ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

‘ดีไลฟ์’ เดินเครื่องเขย่าตลาดภูธร เปิดสาขาใหม่ขอนแก่นกระชับพื้นที่


“ดีไลฟ์” เปิดเกมรุกตลาดภูธร หวังสร้างฐานธุรกิจกรุยทางสู่อาเซียน...ล่าสุดเปิดสาขาแห่งใหม่ที่จังหวัดขอนแก่นหวังสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภค...เผยปีนี้ ดีไลฟ์เตรียมบุกตลาดแบบเต็มอัตราศึก ทั้งในส่วนของการขยายสาขา การขยายโรงเรียนสอนธุรกิจ DNA ตามภูมิภาคต่างๆ พร้อมรุกสื่อแบบครบเครื่องทั้งเคเบิ้ลทีวี สื่อวิทยุ สื่อออนไลน์และสิ่งพิมพ์ หมายพิชิตเป้าสิ้นปี 500 ล้าน...ลั่น! ปี’57 เป้า 1,000 ล้านไม่ไกลเกินฝัน

ปัจจุบันนี้ หากพูดถึงเกมการแข่งขันใน “ธุรกิจขายตรง” แล้วล่ะก็ จะพบว่า เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการช่วงชิงความได้เปรียบทางธุรกิจกันอย่างสนุกทีเดียว ที่สำคัญ ต้องบอกว่า ธุรกิจนี้หากใครที่เปิดเกมรุกทางธุรกิจที่โดนใจสมาชิกหรือผู้บริโภคเมื่อไหร่แล้ว เชื่อได้เลยว่า โอกาสที่จะเติบโตแบบยิ่งใหญ่ในธุรกิจนี้ก็มีสูงด้วยเช่นกัน!...

เช่นเดียวกับธุรกิจขายตรงที่ชื่อ “บริษัท ดีไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” ภายใต้การนำทัพของ “เทวัญ ดีใจงาม” ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง และ “ต้องจิต ฆโนทัย” กรรมการผู้จัดการ ซึ่งต้องบอกว่า ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ 2 ผู้บริหารท่านนี้ เตรียมที่จะสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับธุรกิจดีไลฟ์ เพื่อการเติบโตก้าวสู่ปีที่ 7 อย่างยิ่งใหญ่ทีเดียว...เห็นได้จาก ในเวลานี้ “ดีไลฟ์” เอง เริ่มที่จะออกมาเขย่าธุรกิจกันตั้งแต่ต้นปีด้วยการประกาศจัดทัพมุ่งสู่ตลาดภูธรมากขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมานั่นเอง

…จะเห็นได้ว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจของค่ายนี้นั้น พร้อมที่จะมีการเคลื่อนทัพธุรกิจอยู่ทุกเมื่อ หากทุกอย่างมีความพร้อมจริง และสัมผัสได้จริง!...เห็นได้จากในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาและกำลังก้าวสู่ปีที่ 7 นั้น ค่ายนี้ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญยังถือเป็นบริษัทขายตรง ที่ในช่วงที่ผ่านมา เรียกได้ว่าไม่ค่อยจะมีการโฆษณา ผ่านสื่อต่างๆ มากนัก แต่สามารถยืนหยัดอยู่ในวงการขายตรงนี้ได้ นั่นก็หมายความว่า “ดีไลฟ์” ย่อมต้องมีดีจริงอย่างแน่นอน!!...

เห็นได้จาก ล่าสุดของดีที่กำลังจะแผ่กระจายไปทั่วภูมิภาคของประเทศไทย นั่นก็คือ การเปิดเกมรุกตลาดภูธรแบบเต็มแรง เพื่อหวังที่จะสร้างฐานธุรกิจให้เติบโตและยิ่งใหญ่ ด้วยการเปิดสาขาแห่งใหม่ในภาคอีสานที่จังหวัดขอนแก่นนั่นเอง

