ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ยุคทอง สินค้าฟิตกระชับ ชาย-หญิง สคบ.ปรามโฆษณาเว่อร์สรรพคุณลามกเจอดีแน่!


“ซัน คลาร่า” เป็นสินค้าฟิตกระชับที่ผลิตโดย “บริษัท เนเจอรัล เฮิร์บ อินดัสตรี่ จำกัด” มีเจ้าของคือ “ธรอรรถ ตรีธิติธัญ” มีส่วนผสมหลักคือ สมุนไพรที่มีชื่อว่า “อุ้มลูกดูหนัง” ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ชาวกะเหรี่ยงนิยมรับประทาน โดยมีคำกล่าวอ้างว่า ผู้หญิง ที่ทานสมุนไพรตัวนี้ ก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรง ในชนิดที่เรียกว่า ออกลูก ใหม่ๆ ไม่ต้องอยู่ไฟ ก็สามารถอุ้มลูก ไปดูหนังได้ตามปกติ จนเป็นที่มา ของชื่อเรียก

ช่วงแรก บริษัท เนเจอรัล เฮิร์บฯ ผลิตสินค้ารายการ นี้แล้วปล่อยให้บริษัทสตาร์ ซันไชน์ฯ เป็นผู้จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในวงการขายตรง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชื่อเสียงของสินค้าก็ดังเปรี้ยงปร้าง นำไปสู่การ ว่าจ้างผลิตของบริษัทอื่นที่เข้ามา จนแตกไลน์ สินค้าไม่ว่าจะเป็นชื่อ และ รูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ที่ เนเจอรัล เฮิร์บฯ ผลิตขึ้น

“ธัญญารัตน์ กาญจนปัญจพล” เป็น คนที่ชื่นชอบการรับประทานเค้กมาตั้งแต่เด็ก ทำให้หลังจากศึกษาจบปริญญาตรี ด้าน การตลาด จากรั้วมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึง เลือกเดินบนเส้นทางเจ้าของกิจการ ด้วยการตัดสินใจเลือกเรียนคอร์สการทำเบ เกอรี่ตามความชอบกับโรงแรมโอเรียนเต็ล 1 ปี ก่อนจะเริ่มต้นประกอบธุรกิจ สร้าง แบรนด์ “เบคกี้ เดอ บาคโค” ขึ้น ซึ่งมีความหมายตามความตั้งใจของเธอ คือ ผู้ที่ชื่นชอบ และคลั่งไคล้ในการทำขนมเค้ก 

ทั้งนี้ การตัดสินใจลงสนามการแข่งขันเบเกอรี่ที่มีผู้เล่นหลากหลาย ทำให้การเริ่มต้นของเบคกี้ เดอ บาคโค จึงต้องสร้างความแตกต่างด้วยการพัฒนาสูตรเค้กขึ้นใหม่ เป็นเค้กเพื่อคนรักสุขภาพ โดยเฉพาะกับเค้กแบบโฮมเมด ที่มีไขมัน และคอเลสเตอรอลน้อย เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับคนชอบทานเค้ก แต่กังวลเรื่องน้ำหนักเพิ่มที่จะตามมา และเริ่มทำตลาดแบบรับสั่งทำตามจำนวน 

สำหรับจุดเด่นของเค้กที่ร้านเบคกี้ เดอ บาคโค นอกจากจะทานแล้วไม่อ้วน เพราะประกอบด้วยเค้กในรูปแบบโลว์ แฟต ใช้ผลไม้สดเป็นวัตถุดิบหลัก มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ ส้ม กีวี่ แอปเปิล ลิ้นจี่ สับปะรด และมะพร้าว ทั้งยังมีเค้กประเภทช็อกโกแลต และชีส สำหรับลูกค้า ที่ไม่กังวลเรื่องน้ำหนัก ซึ่งได้รับความนิยม ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลต บลู เบอร์รี่ชีสเค้ก และยังมีเค้กครีม เช่น เค้ก ชาเย็น เค้กโอริโอ เป็นต้น ส่วนขั้นตอนการผลิตเค้กร้านเบคกี้ เดอ บาคโค จะใส่ใจตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีจากแหล่งคุณภาพ ความสด ใหม่ ที่ทำสดใหม่ทุกวัน ปราศจากวัตถุกันเสีย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประทานเค้กที่ดีที่สุด 

