ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

ยักษ์ใหญ่ นีโอไลฟ์ แอมเวย์ กิฟฟารีน โชว์เก๋า!ดันสินค้าผูกตลาด เดินหน้า AEC เกทับค่ายใหม่



กระแสค่ายใหม่แห่เปิดตัวบริษัท ทำเอาค่ายเก่า โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่ต้องออกมาโชว์ความเก๋าตลาด เริ่มที่ “นีโอ ไลฟ์” จัดการเบนเป้ารับ AEC ปี 58 เดินหน้าปักธงสาขาอาเซียนให้ครบหวังปูฐานก่อนค้าเสรีเปิด ด้านพี่เบิ้ม “แอมเวย์” เน้นสินค้าตอบโจทย์คนรักสุขภาพ เปิดแคมเปญ “นิวทริไลท์ ทุกวัน” เจาะฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ส่วน “กิฟฟารีน” ไม่น้อยหน้า ปั้นสินค้าใหม่ วางตลาดเต็มพรึ่บ หมายมัดใจผู้บริโภค

ตลาดขายตรงเพิ่มองศาเดือดทุกขณะ หลังจากที่ค่ายใหม่แห่เปิดตัวบริษัทเป็นว่าเล่น ทำให้ค่ายเก่า ค่ายเก๋า ไม่สามารถนิ่งนอนใจ ออกตัวโชว์กลยุทธ์เด็ดประจำปี ซึ่งแต่ละค่ายก็มีแผนดึงยอด ขายที่ต่างกันไป ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับการเข้ามาของค่ายใหม่ในการคว้ากำไร แต่ในทางกลับกันการเกิดขึ้นของค่ายใหม่ ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่จะวัดกึ๋นของค่ายยักษ์ใหญ่ว่าจะสามารถทำยอดขายได้ดั่งใจหวังกันอย่างไร

>> “นีโอ ไลฟ์” ต่อยก่อน เร่งขยายสาขาอาเซียน รับ AEC

ดร.นพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นีโอ ไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้เตรียมแผนการกระจายแบรนด์ “นีโอ ไลฟ์” ออกสู่ตลาดสากลมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะส่วนอาเซียนเอง และกลุ่มประเทศที่จะเปิดการค้าเสรีในปี 58

ซึ่งการขยายสาขาของบริษัท ปัจจุบัน มีการขยายไปแล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ จีน, เวียดนาม, ลาว และสิงคโปร์ ซึ่งทุกประเทศ ก็มีกระแสตอบรับกลับมาเป็นอย่างดี กลุ่ม ประชาชนให้ความสนใจในตัวบริษัท และเดินเข้ามาเป็นสมาชิกกันเป็นจำนวนมากการปูรากฐานในเวทีอาเซียน นีโอ ไลฟ์ เริ่มต้นที่ประเทศลาวเป็นพื้นที่แรก โดยปัจจุบันบริษัทมีศูนย์สาขาในลาวแล้วถึง 4 ศูนย์ ได้แก่ สาขาเวียงจันทน์, สาขาสะหวันนะเขต, สาขาจำปาสัก และสาขาอุดมชัย

จากความสำเร็จของก้าวแรกในเวทีอาเซียน ส่งต่อให้บริษัทต้องการขยายพื้นที่ปักธงในเวทีสากลเพิ่มอีก โดยมีจีน เวียดนาม และสิงคโปร์ เป็นพื้นที่ต่อไป โดยบริษัทได้คาดหวังว่า ในปี 2556 บริษัทจะปักธงเขตประเทศอาเซียนให้ครบ 10 ประเทศ และ สุดท้ายคือ ประเทศอินเดีย โดยในอนาคตบริษัทต้องการที่จะขยายออกสู่ 10 ประเทศ อาเซียน และ 3 ประเทศที่เข้าร่วม ซึ่งมี จีนที่บริษัทได้ขยายออกไปแล้วในช่วงก่อนหน้า อีกทั้งในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงสาขาของ นีโอ ไลฟ์ ในประเทศกัมพูชาก็กำลังจะ เกิดขึ้น

