ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

รวมช็อตเด็ดขายตรงปี’56 ‘ข่าวเด่น - ประเด็นร้อน’ฮอตทั้งปี







mlm (Mobile)

 


ประมวลภาพขายตรงปี 2556 แต่ละไตรมาส พบ “ข่าวเด่น - ประเด็นร้อน” เพียบ...ทั้ง “แชร์ลูกโซ่ - ซิมเติมเงิน - สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์” ร้องเรียนกันให้ควั่ก...ฮอตสะเทือนวงการ หนีไม่พ้นปลด เลขาสคบ. “จิรชัย มูลทองโร่ย” เด้งแบบฟ้าผ่า ต้นเหตุทำงานคลุมเครือ...ฝั่ง “ผู้ประกอบการ” เร่งเครื่องปลายปี ดันยอดสู่เป้าหมาย


ถือเป็นธรรมเนียมประจำปี ที่ทีมข่าว “ตลาดวิเคราะห์” จะต้องหยิบยกและรวบรวม “ข่าวเด่น - ประเด็นร้อน” ในช่วงต้นปีจนถึงปลายปีมานำเสนอแก่ผู้อ่านได้รับทราบกัน ซึ่งเชื่อว่าทุก ๆ เหตุการณ์ใน “ธุรกิจขายตรง” สะท้อนถึงการเติบโตธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งความเคลื่อนไหวแวดวงภาคเอกชน และภาครัฐ ที่ต้องทำงานสอดประสานและ “ล้อ” ไปด้วยกันได้ แต่หากเพิกเฉยก็จะเจอทีเด็ด ปลดแบบสายฟ้าฟาดก็มีให้เห็นมาแล้ว


นี่คือ การส่งสัญญาณที่ดี ที่ทั้งเอกชนและภาครัฐ จะต้องกำหนดนโยบายและทิศทางธุรกิจ จะต้องก้าวเดินไปด้วยกัน และร่วมกันเดินอย่างถูกวิธี เพื่อรองรับการเติบโตอุตสาหกรรมขายตรงที่กำลังโตวันโตคืน และปรับสถานการณ์ให้ก้าวทัน “เออีซี”


และบทสรุปความร้อนแรงของธุรกิจขายตรงในแต่ละไตรมาส มีประเด็นร้อน ประเด็นเด็ดอะไร?....ให้น่าติดตาม


 Q1 ขายตรงร้อนระอุ!


แชร์ฉาวโฉ่เริ่มขยับตัว


...เริ่มต้นความเคลื่อนไหวของ “ธุรกิจขายตรง” ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 พบว่า ข่าวที่มาสร้างสีสันประเด็นร้อนแรงตั้งแต่ต้นปีนี้ คงจำกันได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ข่าวค่าย “คิงส์เฮลท์ตี้” ที่มีกระแสออกมาทั้งในเชิงบวกและแง่ลบ โดยส่วนใหญ่แล้วข่าวเชิงลบเรื่องการปั่นเงินจะออกมาค่อนข้างหนาหูมากทีเดียวสำหรับค่ายนี้


ซึ่งข่าวที่สร้างความฮือฮาในช่วงเวลานั้น ก็คือ การเปิดดำเนินธุรกิจมาเพียงแค่ระยะสั้นราว ๆ 3 ปี แต่สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 2,000 ล้านบาท ที่สำคัญได้มีการกำหนดเป้าหมายที่จะต้องฟันยอดขาย 5,000 ล้านบาทต่อปีอีกด้วย หากมองถึงเนื้อแท้ของความเป็นจริงแล้ว บริษัทที่เกิดขึ้นมาเพียงไม่นาน จะสามารถสร้างยอดขายได้พุ่งแรงมากมายขนาดนี้ได้เชียวหรือ?...ซึ่งต้องมีปัจจัยด้านอื่นมากระตุ้นยอดขายแน่นอน


แต่ในที่สุด กระแสของค่าย “คิงส์เฮลท์ตี้” ก็ได้เริ่มซบเซาลงอย่างน่าตกใจ ด้วยสาเหตุในเรื่องของปัญหาทางการเงินนั่นเอง รวมถึงยังเกิดปัญหาเรื่องของผู้นำทั้งเบอร์ 1 และเบอร์รอง ๆ ต่างวงแตกออกจากค่ายนี้ไปซบค่ายอื่นกันหลายต่อหลายคนด้วยกัน รวมถึงยังได้มีการไปเปิดบริษัทเป็นของตัวเองอีกด้วย...อาจจะนับได้ว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ เรื่องข่าวร้อน ข่าวแรงค่าย “คิงส์เฮลท์ตี้” นับเป็นข่าวที่พูดกันหนาหูกันอย่างมากในช่วงเวลานั้นนั่นเอง!..


