ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

“อีพิค” ดูดแม่ทีมดังร่วมทีม “นิติ” นำร่อง “อาเจล” แห่ซบ







1235959_408159125951298_1498159882_n (Mobile)

 


ช็อก !! วงการขายตรงเมืองไทย เมื่อ “อีพิค” ปล่อยพลังดูด เปิดตัวผู้นำหมายเลขหนึ่งแห่งค่ายอาเจล “นิติ สว่างทรัพย์” เข้าร่วมทัพ หลังซุ่มเงียบเจรจากันเป็นแรมเดือน วงในเผยแผนใหญ่เตรียมใช้สำนักงานใหญ่ของ อาเจล ในไทย เป็นฐานบัญชาการใหม่ อีพิค แบไต๋จ่อโชว์ตัวผู้นำต่างค่ายอีกเพียบ ด้าน “นิติ” ยอมรับตัดสินใจค่อนข้างนาน แต่จำใจต้องจาก เหตุความคิดเห็นไม่ตรงกัน มั่นใจศักยภาพบริษัทใหม่ทั้งเงินทุน ผู้บริหาร และสินค้าเด่น เชื่อช่วยทีมงานประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก บริษัท อีพิค (ประเทศไทย) จำกัด (EPIC) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัท เบอร์จายา กรุ๊ป ที่มี Tan Sri Vicent Tan มหาเศรษฐีชาวมาเลเซียเป็นเจ้าของได้เปิดตัวทีมผู้บริหารอย่าง Glen Jensen อดีตผู้ก่อตั้ง บริษัท อาเจลฯ ปัจจุบันนั่งตำแหน่งประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท อีพิคฯ และ ชัยวัฒน์ ชัยจินดาวัธน์ อดีตผู้บริหารของ บีฮิบ (ไทยแลนด์) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายภูมิภาคเอเชีย ดูแลตลาดเอเชีย และประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ปรากฏมีกระแสข่าวว่าได้ดึงผู้นำจากค่ายขายตรงหลายแห่งมาร่วมทีมเป็นจำนวนมาก


ล่าสุด นิติ สว่างทรัพย์ ผู้นำหมายเลขหนึ่งของ อาเจล ประเทศไทย ได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากบริษัท อาเจลฯ อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว เพื่อเข้ามาร่วมธุรกิจ กับ บริษัท อีพิคฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งการเข้ามาร่วมธุรกิจกับอีพิคในครั้งนี้ ถือว่าได้สร้างความมึนงง!! ให้กับสมาชิกของอาเจลเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า นิติ สว่างทรัพย์ คนนี้เป็นผู้บุกเบิกตลาดอาเจลในประเทศไทย และในกลุ่มประเทศอาเซียน จนทำให้อาเจลก้าวขึ้นมามียอดขายติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย และถือว่าเป็นผู้นำต้นแบบของหลายๆ คน ในวงการขายตรงไทย จากการที่เขาประกาศชัดเจนว่าจะยืนหยัดสู้ต่อไป แม้ บริษัท อาเจลฯ จะประสบวิกฤติอย่างหนักก็ตาม


นอกจากการลาออกจาก อาเจล ประเทศไทย อย่างเป็นทางการของ นิติ สว่างทรัพย์ แล้ว แหล่งข่าววงในยังระบุอีกว่า บริษัท อีพิคฯ เตรียมจะใช้สำนักงานใหญ่ของ อาเจล ประเทศไทย ในปัจจุบัน มาเป็นฐานบัญชาการของอีพิค อีกด้วย ซึ่งแหล่งข่าวจาก อาเจล ประเทศไทย ยอมรับว่าขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการหาสถานที่ เพื่อใช้เป็นสำนักงานเห่งใหม่ของ อาเจล ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ อีพิค (ประเทศไทย) ได้แถลงข่าวเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อปลายเดือนกันยายน 2556 โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้นำ นำโดย นิติสว่างทรัพย์ ได้จัดประชุมกัน เพื่อจัดให้มีการวางผังองค์กรเป็นครั้งแรก


ด้าน นิติ สว่างทรัพย์ นักธุรกิจอิสระเปิดใจว่า การตัดสินใจลาออกจากอาเจลเพื่อมาร่วมธุรกิจกับอีพิคในครั้งนี้ ถือเป็นการตัดสินใจค่อนข่างยากมาก ซึ่งต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน โดยเหตุผลที่ลาออกมาในครั้งนี้เป็นเพราะความคิดเห็นหลายอย่างไม่ตรงกันกับทางผู้บริหารของอาเจล จึงจำใจต้องตัดสินใจลาออกมา อย่างไรก็ตามจากการที่เคยได้ร่วมงานกับ Glen Jensen ประธานผู้ก่อตั้ง อีพิค เมื่อ 6-7 ปีก่อน ทำให้มีความเชื่อมั่นในการบริหารงาน และด้วยความพร้อมรอบด้านของบริษัทจึงเชื่อว่าจะนำพาทีมงานให้สามารถ ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน


ขณะเดียวกัน ปัจจัยที่จะทำให้ทีมงานประสบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทีมผู้บริหารอย่าง Tan Sri Vicent Tan ที่ถือว่ามีความเข้าใจและมีแหล่งเงินทุนมหาศาลที่คอยให้การสนับสนุน โดยมอบหมายให้ Glen Jensen มีอำนาจในการบริหารงานอย่างเต็มที่ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทที่คาดว่าจะสร้างความฮือฮาให้กับวงการขายตรงระดับโลกอย่างแน่นอน ที่สำคัญไปกว่านั้น ด้วยแผนการจ่ายผลตอบแทนที่ทำง่ายและไม่ต้องลงทุนเยอะ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เชื่อว่าจะทำให้อีพิคเติบโตอย่างยั่งยืน


“การที่ผมลาออกจากอาเจล ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมีผลกับบริษัทมากนัก เพราะทางผู้บริหารของอาเจลเองก็ยืนยันแล้วว่าจะให้การสนับสนุนในการททำตลาดในเมืองไทยต่อไป ซึ่งผมก็ได้บอกกับน้องๆทุกคนแล้วว่าให้มองที่ตัวเองเป็นหลัก แม้ผมจะไม่อยู่ทุกคนก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ ส่วนที่จะมีใครตามมาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา สำหรับกระแสข่าวที่ออกมาว่าทางอีพิคจะใช้สำนักงานของอาเจล เป็นสำนักงานนั้นยังไม่มีข้อสรุป เพราะก่อนหน้านี้ผมได้เสนอกับทาง บริษัท อีพิคฯ ไปว่าให้ลองติดต่อกับทางเจ้าของอาคารแห่งนี้ดู ส่วนเขาจะตกลงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับนโยบายและการตัดสินใจของผู้บริหารของบริษัทเป็นหลัก” นิติ กล่าว


 


 


 


 


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย นสพ.The Power Network ฉบับที่ 234 ประจำวันที่ 16-31 พฤศจิกายน 2556


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น