ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

"ขายตรง"รับตลาดโต ทุ่มแย่งตัวนักขายอุตลุด แอมเวย์-กิฟฟารีน-มิสทิน อัดรางวัลจูงใจขยายฐาน


ขายตรงคึกคักรับตลาดโต ค่ายใหญ่เดินเกมเพิ่มรายได้จูงใจสมาชิกใหม่-ขยายฐาน เผยหน้าใหม่เล่นแรงแย่งสมาชิก "แอมเวย์" ปรับผลตอบแทนกระตุ้นนักธุรกิจ "กิฟฟารีน" ไม่น้อย หน้าเพิ่มอินเทนซีฟ 2 เท่า "มิสทิน" งัดโครงการออมทรัพย์รักษาสมาชิกเดิม เอสเนเจอร์เพิ่มทริปท่องเที่ยว "คังเซน" เล็งเพิ่มสิทธิประโยชน์สูง




นายอิทธิศักดิ์ อำพันยุทธ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คังเซน เคนโก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะนายกสมาคมการขายตรงไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ธุรกิจขายตรง ปี 2555 ยังมีแนวโน้มเป็นบวก เนื่องจากจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มสูงขึ้นและความต้องการรายได้เสริม เชื่อว่าภาพรวมสิ้น ปีนี้จะเติบโตได้ 10% หลังจากปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและเศรษฐกิจ ทำให้เติบโตเพียง 5-7% หรือมีมูลค่า 65,000 ล้านบาท 

ด้านภาพการแข่งขันมีแนวโน้มว่าทุกค่ายจะหันมาเร่งสร้างยอดขายตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากความไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะมีอะไรเข้ามากระทบหรือไม่ ประกอบกับหลาย ๆ บริษัทอั้นการออกแคมเปญมาตั้งแต่ปลายปีเนื่องจากน้ำท่วม 

ขณะที่แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ประเมินว่า ธุรกิจขายตรงจะยังเติบโตได้ดี เพราะความต้องการอาชีพเสริมจำนวนมาก ขณะที่ภาพลักษณ์ขายตรงก็เป็นที่ยอมรับมากขึ้น 

เช่นเดียวกับ นายบัญชา เหมินทคุณ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านธุรกิจเครือข่ายเอสเนเจอร์ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) แสดงความเห็นว่า จากศักยภาพของตลาดขายตรงใน เมืองไทยที่จะยังเติบโตได้อีกมาก ทำให้มีรายใหม่ ๆ สนใจที่จะกระโดดเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง และปีนี้ก็จะมีอีกหลายบริษัททั้งบริษัทใหญ่ ๆ ของต่างประเทศ อาทิ สหรัฐ และขายตรงของคนไทย

แหล่งข่าวจากวงการขายตรงอีกรายหนึ่งกล่าวว่า ปีที่ผ่านมามีบริษัทขายตรงใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาก แต่ในแง่การเติบโตของสมาชิกผู้จำหน่ายอิสระไม่มาก ทำให้ตลาดมีการแข่งแย่งตัวสมาชิกกันค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการจ่ายผลตอบแทนเพื่อจูงใจ เพื่อรีครูตสมาชิกทั้งที่เป็นคนที่เคยทำขายตรงมาก่อนหรือคนที่ยังไม่เคยทำขายตรง และมีกลุ่ม นักศึกษาจบใหม่หรือคนรุ่นใหม่เป็น เป้าหมาย

"แอมเวย์" นำร่องปรับรายได้

จากการสำรวจความเคลื่อนไหวของตลาดขายตรงล่าสุดพบว่า บนเฟซบุ๊กของบริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) ได้โพสต์ข้อความว่า "ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์จะเริ่มใช้อัตราการจ่ายผลตอบแทนใหม่ (Profitability Index หรือ PI) ซึ่งเป็นการปรับดัชนีผลตอบแทนนักธุรกิจแอมเวย์ใหม่จาก 1:2.75 เป็น 2.87 (จำนวนคะแนน:ผลตอบแทนที่จะได้รับ) ซึ่งจะทำให้สมาชิกได้รับผลตอบแทน เพิ่มขึ้น หลังจากปรับครั้งล่าสุดไปเมื่อ ปี 2552" 

รายงานข่าวจากบริษัทแอมเวย์ระบุว่า การปรับดังกล่าวเป็นการปรับให้สอดคล้องกับภาวะเงินเฟ้อและค่าครองชีพเพิ่มขึ้น และการแข่งขันในตลาด ซึ่งจะช่วยสร้างกำลังใจให้กับนักธุรกิจที่มีความทุ่มเทในการทำงาน ก็จะได้รับผลตอบแทนมากขึ้น 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ แอมเวย์ได้แถลงถึงผลประกอบการปี 2554 ว่า ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขาย 15,500 ล้านบาท เติบโต 8% ซึ่งเป็นผลมาจากทำตลาดที่สอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพและใส่ใจรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น 