...ส่วนอีกหนึ่งข่าวเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนเริ่มหันมาสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะ “เหล่าผู้ประกอบการ” ใน “ธุรกิจขายตรง” นั่นก็คือ กระแสของการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดเออีซี ที่ทางคนในธุรกิจขายตรงเริ่มที่จะเคลื่อนทัพให้เริ่มเห็นกันบ้างแล้ว เห็นได้จากทั้งในส่วนของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้ร่วมมือกันแชร์ความคิดในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น


ซึ่งการเปิดตลาดเออีซี ต้องบอกว่าไม่ได้ถือเป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด แต่อาจจะเป็นเพราะกระแสของตลาดเออีซี เริ่มที่จะมีผลต่อหลาย ๆ ธุรกิจ ด้วยเหตุนี้เอง จึงส่งผลให้ในภาคอุตสาหกรรมขายตรง จึงได้มีการขยับตัวเพื่อให้สอดรับกับกระแสที่เกิดขึ้น


แต่ในทางกลับกัน เชื่อว่าการที่ “เหล่าผู้ประกอบการ” จ ะกรีฑาทัพเข้าสู่ตลาดเออีซีได้นั้น เรื่องของความพร้อมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะปรับให้พร้อมเพื่อรับมือ หากเดินตามกระแสโดยที่ไม่พร้อม โอกาสที่จะเจ็บตัวก็มีสูงด้วยเช่นกัน...ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งข่าวที่บรรดาผู้ประกอบการขายตรงต่างตื่นตัวกันอย่างมากทีเดียว


ขณะเดียวกันหลาย ๆ คน ต่างจับตามองความเคลื่อนไหว นั่นก็คือ กรณีของ “บัตรเติมเงิน” กับ “ธุรกิจขายตรง” ที่ต่างคนต่างมองว่า มันใช่ธุรกิจขายตรงหรือไม่ เพราะด้วยตัวสินค้าที่ไม่ใช่อยู่ในหมวดอุปโภค - บริโภคชัดเจนเท่าที่ควร และคาบเกี่ยวกับ “ธุรกิจแชร์ลูกโซ่” หรือไม่ ยังไม่มีคำตอบออกมาเป็นที่แน่ชัด เพราะมีการเชิญชวนและลงรหัสคล้าย ๆ กับธุรกิจขายตรง ซึ่งในกรณีดังกล่าวนี้ หลายฝ่ายต่างออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเริ่มเห็นธุรกิจชนิดนี้ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดนั่นเอง


โดยข้อความที่เชิญชวนและถูกโพสผ่านเว็บต่าง ๆ ถือว่า อาจจะเป็นตัวบ่งชี้ว่า เข้าข่ายหรือคาบเกี่ยวกับ “ธุรกิจแชร์ลูกโซ่” หรือไม่ ก็ไม่มีหน่วยงานใดออกมาระบุเป็นที่แน่ชัด ยกตัวอย่าง ข้อความที่ถูกโพสไว้ดังรายละเอียดต่อไปนี้ คือ...“วันนี้ ไม่ว่าคุณจะใช้มือถือเครือข่ายไหน ระบบไหน คุณสามารถที่จะรวยได้ด้วยสุดยอดเทคโนโลยี ผสมผสานกับแนวคิดทางการตลาดที่ลงตัว ที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับคุณ นี่ไม่ใช่รายได้เสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้คุณต้องเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ แต่นี่จะเป็นรายได้มากกว่ารายได้หลักที่ท่านเคยได้รับ พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองครับ”…อย่างนี้เป็นต้น


