ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เข้ม15 บริษัทเลิกทำMLM! เรียก 13 ขายตรงดาวเทียม พบ สคบ








รมต.วราเทพ สั่ง สคบ. สานต่อนโยบายเดิม รมต.วรวัจน์ เร่งขยายช่องทางรับร้องทุกข์ผ่าน บิ๊กซี- โลตัส ปรับแผนปฏิบัติการเชิงรับเพิ่ม จิรชัย เผยความ คืบหน้ามาตรการกวดเข้ม ขายตรง หลังส่งหนังสือเวียน เช็คสถานภาพกว่า 600 บริษัท ใครไม่ตอบเตรียม เพิกถอน ใบอนุญาตทันที พบมีเพียง 180 แห่งแสดง ตัวตน ขณะ 15 บริษัทแจ้ง ขอเลิก ทำธุรกิจแล้ว พร้อม เดินแผนสแกน ขายตรงดาวเทียม จับผิดได้ 13 ราย โฆษณาเกินจริงเรียกชี้แจงด่วน ก่อนเล็งจ้าง มหาวิทยาลัย ทำวิจัยอุตสาหกรรมเร่งตั้ง บอร์ดขายตรง เดินสายพบ 3 สมาคม
นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผย ธุรกิจเครือข่าย ว่าจาก การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งล่าสุดนาย วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ได้หมดวาระลงไป ตามมติครม.เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายก รัฐมนตรี ได้แต่งตั้งและมอบหมายให้นาย วราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนัก นายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแลสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็น ที่เรียบร้อยแล้ว
โดยได้มอบหมายนโยบายให้สคบ. ดำเนินการสานต่อนโยบายรัฐมนตรีคนเดิมต่อ และให้สคบ.ดำเนินการในเชิงรับมากขึ้น ซึ่งได้ กำชับให้ดำเนินการเพิ่มช่องทางร้องเรียนมาก ขึ้นกว่าปัจจุบัน ที่สคบ.ได้ดำเนินการรับเรื่อง ร้องเรียนจากเซเว่น-อีเลฟเว่นไปแล้ว ทั้งนี้ให้ เร่งทำโครงการขอความร่วมมือจากห้าง สรรพสินค้า อาทิ บิ๊กซี โลตัส แมคโคร แนวทางเดียวกันกับเซเว่น-อีเลฟเว่นต่อไป
ท่านวราเทพได้ให้นโยบายวิสัย ทัศน์แล้ว โดยเห็นว่าแผนงานเดิมจากท่าน รัฐมนตรีคนก่อนดีอยู่แล้ว ก็ให้ดำเนินการ ต่อไปอย่างต่อนื่อง และท่านได้เพิ่มในเรื่อง ของผู้ประกอบการโดยแบ่งเป็น 3 ประเภท 1. ผู้ประกอบการที่ตั้งใจที่จะเอาเปรียบและ ตั้งใจที่จะหลอกลวง อันนี้ให้สคบ.ดำเนินการ ตามกฏหมายและจัดการขั้นเด็จขาด 2.ประเภทผู้ประกอบการที่อาศัยช่องโหว่ทาง กฏหมายไปกระทำการเอาเปรียบผู้บริโภค อัน นี้ให้เร่งกวดขันและเร่งทำการตรวจสอบ 3.ประเภทผู้ประกอบการที่เห็นความได้เปรียบ ผู้บริโภค แล้วกระทำการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยทางผมเองนั้นจะเร่งดำเนินการให้เร็ว ที่สุด
นายจิรชัยกล่าวว่า สำหรับภาค ธุรกิจขายตรงขณะนี้มีผู้ประกอบการจด ทะเบียนกับสคบ.ไปแล้วกว่า 600 บริษัท ธุรกิจตลาดแบบตรงอีกกว่า 300 บริษัท แต่ที่ ผ่านมาสคบ.ยังไม่มีการจัดทำฐานข้อมูลที่ ชัดเจนในเรื่องของ สินค้าที่จดทะเบียนและขอ อนุญาตขายในระบบ จนทำให้ไม่สามารถ ตรวจสอบได้ว่ามีกี่บริษัทที่ยังเปิดดำเนินการ อยู่บ้าง
