ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

เปิดวิชั่นขายตรง ‘ธนาธร’ ลั่น!3ปีเน้นตลาดเชิงรุกบุกภูธร

“ธนาธร” ขายตรงพันธุ์ไทย ประกาศกร้าวขอเติบโตแบบไม่แข่งขันกับใคร พร้อมย้ำธุรกิจธนาธร คือธุรกิจที่มีคุณธรรม โปร่งใส ชัดเจน เผย 3 ปีที่ผ่านมาเน้นการสร้างผู้นำ ลั่น! อีก 3 ปีนับจากนี้ ขอเปิดตลาดเชิงรุกด้วยการบุกตลาดภูธรจัดประชุม OPP สร้างนักธุรกิจน้ำใหม่แจ้งเกิดในวงการ พร้อมเข็นสินค้านำทัพเขย่าเครือข่าย...แย้มสิ้นปีขอยอดแตะ 200 ล้าน

นายวิชัย ทองขุนคำ ประธานกรรมการ บริษัท ธนาธร ยูเนี่ยน ไลฟ์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ได้เปิดดำเนินการมาแล้วเกือบ 4 ปี โดยในช่วงแรกของการทำธุรกิจบริษัทฯ มีสินค้าที่ทำตลาดอยู่เพียง 4 รายการเท่านั้นเอง จนกระทั่งปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 40 รายการ ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น เรียกได้ว่าบริษัทฯ อยู่ในช่วงของการสร้างผู้นำ

“การสร้างผู้นำในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจทีเดียว ถึงแม้ว่าจะเจอปัญหาในเรื่องของผู้นำบางท่านที่ทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบก็ตาม แต่บริษัทฯ ก็ยังสามารถประครองธุรกิจมาได้ ซึ่ง ณ วันนี้พูดได้เลยว่า แผนการตลาดของเราสู้ค่ายอื่นได้อย่างสบาย โดยที่นี้ใช้แผนไบนารี่ ที่เน้นการสร้างผู้นำเป็นหลัก ซึ่งผู้นำที่นี้จะต้องพัฒนาจิตใจทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะในเรื่องคุณธรรม รวมถึงต้องสร้างผู้นำทุกคนให้มีศักยภาพและมีประสิทธิ ภาพ”

นายวิชัย เผยต่ออีกว่า วันนี้การทำธุรกิจของธนาธรจะเน้นการเปลี่ยนความคิดคน ให้หันมาสนใจธุรกิจเครือข่าย ด้วยการแนะนำให้เขาแบ่งเวลาหลังเลิกงาน มาทำธุรกิจเครือข่ายเป็นอาชีพเสริม โดยหากใครที่ไม่ถนัดไม่เป็นไร ลองเข้ามาศึกษาดู ซึ่งบริษัทฯ จะมีห้องอบรมให้กับคนใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านเครือข่ายมาเลย จนสามารถเข้าใจในธุรกิจ ซึ่งนักธุรกิจที่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนใหม่เกือบทั้งหมด เพราะวันนี้ธุรกิจธนาธรต้องการที่จะสร้างคนใหม่ให้เขาได้ประสบความสำเร็จจริงๆ

สำหรับแผนงานในปีนี้นั้น นายวิชัย เผยว่า ปีนี้บริษัทฯ ค่อนข้างที่จะเน้นในเชิงรุก หลังจากที่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาจะตั้งรับด้วยการสร้างผู้นำเสียมากกว่า แต่ในขณะนี้เรียกได้ว่าผู้นำของธนาธรได้พร้อมแล้วที่จะสานต่อความสำเร็จให้กับทุกคน โดยสิ่งที่จะรุกในปีนี้นั้น จะเป็นในส่วนของการจัดประชุม OPP อย่างต่อเนื่องในภูมิภาคต่างๆ รวมถึงการออกโปรโมชั่นท่องเที่ยว เพื่อเป็นสร้างขวัญและกำลังใจให้กับสมาชิก

“ในวันที่ 20 พ.ค. 2555 นี้ บริษัทฯ จะมีการจัดงานเกียรติยศขึ้น ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการจัดขึ้นทุกปี คาดว่าในวันงานจะมีผู้เข้ามาร่วมงานประมาณ 700-800 คน ซึ่งในงานวันนั้นจะมีผู้นำที่ขึ้นตำแหน่งคิงส์ไดมอนด์ประมาณ 20 กว่าคน รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 4-7 แสนบาทต่อเดือน และตำแหน่งทับทิมประมาณ 200 คน รายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 3 หมื่น - 1 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งคนที่ขึ้นตำแหน่งทับทิมนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนใหม่แทบทั้งสิ้น และเชื่อว่างานเกียรติยศดังกล่าวนี้ น่าที่จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของธุรกิจให้กับสมาชิกด้วยเช่นกัน”

