ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimlmnews.com
เชื่อมต่อทุกข่าวสาร ยิงทุกประเด็นร้อน แหล่วรวมธุรกิจเครือข่าย

วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ข่าวโอทู อินเตอร์เนชั่นแนล (OTWO International) : ‘โอทู’ก้าวสู่ปีที่10ฉีดวัคซีนธุรกิจใหม่ เสริมทัพสินค้าสู้ศึก/เน้นกลยุทธ์สร้างคน







Capture (Mobile)

 


“โอทู” เดินหน้าธุรกิจเต็มอัตราศึก ฉลองครบรอบ 9 ปี ก้าวย่างสู่ปีที่ 10...เผย 9 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจมีสะดุดบ้างแต่ไม่เป๋!...แย้มโอทูที่ยืนหยัดอยู่ได้จนถึงวันนี้ เพราะความเชื่อมั่นของสมาชิก...ล่าสุดเสริมศักยภาพทางธุรกิจเพิ่มความหลากหลายเรื่องสินค้าหวังเจาะกลุ่มตลาดใหม่ ด้วยการส่งสินค้าใหม่กลุ่มสุขภาพ “ชัวร์ลี่-เบอร์รี่ บลู” เขย่าธุรกิจตื่นอีกครั้ง พร้อมเน้นกลยุทธ์เดินหน้าสร้างสมาชิกใหม่สู่ความสำเร็จ


...หากพูดถึง “บริษัท โอทู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด” นับเป็นอีกหนึ่งบริษัทขายตรงสินค้าเกษตรที่ก่อนหน้านี้เคยสร้างชื่อชนิดที่ว่าโด่งดังแบบเกรียงไกรมาแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหลาย ๆ ท่านในธุรกิจเครือข่ายคงน่าที่จะจำกันได้เป็นอย่างดี !..โดยชื่อสินค้าที่ติดหูติดตาพี่น้องเกษตรกรไทยนั่นก็คือ “โอทู ฟลาโวเจน”


จะเห็นได้ว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา ของธุรกิจโอทู มีทั้งจุดที่เรียกว่าพีคสุด ๆ กับช่วงที่เจอวิกฤติเช่นเดียวกัน แต่หากจะให้ตอบกันแบบชัด ๆ ว่า “ธุรกิจโอทู” เติบโตแบบสุดขีดเมื่อช่วงไหน เวลาไหน คงต้องบอกว่าอยู่ในช่วงของการนำเอาสินค้าเกษตรที่ชื่อว่า “โอทู ฟลาโวเจน” เข้ามาสู่ธุรกิจเครือข่ายนั่นเอง!!


‘โอทู’ตอกย้ำธุรกิจ9ปี


ยอมรับธุรกิจสะดุดแต่ไม่เป๋


...นับได้ว่ากระแสของธุรกิจโอทูในช่วง 9 ปีที่ผ่านมานั้น พบว่า ในช่วงปลายปี 2552 ที่ผ่านมา อีกหนึ่งงานยิ่งใหญ่ที่ค่ายนี้เคยสร้างชื่อมาแล้ว จนเรียกว่ากระแสของธุรกิจเริ่มเปิดทางสว่างมากขึ้นนั่นก็คือ งาน “ฉลองชัยเกษตรกรไทยใช้โอทู ฟลาโวเจน” ซึ่งงานนี้ได้มีการจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีสมาชิกตบเท้าร่วมงานทั่วทุกสารทิศอย่างคับคั่งทีเดียว...


จนกระทั่งกระแสความร้อนแรงของ “โอทู” ก็ได้เริ่มระเบิดขึ้นมาชนิดที่ว่า ฉุดไม่อยู่กันเลยในช่วงเวลานั้น จนส่งผลทำให้ยิ่งธุรกิจเติบโต ภาพทุกอย่างของธุรกิจโอทูก็ต้องยิ่งใหญ่เป็นเงาตามตัวด้วยเช่นกัน!..เห็นได้จากในวันที่ 15 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา ค่าย “โอทู” เอง ก็ได้ออกมาประกาศรุกหนักธุรกิจเครือข่ายแบบเต็มอัตราศึก ด้วยการเตรียมบุก “สินค้าเกษตร” และ “สินค้าสุขภาพสตรี” พร้อมกับการจัดโต๊ะจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลกรองรับผู้เข้าร่วมงานกว่า 50,000 คน ในงาน “คืนชีวิตให้กับแผ่นดิน” ณ อาคารชาแลนเจอร์ เมืองทองธานี พร้อมกับมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ และทีวีดาวเทียม IN TV-TVD อีกด้วย...เรียกว่าเป็นการสร้างศักยภาพของธุรกิจได้อย่างดีทีเดียว


