ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

“สคบ. – อย. – กสทช. “ ผนึกพลัง! ฟันขายตรงทีวีดาวเทียมโม้เกินจริง


เชือด! “3 โฆษณาทีวีดาวเทียม” โม้สรรพคุณเกินจริง “ไร้ใบอนุญาต” 3 หน่วยงานรัฐ “กสทช.-สคบ.-อย.” ผนึกพลัง เตรียมลุยงานต่อเนื่อง เผย ปัจจุบันจากรายการดาวเทียมกว่า 400 ช่อง พบโฆษณาเข้าข่วยผิดกฏหมายสูงมากกว่า 100 ช่อง “นิโรธ” ขู่! หากพบขายตรงไหนถูกร้องเรียน แล้วเข้าข่ายมีความผิดจริง นอกจากถูกส่งเรื่องดำเนินคดีพร้อมแจ้งระงับโฆษณาแล้ว จะถูกถอดสินค้าออกจากใบอนุญาตขายตรงอีกด้วย!


เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา กสทช.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิเสรีภาพของประชาชน นางสาว สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และ รองเลขาธิการฯนายประเสริฐ อภิปุญญา ร่วมกันแถลงข่าวการ ดำเนินการตรวจสอบและยุติการเผยแพร่ภาพ ทางโทรทัศน์ดาวเทียมต่อโฆษณา อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย อย. ซึ่งจากข้อมูลพบว่าปัจจุบันจากรายการ ดาวเทียมกว่า 400 ช่อง พบโฆษณาเข้าข่าย ผิดกฎหมายสูงมากกว่า 100 ช่อง

นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า คณะ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์ (กสท.) ได้พิจารณาแนวทางการให้ ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.) ในการตรวจสอบและยุติ การเผยแพร่ภาพทางโทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่ง เสนอโดยคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ผ่านกลุ่มงานรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครอง ผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์ กรณี การเผยแพร่ออกอากาศโฆษณา ผลิตภัณฑ์เอนไซม์เจนิฟูดส์ ซันคลาร่า และ เกร็กคู 

ซึ่งที่ประชุม กสท. ได้พิจารณาแล้ว มีมติว่า ตามที่ได้มีข้อเท็จจริงปรากฏว่า อย. ได้มีข้อสรุปแล้วว่า การโฆษณาออกอากาศ ผลิตภัณฑ์เอนไซม์เจนิฟู๊ด ซันคลาร่า และ เกร็กคู เข้าข่ายโอ้อวดเกินจริง และได้ส่งเรื่อง ดำเนินคดีพร้อมแจ้งระงับโฆษณาดังกล่าว ใน ชั้นนี้จึงเห็นสมควรที่จะออกมาตรการชั่วคราว เพื่อเป็นการเยียวยาหรือระงับความเสียหาย ที่อาจจะเกิดขึ้นอีก จึงให้ประสานงานกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ให้แจ้งกับสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมทุก ช่องเพื่อทำการระงับการเผยแพร่ออกอากาศ การโฆษณาดังกล่าว ทั้งนี้ จนกว่าจะมีคำตัดสิน ถึงที่สุดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนั้น กสท.มีมติเห็นชอบการ จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกัน (MOU) กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและ ยา(อย.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้ บริโภค(สคบ.) และกองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อกำกับดูแลการโฆษณา อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์ที่อาจมีผลกระทบต่อ สุขภาพของประชาชนในกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ เนื่องจากที่ผ่านมา อย.ได้ เฝ้าระวังการโฆษณาเกินจริงและฝ่าฝืน กฎหมายแพร่ภาพผ่านสัญญาดาวเทียม โดยมี การดำเนินคดีพร้อมแจ้งระงับการโฆษณาแล้ว แต่ยังมีการแพร่ภาพรายการดังกล่าวอยู่ ตนได้ ขอความร่วมมือกับตัวแทน บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริษัทฯ ยินดีประสานความ ร่วมมือในการติดตามและเชื่อมโยงฐานข้อมูลผู้ ประกอบการที่ออกอากาศ ส่วนความคืบหน้า ในการจัดทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าว กสท.จะ นำเข้าพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ในการประชุมครั้ง ต่อไป 

อนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 เม.ย.ที่ ผ่านมา กสทช.สุภิญญาเพิ่งเข้าร่วมประชุม หารือกับ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ทก.) นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม พร้อมด้วย ผู้บริหารที่เกี่ยวข้องถึงปัญหา โฆษณาอาหาร และยาที่เกิดขึ้น ได้มีข้อสรุปต่อ การทำงานร่วมกัน ดังนี้ 
1. จัดทำข้อมูล ฐานข้อมูล ที่เกี่ยวข้อง ต่อการใช้งานช่องสัญญาณของดาวเทียมไทย คม โดยมีการขอความร่วมมือไปยังบริษัท ไทย คม จำกัด (มหาชน) ในการรวบรวมข้อมูลบัญชี รายชื่อผู้จดทะเบียนเช่าช่องรายการโทรทัศน์ ดาวเทียม เพื่อแจ้งให้ อย. รับทราบ และเป็น ความร่วมมือในการควบคุมดูแลผู้เผยแพร่ รายการหรือโฆษณาไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมาย และ ขยายผลเชื่อมโยงไปยังเจ้าของผลิตภัณฑ์ เจ้าของโฆษณา บริษัทห้างร้านหรือบุคคลที่มี ส่วนเกี่ยวข้องต่อไป 
 2. กระทรวงฯ เมื่อได้รับทราบปัญหา ในการโฆษณาฯ ผ่านช่องรายการโทรทัศน์ ดาวเทียมที่ผิดกฎหมาย จากหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง กระทรวงฯ จะมีหนังสือสอบถามข้อ เท็จจริง ไปยังบริษัทไทยคม จำกัด(มหาชน) โดยมอบหมายสำนักกิจการอวกาศแห่งชาติ เป็นผู้ประสานงานต่อไป
3. มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไข ปัญหาโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์ สุขภาพที่ผิดกฎหมายในโทรทัศน์ดาวเทียม
4. เห็นควรให้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่างๆ เข้าร่วมแก้ไขปัญหาร่วมกันในภาพรวม ต่อไป อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแวดล้อมพาณิชย์ กระทรวงการคลัง เป็นต้น
5. การใช้มาตรการทางกฎหมายและ มาตรการทางสังคมแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดย เมื่อมีการจับกุมผู้กระทำความผิดในกรณี จำหน่ายหรือโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์ สุขภาพที่ผิดกฎหมายควรมีการประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อต่าง ๆ ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง เพื่อให้เกิดมาตรการทางสังคมลงโทษผู้กระทำ ความผิด เพื่อให้สังคมเกิดความรู้เท่าทัน ให้ผู้ กำลังกระทำหรือคิดจะกระทำความผิดเกรงกลัว และลดจำนวนการกระทำความผิดลง
6.การผลิตสื่อสร้างสรรค์ประชา สัมพันธ์ การสร้างความตระหนัก การให้ความรู้ แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน ที่มากขึ้น เพื่อ ให้สามารถใช้วิจารณญาณในการอุปโภค บริโภค อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้ อย่างถูกต้อง ปลอดภัย ลดโอกาสการหลงเชื่อ โฆษณาที่หลอกลวง ผิดกฎหมาย
7. การลงนามข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้มีการดำเนินงานแก้ไข ปัญหาโฆษณาอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์ สุขภาพที่ผิดกฎหมายในโทรทัศน์ดาวเทียม อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้สำหรับ ทก. และ กสทช. นั้นมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือ อยู่แล้ว

ต่อประเด็นดังกล่าว นายนิโรธ เจริญ ประกอบ เลขาฯ สำนักงานคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผย “ธุรกิจเครือข่าย” ว่า เรื่องนี้ทาง กสทช. เป็นเจ้าภาพ ตอนนี้ก็อยู่ใน ระหว่างการยกร่างบันทึกความตกลงการ ร่วมมือกัน ส่วนทางสคบ. มีเรื่องร้องเรียน เกี่ยว กับการโฆษณาเกินจริงทางเคเบิ้ลทีวีเข้ามาโดย ตลอดทุกวัน ส่วนมากจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เสริม ขั้นตอนการดำเนินการคือต้องประสานให้ อย. เข้าไปตรวจสอบจัดการ รวมไปถึงกรณีของ ธุรกิจขายตรงเองก็ไม่รอดเช่นกัน

“ในส่วนของธุรกิจขายตรง ก็จะถูก ตรวจสอบเช่นกัน สมมติมีบริษัทขายตรง รายหนึ่ง ถูกร้องเรียนเข้ามาที่ สคบ. หากเป็น สินค้ากลุ่มอื่นที่ไม่ได้อยู่ในการดูแลของอย.ก็จะ ถูกส่งเรื่องไปเช็คที่หน่วยงานนั้นๆ แต่หากเป็น กลุ่มสินค้าที่อยู่ในการดูแลของ อย. เช่น อาหาร เสริม ยา เครื่องมือแพทย์ เรื่องดังกล่าวจะถูก ส่งไปตรวจสอบต่อ ซึ่งหากพบว่าบริษัทดังกล่าว ไม่ได้มีการเข้าไปขอใบอนุญาตโฆษณาอย่าง ถูกต้อง ทางเราก็จะเตรียมเพิกถอนสินค้าตัว นั้นออกจากใบอนุญาตธุรกิจขายตรง ส่วนการที่ พิธีกรพูดแบบโอเวอร์เคลมก็ไม่รอดเช่นกัน การ โฆษณามันหมายถึงทุกอย่าง ทางอย.มีวิธี ตรวจสอบหลักฐานครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการ บันทึกเทปต่างๆ เอาไปตรวจ เพราะว่าการ โฆษณาสินค้าไม่ว่าจะทำด้วยวิธีใด ก็ต้องขอ อนุญาตก่อน ไม่ใช่ว่าพูดโดยพิธีกรสดแล้วจะไม่ ต้องขออนุญาต ทุกอย่างต้องถูกต้องหมดตาม กฎหมาย เร็วๆ นี้อาจมีการแถลงความร่วมมือ อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง” เลขาฯ สคบ. กล่าวในที่สุด

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.ธุรกิจเครือข่าย ขายตรง ฉบับที่ 227 ปักษ์แรก ประจำวันที่ 1-15 พฤษภาคม 2555      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น