รวมทั้งแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดตลอดทั้งปี และกิจกรรมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่ โดยปีนี้แอมเวย์ ก็มีแผนจะนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาใช้อย่างต่อเนื่อง

"กิฟฟารีน" เพิ่มอินเทนซีฟ 2 เท่า

แพทย์หญิงนลินีกล่าวว่า ปีที่ผ่านมากิฟฟารีนปิดยอดขายที่ 5,488 ล้านบาท หรือเติบโต 11.7% ปีนี้ตั้งเป้าที่ 6,000 ล้านบาท โดยวางแผนรุกตลาดด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและ ความงาม และจะสร้างกระแสผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นยอดตลอดทั้งปี

"ตั้งแต่ต้นปีบริษัทได้ปรับแผนการจ่ายผลตอบแทนตามแผนยูนิ-เลเวลเป็น 1% จากเดิม 0.5% สำหรับผู้บริหารระดับสูงหรือพาราไดซ์ ซึ่งมีอยู่กว่า 2,000 รหัส คาดว่าจะกระตุ้นสมาชิกระดับต้น ๆ ให้มีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น ซึ่งกิฟฟารีนมีสมาชิก 6 ล้านรหัส ในจำนวนนี้เป็นนักธุรกิจประมาณ 5 แสนรหัส"

นายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัทกิฟฟารีนฯ กล่าวเสริมว่า บริษัทตั้งเป„าการเติบโตไมˆต่ำกวˆาปีละ 10% และได้เตรียมงบฯตลาดไว้ที่ 60-90 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทำการตลาดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เพื่อรองรับการฉลองครบรอบ 16 ปีในวันที่ 10 มีนาคม 

โดยปีนี้มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ 210 รายการ ซึ่งในแง่การแข่งขันปีนี้น่าจะคึกคักขึ้น โดยกำลังวางแผนว่า ควรจะมีอินเทนซีฟพิเศษอะไรเพิ่มเติม หรือไม่ 

ส่วนแคมเปญได้รับการตอบรับดีก็คง จะปรับให้ดีขึ้น การจัดกิจกรรมปีที่แล้วค่อนข้างถี่ ปีนี้ก็คงถี่เหมือนเดิม

"คังเซน-มิสทิน" เร่งปรับแผนสู้

ส่วนขายตรงคังเซน นายอิทธิศักดิ์ยอมรับว่า มีแผนจัดแคมเปญออกมาเป็นระยะ ๆ ทั้งในแง่ของสินค้า บริการ คุณภาพการอบรม รวมถึงโปรโมชั่น ท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่มสิทธิประโยชน์บัตรสมาชิก อาทิ การใช้คะแนนสะสมสำหรับซื้อสินค้าใน ราคาพิเศษ เป็นต้น คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมาชิกเดิมและสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น

ด้านขายตรงเอสเนเจอร์ นายบัญชาย้ำว่า ปีนี้ยังรุกเต็มที่ โดยเพิ่ม แคมเปญทริปท่องเที่ยวพิเศษอีก 1 ทริป จากปกติจัด 2 ทริปต่อปี พร้อมปรับ แผนอินเทนซีฟและเพิ่มการจ่ายผลตอบแทนให้กับนักธุรกิจระดับต้น ๆ ให้ได้รับผลตอบแทนทั่วถึงขึ้น คาดว่า การจ่ายคอมมิสชั่นในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 5-10%

"ปรับเพื่อรองรับการแข่งขันจากรายใหม่ที่เข้ามา สมาชิกทำธุรกิจได้คล่องตัวและง่ายขึ้น จูงใจให้สมาชิกผู้บริโภคตัดสินใจเข้ามาเป็นนักธุรกิจ แทนการบริโภคอย่างเดียว รีครูตสมาชิกใหม่และกระตุ้นสมาชิกเดิมให้มีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง"

ขณะที่แคมเปญแจกทองของเบทเตอร์เวย์ได้รับการตอบรับจาก สาวมิสทินอย่างดี แต่ปีนี้ นายสืบวงศ์ โรจน์วานิช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ฟรายเดย์ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจัดแคมเปญทองมา 2 ปี ปีนี้ได้เปลี่ยน เป็นโครงการครอบครัวออมทรัพย์ ซึ่งสมาชิกจะได้รับเงินออมทรัพย์พิเศษ 10,000 บาท เมื่อครบ 3 ปี 

และจะมีเงินปันผลจากเปอร์เซ็นต์การขายของสมาชิกแต่ละคน คาดว่าจะกระตุ้นสมาชิกใหม่ได้ 5-10% และสมาชิกเดิมรู้สึกว่าเป็นธุรกิจที่มั่นคงและมีการซื้อต่อเนื่อง


อ้างอิงจาก :: นสพ. ประชาชาติธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น