“มิลค์กี้ เวย์” ตามกระแสน้องใหม่แห่เปิดตัวบริษัท จัดการเปิดแถลง เปิดป้ายบริษัทเป็นทางการ เริ่มด้วยการประกาศลั่นกวาดยอดขาย 3,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี เผยควักทุนกว่า 30 ล้านบาท จัดการทุกระบบของบริษัท 4 เดือนผ่าน ธุรกิจเติบโตดีเกินคาด มียอดสมาชิกแล้ว กว่า 1 พันรหัส คาดไม่นานกระโดดขยายสาขาอินเดีย ไต่ความฝันเป็นบริษัทแถวหน้าของไทย
นายสุมิตร วชโรดมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลค์กี้ เวย์ เน็ตเวิร์ค จำกัด เปิดเผยว่า แม้ตนไม่เคยเป็นสมาชิกของขายตรงค่ายไหนมาก่อน แต่จากการศึกษาทำความเข้าใจ ในธุรกิจขายตรงมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี บวกกับพลังความสามารถที่เคยบริหารกิจการส่งออกสิ่งทอและเครื่องหนังของครอบครัวจนประสบความสำเร็จ ทำให้ตนมีความเชื่อมั่นว่าการทำธุรกิจขายตรง มิลค์กี้ เวย์ จะต้องประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน
“โดยบริษัท มิลค์กี้ เวย์ ได้รับการจดทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครอง ผู้บริโภค (สคบ.) เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2554 ปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนไปแล้วกว่า 25 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นส่วนของสำนักงานสินค้า และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมบริษัทจึงต้องเร่งลงทุนไปก่อนทั้งๆ ที่ยังไม่เปิดดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการ แต่ตนอยากจะบอกว่า มิลค์กี้ เวย์ ไม่อยากเป็นเหมือนธุรกิจขายตรงทั่วไปที่ก่อนเปิดบริษัท หรือเปิดสาขาแต่ละสาขาจะต้องรอแม่ทีม และสมาชิกให้มีจำนวนมากก่อน ในขณะที่โครงสร้างต่างๆที่จะเข้ามารองรับการให้บริการยังไม่พร้อม ซึ่งสิ่งดังกล่าวจะแสดงถึงความไม่มั่นใจในการทำธุรกิจ และกลัวความเสี่ยง จึงผลักภาระให้ตกไปกับแม่ทีม และสมาชิก ดังนั้นมิลค์กี้ เวย์ จะไม่เป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน” นายสุมิตรกล่าว
สำหรับสินค้าของบริษัท จะแบ่งออก เป็น 2 กลุ่มหลัก คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงาม โดยขณะนี้มีการนำเข้ามาจัดจำหน่ายแล้วมากกว่า 10 รายการ โดยจะเน้นสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทลงทุนเกี่ยวกับการผลิตสินค้าไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ผลิตจากโรงงานภายในประเทศ ด้วยวัตถุดิบ ซึ่งเป็นสมุนไพรไทย เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าของชาวไทยออกสู่ตลาดนอก อย่างไรก็ดีแม้ขณะนี้บริษัทจะยังไม่มีโรงงาน การผลิตเป็นของตนเอง แต่เราจะควบคุมซับพลายเออร์ด้วยตนเองทุกเจ้า
ส่วนการทำตลาดของ มิลค์กี้ เวย์ บริษัทมีแผนการจ่ายผลตอบแทนแบบผสมผสาน ระหว่างระบบสแตร็สเต็ป และไบนารี่ ซึ่งตนและผู้บริหารทุกคนได้วิเคราะห์ถึงจุดเด่น และจุดด้อยของแผนการตลาดในระบบต่างๆ เป็นระยะเวลานาน จนได้ระบบที่ดีที่สุดดังกล่าว ทั้งนี้ก็เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของสมาชิก นอกจากนี้ มิลค์กี้ เวย์ ยังให้ความสำคัญกับระบบการเทรนนิ่งที่มีมาตรฐาน ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทได้นำวิทยากรมืออาชีพที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามาให้ความรู้ตามระบบที่บริษัทได้วางไว้
อย่างไรก็ดี สุมิตร ยังกล่าวต่อว่า ในอนาคตประมาณปีที่ 3-4 บริษัทก็มีแผนจะขยายสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินเดีย เนื่องจากเป็นตลาดที่ตนถนัดและมีสายป่านอยู่มากพอสมควร ดังนั้นในระยะยาวบริษัทจึงมีแผนที่จะสร้างคนไทยให้เป็นอัพไลน์ โดยให้คนต่างประเทศนั้นอยู่ใต้สายงานของ คนไทยทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม หลังจากธุรกิจ มิลค์กี้ เวย์ เริ่มเปิดดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นระยะเวลากว่า 4 เดือนแล้ว พบว่าขณะนี้มีประชาชนให้ความสนใจสมัครเป็นสมาชิกมากกว่า 1 พันรหัส และคาดว่าหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการนับจากนี้ไปจะต้องมีสมาชิกใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2 พันรหัส หรือภายในสิ้นปีต้องมียอดสมาชิกโดยรวมไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน สมาชิกแอ็กทีฟประมาณ 20-30%
“ตนตั้งใจทำให้ มิลค์กี้ เวย์ เป็นธุรกิจสำหรับครอบครัว เป็นอาชีพที่สร้างความมั่นคงในชีวิตได้ ดังนั้นตนจึงเชื่อว่า บริษัทจะได้รับความนิยมจาก กลุ่มคนขายตรงไม่น้อย และจะเป็นขายตรงน้องใหม่ที่มาแรงอย่างแน่นอน โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 100 ล้านบาท และในอีก 5 ปีบริษัทจะต้องเติบโต มียอดขายโดยรวมกว่า 3 พันล้านอย่างแน่นอน” นายสุมิตรกล่าวทิ้งท้าย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: นสพ.สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1291 ประจำวันที่ 11-4-2012 ถึง 17-4-2012
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น