ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

‘แอมเวย์’ สาขาจีนยอดขายแตะแสนล. ชมสาขาไทยโมเดลการบริหารพาธุรกิจพุ่ง


“แอมเวย์” ประเทศจีนบุกภูเก็ต ขนสมาชิกผู้ประสบความสำเร็จเที่ยวไทยร่วม 1.6 หมื่นคน คาดเงินสะพัดในพื้นที่กว่า 2.5 พันล้านบาท พร้อมหยอดคำหวาน บอกสาขาไทย คือ โมเดลการบริหารจัดการที่ดีของบริษัท ชี้สาขาจีนโตตามเศรษฐกิจประเทศ หลังปีที่แล้วปิดบัญชีไว้ประมาณ 1 แสนล้านบาท ยอมรับต่อไปการเติบโต คงช้าลง เปิดแผนลงลึกในการเจาะลูกค้ากลุ่มใหม่ หวังปีนี้ “แอมเวย์” แดนมังกรโตเพิ่ม 15%

มร.มาร์ติน หลิว รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มประเทศจีน, ไต้หวัน และฮ่องกง ผู้อำนวยการสถาบันฝึกอบรม แอมเวย์ ประเทศจีน กล่าวว่า “การ ประชุมนักธุรกิจแอมเวย์ระดับสูงปี 2012 ที่จัดขึ้น ณ จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์ของแอมเวย์ประเทศจีน เพราะ มีสถิติผู้เข้าร่วมงานสูงสุดถึง 1.6 หมื่นคน”

“หลังจากที่บริษัทได้มีการประกาศออกไปว่า ในปี 2012 บริษัทจะนำสมาชิก ผู้ประสบความสำเร็จมาท่องเที่ยวประเทศ ไทย ทำให้สมาชิกเกิดการตื่นตัว เร่งขยาย งาน ขยายเครือข่าย เพื่อพิชิตโปรโมชั่นดังกล่าวกันอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ยอดขายของแอมเวย์ประเทศจีนเมื่อปีที่ผ่านมาแล้วโตเกินกว่า 10% ปิดยอดขายที่ 3,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท”

ส่วนเหตุผลที่บริษัทเลือกจังหวัดภูเก็ต เป็นสถานที่จัดงานเพราะภูเก็ตมีชื่อเสียงทาง ด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมชาติทางทะเลที่คนจีนชื่นชอบ เป็นพิเศษ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ทางแอมเวย์ ประเทศจีนใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อให้สมาชิกนักธุรกิจระดับสูงกว่า 1.6 หมื่นคน ที่ได้รับสิทธิในครั้งนี้รู้สึกประทับใจ มากที่สุด ให้พวกเขารู้สึกคุ้มค่ากับการทำงาน ที่เหนื่อยมาตลอดทั้งปี และบริษัทคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตนักธุรกิจคนอื่นๆ โดยเฉพาะสมาชิกแอ็กทีฟที่มีประมาณ 4 แสนคน จะได้รับสิทธิพิเศษเช่นนี้ต่อไป 

ทั้งนี้ มร.มาร์ติน ยังได้แสดงความคิดเห็นถึงการบริหารจัดการของธุรกิจแอมเวย์ประเทศไทยว่า “ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่ดีที่สุดประเทศหนึ่งในการบริหารจัดการธุรกิจแอมเวย์ ดังจะเห็นได้จากอัตรา การเติบโตอย่างต่อเนื่องของยอดขาย ซึ่งความสำเร็จเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากการมี ผู้บริหารที่มีศักยภาพ มีวิสัยทัศน์ และความ ทุ่มเทให้กับการทำงาน รวมถึงผู้บริโภคที่ให้ ความใส่ใจในการดูแลสุขภาพและการเลือก ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี”

ส่วนภาพรวมของตลาดแอมเวย์ประเทศจีน มร.มาร์ติน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาแอมเวย์ประเทศจีน เติบโตตามเศรษฐกิจของประเทศ คือ แม้ประเทศจีนจะเปิดประเทศพัฒนาภายหลังประเทศไทย แต่ตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจีนก็พัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจต่างๆไม่เฉพาะกิจการแอมเวย์พัฒนาตามไปด้วย 

อย่างไรก็ดี นับจากนี้เป็นต้นไปตนคิดว่า อัตราการเติบโต หรือ GDP ของประเทศ อาจจะเริ่มโตช้าลง เพราะฉะนั้น แอมเวย์จีน จึงมีนโยบายทำการตลาดเชิงลึก แสวงหากลุ่มลูกค้าจากชั้นบนลงไปให้มีความหลากหลายมากขึ้น อีกประการหนึ่ง คือการเน้นเจาะกลุ่มลูกค้า Gen Y หรือนักธุรกิจกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น โดยเน้นการพัฒนาเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ที่อยู่ในความสนใจของกลุ่มคนเหล่านี้ และสุดท้าย คือการเน้นการทำกิจกรรม เพื่อให้สมาชิกเข้าถึงเป้าหมายยอดขายมากขึ้น โดยปีนี้บริษัท ตั้งเป้าการเติบโตอีก 15% 

“เราปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้ ศักยภาพของ ผู้ซื้อโตตามเศรษฐกิจของประเทศ คือ เศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนก็มีความรู้มากขึ้น ทำให้ประชาชนมีอำนาจในการตัดสินใจ พวกเขาสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ตามความต้องการของตนเอง ดังนั้นการดำเนิน ธุรกิจ ณ วันนี้ตนจึงมองว่าเราต้องแข่งกับตัวเองให้มากที่สุด แต่อย่างไรก็ดี สินค้าของแอมเวย์ก็เติบโตขึ้นทุกๆ ปี นั่น แสดงให้เห็นว่า แอมเวย์ได้รับความไว้วางใจจาก ผู้ใช้และผู้บริโภค” มร. มาร์ติน กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายธงชัย ศรีดามา กรรมการปฏิบัติ หน้าที่แทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า สสปน.ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ จ.ภูเก็ต ให้การต้อนรับกลุ่มอินเทนซีฟของบริษัท แอมเวย์ ประเทศจีน ประมาณ 16,000 คน ที่เข้ามาร่วมงานและท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 15 เมษายน-15 พฤษภาคม คาดว่าช่วง 1 เดือนนี้จะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในภูเก็ตมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 2,500 ล้านบาท 

“สสปน. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่เป็นผู้ผลักดันและเป็นผู้ให้การสนับสนุนหลักของอุตสาหกรรมการจัดประชุม การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ซึ่งการจัดงานประชุม ของกลุ่มแอมเวย์ จากประเทศจีนในครั้งนี้ จึงนับเป็นการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อ เป็นรางวัลของนักธุรกิจชั้นนำในรูปแบบองค์กร ครั้งประวัติศาสตร์ เพราะอัตราการใช้จ่ายของผู้เดินทางในกลุ่มธุรกิจนี้มีอัตราสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 2-3 เท่า จึงทำให้เกิดการ กระจายรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม”

ทั้งนี้ สสปน.ได้มีการสนับสนุนด้าน งบประมาณตลอดจนการประสานงานทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต การท่าอากาศยาน สำนักงาน ตำรวจ โรงแรม และบริษัทขนส่งต่างๆ โดย ทางคณะทำงานประมาณการรายได้จากจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 1.6 หมื่นคน จะ สร้างรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศกว่า 2,500 ล้านบาท

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ขายตรง   ฉบับที่ 1300 ประจำวันที่ 16-5-2012  ถึง 18-5-2012       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น