ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

(จอย แอนด์ คอยน์) J&C เร่งผลักดันห้างขายตรง ตั้งหลัก 3 ปี นำบริษัท สู่ ตลาดหลักทรัพย์


J&C เปิดตัวหนังโฆษณาชุดที่ 3 กับงบประมาณกว่า 2 ล้านบาท ผ่านฟรีทีวี และ ช่องดาวเทียม เน้นแผนโชว์ความหลากหลายด้านบริการ พร้อมประกาศเกิดแน่นอนห้าง-สรรพสินค้าของคนขายตรงงัดกลยุทธ์เด็ด E-wallet ช่วยสมาชิกทำงานได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา เล็งแผนเปิดตลาดเพื่อนบ้านอย่างเขมร ด้านแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ คาดอีก 3 ปี


ดร.สมชาย หัชลีฬหา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผย ถึงภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ว่า โฆษณาชุดนี้เป็นชุดที่ 3 ที่จะเริ่มออนแอร์เร็วๆ นี้ผ่านทางช่องฟรีทีวี และ ช่องเคเบิล ทีวี โดยเนื้อหาของโฆษณาชุดนี้สื่อถึงการบริหารและสินค้าที่หลากหลายของ จอย แอนด์ คอยน์ จะมีระยะเวลาออนแอร์ประมาณ 6 เดือน และ หลังจากนั้นก็จะเริ่มทำเป็นซีรี่ส์ใหม่ออกมา โดยหนังโฆษณาชุดนี้ได้ใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาท


สำหรับเป้ายอดขายสินค้าในปีนี้บริษัทตั้งเป้า 2,500 ล้านบาท ซิ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 500 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกของปีบริษัทเติบโต 25% ทั้งนี้ คาดว่าธุรกิจจะสามารถเติบโตขึ้นได้ทุกๆ ปี และเป็นไปตามกลไกที่บริษัทได้วางไว้


ในส่วนของการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้วางแผนไว้อีก 3 ปี ถึงจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเบื้องต้นได้ศึกษาข้อมูลในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ไว้บ้างแล้ว โดยการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อจัดหางบประมาณการลงทุนเป็นจำนวนมากมารองรับการเปิดห้างสรรพสินค้าขายตรงสะดวกซื้อที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้


พร้อมกันนี้บริษัทได้ตั้งเป้าเปิดห้างสรรพสินค้าขายตรงสะดวกซื้อให้ได้ 30-40 สาขาทั่วประเทศ โดยคาดว่าในระยะเวลา 5 ปี จะเปิดได้ 10 สาขา ใช้งบประมาณสาขาละ 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทได้จัดสรรงบประมาณบางส่วนจัดซื้อที่ดินไว้สำหรับสร้างห้างสรรพสินค้าดังกล่าวไว้แล้ว


อย่างไรก็ตามหากบริษัทสามารถที่จะจัดสรรงบประมาณได้จากที่อื่นหรือบริษัทสามารถสร้างกำไรได้มากพอที่จะนำงบมาสร้างห้างสรรพสินค้าเองได้อาจจะนำงบประมาณส่วนนั้นมาลงทุนทำห้างสรรพสินค้าก่อน และดูผลตอบรับจากผู้บริโภคหากได้รับผลตอบรับที่ดีและคุ้มค้าต่อการลงทุนบริษัทอาจจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เร็วขึ้นเพื่อระดมทุนให้ได้เร็วที่สุด


สำหรับการแข่งขันทางการตลาดในปีนี้บริษัทได้งัดกลยุทธ์การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ โดยสมาชิกสามารถทำงานผ่านอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านได้เลย ด้วยระบบ E-wallet การสมัคร E-wallet สมาชิกเติมเงินขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ก็สามารถรับสินค้าได้ทุกสาขา ซึ่งให้ทั้งความสะดวกสบายแก่สมาชิกและบริษัทรวมถึงผู้ค้าและผู้ผลิต


 


  ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:  นสพ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ค   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น