ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

10 ปี ‘J&C (จอยน์ แอนด์ คอยน์)’ ผงาดสมอ้าง ผุดห้างฯปูทางเข้าตลาดหุ้น


“จอยแอนด์คอยน์ฯ” สร้างความฝันห้างฯ ขายตรงสะดวกซื้อบรรลุเป้าหมาย “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ทุ่มทุนสร้างครั้งใหญ่ ด้วยการกว้านซื้อที่ดินทั่วประเทศเพื่อสร้างสาขาเพิ่มอีกเพียบหลังเปิดนำร่องสำเร็จมาแล้วเกือบ 40 สาขา พร้อมรุกฆาตต้อนรับเขตการค้าเสรีปี 2558 ด้วยการเปิดสาขาที่กัมพูชา และมาเลเซีย ยอดขายกระฉูด สั่นสะเทือนวงการอีกครั้งผุดห้างฯ ขายตรงต้นแบบบนที่ดินกว่า 2 ไร่ หลายพันตารางเมตรด้วยทุนสร้างกว่า 100 ล้านบาท ใกล้สำนักงานใหญ่ แถมเล่นเกมรุกกลุ่มคนรุ่นใหม่ เขย่าหัวใจให้รู้จักระบบเครือข่าย ด้วยหนังโฆษณาใหม่พร้อมออนแอร์ฟรีทีวีและทีวีดาวเทียมเต็มอัตราศึก เชื่อปี 2555 นี้สร้างยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท ก้าวต่อไปพบกันในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ถ้าไม่เห็นกับตาอาจไม่มีใครเชื่อกับแนวคิดฉีกมิติของ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ประธานกรรมการ บริษัท จอย แอนด์ คอยน์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (J&C) กับการตั้งธงธุรกิจขายตรงแนวใหม่ ภายใต้ปนิธานที่ว่า “ขายตรงสะดวกซื้อ อาชีพที่เป็นไปได้ ทำง่ายและมั่นคง”

กว่า 3 ปี กับแนวคิดที่ว่านี้ ได้ถูกนำเสนอออกสู่สาธารณชนทั้งผ่านทางสมาชิก และสื่อต่างๆ พร้อมคำถามมากมายจากผู้คนหลากหลายในวงการถาโถมเข้าใส่ว่า “มันจะเป็นไปได้อย่างไรขายตรงสะดวกซื้อ ขายตรงก็คือขายตรง มีสินค้าไม่กี่รายการก็สามารถทำตลาดได้แล้ว ถ้าใช้สินค้าเป็นพันๆ รายการ สมาชิกจะไปอธิบายสรรพคุณสินค้าให้ผู้บริโภคฟังทั่วถึงได้อย่างไร”

แต่ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ก็ยังพยายามที่จะสร้างตำนานหน้าใหม่ให้กับวงการขายตรงไทย ภายใต้เป้าหมายที่แน่วแน่และมั่นคงว่า “สินค้าขายตรงมันต้องมีหลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการจับจ่าย ไม่ใช่ไปจำกัดอยู่แค่เพียงไม่กี่รายการ เพราะสินค้าในระบบขายตรงบางอย่างมันมีไทม์มิ่งหรือเวลาของมัน”



ผุดห้างฯ MLM สะดวกซื้อ

รองรับแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์

การขายความคิดใหม่ๆ ที่ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ได้พยายามขับเคลื่อนอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่แค่เพียงความเลื่อนลอย หรือชกลมอยู่กลางอากาศ เขาได้สร้างปรากฏ การณ์แนวใหม่ให้กับวงการขายตรงไทยต้องจับตามองอย่างไม่กะพริบ

นั่นคือ การเปิดร้าน “จอยมาร์ท” ซึ่งตอนหลังได้เปลี่ยนเป็น “J&C” มีสินค้านับหมื่นรายการไว้บริการสมาชิก หรือถ้าใครนึกภาพไม่ออกก็ให้มองไปที่ร้าน “7 อีเลฟเว่น” ของกลุ่มบริษัท ซีพี. ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 5,500 สาขาทั่วประเทศ

