ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555

ขายตรง “มิลค์กี้เวย์" เปิดตัวสวย


จ่อทำเนียบขายตรงน้องใหม่มาแรง


            “สุมิตร" นักธุรกิจส่งออกรายใหญ่ เปิดคฤหาสน์หรูพันล้านย่ายชัยพฤกษ์ แถลงข่าว เปิดตัว "มิลค์กี้เวย์" ลงสนามขายตรงอย่างเป็นทางการ ตั้งงบก้อนแรกลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมส่งเสริมการตลาดกว่า 50ล้านบาท จับสินค้าไลน์เสริมอาหารและความสวย ความงาม หัวเจาะตลาด ชูแผนจ่ายผลตอบแทนสู้คู่แข่งได้ วางแผนผลักดันธุรกิจสู่ขายตรงทางเลือกภายใต้การจัดการมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว ส่วนกลุ่มผู้นำทยอยเข้าร่วมคับคั่ง เตรียมเปิดอีกสำนักงานย่านรัชดา-พระรามเก้า และต่างจังหวัด รับรองให้บริการสมาชิกจากก่อนหน้าเปิดแล้วย่านพระรามสอง พร้อมวางเป้าเปิดสาขาเพิ่มทั่วทุกภูมิภาคใน 2 ปี คาดสิ้นปี'55ขอปิดยอดขาย 80-100 ล้านบาท เป็นการชิมลาง


            สุมิตร วชโรดมทรัพย์ กรรมการผู้จ้ดการบริษัท มิลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด เปิดเผยว่าตนเองสนใจในธุรกิจขายตรงมานานแล้วว เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจนี้มีความท้าทาย และสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ สมาชิก และผู้บริโภคทั่วไปได้อย่างทั่วถึง


            “ดั้งเดิมของเราประกอบธุรกิจส่งออกสินค้าประเภทสิ่งทอและเครื่องหนังทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป และตะวันออกกลาง"


            ซึ่งธุรกิจที่ส่งออกที่ทำอยู่ทุกวันนี้ถือว่าลงตัวแล้ว จึงอยากขยายไลน์ธุรกิจใหม่ๆ ที่ท้าทาย จนมาพบธุรกิจขายตรง และได้ศึกษาธุรกิจนี้มาหลายปี ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อบริษัทว่า มิลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือหมายความว่า "ทางช้างเผือก" รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อ15 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการเตรียมการนานกว่า 6 เดือน สุมิตร กล่าวและว่า


            มิลค์กี้ เวย์ มีการลงทุนล่วงหน้าไปแล้วกว่า 25 ล้านบาท ทั้งสำนักงาน สินค้า และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ โดยปัจจุบัน เรามีสำนักงานอยู่ที่พระราม2 และจะเปิดเพิ่มอีกเพื่อสนองความต้องการของสมาชิกย่านรัชดา-พระรามเก้า ภายในเดืิอนเมษายนนี้ และคาดว่าจะตกแต่งแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือนพฤษภาคม นอกจากนั้น ก่อนหน้า บริษัทได้ไปขยายสาขาที่บริษัทลงทุนเองล่วงหน้าไว้ก่อนแล้วที่จังหวัดพิษณุโลก และกำลังมองการเปิดสาขาเพิ่มอีกในหัวเมืองหลักๆ จองแต่ละภูมิภาค ซึ่งคาดว่าไม่เกินปีหน้าจะเปิดได้ครบ


            สุมิตร กล่าวต่อไปอีกว่า หลายคนสงสัยว่าทำไมบริษัทต้องเร่งลงทุนไปก่อนทั้งๆที่ยังไม่เปิดดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการโยที่ยังไม่ได้ทราบว่า ธุรกิจจะได้รับการตอบรับดีหรือไม่ ประเด็นนี้ตัวเองมองว่า ที่เราจะทำอย่างนี้ เราต้องมีความมั่นใจพอสมควร และต้องมีต้นทุนที่มากพอ ถึงจะทำได้


            “เราไม่อยากเปนเหมือนธุรกิจขายตรงทั่วไปที่กอ่นเปิดบริษัทแม่ทีมต้องพร้อมก่อน หรือเปิดสาขาแต่ละสาขาก็ต้องรอแม่ทีมหรือสมาชิก ให้ชัดเจน ในขณะที่โครงสร้างต่างๆ ที่จะเข้ามารับรองการให้บริการยังไม่พร้อมเลย แสดงว่า เจ้าของธุรกิจนั้นๆ ไม่มั่นใจในการทำธุรกิจ และกลัวความเสี่ยง จึงผลักภาระไปตกกับแม่ทีมและสมาชิก ซึ่งมิลค์กี้ เวย์ ไม่ใช่อย่างนั้น" สุมิตรกล่าวและกล่าวต่อว่า


            สำหรับสินค้าของ "มิลค์กี้ เวย์" นั้น มีการนำเจ้ามาจัดจำหน่ายแล้วมากกว่า 10 รายการ ซึ่งเราลงทุนสินค้าไปแล้วกว่า 10ล้านบาท โดยสินค้าจะอยู่ในประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร  และความสวย ความงาม เป็นหลัก ที่ตะเจ้ามาเป็นหัวเจาะในการเปิดตลาดของ "มิลค์กี้ เวย์" ซึ่งในอนาคตคาดว่า จะนำเข้ามาเพิ่มเติมอีกหลายรายการ เพื่อสนองความต้องการ และเพิ่มความหลากหลายให้สมาชิกได้ซื้อ ได้ขาย


