ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รมิตา เสือซุ่มเร่งปูพรมบุกตลาดไทย-ตปท. ขนสินค้าใหม่ลงกระทุ้งยอดสิ้นปีทะลุ500ล.









นายใหญ่ รมิตา เผยหมัดเด็ดปี56 สั่งเร่งปูพรมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ หลังปลื้มแผนยึดตลาดประเทศเพื่อนบ้านประสบความสำเร็จ ดันยอดปี55 ทะลุเป้า 220 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปี56 ทะลัก 500 ล้านบาท หลังส่งซิกเตรียมยึดพม่า-เวียดนาม-มาเลเซีย พร้อมจ่อขนสินค้าใหม่ออกมากระตุ้นยอดขาย แนะภาครัฐเร่งปราบปรามแชร์ลูกโซ่-มันนี่เกมส์ หวั่นกระทบภาพลักษณ์ธุรกิจขายตรง ด้าน ใจกล้า กาดำดวน ระบุเดินหน้าต่อโปรโมชั่น X2 หลังปลุกกระแสได้ดี ล่าสุดจัดแคมเปญพิเศษทำยอดแค่ครั้งเดียวแต่เที่ยวฟรี 3 ประเทศ ยิ้มทริปพิเศษสำหรับสมาชิกที่เป็นมุสลิม เดินทางไปแสวงบุญที่นคร เมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบียกระแสตอบรับเกินคาด สั่งเดินหน้าจัดโปรโมชั่นต่อ


นายเค่งฮั้ว แซ่อื้อ ประธานกรรมการ บริษัท รมิตา เฮลธ์แอนด์บิวตี้ ให้สัมภาษณ์ถึงกลยุทธ์ในการรุกตลาดปี 2556 ว่า บริษัทเตรียมรุกตลาดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมครบทุกภาคของประเทศจากปัจจุบันที่มีฐานตลาดใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคใต้ และภาคอีสานเป็นหลัก โดยตลาดที่บริษัทได้ให้ความสำคัญในปีนี้ คือพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือที่ปัจจุบันมีผู้นำได้เข้าไปขยายตลาดในพื้นที่ดังกล่าวแล้วและค่อนข้างได้รับผลตอบรับดีมากคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถเปิดเป็นศูนย์กระจายสินค้าในพื้นที่ภาคเหนือไม่ต่ำกว่า 7 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโต และความตน้องการของสมาชิกในพื้นที่


นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมความพร้อมในการขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ เช่น พม่า เวียดนาม และมาเลเซีย เป็นต้น โดยหลังจากก่อนหน้านี้รมิตาได้ขยายตลาดเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 2 ประเทศแล้วได้แก่ สปป.ลาว และกัมพูชา ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมากโดยเฉพาะที่สปป.ลาวมีสมาชิกที่ประสบความสำเร็จมีรายได้กันเป็นจำนวนมาก ส่งให้ยอดขายในประเทศดังกล่าวเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยปัจจุบันคิดเป็น 50 % ของยอดขายรวมทั้งบริษัท จากในปี 2555 ที่ผ่านมาที่มียอดขายรวม 220 ล้านบาท


สำหรับแผนการขยายตลาดต่างประเทศนั้น นายเค่งฮั้ว กล่าวว่า เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ที่จะมาถึงนี้ บริษัทมีนโยบายในการรุกตลาดต่างประเทศที่ค่อนข้างแตกต่างจากบริษัทขายตรงอื่นๆ โดยจะเน้นในเรื่องของการดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้นๆ เช่น การยื่นขอจดทะเบียนในแต่ละประเทศและการแปลเอกสารเกี่ยวกับสินค้าไว้ก่อน เพื่อให้สมาชิกเข้าไปขยายตลาดในประเทศนั้นๆ ได้ทันที ไม่ต้องมารอให้บริษัทไปยื่นขอเอกสารทีหลัง


การรักตลาดต่างประเทศถือว่าทำง่ายกว่าประเทศไทย เพราะมีองค์ประกอบค่อนข้างเอื้อต่อการขยายตลาด เช่น สินค้าไทยมีคุณภาพ เพราะผู้บริโภคในแถบประเทศเพื่อนบ้านเขาได้สัมผัสกับสินค้าไทยมานานไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค หรือแม้แต่รถยนต์ ดังนั้นการที่เราเข้าไปขยายตลาดในกุ่มประเทศเหล่านี้จึงทำได้ง่ายกว่า ไม่ต้องพูดอะไรมาก รวมถึงการที่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเรามีความรู้สึกที่ดีกับคนไทย จึงทำให้เราขยายตลาดได้ง่าย


นายเค่งฮั้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้เราจะยังคงใช้กลยุทธ์ในการทำตลาดเหมือนกับปี 2555 ที่ผ่านมาคือ การขยายตลาดใหม่ ,การสนับสนุนผู้นำ ,การจัดโปรโมชั่นและการจัดหลักสูตรฝึกอบรมให้กับสมาชิกเพราะแนวทางดังกล่าวถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะทำให้ยอดขายในปี 55 เติบโตเกินป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้เรายังได้อำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อของสมาชิกด้วยการเปิดเป็นศูนย์กระจายสินค้าตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งปัจจุบันเรามีศูนย์กระจายสินค้าทั้งหมด 10 แห่ง แบ่งเป็นในไทย 7 แห่ง และในสปป.ลาวอีก 3 แห่ง นายเค่งฮั้ว อธิบาย


ขณะเดียวกันเรายังสนับสนุนให้มีการจัดประชุมให้กับผู้นำตามพื้นที่ต่างๆ โดยบริษัทมีการให้ยืมสินค้าออกไปก่อน เพื่อให้สมาชิกทำงานง่ายขึ้น รวมถึงการจัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับผู้นำ นอกจากนี้เรายังได้เปิดตัวสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายซึ่งในปีนี้เรามีแผนจะเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มอีกหลายรายการเช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งเป็นอาหารเสริม พืชชนิดน้ำสูตรนาโน,น้ำหอมสำหรับผู้ชาย และผู้หญิงและอีกกลุ่มเป็นกลุ่มอาหารเสริมที่เป็นไบโอเทคโนโลยีซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี


นายเค่งฮั้ว กล่าวอีกว่า จากกลยุทธ์ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้บริษัทคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากไทยและสปป.ลาวรวมกัน 420 ล้านบาท และอีก 80 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับสัดส่วนยอดขายของกลุ่มสินค้าที่ขายดี แบ่งเป็นกลุ่มอาหารเสริมคิดเป็น 50-55%ของยอดขายทั้งหมด รองลงมาเป็นกลุ่มเครื่องประดับ 20 % กลุ่มเครื่องสำอาง 10-15% และอุปโภคบริโภคอีก กว่า 10 %


ส่วนปัจจัยที่น่าเป็นห่วงสำหรับธุรกิจขายตรงในประเทศไทยในปีนี้นั้น นายเค่งฮั้ว กล่าวว่า ปัจจัยเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง และภัยธรรมชาติ ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ปัจจัยที่น่าเป็นห่วง คือ ธุรกิจ แชร์ลูกโซ่หรือมันนี่เกมที่ปัจจุบันมักจะมีอะไรแปลกๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังมีผู้บริโภคบางคนยังแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนคือธุรกิจขายตรง หรือ มันนี่เกม ดังนั้นอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแล และเร่งปราบปรามบริษัทหลอกลวงเหล่านี้ให้หมดไป เพราะหากปล่อยนานเกินไปอาจจะส่งผลกระทบกับภาพรวมธุรกิจขายตรงได้


ด้าน นายใจกล้า กาดำกวน รองประธานบริษัท รมิตา เฮลธ์แอนด์บิวตี้ จำกัด กล่าวเสริมว่า นอกจากกลยุทธ์ในการขยายตลาดแล้ว บริษัทยังได้ต่อโปรโมชั่น X2 ออกไปอีก เพื่อตอบแทนให้กับสมาชิกที่ออกไปขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษใหม่ขึ้นมาอีก คือ ทำยอดแค่ครั้งเดียวได้เที่ยวฟรี 3 ทริป 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง-ปักกิ่ง และออสเตรเลียรวมถึงการจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิกที่เป็นชาวมุสลิมให้ได้เดินทางไปแสวงบุญที่นคร เมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งล่าสุดมีสมาชิกที่ผ่านคุณสมบัติสำหรับทริปดังกล่าวจำนวน 40 คน ดังนั้นเชื่อว่าหลังจากสมาชิกกลุ่มนี้เดินทางกลับมาจะช่วยกระตุ้นโปรโมชั่นนี้กันอย่างคึกคักแน่นอน




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพLEADER TIME ฉบับที่ 217 ประจำวันที่ 16-28 กุมภาพันธ์ 2556


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น