“จอยมาร์ท” ของบริษัท จอยแอนด์คอยน์ฯ ก็ถูกจำลองคล้ายๆ กับร้านค้าดังกล่าวนั่นเอง ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงไทยเพียงค่ายเดียวที่สามารถรวบรวมสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าสู่ระบบขายตรงหลายรายการได้สำเร็จ

แต่มีความเหนือกว่าตรงที่ว่า สมาชิกที่ซื้อสินค้าใน “จอยมาร์ท” หรือ “J&C” สมาชิกสามารถสะสมคะแนนเพื่อรับผลตอบแทนได้

เรื่องนี้ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” มักจะพูดกับสมาชิกเสมอๆ ว่า “แปลงรายจ่ายให้เป็นรายรับ” ซึ่งตรงนี้ที่ร้าน “7 อีเลฟเว่น” ไม่มี...จนกลายเป็นประโยคติดปากของบรรดาสมาชิกค่ายนี้กว่า 800,000 คน ไปโดยปริยาย

กลยยุทธ์การตลาดที่ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ได้นำออกมาใช้เป็น “หมัดเด็ด” ท่ามกลางสมรภูมิเดือดในวงการขายตรงไทย คือ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริโภค ให้สัมผัสความเป็น “นักธุรกิจมืออาชีพ” เครือข่ายมากกว่า ที่จะไป “โฟกัส” นักขายให้นำเสนอสินค้าเพียง 1-2 รายการ เท่านั้น

“นั่นอาจหมายความว่า ถ้าสินค้านั้นมีการผลิตออกมาแข่งขันกันจำนวนมาก อารมณ์ของผู้บริโภคก็จะแปรเปลี่ยนไป ในที่สุดสินค้าที่ว่าก็จะอยู่ในตลาดนั้นได้ไม่นาน นักขายก็จะเริ่มนับหนึ่งใหม่ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ นี่คือ การเหนื่อยซ้ำซาก ที่คนทำอาชีพเครือข่ายในเวลานานๆ ไม่ควรเผชิญกับเรื่องเดิมๆ อย่างไม่มีจุดจบ”
“ดร.สมชาย หัชลีฬหา” แม่ทัพใหญ่ บริษัท จอยแอนด์คอยน์ฯ ยังกล้าหาญชาญชัยคิดการใหญ่กระชากใจสมาชิกเพิ่มเข้าไปอีก นั่นคือ...

“ผมมีแผนจะนำบริษัท จอยแอนด์คอยน์ฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ เรื่องแบบนี้จะมาพูดกันลอยๆ ไม่ได้ ขณะนี้ผมได้รุกคืบหน้าเข้าไปทุกขณะ ด้วยการสร้างสาขาอยู่ทั่วประเทศ บริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด ปัจจุบันมีเกือบ 40 สาขา แต่ละสาขามีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 1,000 ตร.ม. และยังได้กว้านซื้อที่ดินทำเลสวยๆ ในจังหวัดต่างๆ อีกว่า 10 แห่ง เพื่อสร้างห้างฯ ขายตรงสะดวกซื้อ (โมเดิร์นเทรด) ให้กระจายไปทั่วทุกจังหวัด ผมศึกษามาแล้วการที่บริษัทขายตรงจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ จะต้องมีทรัพย์สินที่สามารถการันตีได้ว่า บริษัทนั้นๆ มีความมั่นคงแน่นอน จะอาศัยแค่ภาพ และยอดขายเพียงอย่างเดียวไม่ได้”



ชูฐานลงทุนธุรกิจที่มั่นคง

เป็นแรงส่งสมาชิกมั่งคั่ง

“ดร.สมชาย หัชลีฬหา” ยังกล่าวอีกว่า นี่เพิ่งครบรอบปีที่ 10 ก้าวขึ้นสู่ปีที่ 11 บริษัทฯ ได้วางรากฐานอันมั่นคงมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่เรามีสำนักงานเป็นของตัวเอง มีโรงงานผลิตสินค้าบางรายการเป็นของตัวเอง และมีการลงทุนเปิดสาขากระจายเกือบทั่วประเทศด้วยเงินลงทุนของตัวเอง นอกจากนี้ก็กำลังสร้างห้างฯ ขายตรงบนพื้นที่กว่า 2 ไร่ เพื่อเป็นโมเดลหรือแม่แบบ ซึ่งตามสาขาหลักๆ ในต่างจังหวัดก็จะใช้รูปแบบอาคารดังกล่าว