“การค้าเสรีอาเซียน นับเป็นเรื่องที่สำคัญที่บริษัทมองไปถึง เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทไม่ใช่เพียงแต่แบรนด์ขายตรงที่อยู่ในไทยเสียแล้ว เพราะความต้องการส่งต่อความสำเร็จไปยังพี่น้อง ทั่วโลก ทำให้การขยายตัวของบริษัทต้องเกิดขึ้นในเร็ววัน โดยบริษัทมีความต้องการ เห็นการเพิ่มจำนวนของสมาชิกที่เป็นพี่น้องชาวต่างชาติ และทำให้เห็นว่า แบรนด์ ขายตรงของไทย คือ สิ่งที่จะเข้าไปสร้างฐานะความเป็นอยู่ให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น” หัวเรือ นีโอ ไลฟ์ เผย

อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน นีโอ ไลฟ์ มีสมาชิกที่แอ็กทีฟ และสมาชิกผู้บริโภครวมกว่าล้านรหัสทั่วประเทศ มีศูนย์สาขาที่รองรับความต้องการทำธุรกรรมของสมาชิกอยู่จำนวน 35 ศูนย์หลัก และมีศูนย์ ย่อยที่เป็นอาคารเช่าอีก 30 ศูนย์ ขณะที่ตัวเลขการซื้อขายแฟรนไชส์จุดบริการสินค้า “นีโอ ไลฟ์ ช็อป” มีจำนวน 1.5 พันจุดบริการ ตอกย้ำถึงความพร้อมของบริษัท ในการขยายความยิ่งใหญ่ที่จะตามมา

>> “แอมเวย์” ปั้นสินค้าสุขภาพกินรวบลูกค้า Gen Y

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแสความนิยมของผู้บริโภคที่หันมาดูแลสุขภาพและความงามเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มูลค่าตลาด รวมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ย ปีละ 10-12% โดยผลวิจัยพบว่า ในกลุ่ม ผู้มีรายได้ระดับปานกลางถึงสูงมีแนวโน้มหันมาดูแลสุขภาพด้วยการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูงถึง 70% โดยเฉพาะ การบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภท โปรตีนและกลุ่มเพื่อความงามสำหรับผู้หญิง ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ ตัวใหม่ นิวทริไลท์ ออล แพลนท์ โปรตีน

“โดยนิวทริไลท์ ออล แพลนท์ โปรตีน จะเป็นผลิตภัณฑ์แม่เหล็กในการขยายตลาดและทำให้นิวทริไลท์มียอดขายสูงขึ้นถึง 5,700 ล้านบาท และส่งผลให้ยอดขายรวมของแอมเวย์ประสบความสำเร็จด้วยอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ในสิ้นปีนี้” นายกิจธวัช กล่าว

ด้านนางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แอมเวย์เตรียมแคมเปญ “นิวทริไลท์ ทุกวัน” เพื่อให้ความรู้กับผู้บริโภคในการดูแลสุขภาพพื้นฐาน โดยดึงผลิตภัณฑ์เรือธงของนิวทริไลท์มาจับคู่กัน ได้แก่ “นิวทริไลท์ ออล แพลนท์ โปรตีน” และ “นิวทริไลท์ ดับเบิ้ล เอ็กซ์” แนะนำให้บริโภคคู่กัน 

