![]() |
ครอบครัวรับข้าราชการ รู้จักแอมเวย์เมื่อปี 2532
คุณประภาคาร จริยา เมืองมั่น นักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชรบริหาร กล่าวว่าครอบครัวตนเองมาจากข้าราชการทหารทั้งครอบครัวโดยคุณพ่อ คุณแม่ รับราชการมาโดยตลอด สำหรับตนเองเรียนมาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ มีอาชีพเป็นวิศวกรเครื่องกลที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ โดยทำงานอยู่ที่นี่เป็นระยะเวลา 10 ปี
ทั้งนี้ ตนเองได้รู้จักกับธุรกิจแอมเวย์ครั้งแรกเมื่อปี 2532 และสมัครเป็นผู้จำหน่ายอิสระ (ชื่อเรียกในขณะนั้น) แต่ด้วยความที่ยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีการทำตลาดมากนัก ทำให้ต้องหยุดทำธุรกิจแอมเวย์ไปถึง 4 ปี ประกอบกับทำงานประจำอยู่แล้วซึ่งทำให้ไม่ค่อยมีเวลาไปประชุมตามเซ็นเตอร์เพื่อเข้าอบรมเรียนรู้และสัมผัสบรรยากาศต่างๆจากผู้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม ได้กลับเข้ามาทำธุรกิจแอมเวย์อีกครั้งในปี 2536 มีการพาผู้มุ่งหวังเข้าร่วมสวมประชุมตามเซ็นเตอร์ และเริ่มเรียนรู้วิธีการทำงานตามระบบอีกครั้งหลังจากห่างหายไป 4 ปี
คุณประภาคารกล่าวต่อไปว่า การทำตลาดในยุคแรกๆนั้นคน ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้จักว่าแอมเวย์คืออะไร ยังไม่รู้จักว่าแอมเวย์มีสินค้าอะไรบ้าง ดีอย่างไร คุ้มค่าอย่างไร และทำไมต้องเป็นแอมเวย์
ขายตรงยุคบุกเบิกคนไม่รู้จัก เริ่มต้นด้วยความไม่มั่นใจ
ดังนั้น เมื่อมองย้อนกลับไปในชาวง 10 ปีแรก ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นยุคบุกเบิกของธุรกิจขายตรงทำให้ต้องพบกับคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของธุรกิจขายตรงในยุคนั้นค่อนข้างมากเพราะยังเป็นเรื่องแปลกใหม่
แอมเวย์ในยุคแรก ยังมีตำแหน่ง 3 % ซึ่งตนเองสามารถขึ้นตำแหน่งดังกล่าวได้ภายในระยะเวลา 1 ปีแรก เนื่องจากยังทำงานประจำเป็นหลักและรายได้จากการเป็นวิศวกรเดือนละ 50,000-60,000 บาท ถือว่าดีพอสมควร ไม่นับรวมรายได้พิเศษนอกเหนือจากงานประจำอีกนับแสนบาท รายได้ในช่วงนั้นส่วนใหญ่จึงมาจากอาชีพวิศวกรเป็นหลัก
คุณประภาคารกล่าวและว่า อย่างไรก็ดี ตนเองได้เลิกทำธุรกิจแอมเวย์อีกเป็นครั้งที่สอง เพราะคิดว่าตนเองมีเวลาให้กับการประชุมไม่เพียงพอการไปเซ็นเตอร์ต่างๆ ก็ไม่ค่อยได้ไป และยังกังวลกับการทำงานประจำ
อย่างไรก็ตาม ตนเองได้สัมผัสกับแนวคิดทางธุรกิจแอมเวย์หลายประการ เช่น รายได้แบบ Active Income และ Passive Income ทำให้เราต้องหันกลับมาทบทวนตนเองประกอบกับอัพไลน์ที่เคนรีครูทตนเองต่างก็ห่างหายไปหมด ทำให้การทำงานบางครั้งต้องทำแบบลองผิดลองถูก
ปี 2543 ก้าวสู่เพชรแอมเวย์ เปิดวิสัยทัศน์พบคนหลากหลาย
การย้อนกลับเข้ามาทำธุรกิจแอมเวย์ครั้งที่สองได้ทำให้ตัดสินใจวางแผนการทำงานต่างๆ รอบคอบขึ้น จนกระทั่งปี 2543 ได้กล่าวสู่นักธุรกิจแอมเวย์ระดับแพชร