ในธุรกิจขายตรงถ้าเข้าใจแล้ว และเข้าใจความต้องการของลูกค้า เอาสิ่งเหล่านี้ไปนำเสนอ หยิบยื่นส่งมอบ ทำให้เขาเห็นคุณค่าร่วมกัน และเขาก็มาร่วมในเครือข่าย เมื่อบริษัทฯ มีเครื่องมือดีๆ ลูกค้าก็จะไม่จากไป ยังบริโภคซ้ำเรื่อยๆ เครือข่ายก็จะเติบโตมากและมั่นคง ไม่ว่าบริษัทไหนมีเครื่องมือ และท่านจะอยู่ในบริษัทไหน ก็อย่าเลิกโดยเร็ว อย่าเปลี่ยนใจโดยง่าย เพราะสุดท้ายถ้าท่านเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เครือข่ายที่สร้างมาก็ไม่โต เหมือนก่อเจดีย์ทรายกลางริมทะเล พอคลื่นซัดมาก็หาย แล้วก็ต้องก่อใหม่ ถ้าเราสร้างในทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม อย่าไปในแหล่งที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนใจบ่อย เมื่อลงมือทำก็ต้องค่อยๆ ขึ้นไป ก็จะสำเร็จได้ในอนาคต

“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จอยแอนด์คอยน์ฯ มีอัตราการเติบโตคงเส้นคงวาทุกปี น้ำท่วมก็ไม่มีผลกระทบก็ยังได้ตามเป้าเช่นเดิม อย่างปีที่ผ่านมาจำนวนสมาชิกใหม่เราเพิ่มขึ้นกว่า 30% ยอดขายเติบโตเกือบ 30% จะเห็นว่า อัตราการโตของเราอยู่ในระบบขึ้น 20–30% สม่ำเสมอทุกปี และจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นก็สะท้อนให้เห็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นด้วย การบริโภคก็เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีการบริโภคอย่างต่อเนื่อง เพราะคนที่บริโภคไม่ใช่แค่คนเก่าเท่านั้น คนใหม่ก็เพิ่มขึ้นด้วย จำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นในอัตราส่วนที่น่าพอใจ”



บุกตลาดต่างประเทศ

รับเกมแข่งขันการค้าเสรี

“ดร.สมชาย หัชลีฬหา” กล่าวอีกว่า ในปี 2558 นี้ ตลาดอาเซียนจะเข้าสู่เขตการค้าเสรี คือ เรื่องของภาษีเป็นศูนย์ กลไกการแข่งขันในแถบนี้จะเข้มข้นมากขึ้น ถ้าเราไม่เตรียมตัวรองรับก็จะเจอปัญหาตามมา อย่างบริษัทขายตรงต่างประเทศก็เข้ามาเปิดในไทยมากมาย แต่ของไทยกลับไปปักฐานที่ต่างประเทศในอัตราที่น้อยมาก

“จอยแอนด์คอยน์ฯ ได้มองเห็นความสำคัญตรงนี้ จึงได้ไปเปิดสาขาที่กัมพูชา มาเลเซีย และอีกหลายประเทศในแถบเอเชีย ผลตอบรับหรือยอดขายแต่ละประเทศเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ตอนนี้ผมได้รับเชิญไปเป็นอาจารย์สอนที่ม.ศรีปทุม เกี่ยวกับเรื่องการจัดการ และธุรกิจระหว่างประเทศ การลงทุนระหว่างประเทศ เป็นหลักสูตรแบบเข้มข้น สอน 8 สัปดาห์ อย่างผมเจอกับปัญหาว่าเข้าไปลงทุนในต่างประเทศแล้วเป็นอย่างไร ก็ต้องมาดูเรื่องของวัฒนธรรม หรือองค์ประกอบอีกมากมาย เรื่องของการทำอาชีพขายตรงเหมือนต่างชาติมาบ้านเราส่วนใหญ่ก็ไปไม่ได้เพราะฝรั่งไม่เข้าใจคนไทย ยกเว้นที่ฝรั่งจ้างคนไทยทำก็อีกเรื่องหนึ่ง”