เช่นเดียวกับข่าวในเรื่องของ “การแก้ไขกฎหมายขายตรง” ที่หลาย ๆ คน ในธุรกิจนี้ อยากจะเห็นว่าจะออกมาในรูปแบบไหน และจะสามารถสร้างแรงผลักดันให้กับธุรกิจนี้ได้มากน้อยเพียงใด โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ทาง “สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย” หรือ (TDNA) ที่มีอดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.อย่าง “นิโรธ เจริญประกอบ” นั่งเป็นนายกสมาคมฯ อยู่นั้น ก็ได้ออกมาโชว์ออฟประกาศเดินหน้าเสนอให้มีหน่วยงานดูแลธุรกิจขายตรงโดยเฉพาะ พร้อมกับยังมีการเสนอให้ตั้ง “กองทุนคุ้มครองผู้เสียหายจากการทำธุรกิจขายตรง” อีกด้วย


…ข่าวเด่น - ประเด็นร้อนที่ “นสพ.ตลาดวิเคราะห์” ได้ออกมาพาดหัวข่าวใหญ่หน้า 1 “ล้างบาง‘ขายตรงนอกรีต’ ปิดฉาก ‘สหกรณ์’ กำมะลอ” ซึ่งถือเป็นการเปิดโปงขบวนการของแก๊งค์มิจฉาชีพที่มีการแสดงพฤติกรรมแบบซ่อนเร้น ด้วยการเปิดสหกรณ์บังหน้า จากนั้นมีการกลายพันธุ์สู่ธุรกิจขายตรงแบบเต็มรูปแบบ


ซึ่งหากใครยังจำขบวนการ นี้ได้ คงพอที่จะทราบว่า ในช่วงเวลานั้นพฤติกรรมของ “ขายตรงเถื่อน” พวกนี้ ได้มีการใช้คำโฆษณาชวนเชื่อแบบล่อแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ด้วยแคมเปญที่ว่า “ตื่น - ตาย กู้ได้เงินแสน” และจากพฤติกรรมนี้เอง ที่ทำให้มีผู้เสียหายต่างมาร้องทุกข์กันมากกว่า 12,000 รายทีเดียว


 ขายตรง Q2 ยังคุกรุ่น


ข่าวเด่น - ข่าวร้อนตรึม


...เปิดฉากความเคลื่อน ไหวของ “ธุรกิจขายตรง” ในช่วง “ไตรมาสที่ 2” ของปี ก็ยังถือว่ากระแสของ “ข่าวเด่น - ข่าวร้อน” ยังคงดุเดือดเลือดพล่านอย่างต่อเนื่อง...เห็นได้จากข่าวของทาง “เวิลด์ เวนเจอร์” ที่คนในเครือข่ายต่างจับจ้องมองดูถึงความเคลื่อนไหวแบบเกาะติดสถานการณ์


จากข้อมูล ณ ช่วงเวลานั้น พบว่าเป็นบริษัทที่มีการสร้างเครือข่ายขายตรงผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งสินค้าหลักเป็นการให้บริการด้านการท่องเที่ยว การให้บริการจองที่พัก จองเที่ยวบิน ที่สำคัญยังได้มีการแอบอ้างว่า มีขอบข่ายธุรกิจกว้างไกลทั่วโลก มีคำโฆษณา ที่ปรากฏในหน้าเว็บไซต์ ระบุชัดเจนว่า สมาชิกสามารถซื้อบริการที่พักโรงแรมระดับ 2 - 3 ดาว แต่จะได้บริการที่สูงเลอเลิศเทียบเท่าระดับ 5 ดาวอีกด้วย


ซึ่งบริษัทดังกล่าวนี้ หากมองในอีกแง่มุมหนึ่ง จะพบว่าค่อนข้างที่จะคาบเกี่ยวกับธุรกิจ “แชร์ลูกโซ่” ด้วยเช่นกัน เพราะการโฆษณาชวนเชื่อ รวมถึงการเรียกเก็บค่าสมาชิกดังกล่าว ยังถือว่าค่อนข้างที่จะแพงอย่างมากทีเดียว หากเทียบเท่ากับบริษัทอื่นที่ทำ “ธุรกิจขายตรง” ในลักษณะเดียวกัน!...