คุณประภาคารกล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงทำธุรกิจแอมเวย์ได้มีโอกาสไปงานแคมป์พบปะกับผู้คนจำนวนมากซึ่งแต่ละคนล้วนแล้วแต่มีโปรไฟล์ที่ดี มีประสบการณ์ทำงานที่หลากหลายสาขาอาชีพ จนทำให้หันมามองตัวเรากลายเป็นคนตัวเล็กๆ คนหนึ่งไปเลย เช่น ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ ผู้บริหารสถาบันการเงินขนาดใหญ่
แต่ละคนพอเข้ามางานแคมป์ต่างถอดหัวโขนที่ตนเองเป็นผู้บริหาร มีความเป็นกันเอง สนุกสนานกันเต็มที่ เพราะในองค์กรเรามีวัฒนธรรมที่เป็นอกลักษณ์ต่างช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพราะการที่ตนเองจะประสบความสำเร็จได้จำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือดาวน์ไลน์ให้ประสบความสำเร็จเช่นกัน นี่คือ เสน่ห์ของธุรกิจขายตรง
จุดเด่นอีกประการของธุรกิจขายตรง คือ ต้องมีความอดทน ต้องรู้จักแก้ปัญหาใหม่ๆ ตลอดเวลา อีกทั้งยังได้พบปะกับผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพ หลากหลายความรู้ หลากหลายวัย
หลังจากได้ก้าวสู่นักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชรในปี 2543 จึงตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการลาออกจากงานประจำด้วเหตุผลที่ว่า การทำธุรกิจแอมเวย์ทำให้มีรายได้พอสมควรจนมั่นใจว่าคุ้มค่ากับการลาออกจากงานประจำปี อีกทั้งต้องเดินทางท่องเที่ยวกับแอมเวย์ค่อนข้างบิอยในแต่ละปี ทำให้ต้องลาหยุดงานประจำแต่ละครั้งเป็นเวลาหลายวัน
ได้แนวคิดจากธุรกิจแอมเวย์ ผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดี
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากธุรกิจแอมเวย์ คือ ต้องฟังให้เป็นเพราะมนุษย์ทุกคนมีอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล อย่างไรก็ดี ตนทุกคนสามารถทำความผิดไดเพียงแต่อย่าทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเท่านั้นเอง
ประการสำคัญ คือ ตัวเราเป็นผู้นำต้องทำให้ดาวน์ไลน์ดูเป็นตัวอย่างถ้าใครมีความสามารถด้านไหนก็ใช้ความสามารถที่มีให้เต็มที่ เช่น ถ้าเก่งด้านการขายก็ลุยงานขาย ถ้าเก่งด้านการรีครูทคนก็ลุยให้เต็มที่ เป็นต้น เพราะธุรกิจขายตรงเป็นงานที่ต้องก็อปปี้ทำซ้ำไปซ้ำมา และถ่ายทอดความสำเร็จจากรุ่นนี้ไปยังรุ่นต่อๆไป
มีการกระตุ้นทีมงานให้แอ็คทีฟ ขณะที่ทุกคนมีความฝันของตัวเอง ตัวเราไปประชุมได้บรรยากาศในที่ประชุมอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีทัศนคติเป็นบวก พร้อมกับความคิดอยากเปลี่ยนแปลง
คนแต่ละคนมีความต้องการที่หลากหลาย แต่ละคนจะมีความเป็นตัวตนค่อนข้างสูงและไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องส่วนตัวของตน ขณะที่หลายคนมาร่วมประชุมโอกาสทางธุรกิจ เพราะความเกรงอกเกรงใจ แต่อย่างน้อยที่สุดมาร่วมงานย่อมได้อะไรกลับไปบ้างไม่มากก็น้อยโดยเฉพาะในเรื่องแนวคิดการใช้ชีวิต
ต้องสร้างความไว้วางใจทุกด้าน ปี 2547 ก้าวสู่เพชรบริหาร