“เราต้องหาความต่าง เพื่อให้สินค้ามีจุดเด่น อาจจะเพราะครอบครัวมีคุณพ่อ เป็นแพทย์ เรื่องการปลูกฝังการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ จึงเห็นว่าถ้าเราทำเค้กแบบที่คำนึงถึงสุขภาพ คนน่าจะสนใจ จึงนำสิ่งที่เรียนมาปรับปรุงประยุกต์ เพื่อให้ได้สูตรที่ลงตัวอยู่พักใหญ่ กว่าจะได้เค้ก ที่ใช้น้ำมันข้าวโพดแทนการใช้ครีม และเนย ซึ่งเป็นสาเหตุของความอ้วน ใช้น้ำผลไม้สดเพื่อให้ได้เค้กที่รสชาติดี”

สำหรับกลุ่มลูกค้าหลัก ของร้านเบคกี้ เดอ บาคโค มีทั้งลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ พนักงาน ผู้ใหญ่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ซึ่งล้วนแต่เป็นลูกค้าประจำ และบอกต่อกันมาแบบปากต่อปาก ทำให้ร้านเค้ก เบคกี้ เดอ บาคโค อยู่ในตลาดมาถึง 5 ปีแล้ว 

ปัจจุบัน ร้านเบคกี้ เดอ บาคโคมี หน้าร้านอยู่ที่ถนนพระราม 4 สาขาเดียว แต่การดำเนินกิจการถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร อาศัยการทำตลาดแบบปากต่อปาก หลังจากที่ลูกค้าได้รับประทาน เค้กของที่นี่แล้ว ชื่นชอบรสชาติ และได้ประโยชน์กับร่างกาย ไม่ทำลายสุขภาพ จาก การคิดค้นสูตรที่ไม่ทำให้อ้วน

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวสินค้าจะดำเนิน ไปได้ดี แต่อุปสรรคสำหรับการดำเนินธุรกิจ ก็ย่อมมีเป็นธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ดังนั้น การพยายามบริหารจัดการ คือ คงคุณภาพสินค้าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

“เพราะเราตั้งใจทำของที่ดีให้กับลูกค้าได้ทาน ต้นทุนต่างๆ จึงค่อนข้างสูง แต่ถือเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถลดได้จริงๆ จึงต้องแบกรับจนถึงที่สุด เมื่อไม่สามารถแบกรับได้ไหว จึงได้ปรับขึ้นราคา ซึ่งลูกค้า ก็มีทั้งเข้าใจ และไม่เข้าใจ แต่เมื่อรู้ว่าราคา เพิ่มขึ้น แต่ยังคงคุณภาพของสินค้า รสชาติ ลูกค้าก็พอใจ”

เป้าหมายนับจากนี้ ธัญญารัตน์ บอกว่าต้องการจะให้เค้ก เบคกี้ เดอ บาคโค เสิร์ฟใกล้ลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะตามหัวเมืองต่างๆ จากการศึกษาพบว่า ลูกค้าประจำที่สั่งเค้กจากร้าน กระจายอยู่ทั่ว หัวมุมเมืองกรุงเทพฯ ดังนั้น การขยายโดยยกครัวไปยังสาขาด้วย เพื่อให้เค้กมีความสดใหม่เหมือนเดิม จะช่วยให้สินค้าเข้าถึงลูกค้า และเป็นการสร้างแบรนด์เบคกี้เดอ บาคโค ให้เป็นที่รู้จักอย่างเป็นวงกว้าง มากขึ้นด้วย

ดูเหมือนว่า สินค้าสำหรับท่านชาย และหญิง จะเป็นสินค้าขายดีตลอดกาลไปโดยปริยาย เพราะไม่ว่าจะยุคใดสมัยใด สินค้าประเภทที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องเพศ และการยกกระชับขยายสัดส่วนอวัยวะจุดสำคัญ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขายไม่ได้ และในทางกลับกัน สินค้าเหล่านี้ กลับขายดีขึ้นเมื่อปล่อย ให้เวลาล่วงเลยไป