เชื่อว่าใครที่อยู่ในแวดวงของธุรกิจคงพอที่จะทราบเป็นอย่างดีแน่นอน ยิ่งธุรกิจแรงมากเท่าไหร่ ปัญหาก็ย่อมตามมาด้วยเช่นกัน...เช่นเดียวกับค่าย “โอทู” ก็เช่นกัน ก็ได้มีปัญหามารุมเร้าต่าง ๆ มากมาย ทั้งในเรื่องของโครงสร้างภายในองค์กร ทีมผู้บริหารที่ถือว่าเป็นปัญหาจนส่งผลทำให้ธุรกิจหยุดชะงักไปในช่วงหนึ่งเลยทีเดียว...จนเป็นเหตุทำให้ทาง “โอทู” เอง จึงต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการบุกตลาดชนิดที่ว่า เกือบยกเครื่องกันใหม่เช่นกัน ทั้งในเรื่องของการสร้างความน่าเชื่อถือของธุรกิจให้กลับคืนมาอีกครั้ง รวมถึงการสร้างจุดขายของสินค้าที่เคยมีอยู่ให้พี่น้องเกษตรกรไทยที่เคยใช้สินค้าของโอทูเกิดความมั่นใจ!!


...และล่าสุด กับการครบรอบ 9 ปี พร้อมกับการก้าวสู่ปีที่ 10 ของ “โอทู” ทางด้านบอสใหญ่อย่าง “ฉัตรชัย ประเสริฐสุวรรณ” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอทู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ก็ได้ออกมาประกาศตอกย้ำถึงจุดยืนของธุรกิจ “โอทู” ให้กับพี่น้องสมาชิกโอทูทุกคนได้ทราบ ซึ่งในงานฉลองครบรอบ 9 ปี ในครั้งนี้นั้น สาระสำคัญ คือ ทางด้านประธานฯ ค่ายโอทูนั้น ได้สื่อถึงความมั่นคงของธุรกิจโอทูให้สมาชิกโอทูทุกคนว่า การดำเนินธุรกิจของโอทูในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นคำตอบที่ดีว่า การที่จะยืนหยัดมาจนถึงวันนี้ได้ เพราะมีคนสำเร็จในธุรกิจจริง มีความมั่นคงจริงนั่นเอง


“วันนี้มีหลายคนที่บอกว่า มาทำธุรกิจที่โอทูนั้นจะฝากชีวิตและความสำเร็จได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งตนเองอยากที่จะบอกว่า จากประสบการณ์ของตัวเอง ที่นั่งเป็นประธานบริษัทโอทูมา 9 ปี ตนเองได้รับประสบการณ์จากบริษัทโอทูฯค่อนข้างมาก มีคนเดินเข้าเดินออกจากบริษัทนับไม่ถ้วน ซึ่งถือเป็นสิทธิและเสรีภาพในการตัดสินใจของเขาเอง ซึ่งอุปสรรคต่าง ๆ ที่โอทูเจอ วันนี้ก็สามารถฟันฝ่ามาได้ และเชื่อว่าอนาคตของโอทูนับจากนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องแน่นอน” นายฉัตรชัย กล่าวและว่า


โดยภายในงานฉลองครบรอบ 9 ปีนั้น ทางด้าน นายฉัตรชัย ยังกล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่าในช่วงปี 2552-2555 สินค้าภาคการเกษตรนั้น สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท โอทูฯ อย่างมาก จนกระทั่งในช่วงที่ผ่านมา โอทูเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อปี 2554 เป็นต้นมา ซึ่งทางบริษัทฯ เองก็ต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจใหม่


ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ทางโอทูเองก็ได้มีการเพิ่มสินค้าใหม่ในกลุ่มสุขภาพเพื่อเข้ามาเสริมทัพธุรกิจให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นนั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก “ชัวร์ลี่” (Surely) และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผง (ดีท็อกซ์) ชื่อว่า “เบอร์รี่ บลู” (Berry Blue) โดยทางโอทูมีความเชื่อมั่นว่าสินค้าดังกล่าว น่าที่จะเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจของโอทูด้วยเช่นกัน ส่วนสินค้าทางการเกษตรในวันนี้นั้น ทางดร.สยามรัฐ ป้านภูมิ ยังคงมีการทำงานร่วมกันกับทางโอทูเหมือนเดิม


“อยากที่จะบอกสมาชิกโอทูทุกคนว่าไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ ความมั่นคงก็ดี โอทูได้ตอบโจทย์ตรงนี้ให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า คนที่อยู่กับบริษัท โอทูฯมานาน ได้สร้างเนื้อสร้างตัว จนประสบความสำเร็จ และมีอะไรต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย ซึ่งวันนี้เรียกว่ามีสมาชิกใหม่เข้ามาในธุรกิจโอทูพอสมควรเกือบ 80% ที่พร้อมจะสำเร็จไปกับโอทูร่วมกัน”