คุณประภาคาร เผยเคล็ดรับว่า ถ้าทำให้คนมาร่วมงานไว้วางใจในตัวเรา ไว้วางใจในบรรยากาศการประชุม โอกาสที่จะได้รับการตอบรับด้วยการสมัครทำธุรกิจย่อมมีสูงเช่นกัน และข้อดีของการสมัครทำธุรกิจแอมเวย์ประการหนึ่งคือ ถ้าไม่พอใจสามารถคืนค่าสมัครได้ในระยะเวลาที่กำหนด
หลังจากบุกตลาดมาหลายปีวางรากฐานต่างๆ มาได้พอสมควร ล่าสุดปี 2547 คุณประภาคาร จริยา เมืองมั่น ได้ประสบความสำเร็จอีกขั้นด้วย การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง นักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชรบริหาร
คุณประภาคาร กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า การทำธุรกิจแอมเวย์บางครั้งอาจมีความรู้สึกเหนื่อยบ้าง อยากพักบ้าง พอได้พักหายเหนื่อยแล้ว ก็เดินหน้าต่อไป ประเด็นสำคัญ คือ การที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ทีมเวิร์คมีส่วนสำคัญมากเพราะทุกคนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีความรักความสามัคคี มีการให้กำลังใจในการทำงานแม้ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคใดๆ ก็ตาม
ความกตัญญูเป็นสิ่งสำคัญ บางครอบครัวคุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก ทำธุรกิจแอมเวย์ร่วมกัน กลายเป็นทำในสิ่งที่เรารักเพื่อคนที่เรารัก
พร้อมกับย้อนอดีตให้ฟังว่า การทำธุรกิจ แอมเวย์โดยเฉพาะในช่วง1-2 ปีแรกเหนื่อยมากเพราะจะต้องแบ่งเวลาทั้งงานประจำละงานพาร์ตไทม์ แต่ถ้าใครสามารถผ่านช่วงเวลาดังกล่าวได้ถือว่าโอกาวประสบความสำเร็จอยู่แค่เอื้อม
การทำธุรกิจแอมเวย์ใน 3 วันแรก ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจอย่างเป็นระบบว่าจะต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไร แต่บางคนร้อนวิชา พอเรียนรู้ได้ไม่เท่าไหร่ก็รีบออกไปพบลูกค้าหรือผู้มุ่งหวังโดยที่ตนเองยังไม่มีทักษะเพียงพอ หลังจากถูกปฏิเสธบ่อยครั้งบางคนถึงกลับถอดใจเลิกไปเลยก็มี
คุณประภาคาร กล่าวว่า การจัดงานแคมป์แต่ละครั้งมีคนร่วมงานมากน้อยแตกต่างกัน คือ ตั้งแต่ 40-1,200 คน แล้วแต่เงื่อนไขและความพร้อมในการจัดงานแต่ละครั้ง
ทั้งนี้หากองค์กรใดมีความพร้อม และคิดว่าสามารถแตกตัวออกไปจัดงานแคมป์ด้วยตัวเองได้ ก็สามารถแยกออกไปจัดแคมป์ของตนเองให้เห็นเป็นประจำ
สำหรับเคล็ดรับในการทำงาน คุณประภาคาร เผยว่า อุปสรรคชีวิตที่ดีกว่าได้แก่การมีชีวิตที่ดีอยู่แล้ว ธุรกิจขายตรงเปรียบเสมือนกับการบริหารความคาดหวัง ถ้าหากสามารถเปลี่ยนวิถีชีวิตให้กับบุคคลนั้นๆได้วิถีชีวิตของบุคคลนั้นจะเปลี่ยนไปทันที ที่สำคัญคือการทำงานอย่างมีเป้าหมายมีความหวังย่อมดีกว่าการปล่อยตัวใช้ชีวิตไปวันๆ โดยไม่ทำอะไร
ความพยายามทุกครั้งอาจไม่ประสบความสำเร็จ แต่ความสำเร็จมักมาจากความพยายาม ดังนั้น การหยิบยื่นกำลังใจให้ผู้อื่นเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก คุณประภาคาร- จริยา เมืองมั่น กล่าวทิ้งท้าย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ อินเน็ตเวิร์ค ปักษ์หลังประจำวันที่ 16-30 พฤศจิกายน 2555 ฉบับที่ 154
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น