วงไตรมาสที่หนึ่ง เปิดปีมาธุรกิจขายตรงก็เกิดเสียงฮือฮาทันที หลังจากที่ “บริษัท เอมสตาร์ เน็ทเวิร์ค จำกัด” นำโดย “ท.ญ.ลพา วัชรศรีโรจน์” ประธานผู้ก่อตั้งบริษัท จัดการเปิดตัวเลขยอดขายในปี 53 ให้แก่สื่อมวลชนได้เห็น โดยสามารถปิดยอดการขายในตัวเลข 4,901 ล้านบาท
ซึ่งในความฝันของ “เอมสตาร์” คือการทำยอดขายให้ถึง 1 หมื่นล้านบาท ในส่วนของปี 53 อีกทั้งยังต้องการโค่นบัลลังก์แชมป์จากพี่เบิ้มอย่าง “แอมเวย์” ให้จงได้ ซึ่งถึงแม้ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นไป
อย่างที่ใจนึก แต่ต้องยอมรับ และนับถือถึงความยอดเยี่ยมของบริษัท เอมสตาร์ เนื่องจากเมื่อมองไปที่ตัวเลขการ เติบโตของบริษัทนามนี้ในแต่ละปี ต้องปรบมือให้อย่างไม่อิดออด เพราะจัดได้ว่า “เอมสตาร์” เป็นบริษัทที่มีการเจริญเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมในระดับสูงอย่างแท้จริง ในช่วงปีก่อนหน้า

นอกเหนือจาก “เอมสตาร์” แล้ว ช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลายค่ายก็จัดการเปิด ตัวเลขโชว์ต่อสาธารณชนกันไม่เว้นแต่ ละวัน ส่วนแชมป์ก็ยังเป็นเจ้าเก่ารายเดิม คือ “บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด” ที่ปิดไปได้ถึง 14,370 ล้านบาท ต่อยอดความฝันของตัวเองในปี 55 ที่ต้องการไปให้ถึง 2 หมื่นล้านบาทให้จงได้

นอกจากในส่วนของตัวเลขยอดขาย ของแต่ละบริษัทที่เป็นไปตามเป้าบ้าง ไม่เป็นอย่างที่ฝันบ้าง ในช่วงไตรมาสที่หนึ่งนี้ ก็ดูท่าว่าธุรกิจขายตรงดูจะไต่ระดับความโด่งดังเป็นที่สุด เมื่อหน่วยงานรัฐอย่างสคบ. ผู้เป็นเหมือนกรรมการในสนามขายตรง จัดการเปิดแนวคิดเก่า แต่นำมาทำใหม่ เพื่อ ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเสียที เมื่อจัดการนั่งโต๊ะแถลงไขว่า ต้องการที่จะผลักดันหลักสูตร ขายตรง เข้าสู่วิชาทางเลือกของนิสิตในรั้ว มหาวิทยาลัย

อย่างไรก็ดี ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลายบริษัทพยายามประกาศกลยุทธ์สู้ศึก ของตัวเองออกมา ที่จะใช้เป็นอาวุธในการ ฟาดฟันตลาดปีกระต่ายนี้ ซึ่งเรื่องที่เป็นประเด็นนั่นก็คือ การส่งสินค้าออกสู่ตลาด เพื่อเป็นทางเลือกของประชาชนผู้บริโภค รวมถึงการปรับแผนจ่ายของบริษัท ให้สามารถดึงดูดคนได้มากกว่าที่ผ่านมา

>> รัฐเปิดโต๊ะถกพ.ร.บ.ใหม่ ไร้ข้อยุติ

ถัดมาในไตรมาสที่ 2 ของวงการเครือข่าย ซึ่งช่วงนี้คงไม่มีข่าวคราวใดจะ ดังเทียบเหตุการณ์ผลิกแผ่นดินของคดี “แชร์ลูกโซ่” ซึ่งในปี 2553 “บริษัท เบสท์ 59 จำกัด” ค่ายขายตรงแบรนด์ “ปูแดง” ของ “นายสมปอง แซ่ตั้ง” ถูกจับในคดีเข้าข่ายทำธุรกิจโกง ออกแนวแชร์ลูกโซ่ ซึ่ง ในช่วงนั้น ต้องยอมรับตามหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือประจำวงการชื่อต่างๆ หรือนอกวงการ ก็ฉายแต่ในเรื่องนี้

