ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

ยอดขาย บริษัทขายตรงฟันยอดขายกระฉูด ไตรมาสแรกของปี 2555

แหยงซ้ำรอย “เอาไม่อยู่” ผ่าน Q1 ขายตรงฟันยอดกระฉูด              !!!!
ผ่านไตรมาสแรกของปี 2555 ไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นด่านทดสอบอีกหนึ่งด่านของทุกธุรกิจ และแม้หลายธุรกิจจะยังซึมจากผลกระทบน้ำท่วมกันอยู่ก็ตาม แต่สำหรับธุรกิจขายตรงไทยแล้วกลับมียอดการเติบโตสวนกระแสหลังจากสิ้นเสียงนกหวีดปล่อยตัวในยกแรก ทุกค่ายต่างพากันเหยียบคันเร่งกันสุดแรง เหตุไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะมีวิกฤติน้ำท่วมรอบใหม่เข้ามากระทบหรือไม่ โดยเฉพาะยักศ์ขายตรงรายเก๋าที่ต่างพากันงัดแผนเด็ดโกยยอดขายเป็นว่าเล่น ทั่งฟากสแตร์สเต็ปอย่าง “แอมเวย์-ซูเลียน-กิฟฟารีน” ยอด Q1 มาแรงไม่มีตก ยึดเก้าอี้อันดับ 1-3 อย่างเหนียวเน่น ขณะที่เหล่าบิ๊กไบนารี่ตบเท้ากันแข่งกวาดยอดพุ่งกระฉูดกันทั่วหน้าด้วยเช่นกัน


 



“แอมเวย์” ยึดเก้าอี้แชมป์ Q1 โตตามเป้า
“นายกิจธวัช ฤทธีราวี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยอัตราการเติบโตขอยอดขายในปี 2554 ที่ป่านมา แอมเวย์มีการชยายตัวเพิ่มขึ้นโดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 15,500 ล้านบาท เติบโต 8% ส่งผลให้ในไตรมาสแรกของปีนี้แอมเวย์ยังคงเติบดตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7-10% ทั้งนี้เป็นผลมาจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมกาตลาดมาอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงดังกล่าวจะมีบริษัทเปิดใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทำให้การแข่งขันในธุรกิจขายตรงในประเทศมีสีสันเพิ่มมากขึ้น แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีเนื่องจากจะทำให้บริษัทมีการพัฒนาตัวเอง และเชื่อมั่นว่าการที่แอมเวย์ได้สร้างรากฐานการทำธุรกิจมานาน ทำให้นักธุรกิจของแอมเวย์ทุกคนมีความเป็นมืออาชีพ


 



“ซูเลียน” ปลื้มยอด Q1 ทะลุ 1,400 ล้าน
“ดร. ปิยะวัชร์ บุญยืนยงสกุล” ประธานกรรมการ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้ในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมาซูเลียนจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ แต่บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมในปี 2554 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมในปี 2554 อยู่ที่ 5,540 ล้านบาท จากยอดขายดังกล่าวทำให้ซูเลียนก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทขายตรงที่มียอดขายเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และตั้งแต่ต้นปี 2555 ที่ผ่านมาบริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และจัดการประชุมให้ความรู้กับสมาชิกในศูนย์เอเยนซี่เฉลี่ยวันละ 200 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทโดยเฉพาะในไตรมาสแรกเติบโตมากกว่า 20% หรือมียอดขายกว่า 1,400 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบดตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
“ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะวิกฤติอย่างไร คนก็ต้องกิน ต้องใช้ ต้องแปรงฟัน ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดีสำหรับ ซูเลียน แล้วยิ่งสวนกระแส รวมถึงวันนี้แม้ ซูเลียน จะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน หรือแม้กระทั้งจะทำได้ตามเป้าหมายแล้วก็ตามก็ไม่คิดที่จะหยุดอยู่แค่นี้เพราะชีวิตเรามีเป้าหมายเสมอและมีเป้าหมายให้ไปได้ตลอด


 



