ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เอปูเซ่-Epousee ปรับแผนสู้ศึกภูมิภาคทั่วทิศ ตั้ง 12 จุดบัญชาการจิกยอดสนามขายตรง


เปิดแผนเอปูเซ่ ฉบับใหม่ตั้งกองบัญชาการ 12 จุดฮึดสู้ศึกในสนาม หลังสูญเสียผู้นำมือดี ตอกย้ำความพร้อมรับมือตลาดอาเซียน มั่นใจเกินร้อยหากเดินในเส้นทางการแข่งขันสากล เพราะกินรวบไปยังเพื่อนบ้านนานแล้ว ล่าสุดออสเตรเลียจีบเป็นบิสซิเนสพาร์ทเนอร์ บินเซ็นสัญญาเดือนธันวาฯ นี้ ก่อนสิ้นปี
ดีเดย์สินค้าใหม่ลอนซ์ต่อเนื่องจนถึงกุมภาฯ ปีหน้าเกาะกระแสสินค้าผู้หญิง สิ้นปีปิดยอดเงียบ ๆ ที่ตัวเลข 250 ล้าน.


นายมนตรี ฉิมมณีภัทธ ประธานกรรมการ บริษัท เอปูเซ่ ประเทศไทย จำกัด ได้เปิดเผยถึงภาพรวมของบริษัท ว่า ปีนี้อย่างที่หลาย ๆ คนทราบ เราเองเจอวิกฤตการณ์ในช่วงกลาง ๆ ปี แต่ก็ถือว่าผ่านมาได้ด้วยดี ซึ่งแรงเหวี่ยงถือว่าตีกลับ โดยกลุ่มผู้นำเริ่มที่จะมีแรงฮึดขึ้นมาทำงานมากขึ้น ฉะนั้น แผนงานในช่วงครึ่งปีหลัง เราจึงได้มีการวางแผนขึ้นมาใหม่ ด้วยการหันมาเน้นในเรื่องของโปรโมชั่น รวมถึงการปูฐานผู้บริโภค และเน้นคนที่ทำหน้าที่ในการกระจายสินค้าด้วย

ส่วนแผนงานในปีหน้าก็จะเริ่มเน้นกิจกรรมเกี่ยวกับผู้นำ เพราะตอนนี้เราสร้างฐานผู้บริโภคให้กับผู้นำ และปีหน้าจะเน้นการทำงานในระดับภาคภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งเป็นในส่วนของการประชุมเปิดโอกาสทางธุรกิจระดับภูมิภาค (AOP VIP) โดยในปีหนึ่งจะแบ่งเป็น 3 ช่วง (4 เดือนครั้ง) และนโยบายที่ว่าแบ่งประเทศไทยเป็น 12 ชิ้น วันนี้ได้ดำเนินการทำไป 9 ชิ้นแล้ว ในแต่ละที่ก็จะมีผู้นำรองรับ พร้อมยังเน้นการออกมาให้ความรู้ในแนวทางการทำธุรกิจที่ถูกต้อง และนโยบาย เอปูเซ่ จะไม่เน้นในเรื่องการโมติเวท จะไม่เน้นเรื่องการเอาคนมาลงทุน แต่สิ่งที่เราได้ทำ นั่นก็คือ เมื่อประชุมเสร็จผู้นำสามารถที่จะทำงานต่อได้

สำหรับการประชุมเปิดโอกาสทางธุรกิจระดับภูมิภาค (AOP VIP) ในตอนนี้ประชุมไปแล้ว 6 รอบด้วยกัน โดยปีหน้าตั้งเป้าไว้ที่ 27 รอบเป็นอย่างน้อย ส่วนความเคลื่อนไหวของจำนวนสาขาในปัจจุบันมีอยู่ 5 แห่งด้วยกัน คือ กรุงเทพฯ อุดรธานี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และหาดใหญ่ พร้อมกับมองไว้ในอนาคตจะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 2 - 3 แห่ง (ระนอง ที่จะเปิดเป็นสาขาของบริษัท โดยจะอยู่แถวตะเข็บชายแดน) ส่วนสาขาของสมาชิกปัจจุบันนี้เหลืออยู่ 20 สาขา จากเดิมที่มีอยู่ที่ 30 กว่าสาขา