ตอนนี้กำลังดำเนินการติดตาม บริษัทขายตรงว่ากี่กลุ่มและดำเนินการจริงอยู่ กี่บริษัท สคบ.ได้ส่งจดหมายถึงบริษัทเอกชน ทั้งหมดและมีการตอบกลับมาเพียง 180 และ จาก 180 บริษัท มีการแจ้งกลับมาขอเลิก ดำเนินธุรกิจขายตรงไปแล้ว 15 บริษัท ทั้งนี้ ทางสคบ.จะทำจดหมายไปถึงทุกบริษัทอีก ครั้งถ้าใครหรือบริษัทไหนไม่ตอบกลับมาก็จะ ดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป เพื่อที่จะทำให้ เกิดความชัดเจนว่ามีกี่บริษัทที่ยังมีความ ประสงค์ที่ดำเนินการอยู่ และจะทำการเพิก ถอนบริษัทที่ไม่ตอบรับกลับมา
สำหรับการทำงานของสคบ.จะเน้น การทำงานอย่างบูรณาการ และเมื่อกลาง เดือนตุลาคมที่ผ่านมา สคบ.ได้เข้าร่วมประชุม กับอนุกรรมการตรวจสอบการโฆษณา เกี่ยว กับบริษัทขายตรงที่โฆษณานำเสนอขาย สินค้าผ่านสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่ไม่ เหมาะสมอ้างสรรพคุณเกินจริงประมาณ 13 บริษัท โดยจะไปดำเนินการสอบสวนและให้ บริษัทเหล่านั้นเข้ามาชี้แจงกับสคบ. และจะ ดำเนินการเอาผิดกับทุกบริษัทที่ไม่รับผิดชอบ และการกระทำอ้างสรรพคุณสินค้าที่เกินจริง และไม่เหมาะสมต่อไป โดยเฉพาะสื่อ โฆษณาทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม
เลขาธิการสคบ. กล่าวต่อถึงเรื่อง การแก้ไขร่างพระราชบัญญัติขายตรงและ ตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ว่า ทางสคบ.ได้ฟัง ความเห็นหลายฝ่ายแล้ว ควรที่จะปรับปรุงพรบ.ขายตรงและตลาดแบบตรงทั้งฉบับ และมี แนวคิดในเรื่องนี้โดยจะจ้างมหาวิทยาลัยใน ประเทศมาทำการวิจัยในเรื่องนี้ต่อ เพื่อศึกษา เปรียบเทียบโอกาสตลาดขายตรงจากต่าง ประเทศด้วย ส่วนของการตั้งคณะกรรมการ ขายตรงล่าสุดได้แจ้งนายวราเทพให้ทราบไป แล้ว เพราะคณะกรรมการขายตรงชุดเดิมหมด วาระไปตั้งแต่ปี 2553 โดยขณะนี้กำลังเร่ง สรรหาคณะกรรมการขายตรงชุดใหม่และ เตรียมนำเสนอเข้าที่ประชุมและนำเสนอ รัฐมนตรีต่อไป
ในการกำกับดูของภาครัฐในธุรกิจ ขายตรงก็เหมือน คปภ.ที่ดูแลธุรกิจประกันภัย แต่ภาครัฐ เราควรจะให้เขาทำธุระกำกับดูแล กันเองมากกว่า และภาครัฐจะเข้าไปดูแลใน บางส่วนเพราะ สคบ.มีข้อจำกัดทั้งงบ ประมาณและกำลังคน นายจิรชัยกล่าว
นอกจากนั้นขณะนี้สคบ.กำลัง ดำเนินการเยี่ยมเยียนบริษัทขายตรงโดยจะไป ในนามสมาคมต่างๆ เริ่มจากการไปเยี่ยม สมาคมการขายตรงไทย (TDSA) และในวันที่ 1 ธันวาคมนี้จะไปร่วมงานสมาคมพัฒนาการ ขายตรงไทย (TSDA) และก็ตามด้วยสมาคม อุตสาหกรรมการขายตรงไทย (TDIA) ต่อไป




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ ธุรกิจเครือข่าย รายปักษ์ ประจำวันที่ 1-15 ธันวาคม 2555 ฉบับที่ 241

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น