ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ดี เน็ทเวิร์ค (D-Network Worldwide) สร้างเซอร์ไพรส์ธุรกิจ ส่ง‘ขนมเยลลี่เสริมอาหาร’จับตลาดเด็ก


“ดี เน็ทเวิร์ค” จัดหนักผลิตภัณฑ์ใหม่ เข็น “ขนมเยลลี่เสริมอาหาร” เจาะตลาดเด็ก พร้อมวางขายเดือน พ.ค.นี้ มั่นใจยอดขายเดือนแรกมีลุ้นแตะหลัก 1 ล้านแน่นอน...เผยหลังทุ่มงบกว่า 10 ล้านซื้อลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ “SIMILE COSMETOLOGY” กระแสตอบรับเยี่ยมยอดจำหน่ายพุ่งถึง 700,000 -800,000 บาทต่อเดือน…แย้มเตรียมพบการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ปลายไตรมาสที่ 3 นี้แน่นอน 
วันนี้หากจะพูดถึงเครือข่ายขายตรงที่ชื่อ “บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด” แล้วล่ะก็ คงต้องนึกถึงสินค้าใหม่ๆ ที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการของสมาชิกและผู้บริโภคอย่างแน่นอน เห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมา เรียกได้ว่าแทบจะทุกเดือนที่ค่ายนี้มีสินค้าใหม่ออกมานำเสนอแก่สมาชิก 
...และล่าสุด “ดี เน็ทเวิร์ค” ก็ได้เตรียมปฏิวัติวงการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยการผุด “ขนมเยลลี่เสริมอาหาร” ที่ค่ายนี้บอกว่า ตนเองเป็นเจ้าแรกของธุรกิจขายตรงเลยก็ว่าได้ ซึ่งความพิเศษของสินค้าใหม่นี้จะเป็นเช่นไร “ตลาดวิเคราะห์” ได้รับการเปิดเผยจาก “สาคร ใสกมล” ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด ว่า   
ขณะนี้ ดี เน็ทเวิร์ค กำลังจะปฏิวัติวงการเสริมอาหารอีกครั้ง ด้วยการทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบของเยลลี่สำหรับเด็ก ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่เห็นเด็กรับประทานอาหารเสริมค่อนข้างยาก ทางบริษัทฯ จึงเล็งเห็นจุดนี้ และได้ทำการผลิตอาหารเสริมในรูปแบบเยลลี่ออกมา เพื่อให้เด็กรับประทานได้ง่าย เพื่อต้องการให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรง 
บริษัทฯ ต้องการให้เด็กทานอาหารเสริมได้ง่าย จึงนำสารอาหารต่างๆ ใส่เข้าไปในขนมแยลลี่ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้แบ่งสินค้าดังกล่าวออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ 1. กลุ่มเสริมอาหารเน้นเสริมสร้างการเจริญเติบโต สินค้าในกลุ่มนี้จะเป็นเยลลี่ที่มีส่วนผสมของแคลเซียมเข้มข้น รับประทาน 1 เม็ดเทียบเท่ากับนม 5 แก้ว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของโกรทโฮร์โมนเข้าไปเสริมสร้างให้ร่างกายเด็กเจริญเติบโตสมวัย
ส่วนกลุ่มที่ 2. คือ กลุ่มวิตามินและเกลือแร่ โดยมีการใส่วิตามินและเกลือแร่เข้าไปในขนมเยลลี่ เมื่อรับประทานเยลลี่ 1 เม็ดเทียบเท่ารับประทานผัก 5 กิโลกรัม รวมไปถึงการใส่เกลือแร่ทั้งหลายเข้าไป เด็กที่ไม่รับประทานผัก หากทานขนมเยลลี่เข้าไป ก็จะได้รับสารอาหารจากผัก
“ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบขนมเยลลี่นี้ จะมีการวางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งขณะนี้ บริษัทฯ ได้มีการเทสสินค้ากับเด็กบ้างแล้ว ผลปรากฏว่า เด็กชื่นชอบและได้รับการตอบรับที่ดีมาก การที่เราหันมาเจาะตลาดเด็ก อายุตั้งแต่ 1 -15 ปี เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่ เด็กในเมืองไทยมีถึง 20% ของประชากรทั้งหมด การเปิดสินค้าตัวนี้ถือเป็นการปฏิวัติวงการเสริมอาหารของเมืองไทย เราได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการขายตรงอีกครั้ง ผมเชื่อว่าเมื่อเปิดตัวสินค้าตัวนี้ยอดขายเดือนแรกของสินค้าตัวนี้ น่าที่จะแตะหลัก 1 ล้านบาทอย่างแน่นอน” 
นายสาคร กล่าวต่ออีกว่า ในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการเปิดตัว “SIMILE COSMETOLOGY” สกินแคร์ นวัตกรรมล้ำยุคอย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อไม่นานมานี้ ปรากฏว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค ส่งผลให้ยอดขายของ “SIMILE COSMETOLOGY” ขยับขึ้นมารั้งอันดับสองของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุด ซึ่งปัจจุบันสินค้าดังกล่าวสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 700,000 -800,000 บาทต่อเดือน
“ขณะนี้ บริษัทฯ ยังไม่ได้ทำการประชาสัมพันธ์ SIMILE COSMETOLOGY มากนัก แต่คาดว่าในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ จะมีการจัดงานเปิดตัวสินค้าตัวนี้อย่างยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน โดยบริษัทฯ ถือว่าสินค้าตัวนี้ จะเป็นสินค้าเรือธงของ ดี เน็ทเวิร์ค ด้วยเช่นกัน หลังจากที่บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณ 10 ล้านบาทซื้อลิขสิทธิ์มาเป็นของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งถือเป็นวงเงินสูงสุดในการซื้อลิขสิทธิ์สินค้าในกลุ่มสกินแคร์ของบริษัทเลย” 
นายสาคร กล่าวเสริมต่ออีกว่า แม้ว่าบริษัทฯ จะยังไม่มีการประชาสัมพันธ์มากนัก แต่หลังจากที่ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ “SIMILE COSMETOLOGY” ส่วนใหญ่ต่างเห็นผลลัพธ์ เนื่องจากสินค้าดังกล่าวมีส่วนผสมของโกรทแฟคเตอร์ ผนวกกับสเต็มเซลล์ 
“คุณสมบัติของโกรท แฟคเตอร์นั้นคือ จะทำให้โครงสร้างของผิวแข็งแรง ส่วนสเต็มเชลล์มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมผิว ถือเป็นการดูแลรักษาผิวพรรณอย่างเป็นธรรมชาติ โดยวัตถุดิบสินค้าตัวนี้นำเข้ามาจากยุโรป ผลิตโดยศูนย์วิจัยไต้หวัน ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้ทำการแจกสินค้าไปแล้วกว่า 500 กล่อง และเชื่อว่าหากบริษัทฯ โปรโมทสินค้าตัวนี้เต็มตัว น่าที่จะดันยอดขายมากกว่าที่เป็นอยู่อย่างน้อย 10 เท่าตัวด้วยเช่นกัน”
นายสาคร กล่าวทิ้งท้ายต่อว่า “ต่อไปบริษัทขายตรงจะต้องปรับตัวเข้าหาเรา เนื่องจากเรามี 5D ที่เสมือนเป็นบรรทัดฐานของขายตรงที่อยากประสบความสำเร็จ ในอนาคตขายตรงที่อยากประสบความสำเร็จจำเป็นจะต้องมีนวัตกรรมที่ทันสมัย และต้องทำให้เหนือกว่าขายตรงรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จในวงการ และน้องใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในวงการนี้ต้องทำให้ดีกว่ารุ่นพี่ หากไม่แล้วคงยากที่จะประสบความสำเร็จในวงการนี้ได้”

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 320 ประจำวันที่ 16 - 31 พฤษภาคม 2555         

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น