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมออกโฆษณาชุดใหม่ เพื่อเปลี่ยนให้คนรุ่นใหม่รับรู้ถึงความลงตัวในอาชีพเครือข่ายขายตรง ทุกวันนี้คนที่เข้ามาส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน ค่อนข้างอายุมาก เหตุที่เขาเลือกอาชีพขายตรงเพราะเขาได้ผ่านอาชีพอื่นมาหมดแล้ว แต่ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่อย่างเดียวส่วนใหญ่อยู่ไม่นาน เพราะเขายังมีตัวเลือก มีโอกาสไปทำอย่างอื่น



ปล่อยหนังโฆษณาชุดใหม่

ดึงคนรุ่นใหม่ทำขายตรง

ฉะนั้น เราเพียงแค่ทำให้เห็นว่าองค์กรไม่ได้เป็นองค์กรที่ล้าสมัย เป็นองค์กรทันสมัย ส่วนคนที่จะมาทำเป็นรุ่นใหม่ รุ่นเก่า เราก็ไม่ได้คาดหวัง แต่เราเชื่อว่าคนรุ่นกลางคนที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วดี เพราะสมาชิกมี 2 ประเภท ทั้งสมาชิกรุ่นใหม่ และสมาชิกรุ่นเก่าที่ผ่านประสบการณ์มาเยอะ และเราค่อนข้างเชื่อเลยว่าคนรุ่นเก่าคือกำลังสำคัญ ทำอะไรก็สำเร็จ เพราะทำอะไรทำจริง ทำนาน และไม่เลิก เพราะผ่านประสบการณ์มาแล้ว ล้มไม่ได้แล้ว แต่ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่ เข้าเร็วออกเร็ว ตัดสินใจเร็ว แล้วเลิก อีก 3 วันไม่เอาแล้ว สิ่งนี้ก็เป็นปัญหาเช่นกันสำหรับบริษัทขายตรงที่เจอกลุ่มคนเหล่านี้ ยอดอาจขึ้นเร็ว แต่แป๊บเดียวก็ร่วง

“หนังโฆษณาชุดใหม่ก็คงจะออนแอร์เลย ต่อเนื่องประมาณ 6 เดือน ทั้งฟรีทีวีและทีวีดาวเทียม โดยหนังชุดนี้เป็นชุดที่ 3 คาดว่าปีนี้น่าจะมียอดขายอยู่ที่ 2,500-3,000 ล้านบาท จากอดีตที่ผ่านมา จอยแอนด์คอยน์ฯ ทำให้ผู้คนสำเร็จได้มากมาย และความสำเร็จตรงนี้เป็นเครื่องยืนยันให้ทุกคนสามารถเข้าถึงความสำเร็จได้ง่ายอย่างที่เราพูด ด้วยระบบ ด้วยเครื่องมือ ด้วยระบบฝึกอบรม ด้วยเทคโนโลยีออนไลน์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเข้ามาสื่อสารให้ดี หรือว่าจะเอามารวมต่อจากนี้ไป บอกเลยว่า ทุกคนเข้าถึงความสำเร็จโดยไม่ยาก เพราะสิ่งที่จะทำจากนี้ไปเป็นสิ่งที่จะนำไปสู่อาชีพขายตรงจริงๆ เพราะสิ่งที่ทำมีเรื่องเดียวทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จโดยง่าย เชื่อมั่นว่า เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทุกคนจะเห็นคุณค่า และได้ใช้มันนี่คือ เป็นตัวอย่างคนที่สำเร็จ และอีกมากมายที่อยากประสบความสำเร็จ เราได้สร้างโอกาสที่ได้ใช้เครื่องมือนี้ และมีโอกาสที่เป็นไปได้และมั่นคง นับเป็นโอกาสความสำเร็จที่ไม่รู้จบ” ดร.สมชายกล่าว


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 320 ประจำวันที่ 16 - 31 พฤษภาคม 2555       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น