 |
ซูมขุมกำลังขายตรงโค้งสุดท้าย...หลังพบหลายค่ายเดินหน้าทุ่มงบการตลาดแบบไม่อั้น!..หวังสร้างแรงเหวี่ยงเฮือกสุดท้ายกระตุ้นกำลังซื้อ พร้อมผลักดันยอดขายให้โตตามเป้า...เผยขายตรงทั้งเล็ก-กลาง-ใหญ่ “แอมเวย์-กิฟฟารีน-อิโรติค ไลฟ์-ไทยเฮลท์-ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค-1577 โฮม ช้อปปิ้ง” จัดหนัก จัดเต็ม!...ชี้งบการตลาดปลายปี จะเห็นผลได้จริงหรือไม่ อยู่ที่ “กึ๋น” ของผู้ประกอบการ
ไตรมาสที่ 4 ของทุกปี ต้องยอมรับว่า เป็นช่วงจังหวะโค้งสุดท้ายของหลาย ๆ ค่าย ที่จะต้องวางกลยุทธ์ชนิดที่ว่า “ต้องเห็นผล” และ “ต้องเข้าเป้า” ตามที่เคยวางไว้ในช่วงต้นปี หรือหากพลาดเป้าก็อย่าพลาดเป้าหมายที่วางไว้มากจนเกินไป!!
ผนวกกับในช่วงนี้ การแข่งขันใน “ธุรกิจขายตรง” ยิ่งร้อนระอุ! ขึ้นทุกวัน ค่ายไหนช้า ค่ายไหนกึ๋นไม่ถึง มีหวังโดนค่ายอื่นแซงตัดหน้าได้ด้วยเช่นกัน เพราะวันนี้ หากใครที่อยู่ในธุรกิจขายตรงมาพอสมควร คงน่าที่จะทราบว่า การทำตลาดของแต่ละค่ายก็ใช่ว่าจะแตกต่างกันมากจนไม่สามารถที่จะสู้ได้เลยทีเดียว
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องไม่ประมาทด้วยเช่นกัน ยิ่งในช่วงโค้งสุดท้ายของปีด้วยแล้ว เรื่องของการ “อัดงบ” ของ “ธุรกิจขายตรง” เรียกว่าเกือบทุกค่ายต่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร เพราะหากใครที่สร้างภาพความยิ่งใหญ่ ความน่าเชื่อถือ และทุ่มงบแบบไม่อั้น เพื่อกระตุ้นตลาดให้กับสมาชิกมากเท่าไหร่ จุดนี้แหล่ะที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนของธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้งบในเวลาที่เหมาะสมและตรงจุดด้วย ถึงจะสามารถเห็นผลแบบมีประสิทธิภาพ?...
งบตลาดร้อนระอุปลายปี
ผู้ประกอบการทุ่มไม่อั้น
...เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการทำธุรกิจ พบว่า เริ่มที่จะเห็นหลาย ๆ ค่ายในธุรกิจขายตรง ทั้งค่ายน้องใหม่ที่เพิ่งกระโดดเข้ามาร่วมธุรกิจ รวมถึงค่ายขายตรงที่อยู่มานานต่างเตรียมทุ่มงบไม่อั้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้...เห็นได้จากพี่บิ๊กอย่างค่าย “แอมเวย์” เอง ในส่วนของการทำตลาดของสินค้าเครื่องกรองน้ำ อี-สปริง ณ ช่วงนี้ก็ได้มีการตั้งงบในการทำตลาดเฉพาะกลุ่มนี้ถึง 80 ล้านบาทด้วยกัน โดยในงบประมาณดังกล่าวนั้น ได้เป็นการใช้ในส่วนของการวางแผนจัดรายการส่งเสริมทั้งการขายเครื่องใหม่ และการเปลี่ยนไส้กรอง เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน หากดูจากตัวเลขงบทั้งปีของค่าย “แอมเวย์” ในปีนี้แล้วนั้น พบว่า ทั้งปีได้ตั้งงบไว้สูงถึง 800 ล้านบาทเลยทีเดียว ในการทำตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมถึงการกิจกรรมส่งเสริมการขาย ทั้งในส่วนของของการอัดฉีดนักธุรกิจแอมเวย์ให้เพิ่มการขาย และจัดโปรโมชั่นแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลด แลก แลก แถม เพื่อกระตุ้นการซื้อในช่วงนี้นั้นเอง
ขณะเดียวกัน ทางด้านขายตรงน้องใหม่อย่าง “บริษัท อิโรติค ไลฟ์ จำกัด” ภายใต้การนำของ “เอกวัฒน์ วงษ์ชูแก้ว” ประธานกรรมการบริหาร ก็ได้เตรียมทุ่มงบในการสร้างการรับรู้ของธุรกิจในช่วงแรกกว่า 60 ล้านบาท เลยทีเดียว ในการลงโฆษณาผ่านช่องรายการของกลุ่มกันตนา รวมถึงการจัดกิจกรรมการตลาดอื่น ๆ เสริมด้วย
ส่วนค่าย “ไทยเฮลท์ กรุ๊ป” ช่วงนี้ ก็ได้มีการทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ในการทำตลาดและประชาสัมพันธ์ พร้อมกระตุ้นกิจกรรมส่งเสริมการขายในทุกรูปแบบ และทุกช่องทาง ทั้งฟรีทีวี และโซเชียลมีเดีย เพื่อผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เห็นได้จากที่ผ่านมา ได้มีการนำเอาศิลปินดาราถึง 7 คนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการใช้งบประมาณอีก 100 ล้านบาท ในการปรับปรุงสื่อโฆษณา เทคนิคการผลิตสื่อโฆษณา และอบรมให้ความรู้ด้านการโฆษณาแก่ผู้แทนจำหน่าย เพื่อให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ถูกต้องตามที่ กสทช.กำหนดอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งขายตรงน้องใหม่ที่พร้อมทุ่มงบการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ต่อผู้บริโภคได้อย่างหนักหน่วงทีเดียวสำหรับค่าย “ไทยเฮลท์ กรุ๊ป”
…เช่นเดียวกับทางด้าน “กิฟฟารีน” ก็เช่นกัน ที่ต้องยอมรับว่าเกือบจะไตรมาสเลยก็ว่าได้ในการที่จะกระตุ้นกำลังซื้อด้วยงบการตลาด อย่างล่าสุดก็ได้ปล่อยงบในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ถึง 50 ล้านบาท ในการทำตลาดกับสินค้าตัวใหม่อย่าง “กิฟฟารีน อีสเลส” ที่ได้พรีเซ็นเตอร์หนุ่มฮอตอย่าง “เจมส์ มาร์” มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ด้วย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งการทุ่มงบที่ต้องการกระตุ้นยอดขายจากกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นอีกหนึ่งกลุ่มของค่าย “กิฟฟารีน” นั่นเอง!