“กิฟฟารีน” ชี้ไตรมาสแรกโตตามเป้าที่ 10%
“นายพงศ์พสุ อุณาพรหม” ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร การตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวถึงผลประกอบการของกิฟฟารีนในไตรมาสแรกว่า เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ กล่าวคือ ธุรกิจกิฟฟารีนเติบโตที่ตัวเลข 10% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาและถือว่าเป็นการเติบโตที่น่าพอใจมาก โดยสืบเนื่องจากบริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ๆ หลากรายการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จึงส่งผลให้นักธุรกิจ และตลาดการจับจ่ายใช้สอบในธุรกิจกิฟฟารีนมีความคึกคัก รวมทั้งยังมีการจัดกิจกรรมในส่วนของการอบรมที่โรงแรมอินทรา และยังมีในส่วนของการสัมมนาในเขตพื้นที่ตามต่างขจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความเข้มข้นของธุรกิจฟื้นตัวเร็วมากจากเมื่อปีที่ผ่านมาที่ได้รับผลกระทบในส่วนของน้ำท่วมครั้งใหญ่
“ปีนี้กิฟฟารีนได้รุกหนักมาตั้งแต่ต้นปี โดยมีการทำงานภายใต้สมมุตืฐานที่ว่าน้ำกำลังท่วมอยู่เลยก็ว่าได้ ซึ่งจะมีการวางแผนงานทางด้านการผลิต ที่ต้องมีสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องการขนส่ง มีการวางแผนใรการลุยธุรกิจทั้งแผน A และ แผน B จึงส่งผลให้ในไตรมาสแรกปีนี้ของกิฟฟารีนเติบโตเป็นอย่างที่น่าพอใจที่ตัวเลข 10% “ นายพงศ์พสุ กล่าว


 



“เอม สตาร์” ดันยอด 3 เดือนแรกพุ่ง 15%
“พญ.ลพา วัชรศรีโรจน์” ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท เอม สตาร์ เน็ทเวิร์ค จำกัด ระบุว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่กระนั้นก็ตามธุรกิจ เอม สตาร์ของเราจะไม่เหมือนบริษทอื่นๆ เพราะมีกาทำงานที่เน้นการสร้างผู้นำ จัดฝึกผบรมเรียนรู้ ให้กับนักธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ของสินค้าหลากรายการ สอดรับกับแผนการทำงานของ “เอม สตาร์” ที่มีการซอบแบบถี่ยิบตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาได้ว่าน้ำจะท่วมหรือน้ำจะแล้ง ดังนั้น ไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทจึงได้ลุยทำงานกันอย่างเต็มที่ ทำให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 15% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“เชื่อว่าไตรมาส 2 และ 3 จะคึกคักมากกว่านี้ เนื่องจาก เอม สตาร์ จะรุกหนัก และลุยอย่างเต็มพิกัด จึงสามารถคาดการณ์ในส่วนของยอดขายในปลายปีนี้ว่าน่าจะปิดได้ที่ตัวเลข 5,000 กว่าล้านบาท เพราะธุรกิจเอม สตาร์ เป็นธุรกิจที่สร้างแรงเหวี่ยง ซึ่งจริงๆ แล้วเราต้องการที่จะทะลุยอดขาย 10,000 ล้านบาท แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตามปัจจุบันเรามีนักุรกิจที่เป็นมนุษย์เงินล้านเพิ่มขึ้นมาอีก  1 รหัสรวมเป็น 11 รหัส นี่จึงเป็นสิ่งที่สุดยอดที่สุดแล้ว เพราะเป็นการเติบโตและประสบความสำเร็จไปพร้อมกันระหว่างบริษัทและนักธุรกิจ เอม สตาร์ ซึ่งทางที่เรามาถึง ณ จุดนี้ได้คุณหมอรู้สึกพอใจอย่างมาก เพราะเราทำธุรกิจขึ้นมาทำธุรกิจขึ้นมามิใช่เพียงการขายของ แต่กำลังส่งมอบโอกาสที่ดี และสวยงามไปยังคนทั่วไปด้วยธุรกิจ เอม สตาร์” พญ.ลพา กล่าวทิ้งท้าย


 



“หมอเส็ง” โอ่ยอดขาย 3 เดือนแรกโต 25%
“นายฉัตรชัย แสงสุริยะฉัตร (คุณหมอเส็ง)” ประธานกรรมการ บริษัท แสงสุริยะฉัตร (2002) จำกัด กล่าวว่าสำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ของปีนี้ ธุรกิจหมอเส็งเติบโตราว 20-25% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาปีที่ผ่านมาซึ่งนับได้ว่าเป็นตัวเลขการเติบโตที่สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 10-15% เท่านั้น ปัจจัยที่ผลักดันให้ยอดขายเติบโตได้นั้น มาจากแรงหนุนสำคัญที่บริษัทได้มุ่งเน้นโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์รอบด้านอย่างต่อเนื่อง และคาดหวังว่าสิ่งที่ได้ทุ่มเทไปนั้นจะผลักดันให้ยอดขายโดยรวมพุ่งสุงถึง 4,000-5,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้
“กลยุทธ์การตลาดแบบเดิมๆ เราจะมุ่งเน้นการเปิดศูนย์ให้บริการ เพื่อสร้างความสะดวกในการซื้อขาย การจัดฝึกอบรมสมาชิกให้มีความซื่อสัตย์ การเทรนนิ่งสินค้า แต่ในปีนี้ถือเป็นปีแห่งการลงทุนครั้งยิ่งใหญ่ ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจุมุ่งเน้นเจาะตลาดขายตรง และตลาดสากลสร้างความเชื่อมั่นทางธุรกิจอย่างเช่นล่าสุดได้โหมโฆษณาแบรนด์สินค้า ผ่านทางรถโดยสารประจำทาง ขสมก. Bus Ad จำนวน 10 คัน 10 สายทั่วกรุงเทพฯ อีกทั้งเพื่อเป็การขยายเครือข่ายรองรับการ เติบโตทางธุรกิจหมอเส็ง ได้จัดให้มีระบบคอลเซ็นเตอร์ เพื่อตอบคำถาม และมีปัญหาให้กับผู้ที่สนใจโทรมาปรึกษาได้ทุกวัน”