…ส่วนอีกข่าวที่หลาย ๆ คนเฝ้าติดตามเช่นเดียวกัน ที่ถูกโยงว่ามีข่าวฉาวเรื่องของ “แชร์ลูกโซ่” พ่วงออกมาด้วย ส่วนจะจริงหรือไม่ ก็ยังไม่มีการยืนยันเป็นที่แน่ชัด เพราะยังไม่มีหน่วยงานรัฐและกฎหมายใด ๆ เข้าไปจัดการ มีเพียงแต่กระแสที่ติดลมบนจนมีข่าวออกมาอย่างหนาหู นั่นก็คือ ขายตรงน้องใหม่ “มิ้ลค์กี้ฯ” ที่มีข่าวทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ซึ่งมีออกมาให้เห็นแทบจะต่อเนื่องเลยทีเดียว


ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเรื่องของการปรับเปลี่ยนทัพผู้นำใหม่หมด ปรับทีมผู้บริหาร รวมถึงการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์องค์กรใหม่ แม้กระทั่งการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ พร้อมกับเสริมพันธมิตรใหม่ ๆ สถานการณ์ของค่ายนี้ ก็ยังถือว่าไม่นิ่งพอสมควร และยิ่งมีการแตกหักระหว่างสามี - ภรรยาด้วยแล้ว ต้องบอกว่า เป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่สำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจของทั้ง 2 ฝ่ายต่างหยุดชะงัก และเริ่มสั่นคลอนออกมาให้เห็นนั่นเอง...ซึ่งหากใครที่ติดตามค่ายนี้ให้ดี จะพบว่า มีข่าวความเคลื่อนไหว รวมถึงการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์แทบจะทุกนาทีเลยก็ว่าได้


อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของธุรกิจขายตรงในช่วงไตรมาสที่ 2 นั่นก็คือ เรื่องของการมอบตราสัญลักษณ์กับ 29 บริษัทขายตรงล็อตแรก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งการสกรีนบริษัทที่ถูกกฎหมาย และต่อมาทางด้านหน่วยงานรัฐอย่าง สคบ. ก็ได้ออกใบรับรองการทำธุรกิจให้กับ 353 บริษัทในธุรกิจขายตรง ที่มีการยื่นเรื่องว่า ดำเนินการอยู่ จากที่ปัจจุบันพบว่ามีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจขายตรงเกือบ 1,000 บริษัทด้วยกัน ที่เข้ามาสู่ธุรกิจนี้


…เช่นเดียวกับทางด้าน “สมาคมพัฒนาการขายตรงไทย” ที่ได้มีการเลือกนายกสมาคมฯ คนใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ซึ่งผลที่ออกมาผู้ที่เข้ารับตำแหน่งดังกล่าว นั่นก็คือ “ดร.สมชาย หัชลีฬหา” โดยหลังจากที่ได้เข้ามารับตำแหน่งดังกล่าว “ดร.สมชาย” ก็ได้ประกาศที่จะนำเหล่าสมาชิกในสมาคมฯ ลุยตลาดเออีซีที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2558 นี้ ซึ่งถือเป็นการเริ่มขยับทัพอีกก้าวของฝั่ง “สมาคมการพัฒนาการขายตรงไทย”


ส่วนฝั่งของ “สมาคมธุรกิจเครือข่ายขายตรงไทย” หรือ TDNA ก็ไม่รีรอเช่นกัน ได้ออกมาจับมือกับ 4 พันธมิตรอย่าง “TDNA - สคบ. - ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ - ศูนย์อาเซียน” พร้อมที่จะเดินหน้าและผลักดันธุรกิจขายตรงเมืองไทยสู่ระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นทั้งมาตรฐานด้านกฎหมายและวิชาชีพ รวมถึงการปรับระบบฐานข้อมูล ตัวเลขยอดขายที่เป็นจริง และแยกแยะกลุ่มผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจจริงให้มีความชัดเจน


พร้อมกันนี้ TDNA ยังได้เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความชัดเจนในกรอบหรือหลักเกณฑ์ในการกำหนดพฤติกรรมผู้ประกอบการ ไม่ให้เดินออกไปนอกกรอบ การสร้างความชัดเจนในอำนาจในการกำกับดูแลผู้ประกอบการอย่างมีเอกภาพ และมีความพร้อมในการเข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแลอย่างทั่วถึง รวมถึงต้องการเห็นหน่วยงานหรือองค์กรที่สถาปนาขึ้นมา จะต้องมีความศักดิ์สิทธิ์ในการบังคับใช้กฎหมาย โดยจะต้องให้คุณและให้โทษแก่ผู้ประกอบการได้ตามสมควร


ส่วนทางด้าน “สมาคมการขายตรงไทย” ก็ได้ออกมาเตรียมผลักดัน “สมาพันธ์ขายตรงอาเซียน” อย่างสุดกำลัง โดยคาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนภายใน 2 ปีข้างหน้านี้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังได้มีการประกาศอีกด้วยว่า สมาคมการขายตรงไทย ถือเป็นสมาคมเดียวที่น่าจะมีศักยภาพมากพอในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้…ถือเป็นการประกาศจุดยืนที่ชัดเจน จนทำให้เหล่าสมาคมต่าง ๆ ในธุรกิจขายตรงต่างนิ่งอึ้งไปเลยทีเดียว!!