...“ปีนี้ ดีไลฟ์ เตรียมที่จะบุกตลาดแบบเต็มอัตราศึก ทั้งในส่วนของการขยายสาขา และการขยายโรงเรียนสอนธุรกิจ DNA ตามภูมิภาคต่างๆ โดยในปีนี้ ดีไลฟ์จะมุ่งเน้นไปที่ภาคอีสานเสียส่วนใหญ่ ที่ถือเป็นเป้าหมายหลักของบริษัทฯ โดยสาขาที่จะเปิดใหม่ในปีนี้นั้น ประกอบด้วย ขอนแก่น, อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด ซึ่งสาขาแห่งใหม่ล่าสุดในจังหวัดขอนแก่นนั้น ตั้งอยู่บนห้างโลตัสขอนแก่น และเชื่อว่าสาขาดังกล่าวนี้ น่าที่จะเป็นอีกหนึ่งแห่งที่จะช่วยสร้างธุรกิจดีไลฟ์ ให้ผู้บริโภคได้รู้จักด้วยเช่นกัน”...

โดยการเลือกเปิดสาขาแห่งใหม่ที่จังหวัดขอนแก่นนั้น นายเทวัญ ดีใจงาม บอสใหญ่ค่าย “ดีไลฟ์” ได้เล่าว่า...“สาเหตุที่เลือกเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดขอนแก่นนั้น มองว่าในพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างมีขายตรงที่เข้ามาเปิดน้อยมาก ในขณะเดียวกัน การเปิดสาขาที่ขอนแก่น ถือเป็นการสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจดีไลฟ์ เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง รากฐานแข็งแกร่ง และต้องบอกว่า การที่เราเลือกเปิดสาขาที่ห้างโลตัสนั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปิดได้ เนื่องจากต้องผ่านหลายขั้นตอนพอสมควร และการที่ดีไลฟ์เข้ามาเปิดธุรกิจขายตรงที่ห้างโลตัสได้ ยอมต้องเป็นธุรกิจที่ไม่ธรรมดาด้วยเช่นกัน”

นายเทวัญ บอกต่ออีกว่า ในปีนี้ที่ ดีไลฟ์ฯ มุ่งเน้นทำตลาดในภาคอีสานเป็นหลัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสมาชิกส่วนใหญ่ของดีไลฟ์เป็นคนภาคอีสาน ในขณะเดียวกันยังเห็นว่าภาคอีสานน่าที่จะเป็นประตูสำคัญสู่ตลาดอาเซียนในปี 2558 นี้ได้ด้วย

...เรียกได้ว่า การรุกตลาดเครือข่ายสู่ห้างดังของค่าย “ดีไลฟ์” เป็นอีกหนึ่งก้าวย่างที่สำคัญของธุรกิจอย่างมากทีเดียว เพราะหากก้าวเดินได้อย่างตรงจุด และตรงกลุ่มเป้าหมาย อนาคตของธุรกิจที่จะยิ่งใหญ่ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ง่ายเช่นกัน…เหมือนอย่างที่ค่าย “ดีไลฟ์” กำลังทำอยู่นั่นเอง!...พร้อมกันนี้ ทางบอสใหญ่ “ดีไลฟ์” ยังประกาศที่จะขยายสาขาบนห้างดังในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย!..รวมถึงตั้งเป้าที่จะมีศูนย์กระจายสินค้าเกิดขึ้นในปีนี้ประมาณ 1,000 แห่ง

นอกจากนี้ เครื่องมือในการสร้างความยิ่งใหญ่ของ “ดีไลฟ์” ไม่ใช่มีเพียงแค่การรุกเปิดสาขาใหม่ตามภูมิภาคต่างๆ เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอีกหนึ่งหัวหอกที่สำคัญ ในการสร้างผู้นำสู่ความเป็นมืออาชีพในธุรกิจขายตรงนี้ด้วยนั่นก็คือ “โรงเรียนสอนธุรกิจ” ที่ปัจจุบัน “ดีไลฟ์” ได้เปิดให้มีโรงเรียนดังกล่าวไปบ้างแล้ว อาทิ พิษณุโลก, เชียงใหม่, อุบลราชธานี, อุดรธานี,นครราชสีมา และชลบุรี เป็นต้น

