ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ยักษ์ใหญ่ MLM สหรัฐฯ เปิดศึกชิงเค้กเวียดนาม นู สกิน บ่ยั่น ปิระมิด ชูผลตอบแทนสูงครีตเลือดใหม่








 


ตลาดขายตรงเวียดนามฝุ่นตลบ ! นู สกิน เอ็นเตอร์ไพรลส์ ยักษ์ขายตรงผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเสริมอาหารอันดับ 9 ของโลกจากสหรัฐอเมริกาลุยขยายธุรกิจหนักหน่วง สบโอกาสเศรษฐกิจชะลอตัว ประชาชนต้องการหารายได้ เดินหน้ารีครูตนักขายใหม่เสริม
ธุรกิจขายตรงในเวียดนามโดย เฉพาะขายตรงหลายชั้น (MLM) มี ประวัติศาสตร์ไม่ค่อยดีนักเหมือนกับจีนที่ เคยแบนธุรกิจขายตรงหลายชั้นเมื่อหลาย ปีเนื่องจากรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ที่ ปกครองประเทศหวั่นระแวงระบบการ ตลาดสีเทาที่เรียกว่าปิระมิด ที่มีรูปแบบ การสร้างเครือข่ายไม่ต่างจาก MLM แฝง ตัวเข้ามาหลอกลวงประชาชนที่ไม่มีความ รู้และอยากมีรายได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ ดีขึ้น ซึ่งมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ จำนวนมาก และจนถึงปัจจุบันระบบการ ตลาดสีเทายังไม่หมด เป็นเรื่องท้าทาย กฎหมายในเวียดนามอยู่กว่า 20 ปีหรือ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา นู สกินขยายธุรกิจใน เอเชียอย่างหนักแม้จะเจออุปสรรคจาก กฎระเบียบที่เข้มงวดในหลายประเทศซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการขยายเครือข่ายและ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่นำออกขาย แต่ บริษัทสามารถทำยอดขายและกำไรก้อน ใหญ่ได้จากเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคสำคัญที่ ทำให้นู สกินเติบโตอย่างมั่นคงและมีผล กำไรต่อเนื่อง

ขายตรงฝ่าวิกฤตศก.เวียดนาม สบช่องคนตกงานชูผลตอบแทนสูง
สำหรับในเวียดนาม นู สกินเพิ่ง เปิดสำนักงานขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมาท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจ ของเวียดนามที่ชะลอตัวอย่างรุนแรง โดยรัฐบาลคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจภายใน ประเทศจะขยายตัวราว 5-6% เทียบกับ หลายปีที่ขยายตัวร้อนแรงถึง 8-10% เนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ หนี้สินในภาค ธนาคารที่กลายเป็นหนี้เสียจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการก่อหนี้ของ รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่ประสบปัญหา ผลการดำเนินงานขาดทุนกันเป็นแถวจน กระทั่งมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัท จัดอันดับความน่าเชื่อถือยักษ์ใหญ่ของ สหรัฐฯประกาศปรับลดอันดับความน่า เชื่อถือเศรษฐกิจเวียดนาม
อย่างไรก็ดี สภาพแวดล้อมที่ ยํ่าแย่ในเวียดนามอาจจะส่งผลกระทบ โดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค แต่ สำหรับบริษัทขายตรงMLM ไม่เป็นปัญหา ด้วยจุดขายโอกาสการทำธุรกิจที่เปิด กว้าง การลงทุนตํ่า ความยืดหยุ่นในการ ทำงานรวมไปถึงอัตราการว่างงานที่ยังคง ยืดเยื้อยังคงเปิดโอกาสในการรีครูตนัก ขายใหม่ๆ ในเวียดนามซึ่งเป็นประเทศที่ มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวค่อนข้างตํ่าประมาณ 3,000 ดอลลลาร์ต่อปีหรือประมาณ 90,000 บาท เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี คนจะหันมาหาเรา ในเวียดนามมีคนตกงาน หลายล้านคน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะ สมมากๆ สำหรับMLM รูปแบบการ ตลาดที่เพิ่งเริ่มโต ไบรอัน ตรัน หนึ่ง ในชาวต่างชาติจำนวนกว่า 100 คนที่ เดินทางเข้ามาทำงานในเวียดนามและ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารฝ่ายขายระดับ บลู ไดมอนด์ ของนู สกินให้ความเห็น
ตรันมีรายได้ 45,000 ดอลลาร์ หรือ 1.35 ล้านบาทต่อเดือนซึ่งเจ้าตัวบอก ว่าถ้าเทียบตลาดเวียดนามที่เพิ่งจะเริ่มตั้ง ไข่แล้วรายได้ระดับนี้คือขั้นตํ่าที่แม่ทีมจะ ทำได้
ระบบการจ่ายผลตอบแทน อาทิ ค่าคอมมิสชั่นเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ บริษัทขายตรงชั้นนำทั่วโลก อาทิ นู สกิน ซึ่งขยายตลาดผ่านนักธุรกิจอิสระ การ จ่ายค่าคอมมิสชั่นให้กับฝ่ายขายวัดจาก ยอดการขายสินค้า ยิ่งมียอดขายมากจะ ได้ค่าคอมมิสชั่นมากดึงดูดนักขายใหม่ๆ เข้ามาเซ็นสัญญา เส้นทางสร้างรายได้ที่ ไม่มีขีดจำกัดทำให้นักขายระดับแม่ทีม ทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก คนเหล่านี้ สามารถสร้างรายได้และเงินเดือนก้อน ใหญ่เหมือนกับนักขายรุ่นพี่
นู สกินกล่าวว่า คอมมิสชั่นเฉลี่ย ของบริษัทสหรัฐฯสำหรับนักขายน้องใหม่ อยู่ที่ประมาณ 500 ดอลลาร์หรือ 15,000 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ดี นู สกินซึ่งคาดว่าปีนี้ จะมียอดขายมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ปฏิเสธ ที่จะเปิดเผยตัวเลขค่าคอมมิสชั่นของ บริษัทฯ ในเอเชีย

