ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

TDIA เร่งงานตั้งสมาพันธ์ขายตรง บอกทำเพื่อวงการไม่หวั่น 2 ส. ร้องยี้


นายกใหม่ สมาคม TDIA ใส่เกียร์เดินหน้าเต็มกำลังขอรวมพลัง “3 สมาคมขายตรง” ประสานเป็นหนึ่งพลังใหญ่“สมาพันธ์ขายตรงไทย” แม้หลายฝ่ายอาจร้องยี้ เชื่อหากทุกสมาคมร่วมมือจะกลายเป็นพลังสำคัญในการต่อกรคู่แข่งได้ในระดับสากล 

นายอัศวิน วัฒนปราโมทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) และประธานมูลนิธิผืนป่า สายน้ำ ขุนเขา ได้กล่าวภายในงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันกอล์ฟการกุศล เพื่อจัดหารายได้ช่วยกันปลูกป่า รักษาสิ่งแวดล้อม ว่า “หลังจากตนเข้ารับตำแหน่งนายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา วันนี้อาจถือเป็นวันเริ่มต้นที่สมาคมฯ กำลังจะดำเนินกิจกรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ด้วยการร่วมผนึกกำลังกับมูลนิธิฯ ซึ่งตนเองทำหน้า ที่เป็นผู้บริหารอยู่ด้วย”

ทั้งนี้นายอัศวิน ยังกล่าวต่อว่า ปัจจุบันสมาชิกของสมาคมจากเดิมที่มี 15 บริษัท ขณะนี้เพิ่มขึ้นอีก 2 บริษัท และมีอีก 4 บริษัทกำลังดำเนินการพูดคุย และตนเชื่อว่าการจัดกิจกรรมในครั้ง นี้จะยิ่งทำให้มีสมาชิกใหม่ๆ ให้ความสนใจ เข้าร่วมกับสมาคมฯอีกจำนวนมาก

โดยนโยบายสำคัญต่อไปของสมาคมฯ คือแผนการสร้างสำนักงานหลักของสมาคม เพื่อความสะดวกในการติดต่อประสานงาน โดยสมาคมฯจะเป็นผู้ลงทุน คาดว่าภายใน 2 เดือน น่าจะกำหนดสถานที่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะมีการแจ้งให้กับหน่วยงานราชการและสมาชิกของสมาคมทราบต่อไป

“สำนักงานดังกล่าว อาจจะต้องมีการเช่าก่อน หรือถ้ามีการซื้อ ตนอาจจะใช้เงินส่วนตัวออกให้กับสมาคมไปก่อน แล้วสมาคมจ่ายคืนให้ทีหลัง หรือซื้อก่อนในนาม ของตนแล้วให้สมาคมมาซื้อต่อทีหลัง ซึ่งแนวทางจะเป็นอย่างไรคงต้องรอการปรึกษา กันอีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดีสมาคมฯจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีอาคารสำนัก งานอันเป็นเอกเทศ เพื่อความสะดวกในการติด ต่อประสานงาน โดยสถานที่ตั้งที่ตนกำลัง ให้ความสนใจจะเป็นพื้นที่ใกล้ศูนย์ราชการ แถวหลักสี่ แจ้งวัฒนะ”

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการจัดสร้างสำนักงานเป็นของสมาคมฯโดยเฉพาะแล้ว แต่ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะให้สมาชิกของทุกบริษัทได้มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้า ไปเยี่ยม ไปประชุมในบริษัทสมาชิกต่างๆ เพราะตนมีนโยบายสำคัญที่ต้องการขจัดความหวาดระแวงระหว่างสมาชิกภายในสมาคม เพราะหากสมาชิกในสมาคมเดียว กันมีความหวาดระแวงต่อกันแล้ว การจะไปขจัดความหวาดระแวงระหว่างสมาคมก็คงเป็นไปได้ยาก

“หากถามว่าทำไมต้องหวาดระแวงกัน ก็อาจกล่าวได้ว่าที่ผ่านมาในวงการขาย ตรงนั้นค่อนข้างจะมีการฉกฉวยโดยไม่มีมารยาท ฉะนั้นเมื่อสมาคมฯตั้งกฎเหล็กใน การเคารพกฎจรรยาบรรณ ตนจึงเชื่อว่าสมาชิกที่อยู่ในสังกัดของเราก็จะต้องเคารพ กฎกติกามารยาทนี้เช่นกัน” นายอัศวินกล่าว

ส่วนเป้าหมายต่อไปของสมาคมฯ ตนต้องการสร้างคนรุ่นใหม่ ที่มีวิสัยทัศน์ สามารถ เป็นแกนนำในเรื่องของการสร้างพันธกิจกับสังคม ขจัดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ซึ่งค่อนข้าง จะยากในการสรรหาสมาชิกที่มีคุณธรรม จริยธรรมอย่างแท้จริง เพราะเราไม่ได้มุ่งสร้างสมาคมฯเพื่ออำนวยผลประโยชน์ให้แก่สมาชิก แต่อยากดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับวิชาชีพการขายตรงให้เป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไปอย่างแท้จริง โดยจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมากิจการอันใดที่สมาคมฯสามารถร่วมมือกับภาครัฐได้ เราก็จะเข้าร่วมการใดที่ช่วยให้สังคมยอมรับในกิจการขายตรง สมาคมฯก็จะทำ

ทั้งนี้นายอัศวินยังกล่าวถึงแผน การรวม 3 สมาคมเป็นหนึ่งสมาพันธ์ว่า ตนก็ยังคงมีแนวคิดดังกล่าวอยู่ แม้อาจจะมีกระแสว่าหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย หรือไม่คิดว่าจะมีความเป็นไปได้ แต่ตนก็ยังคงต้องรุกเดินหน้าต่อไป เพราะมองว่า การรวมกันเป็นสมาพันธ์นั้นทุกฝ่ายจะได้ประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อสมาชิกชาวเครือข่ายต้องการให้ประเทศไทยกลายเป็นอัพหรือศูนย์กลางกระจายสินค้าของตลาดขายตรงในประเทศอาเซียน การร่วมมือกันทำงานจึงน่าจะนำความสำเร็จ มาสู่ประเทศได้มากกว่า

“ในอาเซียนประเทศไทยถือว่า มีบริษัทขายตรงที่แข็งแรงมากกว่าทุกประเทศ เพราะหากใครที่เคยได้ยินว่าประเทศมาเลเซียเก่งกาจในการทำธุรกิจ ขายตรง ตนอยากจะบอกว่าเพราะเขาเข้ามาดำเนินธุรกิจในบ้านเมืองเรา แต่ในประเทศของเขาจริงๆ แล้วมีบริษัทขนาดใหญ่อยู่เพียง 4 บริษัท แต่ในประเทศไทยจากข้อมูลของสคบ.พบว่ามีบริษัทที่แอ็กทีฟอยู่ประมาณ 60 บริษัท ฉะนั้นวันนี้โอกาสของประเทศไทยในการเป็นอัพในตลาดอาเซียนจึงมีสูงมาก ฉะนั้นหากมีการรวมตัวกันตนเชื่อว่าจะทำให้พลังในการต่อรองต่างๆ มีความเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งขณะนี้หน่วยงานภาครัฐก็มีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยกับแนวคิดของตนมากขึ้น” นายอัศวินกล่าวทิ้งท้าย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ขายตรง  ฉบับที่ 1297 ประจำวันที่ 5-5-2012 ถึง 8-5-2012      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น