 



“J&C” จอย แอนด์ คอยน์ แรงดีไม่มีตก 3 เดือนฟัน 600 ล้าน
“ดร. สมชาย หัชลีฬหา” ประธานกรรมการ บริษัท จอย แอนด์ คอยน์ จำกัด (J&C) เผยถึงตัวเลขยอดขายไตรมาสแรกของปี 2555 ว่า เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยมียอดขายอยู่ที่ 600 กว่าล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ยอดขายเติบโตดังกล่าวมาจากการที่บริษัทได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และโปรโมชั่นต่างๆ ให้กับสมาชิกมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนทิศทางการเติบโตในไตรมาส 2 ของปีนี้คงต้องรอประเมินสถานการณ์ในภาพรวมของบริษัทก่อนว่า กิจกรรมที่ทำมาในช่วงไตรมาสแรกมากไป หรือน้อยเกินไป จากนั้นจึงจะค่อยมาปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดกันอีกครั้ง
“ตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณอะไรที่โดดเด่นมากนักสำหรับภาพรวมของธุรกิจขายตรง ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าหลายบริษัทอยู่ระหว่างการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปกติหลังจากช่วงปลายปีที่แล้วได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมใหญ่ดังนั้นเอว่าตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป จะได้เห็นหลานยบริษัทปรับกลยุทธ์รูปแบบการนำเสนอธุรกิจแบบใหม่ และจัดโปรโมชั่นต่างๆมากขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งในส่วนของ J&C เองก็ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,500 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้”


 



“Cats.Com” บุกตลาดต่างประเทศโกยยอด 120 ล้านบาท
“นาย เอกวัฒน์ วงษ์ชูแก้ว” รองประธานบริหาร บริษัท แคทส์ ดอท คอม (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Cats.Com เปิดเผยว่า ยอดขายรวมในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 120 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10 กว่าเปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้ขยายตลาดออกไปยัง่างประเทศโดยเฉพาะที่ประเทศกัมพูชาที่เพิ่งจัดงานแกรนด์โอเพ่นนิ่งไป โดยได้รับความสนใจจากสมาชิกในประเทศดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และล่าสุดบริษัทได้เจรจากับนักลงทุนจากประเทศลาวเพื่อเข้าไปเปิดเป็นศูนย์สาขาในประเทศดังกล่าวเช่นกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีสมาชิกบางส่วนได้เข้าไปขยายตลาดแล้วล่วงหน้าซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ยอดขายในปีนี้เติบโตตามที่ตั้งเป้าไว้ที่ 550 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการเติบโตในไตรมาส 2 ของปีนี้นั้น นายเอกวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดเพิ่มอีกประมาณ 2-3 รายการ ทั้งในกลุ่มอาหารเสริม และเครื่องสำอาง เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย นอกจากนี้ยังได้ขยายฐานตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ การเข้าไปแนะแนวการทำธุรกิจขายตรงให้กับนักศึกษาของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน(กศน.) ในจังหวัดนครพนม ที่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาอยู่ แต่สามารถมีรายได้เสริมอีกทางด้วย ซึ่งถือว่าได้รับความสนใจจากนักศึกษาและอาจารย์เป็นอย่างมาก


 



“ยูแคนดู” อู่ฟู่ 3 เดือนแรกโตเกินเป้า
“นายภคินท์ ยมโชติ” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูแคนดู จำกัด กล่าวว่า ยอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 50 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 40 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยการเติบโตดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการไปสร้างยอดขายขึ้นมา แต่เกิดจากการบริโภคของสมาชิกอย่างแท้จริง รวมถึงการที่บริษัทได้ทำกิจกรรมภายในและภายนอกองค์กร (CSR) ทำให้จำนวนสมาชิกเติบโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 100% ต่อเดือนส่งผลให้ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิกมากกว่า 3.5 หมื่นรหัสแล้ว
ส่วนกลยุทธ์ในช่วงไตรมาส 2 นั้นบริษัทจะเน้นการทำ CSR เพิ่มมากขึ้น และการทำการตลาดผ่านทางระบบดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเพิ่ม และการเปิดตัวสถานบันวิจัยและพัฒนายูแคนดู (R&D) อย่างเป็นทางการ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มจำนวนสมาชิกให้มากขึ้น ขณะที่ไตรมาส 3-4 จะเน้นการตลาดด้านการท่องเที่ยวและกิจกรรมเพื่อสังคมมากขึ้น อย่างไรก็ตามจากอค์ประกอบดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ยอดขายในช่วงสิ้นปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 350-400 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน


 



“ดีไลฟ์” เปลี่ยนแผนใหม่ดันยอดพุ่ง 120% 


“นายเทวัญ ดีใจงาม” ประธานกรรมการ บริษัท ดีไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ยอดขายในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มียอดขายอยู่ที่ 40 กว่าล้านลาท หรือเติบโตมากกว่า 120% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการปรับเปลี่ยนแผนการจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกจากเดิมเป็นแบบสแตร์เสต็ป มาเป็นโครงสร้างไบนารี่ ทำให้อัตราการเติบโตค่อนข้างชัดเจน รวมถึงการขยายศูนย์สาขาดีไลฟ์ เซ็นเตอร์ (DC) ทั่วประเทศ ทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภ ได้เร็วขึ้น ทำให้มั่นใจว่าสิ้นปีนี้ยอดขายน่าจะทะลุ 500 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน


 



“Agel” ยอดพุ่งสวนกระแสโต 31%
นาย อครณัฐ สุทธพงษ์เกษตร รองประธานกรรมการ บริษัท อาเจล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ Agel กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสแรกของปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2554 ที่ผ่านมาประมาณ 31% โดยมีองค์ประกอบหลายปัจจัยอาทิ
1. บริษัทแม่ในสหัฐอเมริกาประกาศชัดเจนว่าจะสนับสนุนการลงทุนในไทยอย่างเต็มที่
2. การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค
3. การแสข่าวการโจมตีบริษัท อาเจล จากบริษัทคู่แข่งเริ่มน้อยลง ทำให้สมาชิกมีความเชื่อมั่นและมั่นใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น
“ผลประกอบการใตรมาสแรกของปี่นี้เติบดตต่อเนื่องจาก ไตรมาส 4 ปีที่แล้วซึ่งเป้นการส่งสัญญาณให้เห็นแล้วว่าอาเจลณเริ่มกลับมาแล้ว แต่หากเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนคงต้องบอกว่าลดลง เนื่องจากปีที่แล้วเกิดปัญหาภายในขึ้น ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2 ของปีนี้เราเชื่อว่าอาเจลฯ จะยังคงเติบโตต่อเนื่องต่อไปอีก เพราะเราเตรียมจะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาเพิ่มอีกหลายรายการ อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับดูแลช่องปาก และอาเจล โอเมก้า 3 ซึ่งจะทำให้ช่วยกระตุ้นยอดขายในไตรมาส 2 ได้นอกจากนี้บริษัทแม่ในสหรัฐฯ ยังไฟเขียวให้เข้าไปขยายตลาดไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งจะช่วยให้สมาชิกของอาเจลฯ ทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น


อย่างไรก็ดีจากการคาดการณ์ของสมาคมการขายตรงไทย ได้ระบุถึงมูลค่าธุรกิจขายตรงในปี 2555 ว่าน่าจะอยู่ที่ตัวเลข 71,500 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 5-7 เนื่องจากนำนวนผู้ว่างงานและความต้องการรายได้เสริมเพิ่มสูงขึ้น ด้านภาพการแข่งขันมีแนวโน้มว่าทุกค่ายจะหันมาเร่งสร้างยอดขายตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากความไม่มั่นใจว่าในอนาคตจะมีปัจจัยเข้ามากระทบหรือไม่ประกอบกับหลายๆบริษัทชะลอหรืองดการออกแคมเปญมาตั้งแต่ปลายปีจากเหตุการณ์น้ำท่วม


ในขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิการไทย มองว่าธุรกิจขายตรงยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในปี 2555 เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหม่สนใจเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้ประกอบการจากสหรัฐฯ ที่เข้ามารุกธุรกิจนี้ในไทย และผู้ประกอบการคนไทยทำให้คาดว่าจะมีการแย่งตัวสมาชิกผู้แทนจำหน่าย โดยการปรับเพิ่มผลตอบแทน นอกจากนี้ การแข่งขันของผู้ประกอบการแต่ละค่าย ยังอาจเกิดขึ้นทั้งในมิติของสินค้า และการให้บริการที่มีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งการกระตุ้นยอดขายจากการปรับกลยุทธ์ด้วยการเสนอสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น เช่น การ ใช้คะแนนสะสมสำหรับซื้อสินค้าในราคาพิเศษ การเพิ่มแคมเปญทริปท่องเที่ยว เป็นต้น


 ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:  นิตยสาร ลีดเดอร์ ไทม์   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น