กลุ่มธุรกิจขายตรงเป็นกลุ่มธุรกิจ แขนงหนึ่งที่ปัจจุบันใช้สินค้าฟิตกระชับ เหล่านี้เป็นเรือธงในการตามล่าคว้ายอดขาย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็ก กลาง หรือใหญ่ สินค้าเหล่านี้ ก็ดูจะเป็นกลุ่ม สินค้าขายดีของบริษัทที่ผลิตและจำหน่าย โดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา สินค้าฟิตกระชับกลายเป็นกลุ่ม สินค้าที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในนาม “ซัน คลาร่า”

ที่ผ่านมา สินค้าชื่อ “ซัน คลาร่า” สร้างกระแสจากการจัดจำหน่ายโดย “บริษัท สตาร์ ซันไชน์ จำกัด” ผ่านรูปแบบธุรกิจเครือข่าย ซึ่งในช่วงพีคสุด สินค้ารายการนี้ สามารถขายได้ถึง หลักแสนกล่องต่อเดือน สร้างยอดขายให้บริษัทถึง 400-500 ล้านบาทต่อเดือน ทำเอาบริษัท สตาร์ ซันไชน์ฯ ไม่จำเป็นต้องคิดหาสินค้าใหม่มาช่วยเพิ่มยอดขาย หรือสร้างตัวเลือกให้ผู้บริโภค

จากกระแสความแรงของ “ซัน คลาร่า” นี่เอง เป็นชนวนให้ บรรดาบริษัทขายตรงหลายรายพุ่งเป้าไปที่เรื่องของผลิตภัณฑ์ ฟิตกระชับดังกล่าว จนในท้องตลาดเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์นี้ ซึ่งจากที่ผ่านมา นับแค่บริษัทใหม่ๆ ที่ออกผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ ก็มีตั้งแต่ “บริษัท โอทู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ที่มีสินค้าชื่อ F-2 เป็นสินค้านางเอกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร 

โดยนายขวัญชัย ปิยะทัศน์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โอทู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนของการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์หลังจากบริษัท โอทูฯ เปิดบริษัทมาแล้ว 8 ปี โดยเริ่มหันมาทำสินค้า ด้านการเกษตรอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ขณะนี้บริษัทมีสินค้า ทางการเกษตรหลักๆ อยู่ประมาณ 4 รายการ ซึ่งแม้ในปีนี้ยังไม่มีแผนที่จะผลิตสินค้าในส่วนนี้เพิ่ม แต่บริษัทก็เริ่มหันมาผลิตสินค้าไลน์ใหม่ นั่นคือ ผลิตภัณฑ์เสริม อาหาร โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วโอทูได้ผลิตสินค้ากลุ่มอาหารเสริมสำหรับผู้หญิง ชื่อว่า F-2 ซึ่งเป็นสินค้าที่ประกอบด้วยสาร อาหารที่ออกฤทธิ์กระตุ้นการสร้างฮอร์โมน เพศ ควบคุมฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อ และควบคุมระบบการทำงานทุกส่วนของร่างกาย ให้เกิดความสมดุล

“บริษัทเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ F-2 เป็นครั้งแรกที่เมืองทองธานี ในงานฉลอง ความสำเร็จครั้งใหญ่ ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในครั้งนั้นขายผลิตภัณฑ์ F-2 ได้ประมาณ 2 แสนกล่อง ถือว่าน้อย เพราะปัจจุบันบริษัทมีฐานสมาชิกทั่วประเทศกว่า 8 แสน คน โดยในปีนี้โอทูตั้งใจทำสินค้าชนิดนี้ให้ติดตลาด ด้วยการใช้แผนโปรโมตต่างๆ เช่น การโฆษณาผ่านฟรีทีวีช่อง 3 ช่อง 5 โดย ใช้กลุ่มดารามาทำรายการ ไม่ว่าจะเป็นคุณ อิม อาชิตะ, คุณจิ๊ก เนาวรัตน์ ทั้งนี้การที่จะทราบว่าสินค้าแต่ละชนิดจะประสบความ สำเร็จมากน้อยแค่ไหน คงต้องรอเวลาพิสูจน์ อย่างน้อย 1 ปี” นายขวัญชัย กล่าว

สำหรับผลิตภัณฑ์ของ โอ ทู ที่มีชื่อว่า F-2 เป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มเสริมอาหาร สำหรับท่านผู้หญิง ที่ต้องการดูแลระบบการทำงานภายในร่างกายให้เป็นปกติโดย เฉพาะเรื่องของรูปร่าง ซึ่งมี “บริษัท เนเจอรัล เฮิร์บ อินดัสตรี่ จำกัด” เป็นผู้ผลิต