 Q3 MLMผิดกม.มาแรง


จี้! รัฐเร่งบี้เอาความผิด


...เข้าสู่ไตรมาสที่ 3 สถานการณ์ของ “ธุรกิจขายตรง” ก็ยังคงร้อนแรงเหมือนเช่นดั่ง ไตรมาสที่ 1 และ ไตรมาสที่ 2 เห็นได้จากข่าวของการออกมาแฉพฤติกรรมของผู้ประกอบการหัวใส ที่ออกมายื่นขอใบอนุญาตขายตรง เพื่อหวังที่จะเอามาเร่ขายใบอนุญาต ที่เสนอราคาขายอยู่ที่ใบละ 300,000 บาท ที่สำคัญยังไม่รวมกับค่าที่ปรึกษารายเดือนอีกเดือนละ 50,000 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่เรียกว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมายร้ายแรงอย่างมากทีเดียว


เหมือนเช่นดั่งข่าวประเด็นร้อนอย่าง “ขายตรงซิม - เติมเงินมือถือ” ที่เริ่มระบาดหนักในช่วงที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่คนเครือข่ายเฝ้ามองดูกันอย่างมาก เพราะคนในสังคมต่างออกมาพูดกันหนาหูว่า ธุรกิจซิมมือถือแท้ที่จริงแล้ว “ถูกกฎหมาย” หรือ “ผิดกฎหมาย” กันแน่!


ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ออกมาประกาศพร้อมที่จะเข้าไปตรวจสอบแบบปูพรมทั่วประเทศกันเลยทีเดียว สำหรับธุรกิจที่เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน แต่จนแล้วจนเล่า ถึงเวลานี้


ยังพบว่า ยังมีกิจการหลายแห่งที่ยังลอยหน้าลอยตาแหกตาประชาชน ว่าเป็นธุรกิจโปร่งใส ซึ่งกฎหมายไม่สามารถเอาผิดเอาโทษได้แบบจริงจังเสียที


นอกจากนี้ ยังมีข่าวเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับสินค้าเกิดขึ้น ซึ่งข่าวดังกล่าวที่ทำให้ผู้ประกอบการที่โดนเชือด ต่างออกมาเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เห็นได้จากผลิตภัณฑ์ “คอลลาเจน” หากสังเกตให้ดีจะพบว่ามีหลาย ๆ ค่ายต่างออกมาลงชิงแชร์ในตลาดนี้กันอย่างมากทีเดียว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าของใครจริง ของใครปลอมกันแน่!...


ในกรณีของข่าว “ดี เน็ทเวิร์ค” ได้ออกมาแถลงข่าวชี้แจ้ง เรื่องกรณีถูกก็อปปี้สินค้า “ดี-เท็น” พร้อมเตรียมรวบรวมหลักฐานเอาผิดผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์สินค้า...เช่นเดียวกับทางด้าน “แม็กซ์ เฮลท์ตี้” ก็เจอแบบเดียวกันเต็ม ๆ อีกราย เตรียมฟ้องกลับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์แบรนด์สินค้า “Maxx Collagen Plus” หลังสร้างความเสียหายต่อธุรกิจ และทำให้เกิดความเข้าใจผิดทั้งนักธุรกิจและผู้บริโภค


…ต่อมาไม่นาน กรณีของค่าย “แม็กซ์ เฮลท์ตี้” ที่โดนอีกฝั่งละเมิดสิทธิ์นั้น ขณะนี้ก็ได้มีการเจรจายอมความและร่วมเป็นพันธมิตรกันใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