ส่วนการเตรียมความพร้อมทางด้านการรับมือกับตลาด AEC ตรงนี้เราคงไม่ต้องมีการปรับตัวอะไรมาก เพราะฐานที่เราเริ่มต้นตั้งแต่แรกมาตรฐานได้รองรับไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแพ็ค เกจจิ้ง หรือ เรื่องของสินค้า อย่างล่าสุดมีข่าวดี คือ สินค้าของ เอปูเซ่ ได้รับการอนุมัติให้นำเข้าไปจำหน่ายในประเทศออสเตรเลียได้ โดยสินค้าเกือบทุกตัว ยกเว้น คาวาริชนิดน้ำ ที่มีปัญหาในเรื่องของการขนส่ง และยังมีนักธุรกิจออสเตรเลียบินมาเมืองไทยเพื่อขอเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว โดยวันที่ 1 ธันวาคม 2555 จะบินมาจากออสเตรเลียประมาณ 10 คน ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนและเข้าร่วมอบรมกับเราด้วย
จุดเริ่มต้นของการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายยังประเทศ ออสเตรเลีย เริ่มต้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่เริ่มมียอดต่อเดือนเกือบล้านบาทแล้ว โดยสินค้าที่ค่อนข้างได้รับการตอบรับ คือ คาวาริโกลด์ ชนิดเม็ด ซึ่งตัวนี้ถือว่าเป็นงานวิจัย รวมถึงการส่งเข้าไปยังมหาวิทยาลัยโกเทนเบิร์คที่ประเทศเยอรมัน โดยจำหน่ายคาวาริโกลด์กล่องละ 6,000 บาท จากบ้านเราจำหน่ายอยู่ที่ราคา 2,500 บาท และกาแฟจำหน่ายอยู่แพ็คละ 650 บาท ที่บ้านเราขาย 250 บาท

นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของประเทศลาว เขมร พม่า เวียดนาม ที่สินค้าของเราเรียกว่า ได้ทำตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้เราเองยังขาดผู้นำที่มีความจริงจังในการทำงาน โดยที่ผ่านมาผู้นำที่ทำธุรกิจในส่วนของความต่อเนื่องยังไม่มี จึงจำเป็นที่จะต้องมีผู้นำมาช่วยคอยสานต่อ โดยสิ่งที่บริษัทฯ จะต้องเร่งดำเนินการ นั่นคือ จะต้องเฟ้นหาผู้นำที่ถือว่าเป็นตัวจริงก่อน เมื่อได้ตัวจริงแล้วเราก็ต้องขึ้นไปเยี่ยมเยือน จากนั้นดึงเข้ามาสู่ระบบ เพราะตอนนี้เราถือว่าระบบของเราแข็งแรงมาก ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่รอคอยทั้งในเรื่องการพัฒนาและติดตามผล ก็ถือว่าแจ้งเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ยอดจองในช่วงเดือนมกราคมนั้นเต็มหมดแล้ว
...ส่วนกรณีของผู้นำที่เคลื่อนทัพออกจากธุรกิจ เอปูเซ่ นายมนตรียอมรับว่า เรื่องนี้มีผลกระทบในเรื่องของยอดขายบ้างเช่นกัน แต่ต้องเรียนว่าตนเองได้ทำงานกับทางผู้นำเคียงบ่าเคียงไหล่มา ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่งจะเป็นในเรื่องของแนวคิดที่ทุกคนนั้นมีเหตุ มีผล ซึ่งตรงนี้ เอปูเซ่ ยังยืนยันว่า ในช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจ เรายังต้องการให้ผู้นำทุกคนได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ ความรู้ความสามารถออกมาอย่างเต็มที่

สำหรับแผนงานช่วงเวลาหลังจากนี้ คงจะมีการอัดโปรโมชั่นแรง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรางวัลในส่วนของทองคำ เพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อให้มากขึ้น ส่วนโปรโมชั่นหลัก ๆ ของเราก็จะเป็นโปรโมชั่นท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะหมดในเดือนธันวาคมนี้ โดยคาดว่าจะมีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติได้โปรโปรโมชั่น ท่องเที่ยวเกาหลี น่าที่จะไม่ต่ำกว่า 100 ท่าน ที่จะเดินทางในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ต้นปีหน้า

