ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2555

‘มิลค์กี้ เวย์’ ชักธงสู่ยอดเสา เดินหน้าแจมเค้กวางระบบเป็นตัวนำ



เปิดศักราชใหม่ “มิลค์กี้ เวย์” เปิดตัวติดป้ายชื่อน้องใหม่รายล่าสุด วางสินค้า 25 รายการ 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์นำทัพ พร้อมวางระบบ เป็นตัวนำ ชี้ต้องการเข้ามา สร้างมิติใหม่ให้วงการ ย้ำชัดฐานแน่นไม่มีเปิดแล้วปิด ชี้ปีแรกขอ 100 ล้านบาท แผนระยะยาวแถวหน้าขายตรงไทย

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ธุรกิจขายตรง ในปัจจุบันเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมเพียง ใด ซึ่งในวงการนี้ จัดได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีเงิน หมุนเวียนเปลี่ยนมืออยู่ไม่น่าจะน้อยกว่า 1 แสนล้านบาท และคงจะเป็นเรื่องยากที่จะ ไม่มีชื่อบริษัทใหม่เกิดขึ้นในแขนงวงการ ล่าสุด “มิลค์กี้ เวย์ เน็ทเวิร์ค” คือน้องใหม่ ล่าสุดประจำปี 2555

นายสุมิตร วชโรดมทรัพย์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท มิลค์กี้ เวย์ เน็ทเวิร์ค จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจขายตรงนับเป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งทั้งจากส่วนของภาครัฐ และเอกชน รวมถึงประชาชนผู้บริโภค ที่ให้ความสำคัญ เกี่ยวกับธุรกิจ จึงทำให้ตนต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจ

“จากเดิมตนเป็นนักธุรกิจที่ประกอบ กิจการในส่วนของการส่งออกสินค้า ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจของครอบครัว ซึ่ง วันนี้ ธุรกิจส่งออกของตนก็จัดว่าเป็นธุรกิจ ที่มีฐานที่แข็งแกร่ง กำไรในแต่ละปีอยู่ที่กว่า พันล้านบาท โดยเมื่อธุรกิจนี้มีความเจริญก้าวหน้าไปในทิศทางที่ดีแล้ว ทำให้คิดถึงการทำธุรกิจอื่น” สุมิตร เผย

จากที่กล่าวมานี้เอง ทำให้ “สุมิตร” มีความต้องการที่จะตั้งบริษัทในธุรกิจแขนง อื่นขึ้น โดยมีขายตรงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่ง “ธุรกิจขายตรงนับเป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนที่เกี่ยวข้องในธุรกิจ รวมทั้งเม็ดเงินที่หมุนเวียนอยู่ในแขนง ทำให้ตนพยายามเข้ามาศึกษา หาความรู้เพื่อวันนี้จะได้เปิดบริษัทขายตรง”

ทั้งนี้ จากการศึกษาหาความรู้ ดังที่ กล่าวมา “บริษัท มิลค์กี้ เวย์ เน็ทเวิร์ค จำกัด” จึงได้ถูกจัดตั้งขึ้น โดยมีงบลงทุนในช่วงต้นอยู่ที่ 40 กว่าล้านบาท ซึ่งจัดว่าเป็น เงินทุนที่สูงสำหรับค่ายขายตรงเปิดใหม่ในปัจจุบัน โดยบริษัทได้มีการวางแผน เตรียมงานอย่างจริงจังมากว่า 6 เดือน โดย สามารถจดทะเบียนเป็นบริษัทขายตรง จาก ทางสคบ. ได้เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

ขณะนี้บริษัทมีสินค้าที่เป็นของบริษัทอยู่ถึง 25 รายการ จัดเป็น 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ สินค้าเสริมอาหาร และความงาม ซึ่งทั้ง 2 หมวด สินค้าก็มีสินค้าให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะสินค้า เสริมอาหาร ที่มี “ดราก้อน ไทเกอร์” เป็นสินค้า เอก ที่บริษัทมีความมั่นใจว่า ในอีกไม่นาน สินค้าชนิดนี้ จะเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคให้การตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งชาย และหญิง โดยเป็นน้ำสมุนไพรที่สกัดจากโสม และคาวตอง ช่วยในเรื่องของระบบการทำงานของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ให้ดีเป็นปกติ

ในส่วนของสมาชิกเอง หลังจากที่บริษัทได้รับสคบ.มา ก็มีสมาชิกมากหน้าหลายตา เดินเข้ามาในบริษัท ซึ่งมิลค์กี้ เวย์ ได้มีการคาดหวังในปลายปีว่า รหัสสมาชิกจะสามารถแตะถึง 2 หมื่นรหัสได้ เมื่อจบปี 2555 นี้

