 |
หากเมื่อเรารู้สึกศรัทธาสิ่งใด และมีจิตที่มุ่งมั่นในความคิดแล้วลงมือปฏิบัติ สิ่งดีๆก็ย่อมจะเกิดขึ้นมาในชีวิตอย่างแน่นอน เฉกเช่นเดียวกับเส้นทางชีวิตของ ฐิติมาพร มหานิยม หญิงแกร่งที่มีเลือดนักสู้ในตัวอย่างเต็มเปี่ยมที่ในอดีตต้องดำเนินชีวิตอย่างดิ้นรนเหน็ดเหนื่อยประเภทหาเช้ากินค่ำ แต่หลังจากที่เมื่อเธอได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนความคิดใหม่ ทำให้เธอพบกับความสุขอย่างไร้ขีดจำกัดในทุกๆเรื่องที่เธอต้องการ
เมื่อย้อนเวลากลับไปก่อนที่เธอเจอธุรกิจแห่งโอกาสในการสร้างชีวิตใหม่ที่ บริษัทนีโอไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ฐิติมาพร มหานิยม เลือกที่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายธรรมดาๆ ประกอบอาชีพหลายอย่าง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วอาชีพที่เธอถนัดที่สุดก็จะเป็นอาชีพค้าขาย เพราะเธอเป็นคนชอบงานค้าขาย แต่อาชีพนี้แม้ว่าจะมีอิสรภาพเป็นนายตัวเอง แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากมีคู่แข่งเกิดขึ้นมาก และเมื่อไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องค้าขาย เธอก็เลยลองหันไปเรียนตัดเย็บเสื้อผ้าและเป็นช่างตัดเสื้อที่ถือเป็นอาชีพที่ยึดมั่นมายาวนานถึง 9 ปีเต็มส่วนรายได้นั้นพอจะมีเงินเลี้ยงตัวเองครอบครัวได้ตามอัตภาพ แต่อยู่ในโหมดมีกินแต่ไม่ค่อยเหลือจะเก็บ
หากถามถึงจุดเปลี่ยนในการก้าวเข้ามาสู่ครอบครัว นีโอ ไลฟ์ฯ เธอยอมรับว่าจริงๆแล้วรู้จักกับธุรกิจ
นีโอ ไลฟ์ฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 หรือเรียกได้ว่าตั้งแต่บริษัทเปิดดำเนินธุรกิจใหม่ๆ เลยทีเดียว เนื่องจากท่านประธานดร.รัชนี มหานิยม ซึ่งผู้เป็นน้องสาวได้มาทำธุรกิจอยู่ก่อนหน้าแล้ว และฉายภาพความสำเร็จทางธุรกิจเติบโตเป็นลำดับ จนกรทั่งก้าวกลายเป็นผู้นำมือหนึ่งภายในเวลาอันรวดเร็ว และหลายครั้งที่เธอมองดูความสำเร็จย่างชื่นชมในความเก่งของน้องสาวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ที่สำคัญกว่าน้องสาวสุดที่รักคนนี้ก็เป็นผู้คอยแนะนำมาโดยตลอดเพียงแต่เธอปฏิเสธมองข้ามโอกาสดีๆนี้ไปเอง
ด้วยอุปนิสัยส่วนตัวของดิฉัน จะเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อมั่นในตัวเองและ คิดเสมอว่าตัวเองนั้นไม่เหมาะสม ไม่มีความสามารถในสายงานอาชีพขายตรง จึงยากที่จะทำสำเร็จ และมองว่าคนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องเป็นคนพูดเก่ง มีความกล้า จึงจะทำได้ และสุดท้ายดิฉันก็เลยปิดกั้นความคิดธุรกิจนี้ และปล่อยเวลาทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย
แม้เธอเชื่อมั่นในความมั่นคงของบริษัทนีโอ ไลฟ์ฯ ที่กำลังจะเติบโตแต่เมื่อเธอไม่เปิดโอกาสให้กับตัวเองจึงทำให้เธอใช้ชีวิตแบบย้ำอยู่กับที่และต่อมาในปีพ.ศ. 2551 ฐิติมาพร ก็ได้พบกับชะตากรรมทางด้านสุขภาพป่วยเป็นมะเร็ง แต่หลังจากที่ได้ทดลองทานผลิตภัณฑ์นีโอ ไลฟ์ ควบคู่กับการรักษาแผนปัจจุบันจากทางโรงพยาบาลได้ไม่นานเธอรูสึกถึงความเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้น ต่อมาเมื่อเห็นผลลัพธ์จากการใช้สินค้าแล้วเธอจึงเกิดแรงศรัทธาในผลิตภัณฑ์นีโอ ไลฟ์ฯ ที่เธอบอกว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ จึงเป็นสิ่งที่จุดประกายให้เธอตัดสินใจแขวนกรรไกรเข้ามาศึกษารูปแบบธุรกิจอย่างเต็มตัวและเต็มหัวใจ พร้อมใส่เกียร์เดินหน้าทำงานด้วยความมุ่งมั่น และมีเป้าหมายตามที่บริษัทตั้งไว้ สรุปสุดท้ายเธอก็พบว่า ธุรกิจขายตรงนีโอ ไลฟ์ฯ ทำไม่ยากย่างที่คิด
ด้วยแรงศรัทธาผนวกกับความมุ่งมานะทำงานอย่างไม่มีเงื่อนไขตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ธุรกิจขายตรง
นีโอ ไลฟ์ฯ ผลักดันให้ ฐิติมาพร ก้าวขึ้นแท่นผู้นำคุณภาพสามารถพิชิตตำแหน่ง รองประธานฝ่ายการตลาด ได้อย่างน่าชื่นชม และทุกวันนี้เธอรับรายได้รวมกว่า 2.8 ล้านบาท และหากเป็นรายเดือนรายได้กว่า แสนบาท อีกทั้งยังมีเงินเก็บในธนาคารไว้กินดอกเบี้ย ซึ่งยังไม่หมดแค่นี้ทุกวันนี้เธอมีความสุขกับการใช้ชีวิตที่สบายๆไม่ต้องดิ้นรนเหมือนก่อน มีรถป้ายแดงสุดหรูขับโก้ๆอีก 1 คัน นอกจากนี้ยังได้เปิดหู เปิดตาท่องเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวนีโอ ไลฟ์อย่างต่อเนื่องในทุกทริปอย่างมีความสุขเพราะผู้นำสมาชิกทุกคนเปรียบเสมือนญาติพี่น้องคนในครอบครัวเดียวกัน ส่วนเป้าหมายต่อไปนั้น เธอหมายมั่นว่าจะพิชิตโปรโมชั่นต่างๆที่บริษัทนีโอ ไลฟ์มีให้ทุกครั้งต่อไป
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพLEADER TIME ฉบับที่ 216 ประจำวันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น