…มาดูอีกหนึ่งข่าวที่สร้างความกังวลใจกับหลาย ๆ ธุรกิจไม่น้อยในช่วงไตรมาสที่ 3 รวมถึง “ธุรกิจขายตรง” ถึงแม้ว่าจะมีผู้ประกอบการหลายท่าน ต่างมองว่าไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด นั่นคือ เรื่องกำลังซื้อจากผู้บริโภค ที่เริ่มมีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด และจากความกังวลใจในเรื่องของกำลังซื้อที่ลดลง ก็เริ่มเห็น “ผู้ประกอบการ” จำนวนไม่น้อย ต่างดาหน้าเร่งเข็นโปรโมชั่น ออกมายั่วน้ำลายผู้บริโภคกันอย่างหนักทีเดียว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการที่จะดึงกำลังซื้อกลับคืนมา


อีกหนึ่งข่าวความเคลื่อน ไหวของ “สมาคมการขายตรงไทย” ที่ได้ออกมาผนึกกำลังร่วมกับ สมาคมขายตรง 3 ชาติ ไม่ว่าจะเป็น ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ ถึงการที่จะเข้าไปทำธุรกิจในประเทศดังกล่าวว่า จะต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคอะไรบ้าง


เช่นเดียวกับทางฝั่งของ “สคบ.” ก็ได้ออกมาเตรียมที่จะเข็น 3 นโยบายเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็น “การใช้รหัสมาตรฐานสากล GS1 การคุมเข้มโฆษณาผ่านสื่อ” รวมถึงยังได้เดินหน้าประชาพิจารณ์ “ตัวแทนขายตรง” ทั้งประเทศ เพื่อต้องการที่จะรู้ถึงปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้...ซึ่งข่าวความเคลื่อนไหวในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ ถือว่ายังคงมีประเด็นหลาย ๆ เรื่องที่ชวนน่าติดตามอย่างมากทีเดียว?...ซึ่งน่าจะเป็นข่าวร้อนในปีหน้า


 Q4 เลขาฯสคบ.ถูกปลด


เอกชนเร่งปล่อยกลยุทธ์


...เริ่มเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 เหตุการณ์ข่าวร้อน ๆ แรง ๆ ช็อกยังมีอย่างต่อเนื่อง เมื่อ “จิรชัย มูลทองโร่ย” ก็ถูกเด้งพ้นสภาพจากการนั่งในตำแหน่ง เลขาธิการ สคบ.เป็นที่เรียบร้อย...ซึ่งกรณีที่ทาง “จิรชัย” ถูกเด้งนั้น พบว่ามาจาก 3 สาเหตุด้วยกัน คือ


1. มีการร้องเรียนไปยัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ เกี่ยวกับกรณี นายจิรชัย มีสายสัมพันธ์กับบริษัทเอกชนขายตรง หลายแห่งอย่างออกหน้าออกตา ส่งผลทำให้ภาพลักษณ์องค์กร สคบ.เสียหาย และส่อว่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน


2. การทำงานไม่เข้าขากับคณะทำงานของรัฐมนตรี โดยเฉพาะตัวเลขานุการรัฐมนตรี และ


3. การทำงานแบบไร้ยุทธศาสตร์ ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน…นับเป็นอีกหนึ่งข่าวร้อน ในช่วงเริ่มต้นไตรมาสที่ 4 เรียกว่า ช็อกกันทั้งวงการขายตรงกันเลยทีเดียว


ส่วนการออกมาแข่งขันเพื่อช่วงชิงยอดขายของแต่ละบริษัท ต้องบอกว่าเล่นกันหนักเลยทีเดียว ไม่เว้นแม้กระทั่ง “ขายตรงข้ามชาติ” ที่หันมาออกอาวุธสร้างแรงศรัทธาของธุรกิจ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น รวมถึงการประคองยอดขายของตนเองให้ตรงตามเป้าหมาย


เห็นได้จากขายตรงข้ามชาติอย่าง “เจอเนสส์” ก็ได้ออกมาจัดงานประชุมนานาชาติที่ประเทศไทย เพื่อหวังที่จะปลุกความเชื่อมั่นของธุรกิจให้ตื่น รวมถึงค่าย “เออาร์เอส” ขายตรงสัญชาติมาเลเซีย ก็เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการสิ้นปีนี้ หลังจากที่ซุ่มเงียบทำธุรกิจมากว่า 10 เดือน พร้อมกับเตรียมชูจุดแข็งแผนการตลาดที่ไม่เหมือนใคร