“จากที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการส่งออกสินค้า ในอนาคต บริษัทยังต้องการที่จะขยายเขตสาขาทั้งในและต่างประเทศ โดยในไทยบริษัทได้มีการวางแผนในส่วนของการตั้งศูนย์หลัก อยู่ที่ย่านรัชดา ซึ่งมีการมองพื้นที่กันบ้างแล้ว แต่ยังไม่เจาะจงสถานที่แต่อย่างใด อีกทั้งยังต้องการเปิดสาขาในกรุงเทพฯ อีก 2-3 สาขา”

ส่วนเรื่องของต่างประเทศนั้น ในอีก ประมาณไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัทยังต้องการ ขยายบริษัทสู่ประเทศอื่นๆ อาทิ อินเดีย ซึ่งทาง “สุมิตร” ได้กล่าวว่า “เหตุที่ตนต้องการ ที่จะขยายธุรกิจสู่ประเทศอินเดีย ก็เนื่องจาก การมีเครือข่ายที่ตนรู้จักเป็นการส่วนตัว อยู่ที่นั่น ทำให้การขยายสู่อินเดียน่าจะเป็น พื้นที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับมิลค์กี้ เวย์”

โดยหลังจากที่ขยายสู่ทางอินเดียได้ ตามที่คาดหวัง “มิลค์กี้ เวย์” จึงจะเริ่มกลับ เข้ามาขยายในส่วนของประเทศเพื่อนบ้าน ในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ดี ในส่วนของยอดขายของ บริษัท ทางผู้บริหารของ มิลค์กี้ เวย์ ได้เผยว่า “ในเรื่องของยอดขายของบริษัทเมื่อดูจากการเดินเข้ามาของตัวนักขาย และแม่ทีมที่ให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้แล้ว ตนคาดว่า ในช่วงปลายปีนี้ บริษัทจะสามารถคว้ายอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายที่บริษัทเชื่อว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เมื่อดูจากความนิยมของประชาชนที่มีต่อวงการขายตรง บ้านเรา”

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงความเห็นเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของบริษัทขายตรงหน้าใหม่ แล้วต้องปิดตัวลง ทางกรรมการผู้จัดการแบรนด์น้องใหม่นามนี้ ก็ได้กล่าวว่า “บรรดาบริษัทขายตรงที่เกิดขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะมีกระแสในช่วงต้นดีมากน้อยเพียง ใดแล้วต้องปิดตัวลง ก็เพราะว่าบริษัทเหล่านั้น มีฐานของบริษัทที่ไม่แข็งแกร่ง ขาดความรู้จริงในธุรกิจ ไม่มีความพร้อมที่ ดีพอ อีกทั้งยังไม่มีความจริงใจในการบริหาร ทำให้การปิดตัวเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง”

“ในส่วนของ มิลค์กี้ เวย์ เอง เรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้าง วางรากฐานของบริษัทให้มีความแข็งแกร่ง มีประสิทธิภาพ ที่มั่นคง และจากการที่บริษัทมีฐานเงินทุน ที่ดีรองรับ มีการศึกษาธุรกิจมานาน ทำให้ บริษัทมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า บริษัท มิลค์กี้ เวย์ จะสามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงในอนาคต” หัวเรือ มิลค์กี้ เวย์ เผย

บริษัท มิลค์กี้ เวย์ เป็นบริษัทขายตรงที่ใช้แผนการตลาดแบบ วิสสตรองค์ โดยในช่วงต้นของบริษัทในปีแรกนี้ ทางมิลค์กี้ เวย์ ได้วางงบการตลาดไว้ที่ 40-50 ล้านบาท ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อ ให้บริษัทมีชื่อเป็นที่รู้จัก โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

“ปัจจุบันขายตรงเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ทั้งจากภาครัฐและเอกชน สิ่งที่จะ ทำให้บริษัทอยู่ได้ คือความจริงใจ ซื่อสัตย์ ในการทำธุรกิจ และที่สุดคือความรู้ในการ ดำเนินธุรกิจ ซึ่ง มิลค์กี้ เวย์ มีความต้องการ ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงการธุรกิจขายตรง ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่าจะทำ ให้บริษัทเดินไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี เพราะความพร้อมในหลายๆ ด้านของ บริษัท” สุมิตร กล่าว

ทั้งนี้ มิลค์กี้ เวย์ จัดเป็นบริษัทขาย ตรงนามล่าสุดที่เกิดขึ้นมาในวงการ โดยบริษัทมีความคาดหวังที่จะสร้างมิติใหม่ให้เกิดขึ้นในวงการเครือข่าย ซึ่งผู้บริหารของบริษัทคาดฝันว่า ในอีกระยะเวลา 2-3 ปีหลังจากนี้ บริษัทจะกลายเป็นบริษัทพันล้านให้จงได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ. สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1268 ประจำวันที่ 21-1-2012 ถึง 24-1-2012

1 ความคิดเห็น: