ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

ยอดรายได้ ขายตรง Q1(ไตรมาสแรก) ผ่านขายตรงแววเดือด! ผู้ค้าขนอาวุธหนักจัดเต็ม



เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ไตรมาสแรกผ่าน หลายค่ายออกตัวแรง แบรนด์เก๋าเน้นเรื่องการโชว์ศักยภาพผุดสินค้าใหม่ พร้อมโปรโมชั่นเสริม เต็มพรืด หมายผูกขาดตลาดของตัวเอง แถมด้วยการมองการขยายสาขาอาเซียนรับมือ AEC ส่วนค่ายใหม่แห่เปิดตัวคึกคัก ดันขายตรงปีมะโรง เดือด!


เริ่มต้นดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง คงเป็นคำพูดที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย โดยบรรดาบริษัทขายตรงก็ไม่ได้คิดต่าง ไตรมาสแรก พยายามเปิดหัวปีเน้นความแรงปั่นกระแสดูดลูกค้า ซึ่งในปีมะโรงนี้ เชื่อว่า ธุรกิจขายตรงบ้านเราต้องมีการแข่งขันอย่างดุเดือดกว่าทุกปีอย่างแน่นอน


>> “นีโอ ไลฟ์” มุ่ง AEC


เริ่มกันที่ “บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ที่เริ่มเปิดหัวออกตัวแรงตั้งแต่ต้นปี โดยการจัดงานใหญ่ ยึดอาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ประดับเข็มนักธุรกิจของบริษัท ซึ่งจัดได้ว่า “นีโอ ไลฟ์” เป็นบริษัทแรกของปีนี้ ที่ระเบิดงานใหญ่ควักงบมหาศาลเพื่อเป็นเกียรติแก่นักธุรกิจนีโอ ไลฟ์ อีกทั้งยังเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ของบริษัทในการดำเนินงานมากว่า 11 ปี


ซึ่งธีมงานครั้งใหญ่ของบริษัทที่ผ่านมาใช้ชื่อว่า Neo Life Connect The Dot to Asean โดยเนื้อหาของงาน ก็เป็นเรื่องของการพุ่งเป้าหมายใหญ่ของบริษัท เพื่อรองรับการเปิดตลาดการค้าเสรีของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอีก 3 ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชีย


โดย “นีโอ ไลฟ์” หลังจากนี้ นอกจากเรื่องของตลาดในประเทศที่เดินหน้าด้วยกลยุทธ์การอบรมเข้ม พร้อมแผนการขย่มตลาดที่ถี่ยิบแล้ว บริษัทยังมองไกล และเน้นไปที่การขยายตลาดสู่ต่างประเทศเป็นสำคัญ เพื่อรองรับการเปิดตลาดดังกล่าวในปี 2558 หรืออีกประมาณ 3 ปีข้างหน้านี้ อีกทั้งบริษัทยังต้องการทำตามอุดมการณ์ของหัวเรือใหญ่อย่าง “ดร.นพรุจ เวชกุล” ที่ต้องการมอบโอกาส และชีวิตใหม่ให้ผู้คนในวงกว้าง


“การค้าเสรีอาเซียน นับเป็นเรื่องที่สำคัญที่บริษัทมองไปถึง เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทไม่ใช่เพียงแต่แบรนด์ขายตรงที่อยู่ในไทยเสียแล้ว เพราะความต้องการส่งต่อความสำเร็จไปยังพี่น้องทั่วโลก ทำให้การขยายตัวของบริษัทต้องเกิดขึ้นในเร็ววัน โดยบริษัทมีความต้องการเห็นการเพิ่มจำนวนของสมาชิกที่เป็นพี่น้องชาวต่างชาติ และทำให้เห็นว่า แบรนด์ขายตรงของไทย คือ สิ่งที่จะเข้าไปสร้างฐานะความเป็นอยู่ให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น” ดร.นพรุจ แม่ทัพใหญ่ “นีโอ ไลฟ์” กล่าว


>> “แอมเวย์” เจาะลูกค้าวัยรุ่นต่อเนื่อง


ถัดมาที่พี่เบิ้มแห่งวงการเครือข่าย “บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด” ซึ่งเปิดไตรมาสที่ 1 ประจำปีมังกร ด้วยการประกาศถึงความเป็นเบอร์หนึ่งในด้านยอดขาย ด้วยตัวเลข 1.55 หมื่นล้านบาท ในปีที่ผ่านมา อีกทั้ง ในช่วงต้นปี “แอมเวย์” ยังได้มีการประกาศในส่วนของตัวเลขยอดขายรวมของบริษัทแม่ “อัลติคอร์ อิงค์” ที่สามารถปิดยอดขายรวมจากสาขาทั่วโลก ในปี 54 ได้ที่ 10,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งบริษัทต้องการให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของตัวเอง


โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา นอกจากในเรื่องของยอดขายที่ประกาศลั่นออกมานี้แล้ว บริษัทยังเริ่มต้นด้วยการจำแนกแยกแถลงข่าวในส่วนของกลยุทธ์ในแต่ละหมวดสินค้าไว้อย่างชัดเจน โดยเริ่มที่กลุ่มสินค้าด้านความงามของบริษัท “อาร์ทิสทรี” ที่บริษัทเตรียมขับเคลื่อนแบรนด์สินค้านี้ด้วย ดาราระดับโลกและเอเชีย โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น “แอมเวย์” ได้นำเอา “ยุน อึน เฮ” ดาราสาวชาวเกาหลีใต้ ซึ่งคนไทยรู้จักเป็นอย่างดี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า


ซึ่งในส่วนของ “นิวทริไลท์” กลุ่มสินค้าเสริมอาหารของบริษัท “แอมเวย์” ก็เลือกที่จะใช้แคมเปญใหญ่เป็นตัวสร้างกระแส ภายใต้ชื่อ “นิวทริไลท์ ทุกวัน” รวมทั้งยังออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของไลน์สุขภาพ “นิวทริไลท์ ออล แพลนท์ โปรตีน” มาล้วงกระเป๋าผู้บริโภค ส่วนเรื่องของการทำตลาด บริษัทก็ยังคงเน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยใช้ช่องทางออนไลน์ต่างๆ ในการคว้าเครือข่าย


>> “กิฟฟารีน” รอฟันตลาดอาเซียน


ด้าน “บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด” เบอร์ 2 แห่งวงการ MLM ภายใต้การบริหารของสุดยอดหญิงเก่ง อย่าง “พ.ญ.นลินี ไพบูลย์” ในช่วงต้นไตรมาสที่ 1 ค่ายนี้ก็ยังคงยุ่งอยู่กับเรื่องของโรงงานผลิตสินค้าของตัวเอง ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมนวนคร หลังจากที่ถูกน้ำท่วมจนต้องย้ายฐานการผลิต แต่เมื่อทุกอย่างผ่านไป บริษัทก็จัดงานครบรอบ 16 ปีของบริอษัทอย่างยิ่งใหญ่ ณ ไบเทค บางนา


ต้องยอมรับว่า “กิฟฟารีน” กลับมาได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ ยอดขายกระทบไม่มาก อีกทั้งในงานการฉลองครบรอบ 16 ปี ของบริษัท “กิฟฟารีน” ยังประกาศถึงแนวทางการทำงานหลังจากนี้ ว่าต้องการที่จะเดินหน้าสู่โลกการค้าเสรี หรือ AEC ในปี 2558 โดยการเรียกน้ำย่อยด้วยการขนทัพนักขายของสาขาต่างประเทศเข้ามารับเข็ม ถึงประเทศไทย 


“บริษัทพยายามวางรากฐานให้เกิดความแข็งแกร่ง เพื่อในอนาคตเมื่อการค้าเสรีอาเซียนเกิดขึ้น การที่จะขยายงานสู่ต่างประเทศก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยในงานฉลอง 16 ปี ที่ผ่านมา บริษัทยังได้มีการนำเอานักขายสาขาอาเซียนมาร่วมด้วย เพื่อเป็นการประกาศความชัดเจนในเรื่องของความพร้อมในการรับมือ AEC ซึ่ง กิฟฟารีน มั่นใจว่า เมื่อตลาดเปิดทุกประเทศ ในอาเซียนและอีก 3 ประเทศผู้นำเศรษฐกิจของเอเชียจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน” หมอต้อย เผย


>> “เอม สตาร์” ผุดแคมเปญคว้าดาว ดึงยอดขายกลับ


“บริษัท เอมสตาร์ เน็ทเวิร์ค จำกัด” โดยปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีความคึกคักในประเทศมากนัก เนื่องจากแม่ทัพหญิง อย่าง “ท.ญ. ลพา วัชรศรีโรจน์” มุ่งไปที่เรื่องของการขยายแบรนด์สู่สากลเป็นหลัก ทำให้ตลาดในไทยของบริษัทดูจะซบเซาไปเสียหน่อย โดยในปีนี้ บริษัทเดินหน้าตลาดในไทยอย่างจริงจังอีกครั้ง ด้วยการขยับตัวออกแคมเปญ ปั่นกระแสตั้งแต่ต้นปี


 


ไล่ตั้งแต่เรื่องของผลิตภัณฑ์ใหม่ Multi Pro ที่บริษัทเนรมิตขึ้นมาในกลุ่มเสริมอาหาร เพื่อเป็นการดึงยอดขาย สร้างทางเลือกให้กับเครือข่าย ส่วนเรื่องของกลุ่มความงาม Asni ของ “เอมสตาร์” บริษัท ไล่ขุนโดยใช้โครงการ ASNI MODEL MAN & WOMEN 2012 ประกวดชายหญิงหานายแบบ นางแบบ เข้าสู่วงการแฟชั่น ซึ่งบริษัทต้องการใช้กระแสของเวทีประกวดสร้างแบรนด์อีกครั้งหลังปีที่ผ่านมาเงียบลงไป ส่วนเป้าหมายของบริษัทก็ยังคงอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาทเช่นเดิม


>> หลายค่ายใช้จุดแข็งลงสู้ศึก


ส่วนบริษัทอื่นในช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ก็ทยอยเดินเครื่องกันอย่างต่อเนื่อง เสมือนออกตัวดี มีชัยไปกว่าครึ่ง “บริษัท ดีเน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด” ดูจะเป็นชื่อใหม่ที่เริ่มคุ้นหูคนในวงการไปเสียแล้ว จากกลยุทธ์การประโคมสื่ออย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการจัดแถลงข่าวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเดินหน้าสร้างสินค้าใหม่สู่ตลาดเสมอ ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาของปี บริษัทนามนี้ ก็พยายามเร่งสร้างตลาดทางสื่อไม่หยุด พร้อมด้วยการจัดประชุมอบรมที่ถี่ขึ้น ทำให้ 3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทกลายเป็นแบรนด์หนึ่ง ที่ประทับอยู่ตามสื่อต่างๆ แทบทุกเดือน


“บริษัท สุพรีเดอร์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา บริษัท นี้พยายามไล่ขุนยอดคืนเต็มที่ ด้วยการรุกกลุ่มสินค้าเสริมอาหารดูแลน้ำหนัก ซึ่งเป็น จุดแข็งของบริษัท โดยพยายามสรรค์สร้างสินค้าใหม่เข้ามาเสริมไลน์


จากปีที่ผ่านมา “สุพรีเดอร์ม” ให้ความสำคัญกับบริษัทลูก อย่าง “นูทริเดอร์ม” มากเกินไป ยอดขายที่ใฝ่ฝันก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะสมาชิกไม่ค่อยจะคล้อยตามแผน “ไบนารี่” ที่บริษัทลูกใช้มากนัก ทำให้ปีนี้ “สุพรีเดอร์ม” ต้องไล่ขุนยอดคืนหนักหน่อย อีกทั้งยังปิด “นูทริเดอร์ม” เพื่อหันมาให้ความสำคัญกับบริษัทเดิมอย่างเต็มตัว


>> ค่ายใหม่เปิดตัวแรงเต็มพรืด


นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการเริ่มต้นของบรรดาค่ายเก่า ค่ายเก๋า ที่ออกตัวปีมะโรงในชนิดต่อยก่อนได้เปรียบ ซึ่งนอกจากเรื่อง ของกลยุทธ์ของบริษัทเก่าแล้ว ก็ยังมีกลุ่มบริษัทหน้าใหม่มากมาย ทั้งของไทยเอง และต่างประเทศที่อาศัยช่วงต้นปีเป็นฤกษ์ดี จัดการเปิดตัวแถลงข่าวบริษัท ในการรุกธุรกิจขายตรงไทย


“บริษัท ไวต้าอีส เน็ทเวิร์ค จำกัด” จัดเป็นบริษัทใหม่แรกๆ ของปีมะโรง โดยการกุมบังเหียนของ “สุรยุทธ วิไลลักษณ์” ซึ่งบริษัทนี้เปิดตัวได้อย่างโก้เก๋ เนื่องจากแผนงานที่มีการใช้บัตร V-Money ซึ่งเป็นบัตรใช้จ่ายสินค้า อีกทั้งยังสามารถจับจ่ายสะสมแต้มผ่านสินค้าของบริษัทพันธมิตรกว่า 100 บริษัท ซึ่งบริษัทเชื่อว่าหลังการเปิดตัวนี้ จะมีผู้สนใจเข้าร่วมเป็นเครือข่ายกว่า 3 หมื่นบริษัท


ถัดมาที่ “บริษัท มิลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด” ที่ไม่น้อยหน้า ด้วยการเปิดตัวพร้อมประกาศลั่นว่า ภายในระยะเวลา 3 ปี บริษัทจะทำการขยายเขตสาขาไปที่ประเทศอินเดีย และในอีก 5 ปี บริษัทจะทำยอดขายให้ถึง 3 พันล้านบาท ซึ่งในแต่ละเป้าหมายของบริษัทมีความยากและท้าทาย แต่ด้วยความที่แม่ทัพใหญ่อย่าง “สุมิตร วชโรดมทรัพย์” เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการค้าและส่งออก ทำให้เป้าหมายต่างๆ ดูจะเป็นเรื่องที่น่าติดตาม


ทั้งนี้ นี่คือ ส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นมาในแวดวงธุรกิจเครือข่ายในช่วง 3 เดือนแรกของปี ซึ่งหลายบริษัทพยายามออกสตาร์ตให้สวย และพยายามขุนตลาดเต็มอัตราศึก ในช่วงที่สถานการณ์ต่างๆ อยู่ในสภาวะปกติ เพราะจากที่ทราบ ไม่แน่ว่าในอนาคตของปีนี้ จะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นมาฉุดยอดขาย ดั่งเช่นหลายปีที่ผ่านมา


 ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1294 ประจำวันที่ 25-4-2012 ถึง 27-4-2012  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น