‘โอทู’ปีที่10จัดทัพสินค้าใหม่


เร่งปรับกลยุทธ์สร้างความต่าง


...ด้าน “ภณเอก สะอาด วงค์” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอทู อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ยังได้เผยถึงภาพรวมของธุรกิจโอทู ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมาว่า ค่อนข้างที่จะมีทั้งราบรื่น และมีทั้งอุปสรรคต่าง ๆ ที่เข้ามาในธุรกิจพอสมควร ซึ่งทางโอทูเองก็ยังสามารถที่จะฝ่าฟันอุปสรรคมาได้ตลอดระยะเวลา 9 ปี โดยต้องยอมรับว่า ในการสร้างเครือข่ายนั้น ไม่ใช่เรื่องยากและเรื่องง่าย หากทุกคนนั้นเข้าใจถึงเนื้อแท้ของเครือข่ายจริง ๆ ซึ่งผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่านต้องตีโจทย์ตรงนี้ให้ได้ด้วย


“ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ช่วงที่โอทูร้อนแรงมากที่สุดจะเป็นในช่วงที่มีการนำเอานวัตกรรมทางด้านเกษตรเข้ามา ประมาณช่วงปี 2553-2554 เนื่องจากในช่วงเวลานั้นถือว่ายังไม่มีสินค้าเกษตรค่ายไหนที่มีความโดดเด่น และเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์พี่น้องเกษตรกรชาวไทยได้เลย นอกจากโอทู และจากนวัตกรรมที่มีความโดดเด่นนี้เอง ทำให้มีคนมาก๊อบปี้สินค้าเกษตรมากขึ้น และมีผู้ประกอบการหันมาจับตลาดสินค้าเกษตรมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่เพิ่มมากขึ้น จนส่งผลให้ตลาดเริ่มมีการชะลอตัวลงนั่นเอง แต่ทั้งนี้ ก็ยังเชื่อว่าตลาดเกษตรในขายตรงน่าที่จะกลับมาใหม่อีกครั้งเหมือนเดิมแน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนที่ไม่ใช่ของจริงก็จะออกสู่ตลาดเครือข่ายไปเอง”


ส่วนภาพรวมธุรกิจโอทูในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้นั้น “ภณเอก” กล่าวยอมรับว่า ปีนี้มีหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบ ธุรกิจรอบด้านทั้งในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ภัยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของบริษัท รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง เป็นต้น ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้บริษัทฯ จึงต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เกิดขึ้น


โดยสิ่งที่บริษัทฯ จะเร่งปรับกลยุทธ์นับจากนี้ คือ การสร้างความแตกต่างในเรื่องของตัวสินค้าให้มากขึ้น ให้มีความตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการสร้างแรงกระตุ้นให้กับนักขายด้วย ในขณะเดียวกัน สินค้าที่มากระตุ้นนั้น ต้องตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ด้วย เหมือนเช่นโอทูที่ได้มีการเพิ่มสินค้าตัวใหม่เข้ามาในธุรกิจในกลุ่มของสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก “ชัวร์ลี่” (Surely) และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผง (ดีท็อกซ์) ชื่อว่า “เบอร์รี่ บลู” (Berry Blue) เป็นต้น


“ช่วงแรกในการสร้างการรับรู้สำหรับสินค้าใหม่นั้น จะเป็นการให้ผู้บริโภคได้มีการพิสูจน์สินค้าให้เห็นถึงคุณภาพ โดยใช้แล้วได้ผลก่อน ซึ่งบริษัทฯ ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาในภายหลังอย่างเด็ดขาด พร้อมกับให้ผู้บริโภคได้เห็นตัวอย่างของผู้ที่ใช้สินค้าของเราด้วย ไปพร้อมกับการเทรนนิ่งในเรื่องของสินค้าให้สมาชิกได้รู้จักมากขึ้น”


ส่วนเป้าหมายในอนาคตของโอทูนับจากนี้นั้น “ภณเอก” เผยว่า ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า การปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ของบริษัทฯ ค่อนข้างได้รับผลกระทบเท่าที่ควร โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ที่ทำให้บริษัทฯ ต้องมีการปรับโครงสร้างใหม่ในหลาย ๆ อย่าง ซึ่งวันนี้ถือว่าโครงสร้างของทีมผู้บริหารเริ่มอยู่ตัวแล้ว โดยเป้าหมายของโอทูนับจากนี้คือ การสร้างคนใหม่เข้ามาสู่ธุรกิจ สร้างกำลังใจให้สมาชิก รวมถึงการสร้างคนที่ช่วยขายของให้บริษัทฯ ได้มีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น