ขายตรงเวียดนามโตเยอะ แตะ6 พันล้าน ภาพลักษณ์ไม่ดีปิระมิดเยอะ
ิ ข้อมูลจากธุรกิจขายตรง MLM ระบุ กว่า 10 ปีที่ผ่านมามีขายตรง MLM ผุดขึ้นในเวียดนามจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบัน ธุรกิจขายตรงเวียดนามมีมูลค่าประมาณ 2 ร้อยล้านดอลลาร์หรือราว 6 พันล้าน บาท นักขายมากกว่า 1 ล้านคน โดย ภาพลักษณ์ของ MLM ในตลาดเวียดนาม เลวร้ายลงมากเมื่อปีที่ผ่านมาหลังจาก มีประชาชนกว่า 100 คนถูกแก๊งปิระมิด หลอกลวงกระทั่งรัฐบาลต้องขยับคุมเข้ม กฎระเบียบการกำกับดูแลธุรกิจขายตรง ให้เข้มงวดมากกว่าเดิม
ไม่ใช่แค่เวียดนาม แต่ชื่อเสียง ตลอดจนภาพลักษณ์ของ MLM ในประเทศ อื่นๆ ในเอเชียก็ไม่ได้ดีนักในสายตาของ ประชาชนและภาครัฐ
ในช่วงปี 1990 หรือ 2533นู สกิน เจอเรื่องอื้อฉาวในสหรัฐฯที่เป็นตลาด บ้านเกิดเมื่อถูก 5 รัฐกล่าวหาหลังจากมีประชาชนร้องเรียนว่าแผนการตลาดของ นู สกินหลอกลวงและพูดเกินจริงเกี่ยวกับ รายได้ก้อนใหญ่ที่ทางนักขายจะได้รับจน กระทั่งคณะกรรมาธิการการค้าแห่งชาติ (Federal Trade Commission:FTC) ต้องลงมาสอบสวนและบริษัทไม่สามารถแก้ข้อกล่าวหาได้ต้องจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้านดอลลาร์และยังถูกปรับอีก 1.5 ล้านดอลลาร์จากการที่มีลูกค้าร้องเรียน กรณีกินยาลดนํ้าหนักแล้วไม่ได้ผลตาม ที่บริษัทโฆษณาไว้

ยักษ์สหรัฐฯชี้เอเชียขุมทองMLM ตลาดเอื้อ จีน-ญวณ โมเดลเดียวกัน
เหตุการณ์ครั้งนั้นกระทบกับชื่อ เสียงของนู สกินและผลกำไรของบริษัท มาก ทำให้นู สกินต้องเริ่มขยายธุรกิจไป ยังตลาดต่างประเทศเหมือนกับแอมเวย์ และเอวอนซึ่งพวกเขาค้นพบความ สำเร็จในตลาดเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคที่มี สถาบันครอบครัวที่แข็งแกร่ง ประชาชนมี ความมุ่งมั่นในการทำงาน นับถือศาสนา เดียวกันและความผูกพันของคนในชุมชน เหมาะกับการขยายเครือข่ายการตลาด แบบMLM
ยกตัวอย่างจีน หลังจากรัฐบาล สหรัฐฯและบริษัทขายตรงขนาดใหญ่ร่วม กันล็อบบี้อย่างหนักจนกระทั่งจีนยอม ยกเลิกแบนและเปิดประเทศให้กับบริษัท ขายตรงของสหรัฐฯเมื่อปี 2549 ขณะนี้จีน กลายเป็นประเทศที่สร้างการเติบโตอย่าง มากให้กับนู สกิน กระนั้นนู สกินยังต้อง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจให้ สอดรับกับกฎหมายของจีนซึ่งยังคงห้าม การตลาดแบบ MLM อยู่
ส่วนในเวียดนาม เฮนรี่ เหงียน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดนู สกินประจำ เวียดนามกล่าวว่า บริษัทให้คำมั่นสัญญา กับนักขายทุกคน โครงสร้างรายได้และ ผลตอบแทนต่างๆจะเป็นไปตามที่บริษัท บอกและบริษัทมีโปรแกรมฝึกอบรมที่จะ ให้นักขายบรรลุเป้าหมายรายได้


 


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ ธุรกิจเครือข่าย รายปักษ์ ประจำวันที่ 1-15 ธันวาคม 2555 ฉบับที่ 241

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น