รวมถึงค่าย “ซินเนอร์จี้” ในช่วงไตรมาสสุดท้าย ก็ออกมาเร่งสร้างผู้นำออโต้ชิพ พร้อมกับการสกัดกั้นพวกที่ขายสินค้าตัดราคา ส่วนอีกหนึ่งขายตรงน้องใหม่อย่าง “EPIC” บริษัทในเครือ Berjaya Group ประเทศมาเลเซีย ก็ออกมาบุกตลาดขายตรงไทยแบบเต็มสตรีมกันเลย ที่สำคัญยังได้มือดีอย่าง “ชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัธน์” รองประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชีย บริษัท อีพิค ประเทศไทย จำกัด มาร่วมปลุกกระแสของธุรกิจในเมืองไทยด้วย


และไม่ใช่ “ขายตรงข้ามชาติ” เพียงอย่างเดียวที่ ออกแรงฟาดฟันแบบเต็มอัตราศึก แต่ยังมีขายตรงสัญชาติไทยน้องใหม่ลูกผสมอย่าง “ไทยเฮลท์” ที่ได้ประกาศศักดาความพร้อมและความเหนือชั้นของธุรกิจ ด้วยการส่งพรีเซ็นเตอร์กองทัพดาราดัง มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์บริษัทอีกด้วย


อาทิ “ใบเตย อาร์สยาม” เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง ซ้อเจ็ด เซทคัพ “อาจารย์วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์” เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์น้ำเห็ดสกัด ตรา มัชรูม พลัส (Mushroom Plus) นักมวยแชมป์เปี้ยนระดับตำนาน “สามารถ พยัคฆ์อรุณ” และ “สมรักษ์ คำสิงห์” เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์น้ำมันจมูกข้าว ผสมน้ำมันรำข้าว และน้ำมันจมูกข้าวสาลี ยูนิไรซ์ (Uni Rice) และ “สมเล็ก ศักดิกุล” พร้อมสองสาวเซ็กซี่ “หมวย แม็กซิม” และ “อะตอม ภัคจิรา” เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อผู้ชาย วีเอ็ม พลัส (VM Plus)


ล่าสุด ได้มีการเพิ่มอาวุธทางธุรกิจอีกหนึ่งช่องทาง นั่นคือ คลื่น FM90 ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นตัวจุดกระแสของธุรกิจ หากใครที่ยังติดตามค่ายนี้ จะพบว่ามีการจับมือกับพันธมิตรค่อนข้างมากทีเดียว โดยเฉพาะสื่อเคเบิ้ลทีวีและสื่อวิทยุชุมชน


ไม่เว้นแม้กระทั่งค่าย “ดี เน็ทเวิร์ค” ก็ออกมาสร้างการรับรู้ของธุรกิจด้วยพรีเซ็นเตอร์เช่นกัน ซึ่งประกอบด้วย 1. “เขาทราย กาแล็คซี่” อดีตแชมป์มวยโลกขวัญใจชาวไทย เป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์โกเรจินส์ ผ่านรายการมวยเป็นหลัก 2. “ปิยะ ตระกูลราษฎร์” พิธีกรรายการ “อัศวินดำ” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์สารบำรุงสมองพืช ภายใต้ชื่อ “บานเย็น” 3. “ครูสลา คุณวุฒิ” ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดัง มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ “ดี เบรม” 4. “นางสาวกรรณิกา ขันแก้ว” นางงามผิวสวย เวทีมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2012 และเจ้าของตำแหน่งรองอันดับ 2 Miss World Next Top Model 2013 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ “สวีท พาวเดอร์” และ 5. “นางสาวณัฐมน กฤษณคุปต์” รองอันดับ 2 มีสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2011 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิต ภัณฑ์ “ดีเทน พลัส”


...จะเห็นได้ว่า “ข่าวเด่น - ประเด็นร้อน” ตลอดปี 2556 นี้ ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ จะต้องหาทางออกให้เจอในปี 2557 และยังถือเป็นประเด็นร้อนที่ต้องติดตามกันต่อไป ซึ่งเชื่อว่าความร้อนแรงของ “ธุรกิจขายตรง” ในปี 2557 นี้ คงจะมีเรื่องราวให้น่าติดตามอย่างมากมายกันเลยทีเดียว


 


 


 


Credit By : http://www.taladvikrao.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น