โดยในท้ายที่สุด “นายสมปอง แซ่ตั้ง” ก็หลุดคดี การจับกุมปิดบริษัทของดีเอสไอ กลายเป็นเรื่องไม่จริง เมื่อตรวจสอบเรียบร้อย “ปูแดง” ไม่มีความผิดอย่างที่ถูกกล่าวหา ด้วยประการทั้งปวง นำไปสู่การฟ้องร้องกลับ และเปิดโต๊ะแถลงข่าวระบายความอัดอั้นออกมาต่อสาธารณชน โดยทาง “สมปอง แซ่ตั้ง”

อย่างไรก็ดี ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ ทางรัฐ นำโดยสคบ. ก็จัดการเดินหน้าเกม รุกอีกครั้ง ด้วยการเปิดโต๊ะแถลงเชิงสัมมนา ในหัวข้อ “ค้าขายอย่างไร ให้ถูกกฎหมาย และถูกใจผู้บริโภค” โดยได้มีการเชิญ 4 สมาคมใหญ่ ประจำวงการเครือข่าย อย่าง สมาคมการขายตรงไทย (TDSA), สมาคม พัฒนาการขายตรงไทย (TSDA), สมาคม อุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) และสมาคมนักธุรกิจอิสระ เข้าร่วมวงการถก
ซึ่งในเนื้อหาสาระสำคัญก็อยู่ที่เรื่อง ของกฎหมาย โดยเฉพาะการร่างพระราชบัญญัติขายตรง และตลาดแบบตรงฉบับใหม่ ซึ่งยืดเยื้อมานานพอควร อีกทั้งยังมีในเรื่องของการปรับ และจำกัดแผนการจ่าย ที่ดูจะยากเหลือเกินที่จะหาข้อความที่ลงตัว และยุติในการถกเถียง ซึ่งถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีพ.ร.บ.ฉบับใหม่มาใช้ จึงต้องถูไถกันไปในฉบับเก่า ที่ผู้ค้าว่าดีไม่พอ

>> กลางปีสารพัดเรื่อง ดี เลว เด่น ดัง

ผ่านไป 2 ไตรมาส ก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 เปิดหัวไตรมาสที่ข่าวไม่สู้ดีของวงการ เครือข่าย เมื่อเกิดกระแส “แชร์ลูกโซ่” ประจำปีกระต่ายขึ้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในส่วนของเขตภูธร เหยื่อก็คือ สหกรณ์ครูจังหวัดเลย ซึ่งเป็น “แชร์ ล็อตเตอรี่” สร้างความปั่นป่วน และทำให้ภาพของธุรกิจลดลง โดยไม่นานหลังจากนั้น ก็ คล้ายไฟลามทุ่ง เมื่อข่าวแชร์ดังกล่าวแพร่ สะพัด ที่ตามมาคือพื้นที่อื่น ที่เริ่มมีตอผุดขึ้นมาให้เห็น

นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของ “บริษัท เอเจล” ที่กลายเป็นเรื่องฟ้องร้องกันระหว่าง บรรดาแม่ทีมยักษ์ใหญ่ของบริษัท เกิดอาการไม่พอใจบริษัท กล่าวอ้างว่า เอเจล เบี้ยวค่าคอมมิสชั่น นำมาซึ่งการขึ้นโรงพัก แจ้งความ ซึ่งในเหตุการณ์ แกนนำการฟ้องร้องก็คือ “ชนิดา บูรณะบุตร” ผู้นำของบริษัท รวมกับนักขายอีกร่วม 10 คน แจ้งความต่อตำรวจเอาผิดบริษัทเอเจล
โดยในเรื่องนี้ นำไปสู่การเกาเหลาใน เอเจล เกิด “สึนามิใต้น้ำ” บรรดาผู้นำบริษัททั้งรายเล็กรายใหญ่หิ้วกระเป๋าไม่ขอ เป็นครอบครัวเอเจลอีกต่อไป ทำเอาบริษัท ต้องปิดตัวลง ผู้บริหาร แม่ทีม คนดังพากัน หาแหล่งน้ำแหล่งใหม่