ส่วนอีกหนึ่งหัวหอกที่สำคัญ ของการทำธุรกิจธนาธรให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้รวดเร็วและตรึงตราตรึงใจผู้บริโภคมากที่สุด คงหนีไม่พ้นในเรื่องของสินค้า ที่ค่ายนี้มีสินค้ามากกว่า 40 รายการให้ผู้บริโภคได้เลือกสรร โดยสินค้าที่ถือเป็นเป็นพระเอกของธนาธรเลยนั่นก็คือ “น้ำว่านหางจระเข้” ที่ปัจจุบันนี้มียอดขายอยู่ที่ 10,000 ขวดต่อเดือน รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม “อัลฟัลฟ่า พลัส”, ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสาหร่ายเกลียวทอง ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีอยู่ในขณะนี้ และล่าสุดธนาธร ก็ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 1 รายการ ในกลุ่มอาหารเสริมชื่อว่า “เรโกะ พิ้งค์” เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับสุภาพสตรี โดยได้เปิดตัวมาแล้วประมาณ 2 เดือน และค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมาก และนอกเหนือจากผลิต ภัณฑ์อาหารเสริมแล้ว ธนาธรยังมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องสำอางอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดดผิวเบานุ่ม, ไนท์ครีมบำรุงผิวขาวนุ่ม, แป้งพับ ฌาร์มันท์ เพอร์เฟคชั่น ยูวี ทูเวย์ เค้ก, ซีรั่มยกกระชับผิว, สบู่หน้าใส เป็นต้น และกลุ่มของใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ สบู่คลอโรฟิลล์ นมสด คอลลาเจน, ยาสีฟันไฟเพอร์เด้นท์ PiperDent โดยสินค้าในแต่ละกลุ่มนั้นทางด้าน วิชัย บอสใหญ่ค่ายธนาธรบอกว่า เป็นสินค้าที่ขายดีเกือบทุกตัว...นับได้ว่าสินค้าถือเป็นอีกหนึ่งตัวที่สามารถเป็นใบเบิกทางธุรกิจได้อย่างดีนั่นเอง

สำหรับศูนย์จำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ ในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นของสมาชิก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ที่จังหวัดกระบี่, สุราษฎร์ธานี, แม่สอด, ตราด, เชียงใหม่, เชียงราย, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์ โดยปีนี้ตั้งเป้าที่จะมีศูนย์ให้ได้ประมาณ 40 จังหวัด และปีหน้าคาดว่าธนาธรจะต้องมีศูนย์ครบทุกจังหวัดอีกด้วย นายวิชัย กล่าวเสริมต่ออีกว่า สำหรับค่าแฟรนไชส์ธุรกิจธนาธรนั้น หากเป็นรายใหญ่จะลงทุนอยู่ที่ประมาณ 5-6 แสนบาท ถ้าเป็นแฟรนไชส์ขนาดเล็กจะใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 1.5 แสน - 2 แสนบาท แต่ใครที่จะลงทุนแฟรนไชส์กับธนาธรนั้น จะต้องรู้เรื่องของธุรกิจก่อน หากไม่มีความรู้ในเรื่องของธุรกิจบริษัทฯ จะไม่ให้ลงทุน เนื่องจากไม่อยากให้เสี่ยงจนเกินไป

“เป้าหมายของเราคือ 3 ปีแรกเป็นการตั้งรับ 3 ปีที่ 2 เป็นการทำตลาดเชิงรุก 3 ปีที่ 3 เป็นการสร้างแบรนด์ ขณะเดียวกัน ในภาวะที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ เราขอที่จะเติบโตอย่างไม่หวือหวา ไม่อยากที่จะแข่งขันกับใคร ต้องการที่จะแข่งขันกับตัวเองเสียมากกว่า และต้องการโตแบบมีคุณภาพ โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นยอดขายที่อาจจะไม่เยอะแต่หากทำได้ตรงตามเป้า ถือว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของเราด้วยเช่นกัน”

นอกจากนี้ นายวิชัย ยังได้วิเคราะห์ถึงภาพรวมธุรกิจขายตรงในวันนี้อีกว่า วันนี้ธุรกิจขายตรงเรียกได้ว่าแย่กว่าเดิม ทั้งในส่วนของแม่ทีมและผู้ประกอบการที่ไม่รู้จริงในธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำรุ่นเก่าๆ ที่พบว่าทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจขายตรงยิ่งแย่ไปกว่าเดิม ที่สำคัญ 95% คนส่วนใหญ่จะมองว่าธุรกิจนี้เป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างมาก ผมจึงอยากที่จะให้ทุกคนในวงการเครือข่ายช่วยกันยกระดับมาตรฐานธุรกิจขายตรงเมืองไทยให้ดูดีขึ้นกว่านี้ เพราะธุรกิจนี้คืออาชีพที่จะช่วยพี่น้องคนไทยได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจริงๆ

 ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1295 ประจำวันที่ 28-4-2012 ถึง 1-5-2012       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น