ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"แคทส์ ดอท คอม" คุยโวสิ้นปี56ปิดยอด 400 ล้าน. พร้อมย้ายบ้านใหม่ - ชูแผนรับมือตลาด AEC


ประกาศย้ายถิ่นฐานสังกัดสถานที่ใหม่ สำหรับแคทส์ ดอท คอม หลังกวาดยอดขาย 200 ล้าน.สิ้นปี คุยโวปีหน้าขอโตเท่าตัวฟาดยอดอีก 400 ล้าน.หลังรีแบรนด์ดิ้งใหม่ นายใหญ่ญี่ปุ่นเทงบ

พีอาร์เต็มอัตราศึก...จับตา แคทส์ ภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่จะเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่หรือไม่..

ถึงจะมีกระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่อง ถึงการถอนตัวของนายใหญ่ที่ยอมทิ้งฐานประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อย แต่หากสำรวจความเคลื่อนไหวภายในล่าสุดกับ นายเกียรติพงศ์ ตั้งงามจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคทส์ ดอท คอม (ประเทศไทย) จำกัด ข่าวก็ไม่เป็นจริงตามคำกล่าวอ้าง เพราะล่าสุดเผยถึงผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ว่า บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้อยู่ที่ 150 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายที่อยู่ในประเทศไทยอยู่ที่ 130 ล้านบาท ส่วนยอดขายในสาขาที่ประเทศกัมพูชาอยู่ที่ 6 แสนเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 20 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังตั้งเป้าหมายยอดขายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 200 ล้านบาท

สำหรับทิศทางของธุรกิจ แคทส์ ดอท คอม ต่อจากนี้ไป ยังเตรียมแผนที่จะรีแบรนด์ ดิ้งใหม่ เพื่อรับกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงปี 2558 นี้อีกด้วย และยังได้กล่าวยอมรับอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ค่อนข้างที่จะเจอในเรื่องของข่าวลือต่าง ๆ นานา รวมถึงปัญหาต่าง ๆ จากภายนอก ด้วยจุดนี้เองที่ทำให้บริษัทฯ มองไปข้างหน้า พร้อมกับเตรียมการพัฒนาองค์กรให้มีความทันสมัยมากขึ้น ด้วยการมีแนวคิดที่จะรีแบรนด์ดิ้งบริษัทใหม่ ที่จะทำให้สมาชิกและบุคคลภายนอกมองเห็นว่า แคทส์ ดอท คอม ไม่ใช่เป็นเพียงบริษัทขายตรงทั่วไปเท่านั้น แต่จะเป็นบริษัทที่สามารถสร้างอนาคตให้ทุกคนได้

โดยการรีแบรนด์ดิ้งครั้งนี้ จะมีอยู่หลายมิติด้วยกัน คือ
1. เรื่องของหน้าตา ภาพลักษณ์บริษัท
2. เรื่องของวิธีการทำงานของสมาชิก เรื่องของความรู้สึกที่เกิดขึ้นเวลาบุคคลภายนอกมองเข้ามา และสิ่งสำคัญเราต้องการที่จะเปลี่ยนภาพของบริษัทญี่ปุ่นหรือบริษัทในประเทศไทยให้มีความเป็นสากลมากขึ้น
3. เรื่องของการทำพีอาร์ - ประชาสัมพันธ์ การสื่อสารทางการตลาด และ
4. ระบบที่จะรองรับกับสมาชิกให้ทำงานได้สะดวกมากขึ้น

วันนี้หลาย ๆ ท่าน คงทราบดีว่า อีกประมาณเกือบ 3 ปีข้างหน้านับจากนี้ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนก็จะเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งหลาย ๆ ธุรกิจต่างตื่นตัวกันอย่างมาก ซึ่งจุดนี้เองถือเป็นโอกาสที่สำคัญที่บริษัทฯ จะรุกตลาดแบบเต็มอัตราศึก พร้อมกับการประกาศที่จะรีแบรนด์ดิ้งองค์กรใหม่อีกด้วย

และสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ บริษัทฯ ยังมีแผนการสร้างมาตรฐานการทำงานของสมาชิก ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีมาใช้ ทั้งรูปแบบการทำงานแบบ Offline Online และ Airline ซึ่งจะช่วยให้สมาชิกสามารถที่จะสร้างเครือข่ายได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือซึ่งใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ในเดือนมกราคม 2556 เป็นต้นไป

นับจากนี้เป็นต้นไป บริษัทฯ เริ่มที่จะเข้มงวดดำเนินการกับสมาชิกผู้ที่ทำผิดระเบียบ จรรณยาบรรณ ทั้งในเรื่องของการขายตัดราคา การแย่งสายงาน หรือการแอบอ้างชื่อบุคคลอื่นมาสมัคร โดยใช้มาตรฐานการตักเตือน การระงับรายได้ และการยกเลิกสมาชิกภาพ ซึ่งหลังจากที่มีการใช้มาตรการดังกล่าว ผลปรากฏว่าค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจอย่างมากทีเดียว แถมยังเป็นการยกระดับมาตร ฐานการทำงานแบบ Clean Business ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย

วันนี้ แคทส์ ดอท คอม ได้มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจเป็นสีขาว เพื่อต้องการที่จะให้สอดคล้องกับที่ญี่ปุ่น ที่พบว่าธุรกิจของเขาส่วนใหญ่จะยึดหลักที่ว่า ธุรกิจจะต้องสีขาว พร้อมกันนี้จะยึดแนวทางที่ว่า การสร้างคนและคนจึงสร้างยอด จึงได้มีการสร้างระบบเพื่อให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เนื่องจากในปี 2556 นี้ แคทส์ฯ ได้เตรียมพร้อมกับการขยายตลาดไปสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ ผู้ผลิตสินค้ามะโฮ ในการขยายกำลังการผลิต พร้อมกับการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีเพิ่มอีก 10 รายการ จากปี 2555 ได้เพิ่มมาแล้ว 7 รายการ รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับพรีเมี่ยมจากยีสต์ดำอีกด้วย
ส่วนการขยายตลาดไปตามประเทศเพื่อนบ้าน นายเกียรติพงศ์ บอกว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการขยายตลาดไปที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดีอย่างมาก พร้อมกันนี้ ในปี 2556 ก็จะมีการขยายตลาดเข้าไปสู่ประเทศเวียดนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทและการขออนุญาตอย่างถูกต้อง

โดยเป้าหมายในปี 2556 นี้ บริษัทแม่ได้วางงบการตลาดอีก 50 ล้านเยน ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และย้ายสำนักงานใหญ่ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี รวมถึงมีแผนที่จะมีโปรโมชั่นพาสมาชิกไปเที่ยวเกาหลี และอำนวยความสะดวกสบายให้กับสมาชิกมากขึ้น คาดว่าในปีหน้าบริษัทฯ น่าที่จะมีสมาชิกครบ 100,000 คน และยอดขายรวม 400 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายที่ประเทศไทย 300 ล้านบาท ประเทศกัมพูชา 60 ล้านบาท และประเทศเวียดนาม 40 ล้านบาท นายเกียรติพงศ์ กล่าวปิดท้าย


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ. ตลาดวิเคราะห์ ประจำวันที่ 1- 15 ธันวาคม 2555 ฉบับ 333

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น