นอกจากทั้ง 2 ตัวสินค้าที่กล่าวมา สินค้าเสริมอาหารสำหรับท่านหญิง ในช่วง ที่ผ่านมา ยังคงเป็นหมู่สินค้าที่ได้รับความ นิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงต้นปีนี้ “บริษัท แอมริช กรุ๊ป จำกัด” โดย “เอกพิสิฐ บุญชะนะ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยังได้ทำการเปิดตัวสินค้าใหม่ ซึ่งอยู่ในกลุ่ม รายการเสริมอาหารสำหรับท่านหญิง

โดยใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ “ออไรท์” ซึ่งมีบริษัท เนเจอรัล เฮิร์บฯ เป็นผู้ผลิตสินค้าให้เหมือน 2 บริษัทที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งแอมริชฯ ได้ประมาณงบการตลาดในช่วงต้นในการสร้างกระแสสินค้าผ่านสื่อต่างๆถึง 80 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีความมั่นใจว่า สินค้าตัวนี้จะกลายเป็นกระแสและขายดี ในอนาคต

สคบ.ปรามอย่าโฆษณาลามก อย่างไรก็ตาม จากที่มีบริษัทขายตรงมากมายหลายแบรนด์เข้ามาเล่นสินค้าในกลุ่มนี้ นำมาซึ่งการแข่งขันที่รุนแรง ไม่ว่า จะเป็นนอกกติกา หรือในกติกา โดยเฉพาะ เรื่องของการโฆษณาสินค้า ที่มีการชูจุดเด่น ของสรรพคุณสินค้ามาเป็นจุดขายจนหลาย ครั้งทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ต้องออกมาสั่งห้ามปราม อยู่บ่อยๆ ซึ่งนอกจากการทำงานของอย.แล้ว ทางทีมข่าว “สยามธุรกิจ” ยังได้ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ถึงการควบคุมในส่วนนี้

โดยนายนพปฎล เมฆเมฆา รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยในประเด็นนี้ว่า จากประเด็น ดังกล่าว ทางหน่วยงานสคบ.มีหน้าที่ในการลงลึกถึงเนื้อหาว่า การที่บริษัทขายตรง บางบริษัทขายสินค้าเหล่านี้ มีเนื้อหาและสรรพคุณเชิงลามกอนาจารหรือไม่อย่างไร ซึ่งถ้ามีก็จะไม่อนุญาตให้ดำเนินธุรกิจ

“ต้องดูว่าสินค้าเหล่านั้น มีสรรพคุณ ส่อไปทางลามกหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นก็จะทำการเอาผิด หรืออีกทางคือ การโฆษณา ทางสคบ.ต้องดูว่าจะมีการโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณเกินไปหรือไม่อย่างไร ซึ่งหากผู้บริโภคพบเห็นการอวดอ้างเกินไป ผู้บริโภคก็สามารถร้องเรียนมาที่สคบ.ได้ โดยหน่วยงานถึงแม้ไม่มีหน้าที่ในเรื่องนี้ ก็จะประสานงานไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่ออีกที” รองเลขาธิการ สคบ. กล่าว

ด่วน! “นิโรธ” ลาออกทิ้งเก้าอี้เลขาธิการ สคบ. ทั้งนี้ นายนพปฎล ยังกล่าวถึงเรื่อง การลาออกของ “นิโรธ เจริญประกอบ” เลขาธิการสคบ. ว่า ขณะนี้ ท่านนิโรธได้ทำการลาออกจากการเป็นเลขาธิการสคบ. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจะมีผลเป็นทางการในช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

อนึ่ง จากมติคณะรัฐมนตรี (สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช) เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2551 ได้แต่งตั้งนายนิโรธ เจริญประกอบ รองเลขาธิการ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค แทน นางรัศมี วิศทเวทย์ ซึ่งได้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้นายนิโรธ เริ่มปฏิบัติงานเป็นเลขาธิการสคบ. ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 รวมระยะเวลาการทำงานของเลขาธิการผู้นี้ถึงปัจจุบัน คือ 3 ปี 8 เดือน

  ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1303 ประจำวันที่ 26-5-2012  ถึง 29-5-2012  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น