...“จุดเด่นที่ทำให้ “ดีไลฟ์” ก้าวมาสู่จุดนี้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรามีสินค้าที่ครอบคลุมทุกกลุ่ม รวมถึงมีแผนการตลาดที่ยอดเยี่ยม เพราะเห็นได้จากการเปลี่ยนแผนจากสแตร์สเต็ปเป็นวีคสตรอง ยอดขายมีอัตราการเติบโตถึง 300% ทีเดียว นอกจากนี้ ดีไลฟ์ ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการฝึกอบรมที่มีโรงเรียนสอนธุรกิจให้สมาชิกดีไลฟ์มีความเป็นมืออาชีพ และหากวันนี้ดีไลฟ์ไม่มีจุดเด่นที่เพียงพอ เชื่อว่าธุรกิจคงไม่อยู่ถึงวันนี้อย่างแน่นอน”...

ส่วนเป้าหมายยอดขายสิ้นปีนี้นั้น “เทวัญ” กล่าวย้ำว่า ขอพิชิตยอดขายที่ 500 ล้านบาท พร้อมกับมียอดขายแตะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ในปี 2557...ซึ่งเป้าหมายที่ “ดีไลฟ์” วางไว้นั้น ถือเป็นการพิสูจน์กึ๋นของค่ายนี้ได้เลยว่า จะสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าคงไม่น่าที่จะเกินเป้าหมายคว้าของทั้ง 2 ผู้บริหารค่ายนี้อย่างแน่นอน

เห็นได้จากการเตรียมโหมโรงธุรกิจด้วยการที่จะใช้สื่อทีวีดาวเทียมเป็นหัวหอกที่สำคัญในการทำตลาดนับจากนี้ต่อไป พร้อมกับสื่อวิทยุชุมชนและการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมถึงการทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์เพื่อรีครูทคนกลุ่มใหม่เข้ามาสู่ธุรกิจดีไลฟ์อีกด้วย

...“ที่ผ่านมา ดีไลฟ์ ถือได้ว่า ไม่ค่อยที่จะใช้สื่ออะไรมากนัก โดยในปีนี้ ดีไลฟ์พร้อมที่จะรุกสื่ออย่างเต็มที่ ซึ่งตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าดีไลฟ์ต่างเจออุปสรรคต่างๆ มามากมายทีเดียว แต่ก็ยังสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มาได้ โดยวันนี้เหลือเพียงแค่การรุกสื่ออย่างเดียวที่เรายังทำไม่เต็มที่ แต่เชื่อว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ดีไลฟ์จะหันมารุกสื่อต่างๆ มากขึ้น เพื่อเป็นการตอกย้ำความมั่นคงของธุรกิจให้แก่ผู้บริโภคได้รับรู้”...

นับได้ว่า จากความพร้อมของ “ดีไลฟ์” ที่เริ่มก่อตัวให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นนี้เอง จึงทำให้บอสใหญ่อย่าง “เทวัญ” จึงได้เล็งเห็นว่า การใช้สื่อคือ อีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยทำให้ธุรกิจเกิดการรับรู้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง...โดย “เทวัญ” ยังกล่าวย้ำต่ออีกว่า “วันนี้บริษัทฯ ต้องการที่จะสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ ด้วยการใช้สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อวิทยุชุมชน หนังสือพิมพ์ และรวมไปถึงการโฆษณาผ่านเคเบิ้ลทีวี และเชื่อว่าหลังจากที่บริษัทฯ รุกสื่ออย่างเต็มที่ในปีนี้แล้ว เป้าหมายทุกอย่างที่บริษัทฯ ได้วางไว้ก็น่าที่จะตรงตามเป้าหมายด้วยเช่นกัน”

นอกจากนี้ “ดีไลฟ์” ยังเตรียมที่จะเน้นการใช้สินค้านำร่องตลาด ด้วยสินค้าพระเอกคือ โสมสกัดเม็ด “ดีไลฟ์ จินสโรเจน” ในการปูทางธุรกิจ ไปพร้อมๆ กับสินค้าในหมวดความงาม อย่างล่าสุดดีไลฟ์ ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ที่ชื่อ “เดอ ลูคอง ซีรั่ม ซันสกรีน SPF PA+++” เป็นซีรัมกันแดดเมื่อไม่นานมานี้เอง ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมทีเดียว

…โดยทางด้าน “ต้องจิต ฆโนทัย” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังได้พูดถึงในส่วนของผลิตภัณฑ์ดีไลฟ์อีกว่า “นโยบายหลักของดีไลฟ์จะเน้นในเรื่องของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก โดยคุณภาพจะต้องมาก่อน สินค้าทุกตัวจะต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ และมีความหลากหลาย รวมถึงต้องมีคุณภาพ เพราะเราเชื่อว่าหากสินค้ามีคุณภาพ ธุรกิจก็จะสามารถอยู่ได้ในระยะยาว ที่สำคัญ สินค้าของดีไลฟ์ทุกตัวราคาไม่แพงด้วย”

“ต้องจิต” เผยต่ออีกว่า ก่อนที่ “ดีไลฟ์” จะออกสินค้าแต่ละตัวนั้น จะมีการสำรวจความต้องการของสมาชิกก่อนว่า อยากที่จะได้อะไร และสินค้าทุกตัวเรียกได้ว่าค่อนข้างมีมาตรฐานอย่างมาก เพราะจะมีการจดลิขสิทธิ์ รวมถึงสูตรที่จะมีการจดในกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ถือเป็นแบรนด์ของดีไลฟ์ ทำให้สมาชิกสามารถมั่นใจได้เลยว่า ไม่มีใครที่จะสามารถเอาสินค้าของดีไลฟ์ไปละเมิดลิขสิทธิ์ได้อย่างแน่นอน

... “เทวัญ” กล่าวเสริมต่ออีกว่า ธุรกิจดีไลฟ์จะมีความพิเศษตรงที่ว่า จะไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน เพราะมองว่ากลุ่มคนจำพวกนี้เมื่อทำธุรกิจในระยะยาวแล้วจะล้มเหลวอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้บริษัทฯ จึงได้มีการปลูกฝังไว้ตั้งแต่เริ่มต้นว่า สมาชิกทุกคนควรที่จะต้องช่วยเหลือกัน ด้วยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี และสามารถส่งต่อความสำเร็จจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งได้ด้วย

“การที่ดีไลฟ์มีการสร้างคนคนหนึ่งให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องบอกว่า เรามีจุดเด่นตรงที่มีโรงเรียนสอนธุรกิจ ที่สามารถสร้างคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ให้เขานั้นได้มาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและเป็นมืออาชีพ ซึ่งตรงนี้เอง ถือเป็นหัวใจของดีไลฟ์เลยที่ได้มีการพิสูจน์มาโดยตลอด และวันนี้ดีไลฟ์ ก็ได้พิสูจน์ว่ามีคนที่ จบ ป.4 และสามารถมีรายได้เดือนละเป็นแสนได้ ซึ่งเราเองขอสัญญาว่าจะไม่หยุดที่จะสร้างคนให้สำเร็จเพียงแค่นี้อย่างแน่นอน และพร้อมที่จะมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ อีกด้วย”

...เรียกได้ว่า วันนี้ “ทุกบริษัท” ต่างมี “จุดหมายปลายทาง” เป็นของตนเองแทบทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่า “ค่ายไหน บริษัทไหน” จะสามารถไต่ระดับและถีบตนเองไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่เท่านั้นเอง ที่สำคัญ “ฝีมือต้องดี” และ “ฐานที่มั่นต้องแกร่ง” ถึงจะอยู่ในสนามรบได้อย่าง “สง่าผ่าเผย”

เฉกเช่นค่าย “ดีไลฟ์” ที่ ณ ชั่วโมงนี้ได้พิสูจน์ถึง “กึ๋นทางธุรกิจ” แล้วว่าไม่ใช่ธรรมดาทีเดียว..อย่างไรก็ตาม หากวันนี้ “ดีไลฟ์” ถ้า “คิดจะยิ่งใหญ่” ใน “สมรภูมิขายตรง” มากกว่านี้ต้อง “กล้าได้ กล้าเสีย” และ “บ้าบิ่น” พอสมควร เชื่อว่า ถ้าค่ายนี้ “สู้แบบยิบตา” อนาคตที่จะยิ่งใหญ่มากกว่านี้ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้เช่นกัน!...

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1295 ประจำวันที่ 28-4-2012 ถึง 1-5-2012       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น