ยุทธศาสตร์ เอปูเซ่ ที่เริ่มบุกมาตั้งแต่ครึ่งปีหลัง พบว่ามีอัตราสมาชิกเพิ่มเข้ามาพอสมควร รวมถึงแกนนำยังคงมีอยู่ 17 ท่านด้วยกัน ในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่สมาชิก ซึ่งแต่ละท่านก็รับผิดชอบอยู่ในแต่ละส่วนของภูมิภาค สำหรับเป้าหมายยอดขายในสิ้นปีนี้ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 250 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมายอดขายอยู่ที่ประมาณ 190 ล้านบาท โดยปีนี้ต้องบอกว่ามีสินค้าตัวใหม่เข้ามาคือ คาวาริ ที่ทำให้ตลาดของ

เอปูเซ่ เติบโตขึ้น และสามารถสร้างยอดขายอยู่ที่ประมาณ 3 พันกล่องต่อเดือน คิดเป็นมูลค่ายอดขายอยู่ที่ 7 - 8 ล้านบาทต่อเดือน
ส่วนสินค้าใหม่ที่จะเปิดตัวในก่อนปีนี้ หรือในวันที่ 29 ธันวาคม 255 ก็จะมีการจัดงานพร้อมกับการเปิดตัวแชมพูสระผม ที่เป็นสูตรขจัดรังแค จากนั้นต้นปีหน้าก็จะมีสินค้าเกี่ยวกับผู้หญิงประมาณช่วงไตรมาสแรก หากจะสรุปสัดส่วนยอดขายของสินค้าในแต่ละกลุ่ม พบว่ากลุ่มที่มียอดขายกลับขึ้นมาอีกครั้ง คือกลุ่มชุดบำรุงผิวโตกว่า 10% กลุ่มอาหารเสริมโตกว่า 20% กลุ่มสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันโตกว่า 10% กลุ่มสมุนไพรน้ำอยู่ที่ 50% ด้วยกัน จากปัจจุบันจำนวนสมาชิกอยู่ที่เฉียด 100,000 รหัส โดยสมาชิกที่แอคทีฟอยู่ที่ประมาณ 20,000 รหัส

วันนี้ต้องบอกว่า เรามีความพร้อมในเรื่องของระบบการฝึกอบรมที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของเรา รวมถึงในส่วนของกิจกรรม โดยระบบการฝึกอบรมทำตั้งแต่เริ่มแรกไม่มีการหยุด ซึ่งเราเองถือว่าเป็นบริษัทต้น ๆ ที่ยืนหยัดในเรื่องตรงนี้ โดยที่เรามีการอบรมเองไม่ได้จ้างข้างนอก อีกทั้งคนที่เป็นวิทยากรจะต้องเป็นคนที่ทำงานจริงในภาคสนาม รวมถึงระบบในเรื่องของหลักสูตร โปรโมชั่น ก็มีเป็นสูตรสำเร็จแล้ว เพียงแค่ว่าจะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคพอใจ ผู้แนะนำก็มีความสุข และหากใครที่ไม่เตรียมรับมือกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เชื่อว่าในอนาคตอยู่ยาก


นอกจากนี้ นายมนตรี ยังได้กล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันของธุรกิจขายตรงว่า ค่อนข้างที่จะแข่งขันกันอย่างสนุก และไม่ใช่เป็นเรื่องที่เลวร้ายจนตกอกตกใจ เพราะต้องบอกว่าธุรกิจนี้จะทำให้คนที่ตั้งใจจริงอยู่ได้ เพราะหากคุณไม่ตั้งใจจริงก็จะไม่สามารถอยู่ในโลกของการแข่งขันได้ แต่ผู้ประกอบการควรจะแข่งขันภายใต้เงื่อนไขที่เป็นสากล


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ. ตลาดวิเคราะห์ ประจำวันที่ 1- 15 ธันวาคม 2555 ฉบับ 333

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น