ส่วนทางด้านค่าย “จันทร์สว่าง” ในช่วงนี้ก็ได้มีการทุ่มงบเพิ่มจากในช่วงที่ผ่านมา ในการโฆษณากว่า 7- 8 % ผ่านช่องทางต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สื่อสิ่งพิมพ์ ,โทรทัศน์ ,วิทยุ และการทำกิจกรรมการตลาด ณ จุดขาย และเพิ่มช่องทาง social network เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น พร้อมกับการเพิ่มแคมเปญโปรโมชั่นจากปกติเดือนละครั้ง เป็นเดือนละ 2 ครั้ง รวมถึงการเพิ่มผลประโยชน์ให้กับนักธุรกิจอีก 10% จากปกติที่ได้รับ 60 - 70%
...ด้าน “บริษัท พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่ จำกัด” ผู้ให้บริการช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์ หรือ “1577 โฮม ช้อปปิ้ง” ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ออกมายอมรับว่า ปัญหาในเรื่องกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงและค่าครองชีพที่สูงขึ้น มีผลกระทบเช่นกันในช่วงนี้ ส่งผลให้ค่ายนี้ ก็ได้มีการทุ่มงบทางการตลาดกว่า 250 ล้านบาท ในการกระตุ้นยอดขายผ่านทางโฆษณาประชา สัมพันธ์ ทั้งสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ รวมถึงการแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดงบประมาณพิเศษอีก 2-3 ล้านบาทต่อไตรมาสอีกด้วย
รวมถึงทางด้าน “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” หรือที่หลายคนรู้จักในนามของ “อาวียองซ์” ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ก็ได้มีการทุ่มงบในการสร้างแบรนด์ใหม่ในไทยช่วงนี้ถึง 50 ล้านบาท พร้อมกับการเตรียมที่จะรุกหนักทางด้านการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิตอล เพื่อทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น และการปรับการให้ผลตอบแทนสมาชิก (ไอ ทเวลฟ์) โดยเพิ่มผลตอบแทนให้กับสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 5 - 6% เพื่อจูงใจสมาชิก ซึ่งการทุ่มงบในครั้งนี้ รวมถึงการเพิ่มผลตอบแทนที่มากขึ้นกว่าเดิมของค่าย “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” น่าที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนธุรกิจของ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค” ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอนในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้
เช่นเดียวกับค่าย “ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์” ที่ในช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ ก็ได้มีการทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ในการกระตุ้นกำลังซื้อ พร้อมกับการโปรโมทแบรนด์ของตัวเองผ่านสื่อชนิดที่ว่าหนักหน่วงกว่าในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านฟรีทีวีช่องต่าง ๆ เพื่อต้องการให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย เห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ในแต่ละสินค้าของบริษัท เพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่น และตอกย้ำแบรนด์คนที่ซื้อนั่นเอง
...จะเห็นได้ว่า การแข่งขันใน “ธุรกิจขายตรง” ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ ถือเป็นการ “วัดใจ” ผู้ประกอบการแต่ละค่ายเลยก็ว่าได้ ว่ามี “กึ๋น” มากพอหรือเปล่า ที่จะขับเคลื่อนองค์กรของตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า “เครือข่ายไหนที่ดีจริง” สามารถอยู่รอดปลอดภัยใน “สมรภูมิรบขายตรง” ได้...
ขณะเดียวกัน หากมองย้อนไปดูถึงในช่วงก่อนโค้งสุดท้ายของปีนี้ พบอีกว่า มีผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่าน ทั้งน้องใหม่รวมถึงค่ายเก่า ๆ เอง ต่างก็มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันให้มากขึ้น โดยมีกลยุทธ์ที่หลากหลายรูปแบบออกมายั่วน้ำลายผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง...
จึงนับได้ว่า ในเรื่องของการสร้างแรงจูงใจอย่าง “งบการตลาด” ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ในหลาย ๆ ธุรกิจต่างนำออกมาใช้กันอย่างมากมายทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของแต่ละปี ที่จะเห็นการเทกระจาดในส่วนของงบการตลาดเพื่อหวังกระตุ้นยอดขายของแต่ละบริษัท ด้วยวัตถุประสงค์เดียวกัน นั่นก็คือ เป้าหมายในเรื่องของยอดขายนั่นเอง!!
Credit By : http://www.taladvikrao.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น