“เป้าหมายของโอทู คือ ต้องการหาคนเข้ามาในกลุ่มสินค้าที่ถูกกลุ่ม เพราะที่ผ่านมา บางบริษัทให้สมาชิกไปขายสินค้าในหลาย ๆ ตัว ตรงนี้จึงไม่มีความชำนาญ แต่จากนี้ไป โอทูจะให้สมาชิกที่ถนัดสินค้าในกลุ่มไหนให้ลงไปขยายงานในกลุ่มนั้นเลย โดยใครที่ถนัดทางด้านเกษตรก็ไปขายสินค้าเกษตร กลุ่มไหนที่ถนัดในเรื่องของกลุ่มสุขภาพก็ไปทำสุขภาพ ซึ่งต่อจากนี้ไปใครที่นึกถึงโอทูจะไม่ใช่สินค้าเกษตรเต็มร้อย แต่จะเป็นภาพรวมของเครือข่ายที่มีสินค้าที่หลากหลายเข้ามา โดยการที่บริษัทฯ หันมาเพิ่มความหลากหลายในส่วนของสินค้ามากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในเรื่องของการแข่งขันที่สูงขึ้นในธุรกิจขายตรงด้วย”


นอกจากนี้ “ภณเอก” ยังได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องของการแข่งขันของธุรกิจขายตรงในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้อีกว่า โค้งสุดท้ายปลายปีนี้ มองว่าผู้ประกอบการในธุรกิจขายตรงนั้น จะแข่งขันกันในเรื่องสินค้าที่จะเข้ามาดึงยอดขาย ในเรื่องของการชูนวัตกรรมใหม่ที่จะมีมากขึ้น เช่นเดียวกับทางโอทูเอง ที่กำลังทำอยู่ด้วยการพัฒนาสินค้าเดิมที่มีอยู่ให้มีความโดดเด่นมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันในเรื่องของกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงนี้ก็ถือว่ามีส่วนที่ช่วยทำให้ยอดขายของหลาย ๆ บริษัทชะลอตัวได้ด้วยเช่นกัน ส่วนกระแสของตลาดเออีซีกับธุรกิจขายตรงนั้น “ภณเอก” มองว่า ตลาดเออีซีเปรียบเสมือนถนนเส้นหนึ่ง แต่ถนนเออีซีตอนนี้ถือว่าเป็นถนนลูกรัง ซึ่งวันนี้ทุกคนเรียกว่าพูดกันเยอะเกี่ยวกับเออีซี โดยที่ผ่านมา หลาย ๆ ผู้ประกอบการในธุรกิจขายตรงที่ไปบุกตลาดเพื่อนบ้านและเจ็บตัวกลับมาก็มี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะในเรื่องของกฎหมายที่ยังไม่เข้มแข็งพอ อีกทั้งวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน


โดยตนเองมองว่า น่าที่จะรอให้มีการเปิดตลาดเออีซีไประยะหนึ่งก่อน ค่อยเข้าไปจะดีกว่า ซึ่งคนที่จะเข้าไปในตอนนี้สิ่งที่จะต้องดู คือ ในเรื่องของกฎหมาย และสินค้าเป็นหลัก ส่วนโอทูตอนนี้บริษัทฯ คิดว่ายังคงไม่เข้าไป เนื่องจากที่ผ่านมา ได้เคยเข้าไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ถือว่าบริษัทฯ ยังไม่พร้อม โดยขอความพร้อมที่มากขึ้นกว่านี้ก่อน ถึงจะไปเปิดตลาดเออีซีอย่างแน่นอน


“ภณเอก” ยังกล่าวทิ้งท้ายต่ออีกว่า “ถ้าพูดถึงโอทูในวันนี้ ต้องบอกว่าบริษัทฯ มีความตั้งใจมาตลอดในการทำธุรกิจ ซึ่งเมื่อคนพูดถึงโอทูแล้วตรงนี้ต้องบอกว่า เราเองไม่ใช่แชร์ลูกโซ่แน่นอน เป็นบริษัทที่ดี โดยตลอดระยะเวลาในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา สามารถพิสูจน์ได้ว่า โอทูก้าวเดินมาได้ด้วยความมั่นคงจริง ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา อาจจะเจออุปสรรคและปัญหาก็ตามที ซึ่งบริษัทฯ ก็สามารถแก้ไขและฟันฝ่ามาได้ และวันนี้มีหลายคนเริ่มเชื่อมั่นและเริ่มเข้ามาทำธุรกิจโอทูอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ บริษัทฯ อยากให้ทุกคนนึกถึงสิ่งที่โอทูเคยสร้างมา รับรองว่าโอทูไม่ทำให้ทุกคนที่เข้ามาสู่ธุรกิจผิดหวังอย่างแน่นอน”


 


 


 


 


Credit By : http://www.taladvikrao.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น