โดยบริษัทนามใหม่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “โมนาวี” “บีฮิบ” และอีกมากมาย กลายเป็นแหล่งน้ำแห่งใหม่ของบรรดาผู้นำเอเจล ซึ่งในช่วงนี้ต้องยอมรับว่า บริษัทต่างๆ ที่กล่าวมา เป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ใน ทันที เพราะมีการประกาศถึงชื่อเสียง ระดม พลผ่านโลกออนไลน์ สร้างกระแสกันอย่าง อึกทึก ครึกโครม ส่วนเรื่องเอเจล ดูเหมือน จะกลายเป็นของเก่าที่ผู้นำไม่พูดถึง และปล่อยให้กลายเป็นอดีตในฉับพลัน
นอกจากเรื่องที่ไม่ดีที่กล่าว ในไตรมาสนี้ก็ยังมีในส่วนของข่าวดีของหลายบริษัท โดยเฉพาะ “บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ที่จัดงานประดับเข็มงานใหญ่ ประจำปีขึ้น ที่เมืองทองธานี โดยใช้พื้นที่ชาเลนเจอร์เป็นจุดในการจัด ซึ่งในพื้นที่นี้ ถ้าไม่เจ๋งจริงคงยากที่จะได้จัด เพราะเป็นพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในอาณาบริเวณ เมืองทองธานี พร้อมการประกาศลั่นงานจากทาง “ดร.นพรุจ เวชกุล” ประธานใหญ่ของบริษัทว่า อีกไม่กี่ปี นับจากนี้ นีโอ ไลฟ์ จะมียอดขายแตะหมื่นล้านบาทอย่าง แน่นอน สร้างความตื่นเต้นให้กับสมาชิกใหม่เก่าที่เข้าร่วมงานหลายหมื่นคนได้ แสดง ความยินดีในความยิ่งใหญ่ของ “นีโอ ไลฟ์” ในปัจจุบัน ที่เดินไปสู่อนาคต

ทั้งนี้ ในช่วงนี้ ยังเป็นช่วงที่การเมือง ดูจะเริ่มมีทิศทางที่ดี เมื่อการเลือกตั้งครั้งสำคัญจบลงด้วยดี นำมาซึ่งการตั้งหน้าตั้งตา ประกอบธุรกิจของบรรดาค่ายขายตรงอย่างไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังอีกต่อไป

>> สุดช้ำน้องน้ำซัดยอดขาย

สุดท้าย ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งต้องบอกตามตรงว่า ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาของ ปี ดูจะเป็นเรื่องดี ขายตรงเดินสู่ทางบวก ในทุกด้าน และดูเหมือนว่า MLM จะขยาย ตัวได้มากกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ในช่วงต้น หลายบริษัทตั้งหน้าทำธุรกิจด้วย ความอิ่มเอิบในตัวเลขรายรับ

แต่ในที่สุดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็มา ถึง เป็นปัญหาใหญ่ประจำปีกระต่ายก็คือ “วิกฤติอุทกภัย” ที่เล่นงานจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่ภาคเหนือตอนล่างลงมาถึงภาคกลาง รวมทั้งเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งกินเวลานาน ทำเอาบรรดาผู้ค้าต้องเปิดโปรโมชั่น เฉพาะกิจขึ้น เพื่อรักษายอดขาย และไม่ทำ ให้ผลกระทบที่ได้รับมากกว่าที่จะเป็น

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็หนักหนา จนเป็นตัวฉุดยอดขายของเหล่า บริษัทขายตรงหลายนาม นำไปสู่การขยาย ตัวของภาพรวมธุรกิจที่ดูจะไม่เป็นอย่างที่ ฝันกันเสียแล้ว
ถึงอย่างไร ดูเหมือนหลายค่ายก็แสดง ความเป็นสุดยอดด้วยการหาแผนจัดการได้ เป็นอย่างดี อีกทั้งยังใช้วิกฤติให้เป็นโอกาส เดินสายสร้างแบรนด์ ด้วยการช่วยเหลือสังคมในเขตน้ำท่วม เล่นเอาคะแนนเสียงพุ่งของหลายค่าย

ทั้งหมดนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอีกปีที่ธุรกิจขาย ตรงเจอกับเรื่องน่ายินดี และต้องปวดหัว แต่ทั้งหมดก็ล้วนเกิดขึ้นในแวดวงของธุรกิจ ซึ่งจะวัดความเป็นที่สุด ก็คงต้องรอตัวเลข ปิดยอดขายของบริษัทต่างๆ ในปีหน้า ซึ่ง ทีมข่าว “สยามธุรกิจ” ก็จะติดตามต่อไป

อ้างอิง : นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1261 ประจำวันที่ 24-12-2011 ถึง 27-12-2011

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น