“ภายใต้แคมเปญดังกล่าว นิวทริไลท์ ยังเน้นตอบสนองเทรนด์ผู้ที่ชื่นชอบโลกโซเชียล เน็ตเวิร์ก ทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และยูทูบ เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น โดยใช้ดนตรีช่วย ในการเข้าถึงและพัฒนาแอพพลิเคชั่น “Everyday Shake Shake : เชคทุกวัน” เพื่อให้เข้าใจประโยชน์ของสารอาหารง่ายๆ พร้อมสนุกกับการออกกำลังกายมาก ยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นตัวนำกิจกรรมและสร้างประสบการณ์ใหม่ (Brand Experience) ให้เข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่โดยเฉพาะคนเจ็นวาย (Generation Y) ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการให้บริการลูกค้า ผู้บริโภคทุกท่านจะได้รับการแนะนำสินค้าจากนักธุรกิจแอมเวย์ที่ผ่านการฝึกอบรมสินค้าอย่างมืออาชีพ สามารถให้คำแนะนำ เรื่องการดูแลสุขภาพพื้นฐานได้อย่างถูกต้องครบถ้วน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจแอมเวย์ เราจึงมั่นใจว่านิวทริไลท์โปรตีนเพียงชนิดเดียวจะประสบความสำเร็จด้วย ยอดขายไม่ต่ำกว่า 1,600 ล้านบาท ภายใน สิ้นปีนี้” นางรัตนากล่าวในที่สุด

>> “กิฟฟารีน” อัดสินค้า ปิดช่องผลิตภัณฑ์ต่างค่าย

พ.ญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า กิฟฟารีนมีแผนในการสร้างจุดแข็งในเรื่องของนวัตกรรมสินค้า ตาม คอนเซปต์ของการสรรหาวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อมอบให้กับผู้บริโภค ยิ่งไปกว่านั้นการพัฒนาเครือข่ายนักธุรกิจตามแผน UniLevel นั้น ในปีนี้ยังมีความน่าสนใจ คึกคัก และชวนติดตาม ทั้งในส่วนของผลประโยชน์ และสิทธิประโยชน์ มากมายให้กับนักธุรกิจ กิฟฟารีน ซึ่งในปี 2554 ที่ผ่านมานั้น กิฟฟารีน มีจำนวนนักธุรกิจรวม 510,000 รหัส ในจำนวนสมาชิก ทั้งหมด 6,201,000 รหัส

“ในปีนี้เป็นปีที่กิฟฟารีนได้เรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ทำให้เราเก่ง ขึ้น เข้มแข็งขึ้น และมีความรักสามัคคีกัน ในกลุ่มนักธุรกิจมากยิ่งๆ ขึ้น ซึ่งถือว่าเป็น สิ่งที่ดี และน่าชื่นชม ที่สำคัญในปี 2554 ที่ผ่านมา กิฟฟารีนสามารถสร้างยอดจำหน่าย ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2554 ได้เป็นจำนวน 5,488,000,000 บาท โดยเติบโตที่ 11.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบ กับปีก่อนหน้า โดยต้องถือว่าในปีนี้เราเตรียมตัวได้ดีในการสร้างยอดจำหน่ายตั้งแต่ต้นปีจนถึงก่อนช่วงน้ำท่วม เติบโตถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ในช่วง 10 เดือนแรก และ มีการเติบโตในแต่ละภูมิภาค ได้อย่างน่าสนใจ แม้ในช่วงของมหาอุทกภัยที่เข้าสู่ฐานการผลิตที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครก็ตาม” พ.ญ.นลินี กล่าว

ในส่วนของแผนรุกตลาดในปี 2555 นั้น พ.ญ.นลินี กล่าวว่า ได้วางแผนในการ รุกตลาดด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม สร้างกระแสในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งถือเป็นการสร้างความแตกต่าง และสร้างความคึกคักในวงการธุรกิจขายตรง พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นยอดตลอด ทั้งปี ยิ่งไปกว่านั้น ในปีนี้ยังมีการวางแผน ฝึกอบรมพร้อมๆ ไปกับการจัดกิจกรรม สัมมนา และเอ็กซ์โปทั่วประเทศ และกิฟฟารีนยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์ธุรกิจ และ ตั้งเป้าหมายของยอดจำหน่ายในปี 2555 ไว้ที่ 6,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าอย่าง มุ่งมั่น และทุ่มเทเพื่ออัตราการเติบโตให้ได้มากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ในทุกๆ ปี


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1292 ประจำวันที่ 18-4-2012 ถึง 20-4-2012  
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น