            ทั้งนี้บริษัทนอกจากจะมีแนวนโยบายในการเปิดสาขาของบริษัทรับรองการให้บริการแล้ว บริษัทยังมีเครือข่ายเซ็นเตอร์ และโมบาย ที่สมาชิกเป็นผู้ลงทุนเอง คอยให้บริการสมาชิกและผู้บริโภคอีกด้วย โดยโมบายนั้น ลงทุนเข้าร่วมธุรกิจเร่ิมต้นแค่ 50,000 บาท ส่วนเซ็นเตอร์ ลงทุนเริ่มต้นเพียงแค่ 300,000 บาท โดยคาดว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถขยายเซ็นเตอร์ได้ไม่ต่ำกว่า 50 เซ็นเตอร์ ขณะที่โมบายเป้าการขยายตัวไว้ที่100-150 โมบาย


            สุมิตร กล่าวเสริมว่า ลักษณะการทำตลาดของ "มิลค์กี้ เวย์" จงใจใช้ลักษณะ "สินค้านำการตลาด" โดยบริษัทจะคอยส่งเสริมกิจกรรมทางด้านการตลาดให้กับสมาชิกในทุกรูปแบบ อาทิ โปรโมชั่น กิจกรรม และการส่งเสริมในรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย


            นอกจากนั้น บริษัท ยังให้ความสำคัญกับระบบการให้บริการที่ดีและระบบแทรนนิ่งที่มีมาตรฐาน โดยเฉพาะระบบเทรนนิ่งนั้น ทางบริษัทจะนำเข้าวิทยากรมืออาชีพที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามาให้ความรู้ตามที่ระยยบริษัทได้วางไว้


            ขณะที่ในส่วนของระบบไอทีนีั้น บริษัทมั่นใจว่า ปัจจุบันบริษัทสามารถสร้างระบบ โปรแกรมการให้บริการต่างๆแก่สมาชิกและ้วเสร็จและทันต่อการขยายตัวของธุรกิจอย่างแน่นอน


            “ตัวไอที นอกจากเว็บไซต์ แล้วสมาชิกยังมีความคาดหวังในเรื่องของการให้การบริการค่าตอบแทนที่เที่ยงตรง และตรงต่อเวลา อีกทั้งจะต้องเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด นอกจากนั้น ระบบไอที จะต้องมีขีดความสามารถใรการให้บริการแก่สมาชิกได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศไทย หรือต่างประเทศ โดยเฉพาะ การสมัครสมาชิกออนไลน์ หรือแม้กระทั่ง One Code One World หรือ 1 รหัส ใช้ได้ทั่วโลก


            สุมิตร กล่าวต่อไปอีกว่า ในอนาคตเรามองตลาดต่างประเทศแน่นอน เพราะเป็นตลาดที่เราถนัดและมีสายป่านอยู่มากพอสมควร ดังนั้นในระยะยาว บริษัทมีแผนที่จะสร้างคนไทยเป็น UP โดยให้คนต่างประเทศนั้นอยู่ใต้สายงานของคนไทยทั้งหมด ซึ่งคาดว่า แผนการขยายธุรกิจ "มิลค์กี้ เวย์" ไปยังต่างแดนไม่ยากที่จะทำได้ และจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต


            อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขายตรง "มิลค์กี้ เวย์ แม้ว่าจะเพิ่งเปิดดำเนินกิจการ และก่อนหน้ามีการเปิดดำเนินการอย่างเงียบๆ มาประมาณ 4-5 เดือนแล้ว แต่ถือว่า มีสมาชิกให้คสามสนใจเข้าร่วมธุรกิจไม่น้อย ถึงปัจจุบันมีรหัสแล้วกว่าพันรหัส และคาดว่าหลังตากเปิดตัวอย่างเป็นทางการนับจากนี้เป็นต้นไป จะมีรหัสสมาชิกใหม่ๆเกิดขึ้นอีกไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2,000รหัส


            “ปีนี้เราให้ความสำคัญกับการเร่งพัฒนาสร้างโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจให้แข็งแกร่ง อาทิ ระบบสำนักงานสาขา ระบบการให้บริการ ระบบไอที ระบบพัฒนาสมาชิก ไปพร้อมๆกับการเร่งประชาสัมพันธ์แบรนด์บริษัท และแบรนด์สินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงการขายตรงเมืองไทย"


            "มิลค์กี้ เวย์ จะเป็นอีกหนึ่งขายตรงทางเลือกของคนขายตรงที่ต้องการมีรายได้อย่างรวดเร็ว และมีสุขภาพที่ดีจากการใช้สินค้าของบริษัท ภายใต้การบริหารจัดการที่ยึดหลัก "สินค้านำการตลาด" และหลัก "คุณธรรมนำธุรกิจ" เป็นที่ตั้ง เชื่อว่าในปีนี้ บริษัทแห่งนี้จะได้รับความนิยม จากกลุ่มขายตรงไม่น้อย และจะเป็นขายตรงน้องใหม่มาแรงอย่างแน่นอน โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 80-100 ล้านาท ซึ่งจะเป็นยอดที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 8 เดือนเท่านั้น " สุมิตรกล่าวทิ้งท้าย

  ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:  นสพ พาวเวอร์ เน็ตเวิร์ค  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น