บริษัทขายตรงแห่แย่งซื้อเวลา สื่อทีวีดาวเทียมประโคมแบรนด์หนัก “ลาชูเล่” ขนทุนเตรียมโปรโมตบริษัทลูก “ลาชูเล่ (เอเชีย)” ดึงสมาชิก ไบนารี่ “ยูนิไลฟ์” หาช่องไล่ กวดยอดขาย ด้าน “ดีไลฟ์” หารายการเพิ่ม ผนวกสื่อออนไลน์เรียกเรตติ้ง “อาเจล” ไม่เน้นสื่อ ขอสร้างนวัตกรรมเครื่องซื้อสินค้า สร้างความล้ำสมัย
ดูจะเป็นของคู่กันไปเสียแล้ว ระหว่างธุรกิจขายตรง กับ ทีวีดาวเทียม ซึ่งบรรดาบริษัทน้อยใหญ่ต่างพากันสร้างแบรนด์ผ่านช่องรายการประเภทนี้ โดยสถิติชี้ให้เห็นว่า กว่า 10 ล้านครัวเรือน จาก 20 กว่าล้านครัวเรือน ของประชากรไทย นิยมรับชมรายการทีวีผ่านสัญญาณดาวเทียม นี่จึงเป็นสมรภูมิสร้างแบรนด์ที่ขายตรงแห่แย่งซื้อเวลา เรียกเรตติ้งใส่ตัว
>> “ลาชูเล่” หาช่องโปรโมตบริษัทลูก
ร.ต.ต. ดร.สุรเชษฐ์ เชื้อศรี ประธานกรรมการ บริษัท ลาชูเล่ คอสเมติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “ในเดือน กรกฎาคม บริษัทได้วางแผนงานที่จะเปิดตัว “บริษัท ลาชูเล่ (เอเชีย) จำกัด” ขึ้น โดยบริษัทนี้ จะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจในรูปแบบขายตรง โดยจะใช้แผนงานไบนารี่ เป็นแผนในการทำตลาด”
“โดยแผนงานไบนารี่ ของลาชูเล่ (เอเชีย) จะเป็นการผสมผสานระหว่างหลายแผน ซึ่งบริษัทต้องการสร้างขึ้นเพื่อ เอาใจสมาชิกของบริษัทที่ต้องการทำงานภายใต้แผนใหม่ ซึ่งบริษัทมีความเชื่อว่าจะสามารถสร้างตัวเลือกใหม่ๆให้สมาชิกได้ เป็นอย่างดี” แม่ทัพ ลาชูเล่ เผย
ในส่วนของสินค้าที่บริษัทจะนำเข้ามาวางจำหน่ายสำหรับบริษัทใหม่ จะต่างจากลาชูเล่ คอสเมติคส์ เพราะบริษัทใหม่จะเน้นไปที่เรื่องของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นหลัก ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ ไม่มีในจำหน่ายในลาชูเล่ คอสเมติคส์ โดยขณะนี้ มีด้วยกันแล้ว 4 รายการสินค้า โดยใน 4 รายการนี้ จะมีเพียงครีมกันแดดตัวใหม่ ที่เป็นสินค้าในกลุ่มความงาม ดูแลผิว อีกทั้งในช่วงถัดไปบริษัทยังต้องการใช้สินค้าการเกษตรเข้ามาช่วยเพิ่มรายรับอีกทาง
อย่างไรก็ดี ในเรื่องของการทำตลาด บริษัทได้มองไปที่เรื่องของทีวีดาวเทียมเป็นหลัก โดยบริษัทได้ทำการเจรจาอยู่กับหลายช่องทีวีที่อยู่ในระบบจานดาวเทียม ซึ่งทั้ง หมดอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเรื่องของราคา และความเหมาะสมในส่วนของเวลาในการออกอากาศ
ในส่วนของแผนงานการเปิดบริษัทลูกที่กล่าวมา บริษัทได้ยื่นเรื่องของการจดทะเบียนบริษัท และสินค้าไปแล้ว อีกทั้งเรื่องทั้งหมดก็ผ่านการอนุญาตจากทางหน่วยงานรัฐเป็นที่เรียบร้อย โดยบริษัทที่เปิดใหม่นี้ มีสโลแกนว่า “ความมั่งคั่ง คู่ความมั่นคง”
“หลังจากที่บริษัทได้ผ่านการอนุญาต จากหน่วยงานรัฐทั้งหมดแล้ว และได้วางแผนว่าในวันที่ 21 ก.ค. ที่จะถึงนี้เป็นวันเปิดตัวบริษัทลูกอย่างเป็นทางการ บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าในวันงานเปิดตัว วงการขายตรงไทยจะต้องสั่นสะเทือนด้วยแผนต่างๆ ของบริษัทใหม่ ที่เราใส่เข้าไป ซึ่งจะทำให้ยอดขายรวมของลาชูเล่เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ในปีนี้อย่างแน่นอน” แม่ทัพใหญ่ ลาชูเล่ เผย
>> “ยูนิไลฟ์” โหมขายสินค้า ผ่านรายการทีวี
นางปราณี พุทธิพิพัฒน์ขจร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูนิไลฟ์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมดำเนินกลยุทธ์หลักประการแรก คือ การเน้นโปรโมต สร้างการรับรู้สินค้าชุดประหยัดปุ๋ย 5 พลัง ซึ่งถือเป็นสินค้าเอกของบริษัทเพิ่มเติม โดยจะเน้นการออกสื่อทีวี สื่อดาวเทียมมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เริ่มเผยแพร่โฆษณาในสินค้าดังกล่าวไปแล้ว และได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ
ซึ่งปัจจุบันยอดขายจากสินค้าชุดประหยัดปุ๋ย 5 พลัง มีประมาณ 30-40% จากยอดขายสินค้าทั้งหมดของบริษัทนอกจากนี้ ในสินค้าชนิดอื่นๆ ขณะนี้บริษัทก็กำลังเตรียมนำสินค้าตัวใหม่ออกมา คือ ผลิตภัณฑ์สารกำจัดศัตรูพืช ซึ่งหากจะกล่าวว่า เป็นสินค้าชนิดใหม่เลย ก็คงไม่ใช่ เพราะสินค้าดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการเปลี่ยนแปลง เกี่ยวกับพ.ร.บ. บังคับใช้วัตถุอันตรายอยู่ตลอด บริษัทจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยในครั้งนี้พ.ร.บ.บังคับ ใช้วัตถุอันตรายฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้ไปเมื่อปีที่แล้ว ขณะนี้บริษัทจึงรอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ และคาดว่าน่าจะออกตีตลาดได้ประมาณกลางปีนี้
แผนกลยุทธ์ประการต่อมา คือ เน้นการขยายตลาด โดยปีนี้บริษัทจะรุกตลาดไปทั่วทุกภาค ไม่ว่าจะเป็นภาคกลาง เหนือ อีสาน ใต้ โดยปัจจุบันพื้นที่ที่สร้างยอดขาย ให้กับบริษัทมากที่สุด ยังคงเป็นภาคกลาง ส่วนตลาดต่างประเทศ ขณะนี้ประเทศกัมพูชา ยังคงเป็นพื้นที่เดียวที่สินค้ายูนิไลฟ์ ส่งไปมากที่สุด ส่วนประเทศอื่น เช่น ลาว ยังมีสมาชิกไม่มากนัก
>> “ดีไลฟ์” หาช่องเพิ่มปั้นแบรนด์
นายเทวัญ ดีใจงาม ประธานกรรมการ บริษัท ดีไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า แผนกลยุทธ์สำคัญของบริษัทหลังจากนี้ คือ การเพิ่มช่องทางการสื่อสาร โดยเฉพาะสื่อดาวเทียม และระบบออนไลน์ ซึ่งตนมองว่าในปัจจุบันสื่อเหล่านี้มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคมาก โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งบริษัทคาดว่า ไม่เกินเดือนเมษายนปีนี้ จะมีการปล่อยสัญญาณทีวีดาวเทียมของ ดีไลฟ์ ออกสู่สายตาประ ชาชนได้อย่างแน่นอน ส่วนระบบออนไลน์ ขณะนี้ระบบของบริษัทก็มีความพร้อมแล้วกว่า 90%
แผนสำคัญประการสุดท้าย คือ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งในขณะนี้ สินค้าสำคัญของดีไลฟ์อย่าง โสมสกัด อัดเม็ด ได้รับการจดทะเบียน อย.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากต้องรอการดำเนินงานตรงนี้เป็นปี ซึ่งผลตอบรับจากผู้ที่ได้ลองใช้แล้ว ปรากฏว่าให้ผลดีมาก แผนต่อไปบริษัทจึงเตรียมจดลิขสิทธิ์ทางปัญญาในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว และอาจรวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆของบริษัทด้วยในอนาคต
>> “อาเจล” เล่นนวัตกรรมตู้กดสินค้า
มร.เจฟ ฮิกกินสัน ประธาน บริษัท อาเจล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า แผนการตลาดสำคัญอีกประการที่เป็นความภาคภูมิใจของอาเจลในขณะนี้ คือ การนำเทคโนโลยี ตู้จำหน่ายอัตโนมัติของผลิตภัณฑ์เจล ที่เรียกว่า “Gel Dispenser” เข้ามาช่วยขยายฐานผู้บริโภคใหม่ ซึ่งผู้นำธุรกิจสามารถมีส่วนร่วมในการลงทุน พร้อมเลือกทำเลในการวางตู้จำหน่ายอัตโนมัติได้เอง แต่อย่างไรก็ดี ในขณะนี้บริษัทได้วางแผนในการวางตู้จำหน่ายอัจฉริยะนี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และสถานีรถไฟฟ้า BTS
นอกจากนี้ มร. เจฟ ได้เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้อาเจลประเทศไทย ได้มีการจัดแผนการตลาดใหม่ จากเดิมที่ใช้ระบบไบนารี่ ขณะนี้อาเจลได้ดึงระบบยูนิเลเวลมาร่วม รวมกันเป็นแผนไฮบริด พลัส โดยแผนดังกล่าวจะทำให้ทีมสมาชิกได้รายได้เกือบ 3 เท่า หรือบริษัทจ่ายเพิ่มขึ้นเกือบ 60% ซึ่งคาดว่าจะลองใช้แผนดังกล่าวประมาณ 4 เดือน หากดีก็จะใช้แบบถาวร
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับนโยบายการลงทุนเปิดโรงงานในประเทศไทย มร.เจฟ กล่าวว่า “ตนก็ยังคงพิจารณาอยู่อย่างแน่นอน แม้ใครหลายคนจะห่วงในด้านผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติ แต่สิ่งที่ตนจะ พิจารณา มีองค์ประกอบสำคัญประการแรก คือ ศักยภาพภายในประเทศ ประการที่สอง คือ สูตรต้องไม่รั่วไหล ประการที่สาม คือ วัตถุดิบที่จะคงระดับมาตรฐานของสินค้า เมื่อพิจารณาแล้วประเทศไทยถือว่ามีความพร้อมสูง ดังนั้นหากอาเจลได้เข้ามาผลิตสินค้าในประเทศไทย ก็จะเป็นประโยชน์ในแง่การขนส่งสินค้า และจะช่วยลดราคาสินค้าให้กับสมาชิกได้”
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1295 ประจำวันที่ 28-4-2012 ถึง 1-5-2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น