ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เมก้า บัคส์ประกาศเดินเครื่องเต็มอัตราศึก พร้อมปรับไซส์สินค้าเล็กลงหวังดึงคนร่วมธุรกิจ









ขายตรง เมก้า บัคส์ โหมโรงธุรกิจปีมะเส็ง พร้อมประกาศเป้าขอ แตะยอดขาย 50 ล้านต่อเดือนปีนี้ หลังภาพรวมธุรกิจที่ผ่านมาเติบโตตรง ตามเป้า...ด้าน พัชรพล แย้มสมาชิกเตรียมพบสินค้าใหม่กลุ่มเครื่อง สำอางเดือนมี.ค.นี้ เชื่อ เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ตอบ โจทย์ความต้องการ สมาชิกและผู้บริโภคได้ แน่...ล่าสุดจับมือสถาบัน การศึกษาจัดโครงการ เมก้า สลิม คอนเทสต์ สร้างการรับรู้...พร้อมยํ้า สิ้นปี หวังสอยยอด 600 ล้านตรงตามเป้า


บริษัท เมก้า บัคส์ จำกัด ถือ เป็นอีกหนึ่งบริษัทขายตรง น้องใหม่ ที่กำลังเร่งฟูมฟักธุรกิจให้เติบโต เพื่อหวังที่จะ สร้างความโดดเด่นและสร้าง ความแตกต่างให้กับวงการ ขายตรง และจากวันที่เริ่ม ธุรกิจตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา ต้องบอกว่า กว่าที่ค่ายนี้ จะสร้างผู้นำจน ประสบความสำเร็จ และสร้าง ความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นนั้น ต้องบอกว่า น่าที่จะเหนื่อย เอาการเช่นกัน
ซึ่งทางด้าน พัชรพล คฤหโยธิน ประธานกรรมการ บริษัท เมก้า บัคส์ จำกัด ได้เผย ถึงภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาว่า แผนงานหรือเป้าหมายที่ บริษัทฯ ตั้งเอาไว้ ค่อนข้างที่จะ ตรงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ซึ่งสามารถสร้างยอดขายเฉลี่ย ต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 5 ล้าน บาท และมีสมาชิกอยู่ที่ ประมาณ 6,000 คน โดยมี สมาชิกที่แอคทีฟอยู่ที่หลักร้อย คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ พร้อมกันนี้ สินค้าที่บริษัทฯ ได้ วางแผนที่จะเปิดตัวจำนวน 10 รายการ ก็สามารถเปิดได้ที่ 9 รายการ ซึ่งถือว่ายังเป็นไปตาม เป้าหมายเช่นกัน
สำหรับเป้าหมายของ บริษัทฯ ในปี 2556 นี้ บริษัทฯ มีเป้าที่จะสร้างยอดขายให้ แตะอยูที่ 50 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมกับมียอดขายสิ้นปีอยู่ ที่ 600 ล้านบาท รวมถึงมี แผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาในระบบอีกด้วย ซึ่งคาด ว่าสินค้าตัวแรกน่าที่จะเปิดตัว ได้ประมาณช่วงเดือนมีนาคม นี้โดยจะเป็นในกลุ่มของเครื่อง สำอาง ต่อจากนั้นก็จะเป็น ในส่วนของบิวตี้ดริ้ง
พัชรพล ยังเผยต่ออีก ว่า นอกเหนือจากการเตรียม เปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ เข้าสู่ ระบบแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ บริษัทฯ จะเน้นหนักอย่างต่อ เนื่อง เหมือนเช่นดั่งที่ผ่านมา นั่นก็คือ ในเรื่องของการบุก ตลาดภูธรให้ครอบคลุมทุก พื้นที่ โดยจะเป็นการรุกหนัก มากขึ้น เพื่อต้องการให้คนเข้า มาสู่ธุรกิจเมก้า บัคส์มากขึ้น นั่นเอง ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนการ ทำตลาดในต่างจังหวัดของเม ก้า บัคส์ จะอยู่ที่ประมาณ 80% และอีก 20% อยู่ในพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดย พื้นที่ยุทธ์ศาสตร์หลักของเม ก้า บัคส์ จะอยู่ที่ทางภาคใต้ เสียส่วนใหญ่ เนื่องจากเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจ และมีสาย งานเดิมอยู่แล้ว ส่วนแผนการ บุกตลาดภูธรต่อไปจะเป็นใน พื้นที่ทางภาคเหนือ และทาง ภาคอีสานต่อไปในปีนี้
ในช่วง10 เดือนที่ผ่าน มา ธุรกิจเมก้า บัคส์ ค่อนข้าง ที่จะใจเย็นมาก เนื่องจากอยู่ ระหว่างการสร้างระบบ แต่ สำหรับในปี 2556 นี้ ถือเป็น ฤกษ์ที่ดี ที่เมก้า บัคส์ นั้น จะ บุกตลาดอย่างเต็มที่ ทั้งใน เรื่องของชื่อเสียงบริษัท และ ชื่อเสียงของสินค้า เพื่อ ต้องการให้คนเครือข่าย ได้รับ ทราบอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ทางด้าน ศุภญามนต์ คูณผลธนะนันท์ ประธานที่ปรึกษาฝ่ายการ ตลาด บริษัท เมก้า บัคส์ จำกัด ได้กล่าวเสริมต่อว่า การทำ ตลาดของเมก้า บัคส์ ในการ บุกตลาดธุรกิจเครือข่ายนั้น จะเน้นการใช้ระบบเป็นตัวนำ ด้วย โดยกลยุทธ์ของบริษัทฯ คือ การออกไปให้ความรู้แก่ ประชาชน เพราะมองว่า หาก ประชาชนมีความรู้ในเรื่องของ ระบบแล้วทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น และต่อจากนั้นในเรื่องของ โปรดักส์ก็จะตามมา และเมื่อ โปรดักส์ใช้ดีแล้วเห็นผล คนก็ จะเริ่มหันมาสนใจในเรื่องของ ธุรกิจต่อไปเอง
ส่วนอีกหนึ่งการทำ ตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ของ เมก้า บัคส์ ศุภญามนต์ เผย ว่า ล่าสุดเมื่อไม่นาน บริษัทฯ ได้มีการเซ็นสัญญา MOU กับ ทางสถาบันการศึกษาต่าง ๆ อีกด้วย โดยมีการจัดทำเป็น โครงการที่ชื่อว่า เมก้า สลิม คอนเทสต์ ซึ่งโครงการ ดังกล่าวนี้ คาดว่าจะเริ่มได้ ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นี้ โดยเชื่อว่าโครงการนี้ น่าที่จะ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการ สร้างการรับรู้ของบริษัทฯ รวม ถึงเป็นการสร้างองค์ความรู้ใน เรื่องของการดูแลรักษา สุขภาพให้แก่นักศึกษาได้เป็น อย่างดีเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมี สถาบันที่ตอบรับมาแล้วคือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นต้น
พัชรพล กล่าวเสริม ต่อว่า อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ บริษัทฯ วางไว้ในปีนี้ คือ ต้องการที่จะให้สมาชิกหันมา สนใจเปิดสต็อกคิดส์มากขึ้น เพื่อเป็นการทำให้สมาชิกนั้น สามารถทำงานง่ายขึ้น โดยที่เมื่อต้องการสินค้าสามารถที่ จะหาสินค้าได้ตามสต็อกคิดส์ ต่าง ๆ ที่บริษัทฯ มีได้เลย ซึ่ง ปัจจุบันมีอยู่ประมาณเป็น ร้อยแห่ง ส่วนสมาชิกท่านไหน ที่ต้องการเปิดเป็นคลังสินค้า นั้น บริษัทฯ ได้กำหนดไว้ที่ จังหวัดละ 1 คลังเท่านั้น ซึ่งจะ ต้องมีคุณสมบัติคือ ขึ้น ตำแหน่งไดมอนด์ รวมถึงมี ความเหมาะสมในเรื่องของ ทำเลที่ตั้งด้วย
ส่วนกรณีของค่าแรง 300 บาทนั้น พัชรพล ได้ให้ ความเห็นว่า เรื่องของค่าแรง 300 บาท ที่มีหลาย ๆ ฝ่าย กังวลใจนั้น ตนเองมองว่า ยังไม่ถือว่ามีผลกระทบต่อ ต้นทุนของบริษัทเท่าไหร่ ซึ่ง ขณะนี้ทาง ด้านซัพพลาย เออร์ของบริษัทฯ ก็ยังคงตรึง ราคาเดิมเอาไว้ แต่หากมีการ ปรับขึ้นราคาเมื่อไหร่ ทาง บริษัทฯ คงต้องมีการเชิญ ซัพพลายเออร์ มาพูดคุยกับ ทางสมาชิกอีกที เพื่อให้ สมาชิกทราบล่วงหน้าก่อน หากจะมีการปรับราคาเกิดขึ้น อย่างล่าสุด ทางเมก้า บัคส์ เอง ได้มีการปรับขนาด ของผลิตภัณฑ์ให้เล็กลง เพื่อ ต้องการให้ถึงมือผู้บริโภคมาก ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ลด นํ้าหนักจากเดิมขายอยู่กล่อง ละ 30 เม็ด ทางบริษัทฯ ก็ลด ลงมาให้เหลืออยู่ที่ 10 เม็ดต่อ แผง และราคาขายต่อแผงอยู่ ที่ 800-900 บาทเท่านั้น
บริษัทฯ มองว่า การที่ จะให้ผลิตภัณฑ์ถึงมือผู้ บริโภคมากขึ้น จำเป็นที่จะ ต้องมีการปรับขนาดสินค้าให้ เล็กลง รวมถึงในเรื่องของ ราคาที่ต้องสมเหตุสมผลด้วย ที่สำคัญ มองว่าปัจจุบันนี้ คน เริ่มที่จะหันมาใส่ใจสุขภาพ มากขึ้น อีกทั้งคนอยากที่จะ ทำ ธุรกิจ แต่บางครั้งติด เงื่อนไขบางประการนั่นเอง โดยเชื่อว่าการปรับขนาด สินค้าเล็กลง ราคาไม่แพงจน เกินไป น่าที่จะช่วยให้คนหัน มาสู่ธุรกิจเมก้า บัคส์มากขึ้น ด้วยเช่นกัน ส่วนแผนงานใน การปรับขนาดของผลิตภัณฑ์ ตัวอื่น ๆ ให้เล็กลงนั้น ขณะนี้ อยู่ระหว่างรอให้สินค้าเก่า หมดสต็อกก่อน ซึ่งหากสต็อก สินค้าหมดเมื่อไหร่ ก็น่าที่จะ เห็นสินค้าอื่น ๆ ที่เล็กลงตามมาด้วยเช่นกัน



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ ตลาดวิเคราะห์ ฉบับที่ 337 ประจำวันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น